ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 145 “คนบางคน”คือคนตระกูลโม่

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

โม่ถิงเซียวได้ยิน ก็ปล่อยเธอ

เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าวมองดูเธอ“แต่พวกเขาสมควรตาย”

“คุณใช้ทุกวิธีการทุกอย่างเพื่อบังคับให้ปู่ฉันกลับมา คืออยากจะฆ่าปู่ฉันเหรอ?”ก้นบึ้งหัวใจของมู่นวลนวลสั่นไหว

ลเธอนึกว่าตัวเองมีตัวตนในพื้นที่หัวใจของโม่ถิงเซียวเล็กน้อย แต่คำพูดของโม่ถิงเซียวก็ปฏิเสธความคิดของเธอ

“ไม่”โม่ถิงเซียวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แน่นอนว่าฉันไม่ลงมือกับปู่เธอ เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนั้น เขาเพียงแต่เป็นคนที่ถูกตระกูลโม่ซื้อ”

“งั้นคุณบังคับเขากลับมาทำไม?”

มู่นวลนวลไม่เข้าใจโม่ถิงเซียว แต่เธอเข้าใจเรื่องหนึ่งเรื่อง

ปีนั้นแม่ของโม่ถิงเซียวถูกคนพวกนั้นข่มขืนจนตาย และพ่อของเถาปิงอาจรู้เรื่องนี้ อาจจะมีเรื่องบังเอิญบางอย่าง เขาอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในนั้นด้วย

แต่ไหนแต่ไรมาบนโลกใบนี้ไม่ใช่มีแค่สีขาวกับสีดำ มู่นวลนวลไม่รู้ว่าต้องพิจารณาพฤติกรรมการกระทำของโม่ถิงเซียวยังไง

แต่ เธอยังรู้สึกรักและสงสารเขา

มีแม่ที่ยอดเยี่ยมอย่างนั้น ถ้าหากว่าแม่ของเขายังอยู่ โม่ถิงเซียวคงไม่ท่าทีเหมือนวันนี้อย่างแน่นอน

เขาต้องขึ้นปกนิตยสารเศษฐกิจและทำให้ผู้ชายทุกคนเคารพเลื่อมใส และเป็นผู้ชายที่ทำให้ผู้หญิงทุกคนคลั่งไคล้

แต่ว่า เพราะเรื่องแม่เขา เขาใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อค้นหาผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังคดีการลักพาตัว

มีชีวิตอยู่ในความความแค้นและละอายใจ ฐานะของเขามีเกียรติสูงสุด ถึงแม้จะมีอำนาจและอิทธิพล แต่เขาก็ไม่มีความสุข

“คนของตระกูลโม่ทำไมถึงต้องการให้เขาออกนอกประเทศ? เพราะว่าเขาอยู่ในประเทศทำให้คนบางคนรู้สึกไม่ปลอดภัย”โม่ถิงเซียวหยุดไปชั่วครู่หนึ่ง และพูดต่อไป “เขากลับมาครั้งนี้ มีคนบางคนอาจจะนั่งอยู่นิ่งๆไม่ได้แล้ว”

โม่ถิงเซียวไม่รู้ว่าคิดอะไรขึ้นได้ กัดริมฝีปากมุมปากผุดรอยยิ้มขึ้นมา

แต่ รอยยิ้มนั้นกับแววตาที่ มีความเย็นชาและกระหายเลือด

ทำให้มู่นวลนวลขนลุกขนพองไม่ใช่กับรอยยิ้มของโม่ถิงเซียว แต่เป็นคำพูดของเขา

“คุณพูดว่า“คนบางคน”คือคนตระกูลโม่?”

มู่นวลนวลรู้สึกว่าตัวเองเข้าใจผิดแล้ว

แต่ โม่ถิงเซียวก็ใช้รอยยิ้มบอกกับเธอ คำพูดของโม่ถิงเซียวคือจริงจัง

มู่นวลนวลนึกถึงพฤติกรรมการกระทำเมื่อสมัยนั้นของมู่หวันฉี ถึงแม้ยังคงรู้สึกช็อก แต่ก็ไม่ซักถามเกี่ยวกับข้อสงสัยอีก

……

วันต่อมา

มู่นวลนวลตื่นขึ้นมา คุ้นเคยกับการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าเน็ต ก็พบว่าในเว็บไซต์ติดอันดับหนึ่งคือเรื่องที่เจ้าสัวโม่จะกลับประเทศ

มีหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจ และมีหนังสือพิมพ์บันเทิง

ในเวลานี้ เป็นกระแสที่สุด

สิบหน้าปีที่แล้ว เจ้าสัวมู่อยู่เซี่ยงไฮ้ก็ถือว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีหน้ามีตากว้างขวางในสังคม คนมีเงินจำนวนมากที่มีอำนาจและอิทธิพลมากกว่าเขา ก็ยอมคบหาสมาคมกับเขา

แต่ว่า ในเวลาที่มู่กรุ๊ปพัฒนารุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ เจ้าสัวมู่ก็ออกนอกประเทศกะทันหัน

นี่ออกไปสิบห้าปีแล้ว ตอนนี้ก็กลับมากะทันหันอีก สามารถดึงดูดสื่อมวลชนให้ความสนใจจับตามองก็ไม่แปลก

แต่ว่าสามารถทำให้หลายสำนักสื่อมวลชนแย่งกันรายงาน ก็เกินไปหน่อย

โม่ถิงเซียวที่อยู่ข้างกายก็ตื่นขึ้นมา

เมื่อคืนเขากอดมู่นวลนวลและนอนหลับไป หลังจากที่มู่นวลนวลเพิ่งจะตื่นขึ้นมา ก็แกะมือของเขาออก ย้ายไปที่ด้านข้างของเตียง ตอนนี้ในอ้อมอกของเขาคือว่างเปล่า

โม่ถิงเซียวใบหน้าไม่พอใจ คว้ามู่นวลนวลเข้ามาอยู่ในอ้อมอกอีกครั้ง คางชิดกับผมด้านบนของเธอ กวาดสายตามองโทรศัพท์ของเธออย่างไม่สนใจ พูดด้วยเสียงเย็นชา “ฉันเป็นคนให้คนทำเอง รู้สึกว่าเป็นยังไงบ้าง?”

ในน้ำเสียงถ้าไม่สังเกตก็ไม่รู้ว่ามีความภาคภูมิใจเล็กน้อย เหมือนเด็กน้อยที่กำลังคิดว่าตัวเองได้ทำเรื่องที่ดีเลิศขอให้คนชื่นชม

มู่นวลนวลจะหัวเราะก็ไม่ได้จะร้องไห้ก็ไม่ใช่ “คุณให้สื่อมวลชนรายงานเรื่องที่ปู่ของฉันกลับประเทศทำไม!”

เธอไม่ได้ฉลาดเหมือนกับโม่ถิงเซียว มีบางเวลาก็ตามแนวคิดของเขาไม่ทัน

“ไม่มี ก็แค่อยากให้คนบางคนที่ควรจะได้รู้ ทั้งหมดรู้ว่าเจ้าสัวมู่กลับประเทศแล้ว”

โม่ถิงเซียวพูดจบ ทันใดนั้นก็นำโทรศัพท์ของเธอไป ดึงมือของเธอเข้ามาในผ้าห่ม พูดเสียงต่ำ “พวกเราสามารถทำเรื่องที่มีความหมาย”

มู่นวลนวลได้ยินความผิดปกติในน้ำเสียงของเขา แต่ก็ช้าไปแล้ว

มือของเธอถูกโม่ถิงเซียวใช้กำลังบังคับกดอยู่บนร่างกายเขาส่วนนั้น อุณหภูมิความร้อนทำให้มือของเธอเหมือนจะละลาย

“ฉันต้องลุกขึ้นไปเข้างานที่บริษัท!”ใบหน้าของมู่นวลนวลก็แดงขึ้น

ตอนกลางคืนปิดไฟ ควรจะทำอะไรก็ทำ

ตอนนี้สว่างแล้ว ในห้องก็มีสว่างโล่ง หน้าของเธอไม่ได้หนาเหมือนโม่ถิงเซียว

“อืม งั้นพวกเราก็ต้องเร่งรีบแล้ว ไม่อย่างนั้นก็จะสาย”

“ไม่…อุ๊บ…”

……

ความจริงยืนยันแล้วว่า ผู้ชาย ต่อให้ปกติดูเหมือนจะเยือกเย็นสงบเสงี่ยม เมื่อขึ้นเตียงก็ไร้ยางอาย——เหมือนกัน

หลังจากที่ทั้งสองคนได้สิ้นสุดลง ก็ใกล้จะถึงเวลาทำงานแล้ว

หาได้ยากที่พวกเขาจะลุกขึ้นล้างหน้าบ้วนปากด้วยกัน

มู่นวลนวลนั่งแต่งหน้าอยู่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้ง โม่ถิงเซียวยืนอยู่ด้านข้างมองเธอด้วยความสนใจ

เธออดไม่ได้ที่จะเร่งรัดเขา “คุณเสร็จแล้วก็ไปสิ”

โม่ถิงเซียวกัดริมฝีปาก หาได้ยากที่จะพูดด้วยน้ำเสียงต่ำที่มีความอ่อนโยน “เธอไม่แต่งหน้าก็สวยมากแล้ว”

เขาชื่นชมเธอ จริงจังมาก

มู่นวลนวลหันหน้ากลับไม่มองเขา “ครั้งแรกเวลาที่คุณได้พบกับฉัน ยังบอกว่าฉันขี้เหร่”

“เดิมทีก็ขี้เหร่”โม่ถิงเซียวพูดตรงไปตรงมา

มู่นวลนวล “…”ทันใดนั้นเธอรู้สึกว่าโม่ถิงเซียวปากดีแบบนี้ เธอสามารถแต่งงานกับเขา เขาก็โชคดีเป็นอย่างยิ่งแล้ว

“เพียงแต่…”โม่ถิงเซียวก็ยังเปิดปากพูดอีก “ขี้เหร่ขนาดนี้ฉันก็ไม่ใช่จูบไปแล้ว? เปลี่ยนเป็นซินชูฮัน เขาสามารถจะจูบลง?”

มู่นวลนวลโต้แย้ง “เพราะว่าคุณมีรสนิยมที่แปลก”

“ฉันมีรสนิยมที่แปลก ก็ไม่ใช่ผู้หญิงขี้เหร่ทุกคนจะสามารถเข้าตาฉันได้”น้ำเสียงของโม่ถิงเซียวฟังแล้วดูเหมือนว่าอิ่มอกอิ่มใจ

มู่นวลนวลได้ฟังก็ใจเต้นอย่างรุนแรง

ผู้ชายที่เย็นชาพูดคำหวานขึ้นมา ก็สู้ไม่ได้

……

ในเวลาที่ทั้งสองคนลงมาชั้นล่าง โม่เจียเฉินสะพายกระเป๋านักเรียนยืนอยู่ที่กลางห้องรับแขกมองดูพวกเขาด้วยใบหน้าจริงจัง

เขาส่ายหน้าและพูด“พวกคุณสองคนช่วงนี้เกินไปแล้วนะ ก่อนหน้านี้พี่นวลนวลขี้เกียจลุกจากเตียง หลังจากนั้นตอนนี้ทั้งสองคนก็ขี้เกียจลุกจากเตียง?”

มู่นวลนวลยิ้มอย่างขาดความมั่นใจ ไม่ได้พูดอะไร

โม่ถิงเซียวกวาดสายตาเย็นชามองโม่เจียเฉิน เขาหันหลังอย่างรวดเร็วแล้วเดินตรงไปด้านนอก พลางพูดว่า “อากาศยิ่งหนาวขึ้นแล้ว ทุกคนก็ขี้เกียจลุกจากเตียง นี้เป็นเรื่องปกติมาก”

มู่นวลนวลไปที่บริษัท พบว่าวันนี้มู่ลี่หยานกับมู่หวันฉีไม่ได้มาทำงาน

ในเวลาตอนเที่ยง มู่นวลนวลได้รับสายโทรศัพท์ของเสี่ยวชูเหอ

“นวลนวล ปู่เธอกลับมาแล้ว ตอนเที่ยงเธอกลับมากินข้าวกันที่บ้านสิ”

มู่นวลนวลตอบรับ “ได้ค่ะ”

เธอกับเจ้าสัวมู่ไม่มีความประทับใจอะไรต่อกัน ในความทรงจำเจ้าสัวมู่คือคนใจดี ถ้าเทียบกับคนอื่นๆในตระกูลมู่ เจ้าสัวมู่ก็ถือว่าดีกับเธอ

แต่ในเวลานั้น เป็นเพราะว่าเจ้าสัวมู่ทำงานรัดตัว และยังมีมู่หวันฉีสองพี่น้อง เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับมู่นวลนวลมากนัก

เธอเก็บโทรศัพท์และออกมาจากประตูมู่กรุ๊ป ก็มองเห็นโม่ถิงเซียว

เขายืนอยู่ข้างรถ รูปร่างสูงโปร่ง

“คุณมาได้ยังไง?”มู่นวลนวลวิ่งเข้าไปหา

“คนตระกูลมู่โทรศัพท์หาเธอ ให้เธอกลับไปทานอาหารที่บ้าน?”

“อืม”

“ฉันกับเธอไปด้วยกัน”โม่ถิงเซียวพูดจบ ก็เปิดประตูรถ ผลักเธอเข้าไปในรถ

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท