” เรื่องที่สถานีตำรวจ? ” มู่นวลนวลยังคงต่อสู้กับกระดูกในถ้วยต่อไป และพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้น: ” ก็คือมีคนอยากทำร้ายเซินเหลียง จึงหยิบเสื้อผ้าของเธอไป เเละต้องการถ่ายรูปเธอในเชิงนั้น…… ”
” คุณก็รู้ว่าที่ฉันถามไม่ใช่เรื่องนั้น ” โม่ถิงเซียวพูดขัดจังหวะเธออย่างเย็นชา เเละบริเวณรอบๆก็ได้ปกคลุมไปด้วยความหนาวเหน็บ
อยู่ๆมู่นวลนวลก็ไม่มีอารมณ์กินต่ออีกเเล้ว เธอจึงเช็ดปากเเล้วลุกขึ้นยืนทันที: ” ฉันอิ่มเเล้ว ”
เมื่อคืน ตอนที่เธอกระเเทกประตูออกไป ทำไมไม่ถาม ทำไมไม่พูดล่ะ?
กลับมาซักถามเธอเอาตอนนี้?
เห็นได้ชัดว่าโม่ถิงเซียวไม่ต้องการจะปล่อยเธอไปง่ายๆแบบนี้
เขาลุกขึ้นยืน ขายาวก้าวไปข้างหน้า เพียงเเค่สองก้าวก็ตามมู่นวลนวลทันเเล้ว
โม่ถิงเซียวดึงข้อมือของเธอไว้ เเล้วพาเธอเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง มืออีกข้างบีบลงไปที่คางของเธอ เเละพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น: ” มู่นวลนวล คุณมองฉัน ”
มู่นวลนวลจ้องหน้าเขาสักครู่อย่างตั้งใจ หลังจากนั้นเธอก็พยักหน้า: ” ยังหล่อเหมือนเมื่อวาน ”
น้ำเสียงขอไปทีของเธอทำให้โม่ถิงเซียวออกเเรงบนมือเพิ่มขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้
มู่นวลนวลขมวดคิ้วนิดหน่อย เเละพูดขึ้นยิ้มๆ: ” ทำฉันเจ็บจนเท้าเคล็ดยังไม่พอ นี่ยังอยากทำให้ฉันข้อมือหักกับขากรรไกรเคลื่อนเลยใช่ไหม? ”
โม่ถิงเซียวชะงักไปนิดหน่อย สีหน้าของเขาดำทะมึนจนชวนให้คนตกใจ
มู่นวลนวลถูกบังคับให้ยกคางขึ้น แต่เธอกลับไม่ได้มีท่าทีลุกลี้ลุกลนแม้เเต่นิดเดียว แต่อย่างไร เธอกลับดูเย่อหยิ่งราวกับนางพญา และจ้องเขาโดยที่ไม่ได้แสดงอาการอ่อนแอออกมาเเม้เเต่นิดเดียว
เเต่ดวงตาที่มืดมิดราวกับท้องฟ้าที่มืดมนของเขาเหมือนสามารถดูดกินคนได้อย่างไรอย่างนั้น เเละเธอก็ใกล้จะต้านไม่ไหวเเล้วด้วย
ในที่สุดก็เป็นเธอที่เคลื่อนสายตาออกไปก่อน
” ในเมื่อคุณโทษฉัน ก็ไม่ต้องเสเเสร้งทำเป็นไม่สนใจ เพราะมันน่าเกลียดมาก ” โม่ถิงเซียวคลายมือที่บีบคางของเธอออก เเละลูบผมเธอเบาๆสองครั้ง
สีหน้าของเขายังคงเย็นชาเเละดำทะมึน เเต่การกระทำกลับอ่อนโยนอย่างน่าประหลาด
การกระทำที่ควบคุมทุกอย่างของโม่ถิงเซียวทำให้คนไม่สามารถคาดเดาได้ เเละทำให้มู่นวลนวลรู้สึกหงุดหงิด
อยู่ต่อหน้าโม่ถิงเซียว ระดับของเธอต่ำเกินไป จึงยากที่จะปิดบังตัวเอง
” ไม่ได้เสเเสร้ง ก็เเค่คิดได้เเล้วเท่านั้นเอง ” มู่นวลนวลยังคงหันไปมองทางอื่น เเละพูดขึ้น: ” ซูชิงหนิงเป็นเพื่อนเก่าของคุณ เกิดอุบัติเหตุเเบบนั้น ฉันก็รู้สึกเสียใจแทนคุณ เเละเป็นเรื่องปกติที่คุณจะเกิดความรู้สึกดีต่อฉัน เมื่อคุณเห็นว่าฉันกับเธอหน้าตาคล้ายกัน ”
” เพราะถ้าฉันเห็นคนที่หน้าตาคล้ายกับเซินเหลียงข้างนอก ฉันก็มองเหมือนกัน หลักการง่ายๆแบบนี้ ฉันเข้าใจ ”
ใช่ หลักการง่ายๆแบบนี้
เธอหน้าตาคล้ายซูชิงหนิง เพราะฉะนั้น โม่ถิงเซียวถึงปฏิบัติต่อเธออย่างพิเศษ
ที่โม่ถิงเซียวดีกับเธอก็เพราะเธอหน้าคล้ายซูชิงหนิง เเละนี่ก็คือความรู้สึกที่คนทั่วไปมี
เธอเข้าใจเเล้วจริงๆ เเต่……ทำไมในใจยังอัดอั้นแบบนี้ล่ะ?
” ดีมาก ”
โม่ถิงเซียวปล่อยเธอออก เขาก้าวถอยหลังนิดหน่อย เเละก้มมองหน้าเธอยิ้มๆ มองไม่ออกเลยว่าใบหน้าหล่อเหลากำลังรู้สึกยังไงอยู่
มู่นวลนวลคิดว่าคงไม่มีใครสามารถเดาอารมณ์ของเขาตอนนี้ได้จากสีหน้าที่เขาเเสดงออกมา เพราะเขาไม่อยากให้ใครรับรู้
เช่นเดียวกับที่เขาสามารถตรวจสอบมู่นวลนวลได้อย่างสะอาดหมดจด เเต่มู่นวลนวลกลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขา เขาควบคุมคนอื่น แต่ไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงต่อหน้าคนอื่น
เดิมที เป็นเกมที่ไม่เท่าเทียมกัน เป็นเธอเองที่คิดได้อย่างไร้เดียงสาเกินไป
การคุมเชิงของทั้งสองคนในครั้งนี้ดูเหมือนจะกลายเป็นจุดแบ่งเขตไปแล้ว
ระยะเวลาหลังจากนั้น ทั้งสองคนก็ได้ทำตัวเย็นชาเเละห่างเหินใส่กัน
ทั้งสองคนแยกห้องกันนอน ตื่นมาตอนเช้าก็ต่างคนต่างไปทำงานที่บริษัท กลับมาทานอาหารค่ำด้วยกัน พูดคุยกันเป็นบางครั้ง ไม่ต่างอะไรกับคู่สามีภรรยานักธุรกิจที่ภายนอกดูสนิทกัน เเต่ความเป็นจริงใจไปคนละทาง
เเต่โม่เจียเฉินกลับรู้สึกเป็นทุกข์ ในบรรยากาศที่หดหู่เเบบนี้ เขาสามารถคาดเดาได้ว่าชีวิตในช่วงวันหยุดฤดูหนาวของเขาจะต้องทรมานมาก เขาจึงตัดสินใจไปหาซือเฉิงยวี่พี่ชายเเท้ๆของเขา
มู่นวลนวลนึกขึ้นได้ว่าซือเฉิงยวี่บอกว่าจะเลี้ยงอาหารเธอกับโม่ถิงเซียว เเละไม่รู้ว่าซือเฉิงยวี่ได้โทรมาหาโม่ถิงเซียวเเล้วหรือยัง เเต่โม่ถิงเซียวไม่ได้บอกอะไรเธอ ก็คงยังไม่โทรมามั้ง
หรือโม่ถิงเซียวปฏิเสธไปแล้ว?
วันที่โม่เจียเฉินเลือกคือวันเสาร์ ซือเฉิงยวี่มีเวลาพอดี เขาจึงขับรถมารับโม่เจียเฉินด้วยตัวเอง
” พี่ ”
พอโม่เจียเฉินเห็นซือเฉิงยวี่ เขาก็รีบวิ่งเข้าไปหาพี่ชายทันที
พอมู่นวลนวลช่วยโม่เจียเฉินจัดของใช้ในชีวิตประจำวันเสร็จก็ลงไปข้างล่าง ลงมาถึงก็เห็นซือเฉิงยวี่ยืนอยู่ในห้องโถง
นี่ก็ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์กว่าเเล้วถ้านับจากงานเลี้ยงครั้งที่เเล้ว พอมาเจอกับซือเฉิงยวี่อีกครั้ง มู่นวลนวลก็คิดว่าตัวเองจะเก้อเขิน เเต่เธอกลับไม่มีความรู้สึกเก้อเขินอะไรเลย
ซือเฉิงยวี่ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน: ” นวลนวล ”
รอยยิ้มของเขามักจะมีมนต์สะกดที่ชวนให้คนมีความสุขอยู่เสมอ
” ฉันจัดของให้เสี่ยวเฉินเพิ่มอีกนิดเเล้วนะคะ ” ถึงอย่างไร ซือเฉิงยวี่ก็เป็นผู้ชาย ไม่รอบคอบเท่าเธอหรอก
ซือเฉิงยวี่รับของในมือเธอไปถือ เเละพูดขึ้น: ” ลำบากคุณแย่เลย ”
” เรื่องเล็กน้อยค่ะ ” มู่นวลนวลหันไปมองโม่เจียเฉิน: ” ทำตัวให้น่ารักล่ะ เเล้วอย่าลืมทำการบ้านช่วงวันหยุดฤดูหนาวล่ะ ถึงตอนนั้น ถ้าอยากกลับมาก็โทรหาโม่ถิงเซียวให้ไปรับนายนะ ”
ตอนนี้ก็ปลายปีเเล้ว เเต่ละบริษัทกำลังยุ่งมาก Shengding Media ก็ไม่ยกเว้น
ช่วงนี้โม่ถิงเซียวมักจะออกจากบ้านเร็วมาก ดึกๆถึงจะกลับมา ตอนนี้เเม้เเต่วันหยุดสุดสัปดาห์ก็ยังต้องไปทำงานที่บริษัท
โม่เจียเฉินเป็นผีเจ้าเล่ห์ พอเขากอดของได้ก็ชิงออกไปก่อน เหลือซือเฉิงยวี่กับมู่นวลนวลไว้ที่ห้องโถงสองต่อสอง
ซือเฉิงยวี่เก็บรอยยิ้มลง สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้น: ” เรื่องครั้งที่เเล้ว ผมขอโทษนะครับ ”
มู่นวลนวลยกยิ้ม เเละเผยรอยยิ้มที่ผ่อนคลายขึ้นมา: ” คุณขอโทษเเล้วครั้งนึง เเละฉันก็รับไว้เเล้วด้วยค่ะ ”
ซือเฉิงยวี่ก้มหน้าหัวเราะ: ” ครับ ”
……
ห้องประชุมที่ Shengding Media
” ตัวเลขบนข้อมูลนี้ไม่ถูกต้อง! ”
” ยังมีอันนี้ด้วย พวกคุณทำงานกันยังไง? ”
” ไม่อยากได้โบนัสปลายปีเเล้วใช่ไหม? พอใกล้ปีใหม่ก็มีเรื่องให้คิดเยอะเเล้วงั้นสิ? ”
พนักงานระดับสูงที่นั่งอยู่ด้านล่างพากันก้มหน้าอย่างเป็นระเบียบ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรทั้งนั้น
ช่วงนี้พวกเขาตกอยู่ในจุดที่ยากลำบากมาโดยตลอด
เมื่อก่อนพอบอสใหญ่ใช้สถานการณ์กดดันพวกเขา ประธานกูก็จะช่วยพูดแทนพวกเขา
ช่วงนี้ไม่รู้ไปทำอีท่าไหน บอสใหญ่ที่ไม่ค่อยโผล่หน้ามาที่บริษัทถึงทำเหมือนกับพักอยู่ที่บริษัทยังไงอย่างงั้น เเถมยังจ้องพวกเขาได้ทั้งวัน
เเละประธานกูดูเหมือนจะนัดกับบอสใหญ่ไว้เเล้วว่าตอนเช้ามาถึงบริษัท ตอนเย็นถึงจะกลับ ทุ่มเททำงานอย่างสุดชีวิตแบบไม่พูดคุยกับใคร เเถมยังเริ่มด่าคนเเล้วด้วย……
พอกูจื่อหยานด่าเสร็จ เขาก็โยนข้อมูลลงบนโต๊ะประชุมจนเกิดเสียงดัง: ” ทำใหม่ทั้งหมด! ถ้าทำไม่เสร็จในคืนนี้ก็ทำงานล่วงเวลาด้วยกัน! ”
เเละด้านข้าง โม่ถิงเซียวที่ไม่ได้พูดอะไรมากมายตั้งเเต่เริ่มประชุมมาทั้งหมด ก็ได้พูดขึ้นมาเงียบๆในเวลานี้: ” สำหรับโครงการที่ผมเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ก่อนพรุ่งนี้ก็ให้แผนงานที่สมเหตุสมผลกับผมด้วย ”
พอทั้งสองคนออกไป พนักงานระดับสูงที่อยู่ด้านล่างก็พากันเครียดทันที
” ฉันรู้สึกว่าพระสององค์นี้เป็นบ้าไปแล้ว ”
” ประธานกูเป็นอะไรไปฉันไม่รู้ เเต่ฉันมีความสงสัยว่าบอสใหญ่คงจะทะเลาะกับเมียมาเเน่ๆ! ”
” ทำไมนายถึงรู้ล่ะ? ”
” ก็ผู้ชายด้วยกัน ลองคิดดูว่าก่อนหน้านี้เขามีประชุมกี่ครั้งและเขาก็ยังตั้งใจออกไปรับโทรศัพท์เป็นพิเศษอีกด้วย ต้องเป็นโทรศัพท์จากผู้หญิงแน่นอน…… ”