พอสิ้นสุดการประชุม กูจื่อหยานก็เดินตามโม่ถิงเซียวไปที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการ
กูจื่อหยานนำเอกสารในมือไปวางบนโต๊ะทำงาน เขาไม่ได้พูดอะไรเเละกำลังจะหมุนตัวออกไป
” จื่อหยาน ”
อยู่ๆโม่ถิงเซียวก็เรียกเขาไว้
กูจื่อหยานเงยหน้าขึ้น เเล้วมองโม่ถิงเซียวอย่างสงสัย: ” ยังมีธุระอะไรอีกหรือเปล่าครับ? ”
” กลับไปพักผ่อนเถอะ ” โม่ถิงเซียวรู้ว่ากูจื่อหยานอยู่ทำงานทีบริษัทจนดึกดื่นมาหลายวันเเล้ว
กูจื่อหยานปฏิเสธเขาทันที: ” ไม่ครับ ฉันชอบทำงาน ”
ฟู่ถิงซีผลักประตูเข้ามาพอดี เเละได้ยินคำพูดของกูจื่อหยานอย่างชัดเจน
ใบหน้าที่จริงจังเสมอของเขาปรากฏรอยเเตกขึ้นมานิดหน่อย กูจื่อหยานชอบทำงานตั้งเเต่เมื่อไหร่? เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือไง?
” ฉันขอตัวกลับไปที่ห้องทำงานของฉันก่อนล่ะกัน ” กูจื่อหยานหันไปเห็นฟู่ถิงซี ก็ยื่นมือไปตบไหล่เขานิดหน่อย ถือเป็นการทักทาย
สายตาของฟู่ถิงซีจับจ้องไปที่กูจื่อหยานอยู่ตลอด จนกระทั่งเงาของเขาหายไปจากประตู ฟู่ถิงซีถึงค่อยพูดถามโม่ถิงเซียว: ” เขาเป็นอะไร? ”
” เป็นบ้าไปแล้ว ”
โม่ถิงเซียวก้มหน้าลง สายตาของเขาจับจ้องไปที่เอกสารบนโต๊ะทำงาน เเละเขาก็พูดคำนั้นออกมาอย่างไม่สนใจ ไม่รู้ว่าพูดถึงกูจื่อหยานหรือพูดถึงตัวเขาเองกันแน่
ช่วงนี้เขาผิดปกติไป
ครั้งนี้มู่นวลนวลผู้หญิงคนนั้นตั้งใจจะทะเลาะกับเขาแบบนี้ต่อไปให้ได้เลยใช่ไหม?
ถึงเเม้ว่าสายตาของโม่ถิงเซียวจะจับจ้องอยู่บนเอกสาร เเต่ฟู่ถิงซีสังเกตได้ว่าเขาไม่ได้กำลังอ่านเอกสาร เเต่กำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่
ฟู่ถิงซีหมดคำจะพูด เขาเพิ่งกลับมาจากการไปทำงานนอกสถานที่ สองคนนี้กลับเสียสติไปราวกับวิญญาณไม่อยู่กับตัวยังไงอย่างงั้น?
เขาก้มตัวและนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะทำงานของโม่ถิงเซียว: ” มาทำงานอะไรตอนวันหยุด ออกไปดื่มกันดีกว่า ”
……
พอมู่นวลนวลส่งซือเฉิงยวี่กับโม่เจียเฉินเสร็จเเล้ว เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากเซินเหลียง
” จำผู้กำกับที่ฉันเคยพูดกับเธอเมื่อวันก่อนได้ไหม? ผู้กำกับคนนั้นเขาอยากเจอเธอ วันนี้ฉันมีเวลาว่างพอดี มาดื่มชาตอนบ่ายด้วยกันหน่อยเป็นไง ”
มู่นวลนวลได้ยินดังนั้นก็รีบขานรับทันที: ” ได้สิ ”
ผู้กำกับคนนั้นมาร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ร้านอาหารจินติ่งพอดี ดังนั้น สถานที่ดื่มชาจึงเป็นที่ร้านอาหารจินติ่งไปโดยปริยาย
ช่วงนี้โม่ถิงเซียวกลายเป็นคนบ้าทำงานไปแล้ว ทุกวันเขาจะทำงานอย่างบ้าคลั่ง คงไม่เจอกันที่ร้านอาหารจินติ่งหรอกมั้ง
คิดได้ดังนั้น มู่นวลนวลก็สบายใจขึ้นทันที
มู่นวลนวลกับเซินเหลียงนัดเจอกันที่ทางเข้าร้านอาหารจินติ่ง
ดูเหมือนว่าเซินเหลียงจะเพิ่งไปเข้าร่วมรายการอะไรมา ใบหน้าของเธอยังคงเเต่งหน้าอย่างสวยงาม เเละเผยให้เห็นความเหนื่อยล้าเล็กน้อย
มู่นวลนวลถามขึ้นอย่างเป็นห่วง: ” ช่วงนี้เหนื่อยมากเลยหรอ? ”
เซินเหลียงเดินเข้าไปด้านในเเละพูดไปด้วย: ” นิดหน่อยน่ะ โฆษณาค่อนข้างเยอะ เเต่ยังไหวอยู่ ”
ช่วงนี้โฆษณาของเธอยังไม่เยอะเท่าไหร่ เเต่ก็เหมาะกับเธอที่สุดเเล้ว เเละไม่รู้เป็นเพราะที่เธอเคยชมโม่ถิงเซียวว่ามีเกียรติไหม โม่ถิงเซียวคงเห็นว่าเธอดีกับเขา จึงจัดการงานโฆษณาพวกนี้ให้เธอ
ทั้งสองคนคุยไปด้วยเเละเดินเข้าไปในห้องรับรองพิเศษไปด้วย
รอมาสักพักใหญ่ก็ยังไม่เห็นเซินเหลียงพูดถึงผู้กำกับคนนั้นสักที
” ทำไมยังไม่มาอีกนะ? ฉันขอโทรถามสักครู่ ” เซินเหลียงโทรศัพท์ไปหา เเต่ผู้กำกับคนนั้นไม่รับสาย
ทั้งสองคนรอมาเป็นเวลาสองชั่วโมงเเล้ว
ตอนนี้เซินเหลียงนั่งไม่ติดเเล้ว อยู่ๆเธอก็ลุกขึ้นยืน: ” ฉันลองไปตามหาเขาสักหน่อย เขาอยู่ที่ห้องรับรองไหนกันนะ นัดกันดีเเล้วเเต่ไม่มา นี่มันหมายความว่ายังไง! ”
อันที่จริงมู่นวลนวลไม่คิดว่ามันจะสำคัญอะไรมากมาย ในวงการบันเทิง ผู้กำกับที่มีตำแหน่งก็มักจะหยิ่งนิดหน่อย
เเต่เธอขัดเซินเหลียงไม่ได้ เเถมยังไม่ค่อยวางใจอีกด้วย เธอจึงตามเซินเหลียงไปด้วยกัน
ร้านอาหารจินติ่งใหญ่มาก เเต่ส่วนรับประทานอาหารกับส่วนความบันเทิงแยกกัน ดังนั้น ถ้าพวกเธออยากไปหาผู้กำกับคนนั้น เพียงเเค่ไปหาที่ชั้นรับประทานอาหารก็ได้เเล้ว
พอขอบเขตลดลงก็หาคนได้เร็วขึ้น
ไม่นาน พวกเธอก็หาผู้กำกับคนนั้นเจอจริงๆด้วย
ในห้องรับรองพิเศษมีคนเดินออกมาพอดี เซินเหลียงเห็นผู้กำกับคนนั้นจากประตูที่เปิดออกมาเพียงครึ่งเดียว
มู่นวลนวลมองตามสายตาของเซินเหลียงไป กลับเห็นคนคุ้นเคยคนหนึ่ง——หลั๋วหยิ๋ง
เรื่องที่บาร์ครั้งก่อน สุดท้ายก็เป็นหลั๋วหยิ๋งที่ถูกเอาเปรียบสะเอง เธอถูกตำรวจพาไปกักขังเป็นเวลาหนึ่งวัน เเถมยังถูก Shengding Media ยกเลิกสัญญาอีกต่างหาก พูดได้ว่าศักดิ์ศรีของเธอไม่เหลืออีกต่อไปแล้ว
หลั๋วหยิ๋งใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นมาก เธอกำลังรินไวน์ให้ผู้กำกับคนนั้นอย่างตั้งใจ พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเซินเหลียงกับมู่นวลนวล
สีหน้าของเธอชะงักไปนิดหน่อย เเต่ไม่นานเธอก็เผยสีหน้าภูมิใจออกมา หลังจากนั้นก็ขยับเข้าไปพูดกับผู้กำกับคนนั้นสักครู่ พอเธอพูดเสร็จ ผู้กำกับคนนั้นก็เงยหน้ามองมาทางพวกเธอทันที
หลังจากนั้นหลั๋วหยิ๋งก็ลุกขึ้นเดินออกมา
พอเธอเดินเข้ามาใกล้ มู่นวลนวลก็ได้กลิ่นหอมที่เข้มข้นจากตัวเธอ
มู่นวลนวลขมวดคิ้วเเล้วก้าวถอยหลังนิดหน่อย เธอไม่ชอบดมกลิ่นประเภทนี้
หลั๋วหยิ๋งไม่ได้สังเกตเห็นการกระทำของมู่นวลนวล เธอมุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่เซินเหลียง
เธอเลิกผมของตัวเองนิดหน่อย เเล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเเละนุ่มนวล: ” มาหาผู้กำกับฉินใช่ไหม เขาให้พวกเธอเข้าไปนั่งข้างใน มีธุระอะไรก็คุยกันที่นี่เลย เพราะเขายุ่งมาก ”
ผู้กำกับชื่อฉินอัน มีคนเเนะนำเขาให้กับเซินเหลียง บอกว่าเขามีชื่อเสียงในสังคมนิดหน่อย เเต่ภาพยนตร์ที่เขาถ่ายมาทั้งหมดนั้นไม่เลวเลย เเถมยังเป็นที่รู้จักในวงการอีกด้วย
ก่อนหน้านี้เซินเหลียงเคยติดต่อกับฉินอันไม่กี่ครั้ง เเละรู้สึกว่าเขาค่อนข้างดี จึงเเนะนำมู่นวลนวลให้กับเขา เเต่ไม่คิดว่าฉินอันคนนี้จะเป็นชายชู้ของหลั๋วหยิ๋ง!
เซินเหลียงปฏิเสธทันที: ” ไม่ล่ะ พวกฉันยังมีธุระต่อ ”
หลั๋วหยิ๋งกลับไม่ปล่อยเธอไป: ” เซินเหลียง เธอไม่กล้าเข้าไปหรือไง? เธอกลัวอะไรหรือเปล่า? ”
เครื่องสำอางบนหน้าหลั๋วหยิ๋งหนามาก ตอนเธอยิ้มจึงดูสะอิดสะเอียนผิดปกติ
” กลัวถูกพวกคุณทำให้ตาร้อนน่ะสิ ปืนขึ้นเตียงคนอื่นไปทั่ว เเถมยังไม่กลัวเป็นโรคอีก ” เซินเหลียงหัวเราะเยาะ ทำให้หลั๋วหยิ๋งถึงกับพูดไม่ออก
ทั้งสองคนฉีกหน้ากันเเล้ว เเม้เเต่ความอ่อนโยนบนใบหน้าเซินเหลียงก็ขี้เกียจที่จะเสเเสร้งต่อไปแล้ว
หลั๋วหยิ๋งกัดฟัน: ” อย่าทะนงตัวเร็วเกินไป คิดว่านั่งเรือของประธานกูเเล้วจะสามารถเลื่อนตำเเหน่งสูงขึ้นโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้นหรอ? ต้องมีสักวันที่จะล้มลงอย่างแน่นอน ”
พอเซินเหลียงได้ยินเธอพูดถึงกูจื่อหยาน สีหน้าของเซินเหลียงก็เปลี่ยนไปนิดหน่อย เเต่ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ: ” คำพูดนี้ควรมอบให้เธอมากกว่านะ สมคบกับคนที่มีภรรยาเเล้วมากมายแบบนั้น เเถมยังไม่กลัวภรรยาของเขามาฉีกหน้าตัวเองถึงที่อีก! ”
” แก! ฝากไว้ก่อนเถอะ! ” สีหน้าของหลั๋วหยิ๋งซีดลง ซีดเเล้วกลับมาเขียว สุดท้ายเธอก็พูดคำพูดที่เจ็บเเสบไม่ออก
เซินเหลียงไม่ได้สนใจคำขู่ของเธอ มู่นวลนวลกลับจ้องหลั๋วหยิ๋งอย่างพิจารณาสักครู่ อยู่ๆเธอก็พูดขึ้น: ” นอกจากให้คนมาแอบถ่ายเซินเหลียงเเล้ว ครั้งหน้าเธอคิดจะทำอะไรอีก ”
ตอนนี้หลั๋วหยิ๋งถึงจะหันไปมองมู่นวลนวล เเละยืนกรานปฏิเสธ: ” เธอพูดอะไร ฉันไม่รู้เรื่อง ”
” เธอไม่ยอมรับไม่เป็นไร ทำหรือไม่ทำตัวเธอนั่นแหละที่รู้ดีกว่าใคร ตอนนี้เซินเหลียงเป็นนักแสดงของ Shengding Media เเละประธานกูก็เป็นคนที่เข้าข้างพวกตัวเองอยู่เเล้วด้วย เธอก็คิดดูให้ดีๆล่ะกัน ”
บนใบหน้าของมู่นวลนวลยังคงมีรอยยิ้ม น้ำเสียงของเธอราบเรียบเหมือนกำลังคุยเรื่อยเปื่อย เเต่มันสามารถกระตุ้นความกลัวในใจของหลั๋วหยิ๋งขึ้นมาได้
ครั้งก่อนตอนอยู่ที่บาร์เธอได้เห็นวิธีการของกูจื่อหยานเเล้ว
ถึงเเม้ว่าหลั๋วหยิ๋งจะไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่เธอก็ยังคงเป็นที่นิยมและมีมูลค่าทางการค้าต่อบริษัท เเต่กูจื่อหยานกลับยกเลิกสัญญาเธอโดยไม่พูดอะไรสักคำ!