” ห๊ะ? ”
มู่นวลนวลคาบช้อนไว้ในปากเเละมองเขาด้วยสีหน้างุนงง
อะไรคืดเธอเหมือนคุณ คุณเหมือนเธอ?
โม่ถิงเซียวกลับไม่ได้พูดอธิบายเธออีกครั้ง: ” ฉันจะพูดครั้งนี้ครั้งเดียว ต่อไปก็ไม่ต้องคิดเลอะเทอะอีกเเล้ว ”
” หมายความว่ายังไง? ” มู่นวลนวลดึงช้อนในปากออกเเละพูดถามเขาอย่างงุนงง
” ฉันบอกว่าจะพูดครั้งนี้ครั้งเดียว ” ถึงเเม้ว่าโม่ถิงเซียวจะทำหน้าหม่น เเต่สายตาของเขากลับมองไปทางอื่นอย่างไม่เป็นตัวของตัวเอง
ไม่รอให้มู่นวลนวลพูดอะไร เขาก็ลุกขึ้นยืน: ” ฉันยังมีธุระต้องจัดการ คุณกินต่อเถอะ ”
มู่นวลนวลมองแผ่นหลังของเขาหายไปจากประตูห้องอาหาร หลังจากนั้นเธอถึงจะตอบสนองกลับมาเเละรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร
เธอจะมีกะจิตกะใจกินต่อได้ยังไงล่ะ เธอโยนช้อนเเละรีบตามเขาไปทันที
เธอวิ่งตามเขาเเละขวางหน้าเขาไว้: ” คำพูดของคุณเมื่อสักครู่น่ะ พูดให้ชัดเจนสิ ”
” ฉันพูดชัดเจนเเล้ว ” โม่ถิงเซียวยังคงมีท่าทีนิ่งๆ
มู่นวลนวลไม่หลีกทางให้เขา เธอทำเพียงเงยหน้าถามเขา: ” คุณบอกว่าใครเหมือนฉัน? ”
โม่ถิงเซียวหันไปมองทางอื่น เขาไม่ได้พูดอะไร
มู่นวลนวลมีความสุขในใจ ถึงเเม้เธอจะรู้ว่าที่เขาหมายถึงก็คือซูชิงหนิงเหมือนเธอ เเต่เธอก็กลัวว่าตัวเองจะฟังผิดไป จึงอยากให้เขายืนยันอีกครั้ง
เเต่โม่ถิงเซียวเป็นคนที่ไม่พูดซ้ำสอง เขาบอกว่าพูดครั้งนี้ครั้งเดียวเเละเเน่นอนว่าเขาจะไม่พูดเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน
มู่นวลนวลจับมือเขา เธอเม้มปากอย่างลำบากใจเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้เธอดูคลิปวีดีโอดูเหมือนจะเป็นวีดีโอที่รวบรวมฉากที่นางเอกออดอ้อนในละครโทรทัศน์ ออดอ้อนยังไงเเล้วนะ?
มู่นวลนวลลองแกว่งมือของเขาไปมาเเละพูดขึ้นเสียงเบา: ” คุณพูดอีกครั้งเถอะนะ…… ”
โม่ถิงเซียวขมวดคิ้วเเละดึงมือตัวเองกลับอย่างรังเกียจ: ” ฉันยังมีธุระต้องไปทำ ”
” …… ” ไหนบอกออดอ้อนเเล้วจะทำให้ผู้ชายใจอ่อนไง?
เหอะเหอะ
มู่นวลนวลสูดหายใจเข้าลึกๆ หลังจากนั้นเธอก็ยกยิ้มเเละวิ่งไปที่ห้องอาหารด้วยการใส่รองเท้าเเตะแบบเหยียบส้น
โม่ถิงเซียวขึ้นมาที่ชั้นสอง เขาจับที่ราวกั้น มองมู่นวลนวลที่กำลังวิ่งไปที่ห้องอาหารด้วยใบหน้ายิ้มเเย้ม เเละเขาก็ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
……
หลังจากที่มู่นวลนวลกลับมาถึงห้องอาหาร เธอก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่โม่ถิงเซียวพูดก็คือ ” ซูชิงหนิงเหมือนเธอ ”
” เธอเหมือนคุณ ” หมายความว่ายังไง?
ซูชิงหนิงหน้าเหมือนเธออย่างงั้นหรอ?
เเต่ซูชิงหนิงจะเหมือนเธอได้ยังไงล่ะ?
อีกอย่าง โม่ถึงเซียวก็รู้จักซูชิงหนิงก่อน หลังจากนั้นเขาถึงจะรู้จักเธอนี่หน่า?
ถ้าอิงตามกฎของคนที่เข้ามาก่อน ก็ควรเป็นเธอที่หน้าเหมือนซูชิงหนิงสิถึงจะถูก
หรือว่าโม่ถิงเซียวเคยเจอเธอก่อนที่จะรู้จักซูชิงหนิง?
ความเป็นไปได้น้อยมาก……
ตอนกลางคืน มู่นวลนวลก็ได้หาโอกาสลองถามเขาอีกครั้ง: ” โม่ถิงเซียว ก่อนหน้านี้คุณรู้จักฉันเเล้วหรอ? ”
” อืม? ”
โม่ถิงเซียวขานรับช้าๆ หลังจากนั้นเขาก็ก้มลงไปจูบเธอ
เธอยังอยากพูดต่อ เเต่ถูกเขาจูบปิดปากเสียก่อน
นิ้วมือของเขาปลดเสื้อผ้าของเธอออก เเขนยาวเกี่ยวเอวของเธอไว้เเละวางเธอลงบนเตียง
การกระทำอย่างต่อเนื่องนี้มีความชำนาญและราบรื่น
มู่นวลนวลไม่ลืมเรื่องที่ตัวเองต้องการถามเเละยังคงถามเขาอย่างไม่ลดละ: ” คุณยังไม่ตอบคำถามของฉัน ”
” ไม่บอกคุณ ” โม่ถิงเซียวหายใจติดขัดเล็กน้อย น้ำเสียงของเขาเด็ดเดี่ยวมากเเละข้างในก็เเฝงไปด้วยอารมณ์อื่น
ตอนนี้มู่นวลนวลก็เลอะเลือนเเล้วเหมือนกัน เธอฟังไม่รู้ว่าอารมณ์อื่นที่ว่านั้นคืออะไร
เเต่โม่ถิงเซียวกลับไม่ให้โอกาสนี้กับเธอ เขาลดเอวลงต่ำทันที
มู่นวลนวลร้องขึ้นเสียงเบา โม่ถิงเซียวก้มลงไปจูบเธออย่างทนไม่ไหว
ช่วงนี้เขาไม่ได้เเตะต้องเธอเลย จะให้ทนฟังเสียงร้องบอบบางของเธอไหวได้ยังไงล่ะ เขาเเค่กลัวว่าตัวเองจะทนไม่ไหวจนทำให้เธอไม่ได้ไปทำงานในวันพรุ่งนี้นะสิ
มู่นวลนวลจะไปรู้ได้ยังไงว่าโม่ถิงเซียวกำลังคิดอะไรอยู่ เธอรู้เเค่ว่าการกระทำเเละองศาของเขายิ่งอยู่ยิ่งเจ้าเล่ห์ขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ยับยั้งเสียงของตัวเองไม่ได้
ในดวงตาของโม่ถิงเซียวที่แต่เดิมเป็นสีดำสนิทราวกับน้ำหมึก ดูเหมือนจะมีคลื่นใต้น้ำที่กำลังซัดกระหน่ำอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และส่งเสียงร้องตะโกนเพื่อต้องการกลืนผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเข้าไป
มู่นวลนวลก็รู้สึกทนไม่ไหวเหมือนกัน เธอส่งเสียงฮึเบาๆเเละขยับเอวไปด้านหลัง โม่ถิงเซียวบีบเอวของเธอไว้เเละจูบไปที่ติ่งหูของเธอ น้ำเสียงของเขาแหบจนได้ที่: ” พรุ่งนี้ยังอยากไปทำงานไหม? ”
” อืม ” มู่นวลนวลหลับตาลงเเละพยักหน้า เธอไม่รู้ว่าเขาถามแบบนี้ทำไม
โม่ถิงเซียวกัดฟัน: ” งั้นก็อย่าส่งเสียง ”
พูดจบเขาก็กดเอวลงต่ำทันที มู่นวลนวลร้องลั่นเพราะการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันของเขา……
หลังจากนั้นก็ก็ควบคุมไม่ได้อีกเเล้ว
……
มู่นวลนวลยื่นมือออกมาจากในผ้าห่ม เธอรู้สึกเวียนหัวเจ็บหลัง และรู้สึกปวดทั่วร่างกาย
ชายหนุ่มที่ใส่เสื้อผ้าอย่างเป็นระเบียบเเล้วเดินมาที่ข้างเตียงเเละซุกมือเรียวกลับไปในผ้าห่ม หลังจากนั้นเขาก็ก้มลงไปจูบที่หน้าผากของเธอเเละพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาที่ผสมไปด้วยความดีใจ: ” ฉันจะให้คนช่วยคุณลางาน ”
มู่นวลนวลหรี่ตาลง เธอเอื้อมมือไปจับชายเสื้อของเขาเเละพูดขู่: ” คุณกล้าหรอห๊ะ! ”
โม่ถิงเซียวเลิกคิ้วเเละหยิบโทรศัพท์ออกมา
มู่นวลนวลรู้สึกกลัวทันที เธอปล่อยชายเสื้อของเขา หลังจากนั้นก็เกี่ยวคอเขาเพื่อชะโงกหน้าขึ้นไปจูบเขา เเละพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน: ” ฉันจะไปทำงานค่ะ ”
โม่ถิงเซียวปล่อยให้เธอจูบเขา
พอจูบเสร็จโม่ถิงเซียวก็พูดขึ้นมานิ่งๆ: ” งั้นก็ลุกขึ้นมาแปรงฟัน ”
แปรงฟัน……
เหอะเหอะ รังเกียจที่เธอไม่เเปรงฟันเเล้วมาจูบเธอทำไมล่ะ!
โม่ถิงเซียวมองเธอยิ้มๆ: ” เมื่อก่อนคุณขี้เหร่ขนาดนั้นผมยังทนได้เลย ก็เเค่ไม่ได้เเปรงฟันเอง ผมไม่รังเกียจหรอก ”
” งั้นก็ทำให้คุณลำบากแย่เลยนะคะ ” มู่นวลนวลกอดผ้าห่มลุกขึ้นนั่งเเละส่งเสียงฮึออกมา
……
ระหว่างทางไปบริษัท มู่นวลนวลนั่งเป็นอัมพาตอยู่เบาะหลัง เธอรู้สึกว่าร่างกายของเธอถูกสูบจนว่างเปล่า
แหย่ไม่ได้……
ผู้ชายที่กินมังสวิรัติมานาน เธอแหย่ไม่ได้
พอลงจากรถเธอก็เห็นมู่หวันฉีกำลังยืนอยู่ที่ทางเข้าบริษัท
มู่หวันฉีใส่เสื้อผ้าสไตล์ที่เธอชอบใส่เหมือนทุกครั้ง เธอใส่ชุดเดรสรัดรูป ถุงน่องตาข่ายสีดำ รองเท้าส้นเข็มและเสื้อคลุมบาง ๆ แต่รูปทรงสวยงาม
มู่นวลนวลก้มลงมองเสื้อขนเป็ดตัวยาวที่อยู่บนตัวของเธอ เเละรองเท้าบูทหิมะด้านล่าง
นี่อาจเป็นความเเตกต่างของผู้หญิงที่ยังไม่เเต่งงานกับผู้หญิงที่เเต่งงานเเล้วล่ะมั้ง
ชุดขนเป็ดตัวยาวชิ้นนี้ ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอออกมา โม่ถิงเซียวเป็นคนใส่ให้เธออย่างเอาเเต่ใจ
บนโลกนี้มีความหนาวประเภทหนึ่งเรียกว่า ” โม่ถิงเซียวคิดว่าคุณหนาว ”
เป็นเรื่องยากที่มู่นวลนวลจะรู้สึกหนักใจเมื่อเห็นมู่หวันฉี
ก็ผู้หญิงไง ใครไม่ชอบใส่เสื้อผ้าสวยงามในทุกๆวันล่ะ ผู้หญิงที่เเต่งงานเเล้วก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันนะ
มู่หวันฉีมาขวางหน้าเธอไว้: ” มู่นวลนวล! ”
” มีอะไรอีกล่ะ? ” มู่นวลนวลรู้สึกว่าถ้ามู่หวันฉีไม่หาเรื่องสักวันเธอก็อาจจะตายได้เลย?
” ห้ามบอกปู่เรื่องที่เจอฉันที่ร้านอาหารจินติ่งเมื่อวาน! ” มู่หวันฉีพูดด้วยน้ำเสียงออกคำสั่ง หลังจากนั้นเธอก็มองการเเต่งตัวของมู่นวลนวลนิดหน่อย
ทันใดนั้นเธอก็พูดเยาะเย้ย: ” มู่นวลนวล แกใส่ชุดอะไรน่ะ? ต่อให้โม่ถิงเซียวทนเห็นแกเเต่งตัวเหมือนไม่ใช่ผู้หญิงทุกวัน เเล้วเขาจะไม่รู้สึกสนใจเเกหรอ? ”
มู่นวลนวลซัดเธอกลับไป: ” เขาทนได้หรือไม่ได้เเล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่ล่ะ? ”
มู่หวันฉีชอบพูดเรื่องนี้กับเธออยู่เรื่อย ทำให้มู่นวลนวลหงุดหงิด