” ไม่เกี่ยวกับฉันหรอก ฉันก็เเค่เตือนเเกเท่านั้นเอง ” มู่หวันฉีมีท่าทีเย่อหยิ่ง หางของเธอแทบจะกระดกขึ้นฟ้าอยู่เเล้ว
มู่นวลนวลอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปพยุงเอวที่กำลังปวดเมื่อยของตัวเอง
ทันใดนั้น เธอก็ชำเลืองมองมู่หวันฉี: ” พี่ทำตัวเองให้ดีเถอะ! ”
หลั๋วหยิ๋งเป็นผู้หญิงที่ใช้เนื้อหนังมังสาหากิน ถึงเเม้ว่าบนตัวของเธอจะมีวัตถุดิบที่ผิดกฎหมายมากมาย เเต่กลับยังคงปะปนอยู่ในวงการบันเทิงได้จนถึงตอนนี้ สิ่งนี้เเสดงให้เห็นว่าหลั๋วหยิ๋งไม่ได้เป็นคนโง่อย่างเดียว เธอยังเป็นคนที่มีมันสมองเเละวิธีการอีกด้วย
ที่มู่หวันฉีปะปนอยู่กับหลั๋วหยิ๋งก็อาจเป็นเพราะถูกหลั๋วหยิ๋งซื้อไปเเล้ว ถึงตอนนั้นจะตายตอนไหนก็ไม่รู้
” เเค่แกไม่บอกปู่เรื่องฉัน ฉันก็ปกติดีทุกอย่าง ”
มู่นวลนวลไม่ได้พูดอะไรกับมู่หวันฉีมากมาย จึงเดินเข้าไปด้านใน
……
ตอนบ่าย มู่นวลนวลได้รับโทรศัพท์บอกว่ามีคนมาหาเธอเเละเห็นว่าเป็นผู้หญิง
มู่นวลนวลรู้สึกสงสัยเล็กน้อยเเละคิดไม่ออกว่าใครมาหาเธอ
ตอนที่เธอลงไปก็เห็นผู้หญิงนั่งหันหลังให้เธอ เธอคนนั้นใส่ชุดเซ็กซี่ที่มีความคล้ายคลึงกับมู่หวันฉีเล็กน้อย แผ่นหลังนั้นดูคุ้นเคยเป็นอย่างมาก……
ผู้หญิงคนนั้นหันกลับมา: ” คุณมู่ ”
มู่นวลนวลหรี่ตาลง หลั๋วหยิ๋งมาหาเธองั้นหรอ?
มู่นวลนวลมองเธออย่างเย็นชาเเละพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ: ” คุณมาหาผิดคนหรือเปล่า ”
” คนที่ฉันมาหาวันนี้คือคุณค่ะ ฉันไม่ได้มาหามู่หวันฉี เเต่มาหามู่นวลนวล ” หลั๋วหยิ๋งเป็นผู้หญิงที่คลุกคลีอยู่บนเตียงผู้ชาย รอยยิ้มของเธอเต็มไปด้วยฝุ่นหนา
” มีธุระอะไร? ”
มู่นวลนวลรู้สึกไม่ชอบหลั๋วหยิ๋งเเละเธอก็รู้สึกว่าที่หลั๋วหยิ๋งมาหาเธอนั้นไม่ได้มีเรื่องดีอะไรหรอก
ต่อให้มีเรื่องดีจริงๆ ก็คงเป็น ” เรื่องดี ” ที่ทั้งโลภทั้งโหดเหี้ยมน่ะสิ
” เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นฉันที่ผิดเอง วันนี้จึงตั้งใจมาขอโทษคุณค่ะ ” หลั๋วหยิ๋งเกี่ยวผมที่ร่วงลงมาจากหูของเธอ เเละยกยิ้มอย่างมีเอกลักษณ์
เธอพูดจบก็ก็หยิบถุงกระดาษที่มีโลโก้ขนาดใหญ่ประทับอยู่ด้านข้าง เธอลุกขึ้นยืนเเละส่งให้มู่นวลนวล: ” ถ้าคุณมู่ไม่ถือสา โปรดรับคำขอโทษของฉันด้วยเถอะค่ะ ”
หลั๋วหยิ๋งคิดว่าตัวเองเเสดงความจริงใจเเละความเคารพออกมาอย่างเพียงพอเเล้ว
เเละเธอก็เคยสืบว่ามู่นวลนวลเป็นเด็กผู้หญิงที่อายุเพียงยี่สิบต้นๆ เมื่อก่อนเธอเคยมีช่วงเวลาที่เลวร้ายตอนที่อยู่ในตระกูลมู่ เเถมยังไม่ค่อยมีเพื่อนอีกด้วย พอเเต่งเข้าตระกูลโม่ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่กับ ” คนพิการ ” เธอคงจะลำบากมาก
เด็กผู้หญิงแบบนี้มักใจอ่อนเเละง่ายต่อการเอาใจที่สุด
มู่นวลนวลชำเลืองมองถุงกระดาษที่อยู่ในมือของหลั๋วหยิ๋งนิดหน่อย: ” คุณควรขอโทษเซินเหลียง ส่วนฉัน ถ้าคุณหมายถึงเรื่องที่บาร์ครั้งนั้น ฉันไม่ได้เสียเปรียบอะไร ส่วนเรื่องที่คุณให้คนไปแอบถ่ายเซินเหลียงนั้นไม่เกี่ยวกับฉัน ยังไงคุณก็ไปขอโทษเจ้าตัวเองเถอะ ”
เห็นมู่นวลนวลกัดเรื่องที่แอบถ่ายไม่ปล่อย สีหน้าของหลั๋วหยิ๋งก็ไม่ค่อยดีนัก
วันนั้นสถานที่ถ่ายภาพยนตร์ของเธออยู่ไม่ไกลจากเซินเหลียง พอได้ยินว่าเซินเหลียงอยู่ที่นั่น เธอก็อดกลั้นความเเค้นกับความริษยาในใจไว้ไม่ได้ จึงคิดหาวิธีให้คนไปขโมยเสื้อผ้าเเละให้คนไปแอบถ่ายเธอ
ถ้าไม่กลัวว่าจะมีคนสงสัย เธอก็คงจะไปแอบถ่ายเซินเหลียงด้วยตัวเองเเล้ว ไม่ถึงกับต้องให้ไอโง่สองคนนั้นทำเสียแผนหรอก
” ฉันไม่ได้ส่งคนไปแอบถ่ายเซินเหลียงจริงๆนะคะ คุณมู่คุณต้องเชื่อฉันนะ…… ” หลั๋วหยิ๋งกัดริมฝีปากเผยให้เห็นท่าทีที่ไร้เดียงสาและไม่ได้รับความเป็นธรรม
มู่นวลนวลขนลุก วิธีนี้ของหลั๋วหยิ๋งใช้ได้กับผู้ชาย เเต่ใช้กับเธอไม่ได้
” ฉันยังมีธุระให้ไปทำต่อ คุณหลั๋วตามสบายค่ะ ” มู่นวลนวลยังมีงานที่ยังทำไม่เสร็จจริงๆ
ถึงเเม้ว่าเริ่มเเรกเธอกลับมาที่มู่กรุ๊ปเเละมีความคิดที่ต้องการจะแก้เเค้นจริงๆ เเต่เธอก็เป็นคนที่มีหลักการเเละมีความรับผิดชอบ
ได้เงินเดือนเเล้วก็ต้องทำงานที่อยู่ในหน้าที่รับผิดชอบให้สำเร็จ
หลั๋วหยิ๋งมองแผ่นหลังของมู่นวลนวลเเละกำมือสองข้างเเน่น
เป็นเเค่เด็กผู้หญิงที่ไร้ประโยชน์ ไม่คิดว่าจะไม่ชอบให้พูดดีๆด้วย!
เดิมทีเธออยากเอาใจมู่นวลนวล รอจนให้ได้รับความไว้วางใจจากมู่นวลนวลเเล้ว เธอก็จะมีโอกาสเข้าใกล้โม่ถิงเซียว ถึงตอนนั้นเเค่เธอลงมือกับโม่ถิงเซียวนิดหน่อย ต่อให้โม่ถิงเซียวเป็นผู้ชายที่ไม่ได้เรื่อง เเต่เขาก็จะหลงใหลอยู่บนตัวเธออย่างเเน่นอน……
ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นเธอคงต้องใช้วิธีอื่นเเล้วล่ะ
……
หลังจากที่มู่เจิ้งซิวกลับมาที่มู่กรุ๊ป เขาก็ได้แสดงแผนต่างๆเเละกอบกู้สถานการณ์อันตรายกลับมา ทำให้สถานการณ์ของมู่กรุ๊ปค่อยๆดีขึ้น
สำหรับเรื่องนี้มู่นวลนวลรู้สึกนับถือเขาเล็กน้อย
คนอายุเจ็ดสิบกว่าปีที่ต้องมาทำงานในบริษัททุกวัน ตกกลางคืนยังต้องไปเข้าร่วมงานเลี้ยงอีก
มู่เจิ้งซิวเสียหยาดเหงื่อกับมู่กรุ๊ปไปเยอะ
ก่อนเลิกงาน มู่นวลนวลกำลังเก็บของเพื่อเตรียมตัวกลับ อยู่ๆโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
เเละเป็นโทรศัพท์จากมู่เจิ้งซิว
” เตรียมตัวด้วย พรุ่งนี้ไปทำงานนอกสถานที่ที่เมืองซีกับฉัน ”
” ไปทำงานนอกสถานที่? ” ทำไมมู่เจิ้งซิวถึงอยากให้เธอไปทำงานนอกสถานที่กับเขาล่ะ?
ต่อให้มู่เจิ้งซิวต้องการคนไปทำงานเป็นเพื่อนเขา ก็ต้องไปหามู่หวันฉีสิถึงจะถูก
” คืนนี้ก็เตรียมตัวด้วยล่ะ เเล้วพรุ่งนี้เจอกันที่สนามบินตอนเก้าโมงเช้า ” ในน้ำเสียงของมู่เจิ้งซิวเป็นการบอกว่าไม่อนุญาติให้สงสัย เขาไม่ให้โอกาสมู่นวลนวลได้ถามอะไรเเละวางสายไปในที่สุด
ถ้าเป็นมู่ลี่หยาน มู่นวลนวลยังสามารถไปสืบหาเจตนาและหาสาเหตุว่าทำไมเขาถึงพาเธอไปทำงานนอกสถานที่
เเต่คนที่โทรหาเธอคือมู่เจิ้งซิวไง
มู่เจิ้งซิวนั้นแข็งแกร่งและฉลาดกว่ามู่ลี่หยาน แต่เขาก็ตรงไปตรงมามากกว่ามู่ลี่หยาน
ไม่ว่าจะพูดยังไง ตอนนี้เธอคือคุณหญิงของตระกูลโม่ มู่เจิ้งซิวคงไม่พาเธอไปขายหรอกมั้ง
……
วันนี้คนที่มารับมู่นวลนวลคือคนขับรถคนอื่นในบ้าน ซือเย่มักถูกโม่ถิงเซียวใช้ให้ไปทำธุระ จึงไม่ค่อยมีเวลามารับเธอ
ขึ้นรถได้ไม่นาน มู่นวลนวลก็สังเกตเห็นคนขับรถมองกระจกส่องหลังบ่อยๆ
มู่นวลนวลก็ได้หันไปมองเหมือนกัน พบว่าไม่มีอะไรน่าสงสัย เธอจึงพูดถาม: ” มีอะไรหรอ? ”
” มีคนสะกดรอยตามเราครับ” คนขับรถพูดด้วยสีหน้าจริงจัง: ” คุณหญิง คุณนั่งให้นิ่งๆนะครับ ”
มู่นวลนวลไม่ได้ถามอะไรมากมาย เธอทำเพียงพูดขึ้น: ” ค่ะ ”
ไม่มีทหารอ่อนแอภายใต้นายพลที่แข็งแกร่ง คนของโม่ถิงเซียวเเม้เเต่คนขับรถก็ยังไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป
เมื่อก่อน เธอเคยได้ยินโม่ถิงเซียวบอกว่าคนขับรถในบ้านเป็นนักเเข่งรถที่ปลดเกษียณเเล้ว……
ต่อมา คนขับก็ขับรถเป็นรถแข่งทรราชบนท้องถนนจริงๆ
รอจนความเร็วรถลดลง มู่นวลนวลก็เวียนหัวตาลายไปหมด
เธอพูดกับคนขับรถ: ” จอดรถ! ”
พอรถหยุดนิ่ง มู่นวลนวลก็รีบเปิดประตูลงไปเเละวิ่งไปอ้วกข้างถังขยะทันที
คนขับรถรีบหยิบน้ำกับกระดาษชำระมาให้เธอ: ” คุณหญิง ผมทำให้คุณตกใจ ”
” ……ไม่เป็นไรค่ะ ” หลังจากที่อาการของมู่นวลนวลดีขึ้น เธอก็ตบไหล่ของคนขับรถ: ” เยี่ยมมาก! ”
มู่นวลนวลกับคนขับรถกลับมาที่รถ
ตอนนี้รถได้ขับมาถึงล่างตีนเขาเเล้ว ขับอ้อมเขาอีกสิบกว่านาทีก็ถึงคฤหาสน์ของโม่ถิงเซียว
รถที่มู่นวลนวลนั่งมาขับไปได้ไม่เท่าไหร่ ก็มีรถอีกคันปรากฏขึ้นที่ล่างตีนเขาในตอนนี้
หลั๋วหยิ๋งลงจากรถด้วยสีหน้าที่ขาวซีดเเละเงยหน้ามองคฤหาสน์ที่อยู่บนเนินเขา