หลังจากวันนั้นที่โม่ถิงเซียวกับมู่นวลนวลเอ่ยเรื่องลาออก มู่นวลนวลคิดใคร่ครวญนิดหน่อย ตัดสินใจลาออก
เธออยู่ที่มู่กรุ๊ปคือทำงานเป็นพนักงานตำแหน่งธรรมดา ถ่ายเอกสารจัดระเบียบข้อมูล ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับวิชาเอกของเธอแม้แต่น้อย ถ้าอยู่ที่มู่กรุ๊ปต่อไป ยังเป็นการใช้เวลาอย่างสิ้นเปลืองเท่านั้นเอง
เรื่องตัดสินใจแน่นอนแล้ว มู่นวลนวลก็ไม่ได้เลื่อนเวลาออกไปอีก
มู่นวลนวลเร็วมากก็เขียนใบลาออกเสร็จแล้ว เข้าทำงาน ก็จะส่งไปให้มู่เจิ้งซิว
หลังจากที่มู่เจิ้งซิวกลับ เรื่องเล็กเรื่องใหญ่ภายในบริษัทก็ล้วนเป็นมู่เจิ้งซิวเป็นคนจัดการ การวางแผนเล็กหรือใหญ่ก็ต้องผ่านมู่เจิ้งซิวจึงจะตัดสินขั้นสุดท้ายได้
ถ้าเทียบกับ มู่ลี่หยานอยู่ในบริษัทก็ไม่มีอำนาจที่แท้จริง
มู่นวลนวลผลักประตูเข้าไปในห้องทำงานของมู่เจิ้งซิว นำใบลาออกที่อยู่ในมือวางลงบนโต๊ะทำงานของเขา“คุณปู่”
โม่เจิ้งซิวเงยหน้าขึ้นมา เหลือบมองไปที่ใบลาออก ไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่จึงพูด “นี้หมายความว่าอะไร?”
“ตามที่ท่านเห็น ฉันต้องการลาออก ประธานมู่กรุณาอนุญาตด้วนค่ะ”มู่นวลนวลมองเขาด้วยสีหน้าสงบนิ่ง น้ำเสียงกับสีหน้าก็สงบนิ่งเหมือนกัน
“นั่งสิ”มู่นวลนวลใช้นิ้วชี้บนเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะทำงาน
มู่นวลนวลนั่งลง
หลังจากมู่เจิ้งซิวกลับประเทศ ก็สนิทสนมกับมู่นวลนวลไม่น้อย แต่นี้เป็นครั้งแรกที่เขาสังเกตเธออย่างละเอียด
ในเวลาที่เขาออกนอกประเทศ มู่นวลนวลเพิ่งจะเจ็ดขวบ เป็นเด็กผู้หญิงที่สวยมีผลการเรียนดีมาก ในเวลาที่เรียกคุณปู่ก็น่าเอ็นดูมาก
แต่ว่า ความคิดของเขาค่อนข้างโบราณ ถึงอย่างไรเสี่ยวชูเหอก็เป็นแม่เลี้ยง ในใจของเขา ก็ยิ่งรักมู่หวันฉีสองพี่น้องมากกว่า ก็ไม่ได้มีมู่นวลนวลอยู่ในสายตา
เวลาหลายปีมานี้ บางครั้งได้ฟังเรื่องเกี่ยวข้องกับมู่นวลนวลเพียงไม่กี่คำ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าความคิดของตัวเองถูกต้อง
เพียงแต่ หลังจากเวลาที่เขาได้กลับประเทศได้พบกับมู่นวลนวลจริงๆ จึงจะพบว่าเขาคิดไว้ทั้งหมดไม่เหมือนกัน
มู่หวันฉีเป็นคนที่เขารักและทะนุถนอมตั้งแต่เด็ก เลี้ยงดูด้วยความเอาใจโดยไม่รู้ตัว
และมู่นวลนวลที่เขาไม่ได้สนใจมาโดยตลอด แต่เป็นคนสำคัญที่ก่อให้มู่กรุ๊ปเกิดวิกฤต
มู่นวลนวลปะทะสายตาที่สังเกตอย่างละเอียดของมู่เจิ้งซิว ไม่น้อยเนื้อต่ำใจและไม่เย่อหยิ่งจองหอง ท่าทางไม่ตื่นตระหนก แข็งแกร่งกว่ามู่หวันฉีมาก
ในปีนั้นเขาใช้ความพยายามอย่างมาก ให้ตระกูลโม่กับตระกูลมู่เกี่ยวดองกัน แต่มู่หวันฉีเอาโอกาสนี้ให้กับมู่นวลนวล
เขามองออกว่า มู่นวลนวลเป็นเด็กฉลาดลึกและใจเย็น เธอเป็นคนที่มีความคิดเยอะ คนแบบนี้มีจุดเด่นคือไม่— —ควบคุมได้ยาก
มู่เจิ้งซิวถอนสายตากลับ ชำเลืองมองจดหมายลาออกที่อยู่ตรงหน้า ถามเธอ“ทำไมถึงอยากจะลาออก?”
“ตอนนี้ฉันทำงาน ไม่ตรงกับสายงานวิชาเอกของฉัน และตอนนี้ฉันอยู่ในมู่กรุ๊ป เพียงแค่เลี้ยงคนนอกเท่านั้น”
มู่นวลนวลพูดจบ ตัวเองก็รู้สึกประหลาดใจ อยู่ในมู่กรุ๊ปมานานแล้ว คาดไม่ถึงว่าจะสามารถคำพูดแสดงความเกรงใจภายนอกได้
“เธอพูดอะไร เธอเป็นคนของตระกูลมู่ ทำงานอยู่ในบริษัทของบ้านตัวเอง จะเป็นคนนอกได้ยังไง!”น้ำเสียงของและสีหน้าท่าทางของมู่เจิ้งซิวจริงจังมาก
มู่นวลนวลหรี่ตาเล็กน้อย พิจารณาความหมายประโยคนี้ของเขาอย่างละเอียด
ในประโยคนี้ของมู่เจิ้งซิวเข้าใจชัดเจนว่าคือไม่อยากให้มู่นวลนวลออกไป
มู่นวลนวลไม่เข้าใจไปชั่วขณะ เพราะอะไรมู่เจิ้งซิวไม่ให้เธอลาออก
……
การลาออกล้มเหลว
ออกมาจากห้องทำงานของมู่เจิ้งซิว มู่นวลนวลก็ได้รับสายโทรศัพท์ของโม่ถิงเซียว
เธอหยิบโทรศัพท์เดินไปในสถานที่ลับตาคนจึงรับสาย
“เขาอนุญาตหรือยัง?”เสียงของโม่ถิงเซียวดังมาจากในสายโทรศัพท์ เสียงต่ำทำให้คนสงบจิต
เดิมทีมู่นวลนวลนึกว่ามู่เจิ้งซิวจะอนุญาตอย่างแน่นอน ผลลัพธ์คือผิดหวัง ตอนนี้ได้ยินเสียงของโม่ถิงเซียว ในน้ำเสียงของเธอก็อดไม่ได้ที่จะรั่วไหลความน้อยใจ“ไม่ได้”
โม่ถิงเซียวที่อยู่ในสายเงียบไม่พูดจาไปชั่วขณะ ก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“เวลาเลิกงานฉันไปรับเธอ”
“อืม”
มู่นวลนวลวางสายโทรศัพท์จึงมีสติกลับมา รู้สึกว่าโม่ถิงเซียวไม่ใช่แค่มารับเธอเพียงอย่างเดียว ดูเหมือนว่าจะเข้าช่วยเธอจัดการเป็นเรื่องลาออก
ทันใดนั้นก็มีความกล้า“ตัวเองก็มีคนที่คอยสนับสนุนอยู่ข้างหลัง”รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง…
มู่นวลนวลกลับมาถึงในที่ทำงานของตัวเอง ว่างคนไม่มีงานให้ทำ จึงเปิดดูวีแชท
เพิ่งจะเปิดเข้าไป ก็ได้รับข้อความภาพแคปหน้าจอเยอะมาก
เป็นเซินเหลียงที่ส่งมาให้เธอ
ก็คือบนเวยป๋อ โม่ถิงเซียวใช้ไอดีจริงของกูจื่อหยานตอบกลับพวกนั้น“คุณตาบอด”และชาวอินเน็ตก็คอมเมนท์คาดคะเนเรื่องกูจื่อหยานกับซือเฉิงยวี่
มู่นวลนวลดูกลับไปกลับมาหลายรอบ ก็เข้าไปดูในเวยป๋อของกูจื่อหยานก็มีกลุ่มด้านล่าง คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องจริง!
หัวข้อประเด็นร้อนจาก“แฟนสาวลึกลับของซือเฉิงยวี่”ก็กลายเป็น“ซือเฉิงยวี่กับกูจื่อหยาน”
คนมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงมีการตอบสนองรุนแรนมาก เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง เรื่องที่เกี่ยวกับกูจื่อหยานกับซือเฉิงยวี่ ก็เป็นหัวข้อประเด็นร้อนแล้ว
เธอกลับมาที่วีแชท ก็ได้รับข่าวที่เซินเหลียง“ฉันก็รู้ว่ากูจื่อหยานเปลี่ยนไม่ได้!”
“เมื่อก่อนกูจื่อหยานก็ชอบผู้ชาย?”มู่นวลนวลรู้สึกช็อก
เธอก็คิดไปถึงโม่ถิงเซียวบีบคั้นกูจื่อหยาน กูจื่อหยานก็ยอมรับความลำบากและคำบ่น ทันใดนั้นในใจก็กังวลขึ้นมา
กูจื่อหยานไม่น่าจะมีอะไรกับโม่ถิงเซียว…ความคิดนี้ไม่อาจพูดแพร่งพรายออกไปได้?
เซินเหลียงก็รีบด่ากูจื่อหยาน ส่งข้อความติดต่อมาไม่หยุดเหมือนกับจะระเบิด
ไม่ได้สนใจคำถามของมู่นวลนวล
ดังนั้น มู่นวลนวลตกอยู่ในสถานการณ์ที่รู้สึกตึงเครียดตลอดช่วงบ่าย
จนกระทั่งจะถึงเวลาเลิกงาน เธอรับสายโทรศัพท์ของโม่ถิงเซียว
“ฉันอยู่ด้านล่างมู่กรุ๊ป”
เมื่อถึงเวลาเลิกงาน มู่นวลนวลก็หยิบกระเป๋าลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว
รถของโม่ถิงเซียวจอดอยู่ที่โรงจอดรถตรงข้ามกับมู่กรุ๊ป เปิดกระจกรถครึ่งหนึ่ง เห็นใบหน้าเยือกเย็นและเงียบเหงา
มู่นวลนวลวิ่งเข้าไป เปิดประตูรถก็เข้าไปนั่งในรถ
โม่ถิงเซียวหันหน้ากลับมามองเธอ สีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ เขายื่นมือไปเกลี่ยผมหน้าม้าของมู่นวลนวลที่วิ่งเข้ามาแล้วถูกลมพัดจนยุ่งเหยิง
มู่นวลนวลที่ข่มอารมณ์ไว้ตอนบ่าย ในที่สุดเมื่อพบโม่ถิงเซียว กลับไม่รู้ว่าจะเปิดปากพูดอะไร
เธอเปิดปากพูดอย่างลังเล“คุณ…รู้สึกว่ากูจื่อหยานเป็นคนยังไง?”
“จื่อหยาน?”โม่ถิงเซียวคล้ายกับว่าคิดไตร่ตรองเล็กน้อย จึงพูด“นิสัยฉุนเฉียวง่าย แต่ความสามารถจัดการเรื่องราวไม่เลว”
เรียกกันอย่างสนิทสนม ยังพูดชื่นชมเขา!
มู่นวลนวลในใจรัดแน่น“ก่อนหน้านี้เขามีข่าวซุบซิบเรื่องผู้หญิง จริงหรือปลอม?”
“ปลอม”โม่ถิงเซียวพบว่ามู่นวลนวลไล่ถามแต่เรื่องกูจื่อหยาน สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจขึ้นมา
ข่าวซุบซิบเป็นข่าวปลอม?งั้นเพื่อปกปิดเรื่องที่เขาชอบผู้ชาย
มู่สีหน้าก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา“งั้นเขา…”
“มู่นวลนวล”ในเวลานี้โม่ถิงเซียวพูดเสียงหนักแน่นหยุดคำพูดของเธอ
มู่นวลนวลได้ฟัง ก็หยุดพูดลง เงยหน้ามองไปที่โม่ถิงเซียว
เขาหรี่ตามองเธอ แววตามืดครึ้ม“เริ่มตั้งแต่ที่เธอขึ้นรถ ก็ถามฉันเรื่องผู้ชายคนอื่น”
“ฉันแค่…”
โม่ถิงเซียวพูดอย่างไร้อารมณ์“ให้เวลาคุณสามวินาที เอาใจ”
สามวินาที??