“คุณปู่”
มู่นวลนวลลงไปชั้นล่าง เดินเข้าไปนั่งลงตรงหน้าของโม่อันหลิง
โม่อันหลิงมองเห็นมู่นวลนวล ก็ยิ้มออกมา“วันนี้ฉันตัดสินใจเข้ามาที่นี้ชั่วคราว ยังกังวลว่าในบ้านพวกเธอจะไม่มีคน”
มู่นวลนวลยิ้ม รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
โม่อันหลิงถาม“ถิงเซียวล่ะ?”
ป้าหูนำชาหนึ่งแก้วมาให้มู่นวลนวล มู่นวลนวลกุมแก้วชาแล้วพูด“เขาไปทำงานที่บริษัทแล้วค่ะ”
โม่อันหลิงฉับพลันนั้นก็แสดงสีหน้าตระหนักขึ้นมา “ฉันแก่แล้ว ก็เลอะเลือนแล้ว ยังนึกว่าพวกเธอว่างเหมือนกับฉัน ก็เลอะเลือนแล้ว…”
“คุณปู่ยิ่งแก่ยิ่งแข็งแรง เลอะเลือนที่ไหนกัน”มู่นวลนวลยิ้มไปด้วย เดาไม่ออกว่าโม่อันหลิงมาหาเธอเป้าหมายจริงๆคืออะไร
“ปีนั้นฉันเกษียณเร็วไป ตอนนี้พ่อของโม่ถิงเซียวก็ห้าสิบกว่าปีแล้ว กำลังวังชาก็ไม่ได้เยอะเหมือนเมื่อก่อน ได้ยินว่าโม่ถิงเซียวเปิดบริษัทอะไรกับคนอื่น เธอรู้สิ…”
คำพูดของโม่อันหลิงมาถึงส่วนนี้ แน่นอนว่ามู่นวลนวลก็ฟังเข้าใจความหมายในคำพูดเขา
โม่ถิงเซียวก่อตั้งShengdingMedia ทำงานอยู่ShengdingMediaมาโดยตลอด ไม่ได้ไปสนใจธุรกิจวงศ์ตระกูลของโม่กรุ๊ปเลย
โม่อันหลิงเอ่ยมาถึงพละกำลังวังชาของพ่อโม่ถิงเซียวไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เห็นความหมายชัดเจนว่า ก็คืออยากให้โม่ถิงเซียวกลับไปทำงานที่โม่กรุ๊ป
โม่อันหลิงไม่ได้พูดให้เข้าใจ มู่นวลนวลก็พูดจาไม่ชัดเจน“รู้นิดหน่อย ไม่ค่อยจะเข้าใจค่ะ”
โม่อันหลิงยิ้ม พูดด้วยเสียงเบาๆ“ไม่ช้าก็เร็วโม่กรุ๊ปก็ต้องให้โม่ถิงเซียวมารับช่วงต่อ เรื่องเล็กๆกับบริษัทอะไรที่อยู่ด้านนอกพวกนั้น ถึงเวลาก็ต้องวางมือ เธอคิดว่าใช่ไหม?”
ShengdingMediaถือว่าเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมบันเทิงในประเทศไทย ถ้าจะให้โม่อันหลิงพูด เป็นแค่เพียงเรื่องเล็กๆ?
พูดแบบนี้ก็ไม่ได้เกินไป
ถึงอย่างไรโม่กรุ๊ปก็เป็นตระกูลเก่าแก่และร่ำรวยมีทั้งเงินและอำนาจ ความมั่งคั่งและทรัพยากรที่สะสมมาชั่วอายุคน แน่นอนว่าShengding Mediaของโม่ถิงเซียวเปรียบเทียบไม่ได้
“เรื่องที่โม่ถิงเซียวไปเข้างาน หนูไม่ค่อยจะเข้าใจค่ะ”มู่นวลนวลหรี่ตามองต่ำ ท่าทางดูนอบน้อมถ่อมตัว
เป้าหมายที่โม่อันหลิงมาวันนี้ ประมาณว่าอยากให้เธอพูดโน้มน้าวใจโม่ถิงเซียวกลับมาโม่กรุ๊ปรับหน้าที่ดูแลธุรกิจของวงศ์ตระกูล
แต่ว่า ทำไมต้องจงใจให้เธอไปพูดโน้มน้าวใจล่ะ?
ในเมื่อมาหาเธอ ก็ยืนยันแล้วว่าตัวโม่ถิงเซียวเองไม่อยากจะกลับไปโม่กรุ๊ป
เป็นธรรมชาติที่เธอจะไม่รับปากอะไรง่ายๆต่อหน้าโม่อันหลิง
โม่อันหลิงได้ฟัง รอยยิ้มบนใบหน้าก็ลดลง หรี่ตามองไปที่มู่นวลนวล เจ้าสัวโม่ถึงแม้ว่าจะไม่โมโหแต่อำนาจบารมีก็ปรากฏออกมาให้เห็น
มู่นวลนวลรู้สึกได้ถึงแรงอำนาจที่บังคับที่แผ่กระจายออกมาจากบนตัวเขา ท่วมตัวรู้สึกขึงตึงขึ้นมา
แต่เธอก็ไม่ได้รับปากเขา
ทั้งสองคนก็เผชิญหน้ากันสักพัก ทันใดนั้น โม่อันหลิงก็หัวเราะออกมา“เจ้าหนุ่มขี้เหร่คนนั่นสายตาแหลมคมไม่เลวจริงๆ!”
มู่นวลนวลผ่อนคลายกำปั้นที่กำไว้แน่นลง ฝ่ามือชุ่มไปด้วยเหงื่อ
เธอไม่ได้แสดงออกเยือกเย็นเหมือนกับที่ดูภายนอก ในใจของเธอก็หวาดกลัว
โม่อันหลิงกับมู่เจิ้งซิวไม่เหมือนกันกัน เขาเคยเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ยิ่งใหญ่จริงๆ เป็นคนมีประสบการณ์ผ่านวิบากขวากหนามมาเยอะ ในช่วงวัยรุ่นเขาได้ประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจ ตอนนี้อายุมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะเกษียณไปแล้ว แต่พลังงานยังไม่ลดลง
นี่อาจจะ เป็นจุดพิเศษของคนในตระกูลโม่
พวกเขามีคนรอบข้างที่รู้สึกอิจฉาแต่สู้ไม่ได้กับความมั่นคั่งและฐานะ ความมั่นใจและพลังงานที่เป็นธรรมชาติก็แข็งแกร่งมากกว่าคนธรรมดา
นี้คือถูกแกะสลักไว้ในกระดูก คนรอบข้างไม่อาจจะเรียนรู้ได้
“งั้นฉันก็ต้องพูดตามตรง ฉันอยากให้โม่ถิงเซียวมารับหน้าที่ดูแลธุรกิจของวงศ์ตระกูล ครั้งที่แล้วที่พวกเธอกลับมาบ้านเก่า ฉันกับเขาพูดคุยกันเรื่องนี้ เพียงแต่เขาปฏิเสธ เธอช่วยฉันพูดโน้มน้าวใจเขา ก็ถือว่าปู่ขอร้องเธอแล้วกัน”
น้ำเสียงของโม่อันหลิงทันใดนั้นก็เปลี่ยนเป็นจริงใจ และยังมีความซื่อสัตย์ ครั้งนี้มู่นวลนวลไม่อาจปฏิเสธได้
“หนูสามารถช่วยท่านเอ่ยถึงสักหน่อย เพียงแต่คำพูดของท่านเขายังไม่ฟัง เกรงว่า…”
โม่อันหลิงยิ้มอย่างพอใจขึ้นมา หยุดคำพูดของเธอ“ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ในใจฉันรู้ดี”
หลังจากโม่อันหลิงรู้ว่ามู่นวลนวลจะสามารถเอ่ยถึงเรื่องนี้กับโม่ถิงเซียว ก็จากไปอย่างพอใจ
รีบมารีบไป บรรยากาศค่อนข้างรีบร้อน แต่ดูออกว่าช่วงวัยรุ่นเจ้าสัวก็พูดจาคำไหนคำนั้น นี้คือจุดที่โม่ถิงเซียวเหมือนกับเขา
เมื่อเดินไปส่งเจ้าสัวโม่แล้ว สายโทรศัพท์ของโม่ถิงเซียวก็โทรเข้ามาทันที
เมื่อได้รับสายโทรศัพท์ ก็ได้ยินโม่ถิงเซียวถามเธอ“ทานอาหารหรือยัง?”
“กำลังจะทาน”พูดคุยกับเจ้าสัวโม่เมื่อกี้นี้ ตอนนี้ก็ใกล้เวลาตอนเที่ยงแล้ว
โม่ถิงเซียวก็ถาม“คุณปู่กลับแล้ว?”
“คุณรู้ว่าท่านจะมา?”มู่นวลนวลหยิบตะเกียบที่กำลังจะทานอาหาร ได้ฟังก็วางลง
โม่ถิงเซียวหัวเราะเยาะ“ไม่อย่างนั้นท่านยังมีวิธีไหนอีก!”
น้ำเสียงนี้ กำเริบเสิบสานมาก
……
มู่นวลนวลไม่มีความอยากอาหารแล้ว กินไม่กี่คำก็วางตะเกียบลง คิดไว้ว่าจะทานตอนเที่ยงอีก
ผลลัพธ์คือ ถึงเวลาตอนเที่ยง เดิมทีโม่ถิงเซียวที่ควรจะอยู่บริษัทคาดไม่ถึงว่าจะกลับมา
“คุณไม่ใช่ต้องเข้างานเหรอ?”
“เข้างานจะสำคัญกว่าเธอได้ยังไง”โม่ถิงเซียวกระตุกยิ้มมุมปาก สายตามืดและเงียบ ดูเหมือนกับว่าเป็นคนชั่วร้าย“ตอนเช้าที่เธอพูดฉันยังจำได้”
“……”เหอะๆ
มู่นวลนวลไม่สนใจเขา มุ่งตรงไปที่ห้องอาหาร
ป้าหูคล้ายกับว่าจะรู้ว่าโม่ถิงเซียวกลับมาทานอาหารเที่ยง จัดเตรียมอาหารไว้ห้าอย่าง
“ก่อนหน้านี้นายท่านกลับมา ป้าก็ลืมบอกคุณหญิง ตอนเช้าก่อนที่คุณชายจะไป ก็พูดว่าจะกลับมาทานอาหารเที่ยง”ป้าหูเห็นว่ามู่นวลนวลมีสีหน้างงงวย ก็เข้ามาพูดอธิบาย
มู่นวลนวลเงยหน้าไปมองที่โม่ถิงเซียว
โม่ถิงเซียวนั่งลงตรงหน้าเธอ พลางพูด“ช่วงบ่ายไม่เข้าบริษัทแล้ว ช่วงเช้าจัดการเอกสารเสร็จหมดแล้ว”
“คุณเข้างานแบบนี้ กูจื่อหยานอาจจะไม่พอใจ?”
เอ่ยถึงกูจื่อหยาน มู่นวลนวลก็คิดไปถึงภาพแคปหน้าจอที่เซินเหลียงส่งมาให้เธอดู
โม่ถิงเซียวพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์“ไม่พอใจแล้วจะทำอะไรได้?”
ก็จริง กูจื่อหยานอยู่ต่อหน้าโม่ถิงเซียวก็หวาดกลัวมาก ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจก็ไม่กล้าพูด
มู่นวลนวลเม้มริมฝีปาก ไตร่ตรองนิดหน่อย“กูจื่อหยานเขา…เขาชอบผู้หญิงใช่ไหม?”
“ทำไม?”โม่ถิงเซียวเงยหน้ามองเธอ ขวมดคิ้วขึ้นถาม
“ในอินเตอร์เน็ตมีคนพูดถึงเขากับซือเฉิงยวี่…”มู่นวลนวลพูดมาถึงตรงนี้ก็หยุดลง คำพูดด้านหลังให้โม่ถิงเซียวคิดเอง
น่าเสียดายที่โม่ถิงเซียวเป็นผู้ชายตรงๆ เขาไม่เข้าใจคำพูดของมู่นวลนวล
“เขากับพี่ใหญ่ทำไม?”
มู่นวลนวลสำลักเล็กน้อย หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเข้าไปในอินเตอร์เน็ตหาจนพบคำวิจารณ์ห้วข้อประเด็นร้อนให้โม่ถิงเซียวดู
แต่ว่า ในเวลาที่เธอเปิดเวยป๋อ ก็พบว่ามีหัวข้อ#แฟนสาวลึกลับของซือเฉิงยวี่ ก็ขึ้นเป็นหัวข้อประเด็นร้อน
พอดีกับโม่ถิงเซียวกำลังคีบอาหารให้มู่นวลนวล พบว่าสีหน้าเธอผิดปกติ ก็ถาม“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ฉันกับพี่ใหญ่ ก็ถูกเป็นหัวข้อประเด็นร้อนที่ได้รับความนิยม”มู่นวลนวลขมวดคิ้วขึ้น นำโทรศัพท์เลื่อนไปตรงหน้าของโม่ถิงเซียว
โม่ถิงเซียวหยิบขึ้นมาดู หัวข้อด้านในคือ#แฟนสาวลึกลับของซือเฉิงยวี่# รูปภาพมู่นวลนวลกับซือเฉิงยวี่ที่สนามบินก็ถูกปล่อยออกมา