ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 186 ถึงเวลาก็ต้องวางมือ

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

“คุณปู่”

มู่นวลนวลลงไปชั้นล่าง เดินเข้าไปนั่งลงตรงหน้าของโม่อันหลิง

โม่อันหลิงมองเห็นมู่นวลนวล ก็ยิ้มออกมา“วันนี้ฉันตัดสินใจเข้ามาที่นี้ชั่วคราว ยังกังวลว่าในบ้านพวกเธอจะไม่มีคน”

มู่นวลนวลยิ้ม รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร

โม่อันหลิงถาม“ถิงเซียวล่ะ?”

ป้าหูนำชาหนึ่งแก้วมาให้มู่นวลนวล มู่นวลนวลกุมแก้วชาแล้วพูด“เขาไปทำงานที่บริษัทแล้วค่ะ”

โม่อันหลิงฉับพลันนั้นก็แสดงสีหน้าตระหนักขึ้นมา “ฉันแก่แล้ว ก็เลอะเลือนแล้ว ยังนึกว่าพวกเธอว่างเหมือนกับฉัน ก็เลอะเลือนแล้ว…”

“คุณปู่ยิ่งแก่ยิ่งแข็งแรง เลอะเลือนที่ไหนกัน”มู่นวลนวลยิ้มไปด้วย เดาไม่ออกว่าโม่อันหลิงมาหาเธอเป้าหมายจริงๆคืออะไร

“ปีนั้นฉันเกษียณเร็วไป ตอนนี้พ่อของโม่ถิงเซียวก็ห้าสิบกว่าปีแล้ว กำลังวังชาก็ไม่ได้เยอะเหมือนเมื่อก่อน ได้ยินว่าโม่ถิงเซียวเปิดบริษัทอะไรกับคนอื่น เธอรู้สิ…”

คำพูดของโม่อันหลิงมาถึงส่วนนี้ แน่นอนว่ามู่นวลนวลก็ฟังเข้าใจความหมายในคำพูดเขา

โม่ถิงเซียวก่อตั้งShengdingMedia ทำงานอยู่ShengdingMediaมาโดยตลอด ไม่ได้ไปสนใจธุรกิจวงศ์ตระกูลของโม่กรุ๊ปเลย

โม่อันหลิงเอ่ยมาถึงพละกำลังวังชาของพ่อโม่ถิงเซียวไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เห็นความหมายชัดเจนว่า ก็คืออยากให้โม่ถิงเซียวกลับไปทำงานที่โม่กรุ๊ป

โม่อันหลิงไม่ได้พูดให้เข้าใจ มู่นวลนวลก็พูดจาไม่ชัดเจน“รู้นิดหน่อย ไม่ค่อยจะเข้าใจค่ะ”

โม่อันหลิงยิ้ม พูดด้วยเสียงเบาๆ“ไม่ช้าก็เร็วโม่กรุ๊ปก็ต้องให้โม่ถิงเซียวมารับช่วงต่อ เรื่องเล็กๆกับบริษัทอะไรที่อยู่ด้านนอกพวกนั้น ถึงเวลาก็ต้องวางมือ เธอคิดว่าใช่ไหม?”

ShengdingMediaถือว่าเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมบันเทิงในประเทศไทย ถ้าจะให้โม่อันหลิงพูด เป็นแค่เพียงเรื่องเล็กๆ?

พูดแบบนี้ก็ไม่ได้เกินไป

ถึงอย่างไรโม่กรุ๊ปก็เป็นตระกูลเก่าแก่และร่ำรวยมีทั้งเงินและอำนาจ ความมั่งคั่งและทรัพยากรที่สะสมมาชั่วอายุคน แน่นอนว่าShengding Mediaของโม่ถิงเซียวเปรียบเทียบไม่ได้

“เรื่องที่โม่ถิงเซียวไปเข้างาน หนูไม่ค่อยจะเข้าใจค่ะ”มู่นวลนวลหรี่ตามองต่ำ ท่าทางดูนอบน้อมถ่อมตัว

เป้าหมายที่โม่อันหลิงมาวันนี้ ประมาณว่าอยากให้เธอพูดโน้มน้าวใจโม่ถิงเซียวกลับมาโม่กรุ๊ปรับหน้าที่ดูแลธุรกิจของวงศ์ตระกูล

แต่ว่า ทำไมต้องจงใจให้เธอไปพูดโน้มน้าวใจล่ะ?

ในเมื่อมาหาเธอ ก็ยืนยันแล้วว่าตัวโม่ถิงเซียวเองไม่อยากจะกลับไปโม่กรุ๊ป

เป็นธรรมชาติที่เธอจะไม่รับปากอะไรง่ายๆต่อหน้าโม่อันหลิง

โม่อันหลิงได้ฟัง รอยยิ้มบนใบหน้าก็ลดลง หรี่ตามองไปที่มู่นวลนวล เจ้าสัวโม่ถึงแม้ว่าจะไม่โมโหแต่อำนาจบารมีก็ปรากฏออกมาให้เห็น

มู่นวลนวลรู้สึกได้ถึงแรงอำนาจที่บังคับที่แผ่กระจายออกมาจากบนตัวเขา ท่วมตัวรู้สึกขึงตึงขึ้นมา

แต่เธอก็ไม่ได้รับปากเขา

ทั้งสองคนก็เผชิญหน้ากันสักพัก ทันใดนั้น โม่อันหลิงก็หัวเราะออกมา“เจ้าหนุ่มขี้เหร่คนนั่นสายตาแหลมคมไม่เลวจริงๆ!”

มู่นวลนวลผ่อนคลายกำปั้นที่กำไว้แน่นลง ฝ่ามือชุ่มไปด้วยเหงื่อ

เธอไม่ได้แสดงออกเยือกเย็นเหมือนกับที่ดูภายนอก ในใจของเธอก็หวาดกลัว

โม่อันหลิงกับมู่เจิ้งซิวไม่เหมือนกันกัน เขาเคยเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ยิ่งใหญ่จริงๆ เป็นคนมีประสบการณ์ผ่านวิบากขวากหนามมาเยอะ ในช่วงวัยรุ่นเขาได้ประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจ ตอนนี้อายุมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะเกษียณไปแล้ว แต่พลังงานยังไม่ลดลง

นี่อาจจะ เป็นจุดพิเศษของคนในตระกูลโม่

พวกเขามีคนรอบข้างที่รู้สึกอิจฉาแต่สู้ไม่ได้กับความมั่นคั่งและฐานะ ความมั่นใจและพลังงานที่เป็นธรรมชาติก็แข็งแกร่งมากกว่าคนธรรมดา

นี้คือถูกแกะสลักไว้ในกระดูก คนรอบข้างไม่อาจจะเรียนรู้ได้

“งั้นฉันก็ต้องพูดตามตรง ฉันอยากให้โม่ถิงเซียวมารับหน้าที่ดูแลธุรกิจของวงศ์ตระกูล ครั้งที่แล้วที่พวกเธอกลับมาบ้านเก่า ฉันกับเขาพูดคุยกันเรื่องนี้ เพียงแต่เขาปฏิเสธ เธอช่วยฉันพูดโน้มน้าวใจเขา ก็ถือว่าปู่ขอร้องเธอแล้วกัน”

น้ำเสียงของโม่อันหลิงทันใดนั้นก็เปลี่ยนเป็นจริงใจ และยังมีความซื่อสัตย์ ครั้งนี้มู่นวลนวลไม่อาจปฏิเสธได้

“หนูสามารถช่วยท่านเอ่ยถึงสักหน่อย เพียงแต่คำพูดของท่านเขายังไม่ฟัง เกรงว่า…”

โม่อันหลิงยิ้มอย่างพอใจขึ้นมา หยุดคำพูดของเธอ“ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ในใจฉันรู้ดี”

หลังจากโม่อันหลิงรู้ว่ามู่นวลนวลจะสามารถเอ่ยถึงเรื่องนี้กับโม่ถิงเซียว ก็จากไปอย่างพอใจ

รีบมารีบไป บรรยากาศค่อนข้างรีบร้อน แต่ดูออกว่าช่วงวัยรุ่นเจ้าสัวก็พูดจาคำไหนคำนั้น นี้คือจุดที่โม่ถิงเซียวเหมือนกับเขา

เมื่อเดินไปส่งเจ้าสัวโม่แล้ว สายโทรศัพท์ของโม่ถิงเซียวก็โทรเข้ามาทันที

เมื่อได้รับสายโทรศัพท์ ก็ได้ยินโม่ถิงเซียวถามเธอ“ทานอาหารหรือยัง?”

“กำลังจะทาน”พูดคุยกับเจ้าสัวโม่เมื่อกี้นี้ ตอนนี้ก็ใกล้เวลาตอนเที่ยงแล้ว

โม่ถิงเซียวก็ถาม“คุณปู่กลับแล้ว?”

“คุณรู้ว่าท่านจะมา?”มู่นวลนวลหยิบตะเกียบที่กำลังจะทานอาหาร ได้ฟังก็วางลง

โม่ถิงเซียวหัวเราะเยาะ“ไม่อย่างนั้นท่านยังมีวิธีไหนอีก!”

น้ำเสียงนี้ กำเริบเสิบสานมาก

……

มู่นวลนวลไม่มีความอยากอาหารแล้ว กินไม่กี่คำก็วางตะเกียบลง คิดไว้ว่าจะทานตอนเที่ยงอีก

ผลลัพธ์คือ ถึงเวลาตอนเที่ยง เดิมทีโม่ถิงเซียวที่ควรจะอยู่บริษัทคาดไม่ถึงว่าจะกลับมา

“คุณไม่ใช่ต้องเข้างานเหรอ?”

“เข้างานจะสำคัญกว่าเธอได้ยังไง”โม่ถิงเซียวกระตุกยิ้มมุมปาก สายตามืดและเงียบ ดูเหมือนกับว่าเป็นคนชั่วร้าย“ตอนเช้าที่เธอพูดฉันยังจำได้”

“……”เหอะๆ

มู่นวลนวลไม่สนใจเขา มุ่งตรงไปที่ห้องอาหาร

ป้าหูคล้ายกับว่าจะรู้ว่าโม่ถิงเซียวกลับมาทานอาหารเที่ยง จัดเตรียมอาหารไว้ห้าอย่าง

“ก่อนหน้านี้นายท่านกลับมา ป้าก็ลืมบอกคุณหญิง ตอนเช้าก่อนที่คุณชายจะไป ก็พูดว่าจะกลับมาทานอาหารเที่ยง”ป้าหูเห็นว่ามู่นวลนวลมีสีหน้างงงวย ก็เข้ามาพูดอธิบาย

มู่นวลนวลเงยหน้าไปมองที่โม่ถิงเซียว

โม่ถิงเซียวนั่งลงตรงหน้าเธอ พลางพูด“ช่วงบ่ายไม่เข้าบริษัทแล้ว ช่วงเช้าจัดการเอกสารเสร็จหมดแล้ว”

“คุณเข้างานแบบนี้ กูจื่อหยานอาจจะไม่พอใจ?”

เอ่ยถึงกูจื่อหยาน มู่นวลนวลก็คิดไปถึงภาพแคปหน้าจอที่เซินเหลียงส่งมาให้เธอดู

โม่ถิงเซียวพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์“ไม่พอใจแล้วจะทำอะไรได้?”

ก็จริง กูจื่อหยานอยู่ต่อหน้าโม่ถิงเซียวก็หวาดกลัวมาก ถึงแม้ว่าจะไม่พอใจก็ไม่กล้าพูด

มู่นวลนวลเม้มริมฝีปาก ไตร่ตรองนิดหน่อย“กูจื่อหยานเขา…เขาชอบผู้หญิงใช่ไหม?”

“ทำไม?”โม่ถิงเซียวเงยหน้ามองเธอ ขวมดคิ้วขึ้นถาม

“ในอินเตอร์เน็ตมีคนพูดถึงเขากับซือเฉิงยวี่…”มู่นวลนวลพูดมาถึงตรงนี้ก็หยุดลง คำพูดด้านหลังให้โม่ถิงเซียวคิดเอง

น่าเสียดายที่โม่ถิงเซียวเป็นผู้ชายตรงๆ เขาไม่เข้าใจคำพูดของมู่นวลนวล

“เขากับพี่ใหญ่ทำไม?”

มู่นวลนวลสำลักเล็กน้อย หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเข้าไปในอินเตอร์เน็ตหาจนพบคำวิจารณ์ห้วข้อประเด็นร้อนให้โม่ถิงเซียวดู

แต่ว่า ในเวลาที่เธอเปิดเวยป๋อ ก็พบว่ามีหัวข้อ#แฟนสาวลึกลับของซือเฉิงยวี่ ก็ขึ้นเป็นหัวข้อประเด็นร้อน

พอดีกับโม่ถิงเซียวกำลังคีบอาหารให้มู่นวลนวล พบว่าสีหน้าเธอผิดปกติ ก็ถาม“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“ฉันกับพี่ใหญ่ ก็ถูกเป็นหัวข้อประเด็นร้อนที่ได้รับความนิยม”มู่นวลนวลขมวดคิ้วขึ้น นำโทรศัพท์เลื่อนไปตรงหน้าของโม่ถิงเซียว

โม่ถิงเซียวหยิบขึ้นมาดู หัวข้อด้านในคือ#แฟนสาวลึกลับของซือเฉิงยวี่# รูปภาพมู่นวลนวลกับซือเฉิงยวี่ที่สนามบินก็ถูกปล่อยออกมา

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท