มู่นวลนวลได้ยิน หันหน้ามองไปที่โม่ถิงเซียว
ถึงแม้ว่าเธอไม่รู้ว่าเจ้าสัวโม่ไปพูดโน้มน้าวใจโม่ถิงเซียวเมื่อไหร่ อยากให้เขากลับโม่กรุ๊ป แต่คำพูดของกูจื่อหยานเธอฟังเข้าใจ
เธอมองโม่ถิงเซียวชั่วครู่หนึ่ง จึงค่อยๆเปิดปากพูด“ความจริงแล้วคุณคิดไว้แล้วว่าจะกลับโม่กรุ๊ป?เพียงแต่ไม่ได้ตอบรับคุณปู่ จงใจให้เขามาหาฉันให้พูดโน้มน้าวใจคุณ ใช่ไหม?”
ไม่รอให้โม่ถิงเซียวพูด เธอก็พูดต่อไป“ถ้าเป็นแบบนี้ คุณปู่ก็จะ…มองฉันด้วยสายตาที่ทึ่ง”
คำพูดไม่กี่คำด้านหลัง มู่นวลนวลหยุดชั่วคราวจึงจะพูดออกมา
โม่ถิงเซียวมองมู่นวลนวลด้วยความสนใจ“พูดต่อไป ยังมีอะไรอีก?”
“ทำไมคุณถึงรู้ว่าคุณปู่จะมาหาให้ฉันพูดโน้มน้าวใจคุณแน่นอน?”ในเวลาที่เธอกับโม่ถิงเซียวกลับไปบ้านเก่า ถึงแม้ว่าคุณปู่จะรู้สึกเฉยๆกับฉัน
ถึงอย่างไรเจ้าสัวโม่รุ่งโรจน์ชั่วชีวิต ได้พบคนมาหลายแบบ เธอเป็นแค่สาวน้อยคนหนึ่ง ถ้าหากไม่ใช่ตำแหน่งภรรยาของโม่ถิงเซียว เจ้าสัวโม่คงจะไม่ใช้สายตาสุภาพมองเธอ
ประโยคคำพูดของโม่ถิงเซียว ก็ยืนยันความคิดของโม่นวลนวล
“ท่านไม่มาหาเธอ หรือว่ายังอยากให้ลูกชายเขามาพูดโน้มน้าวใจฉัน?”โม่ถิงเซียวหรี่ตา น้ำเสียงเงียบสงบไม่เหมือนกับกำลังพูดถึงพ่อของเขา เพียงแค่พูดถึงคนที่ไม่เกี่ยวข้องคนหนึ่ง
พูดแบบนี้ ยืนยันแล้วว่าเหมือนกับเป็นแบบนี้จริงๆ
ความสัมพันธ์ของโม่ถิงเซียวกับโม่ชิงเฟิงทำไมตึงขนาดนั้น เจ้าสัวโม่ก็รู้เรื่องนี้ เปรียบเทียบกับมู่นวลนวลกลับจะใกล้ชิดมากกว่าโม่ชิงเฟิงนิดหน่อย
ความจริงเจ้าสัวโม่รู้ว่าจำปหาใคร จึงสามารถมาหาเธอ…
ถ้าคิดแบบนี้ ความรู้สึกในใจของมู่นวลนวลก็มีความล้ำลึกเล็กน้อย
เธอถอนหายใจแล้วถาม“เดิมทีเป็นแบบนี้…”
โม่ถิงเซียวเผลอยิ้มออกมา ยื่นมือออกไปลูบผมของเธอเบาๆ“ความจริงแล้วเดิมทีฉันก็ไม่ได้เต็มใจกลับโม่กรุ๊ป เพียงแต่เจ้าสัวจริงใจสำหรับเรื่องนี้ มาหาถึงในบ้านฉัน ฉันจำเป็นต้องรับปาก”
ความจริงใช้โอกาสนี้กลับไปโม่กรุ๊ป เหมาะสมและไม่เหมาะสม
เรื่องราวที่เขาตรวจสอบพอดีกับที่เค้าโครงของเรื่อง ถ้าหากตอนนี้กลับไปโม่กรุ๊ป เรื่องที่ต้องตรวจสอบเหล่านั้น ก็ต้องใช้เวลา และต้องเพิ่มความรอบคอบเล็กน้อย
อีกด้านหนึ่ง โม่กรุ๊ปเป็นธุรกิจวงศ์ตระกูล คนในตระกูลโม่ แทบจะทำงานอยู่ในโม่กรุ๊ปทุกคน
ปีนั้นเรื่องแม่ของเขาถ้าหากเกี่ยวข้องกับคนในตระกูลโม่ งั้นเขากลับไปโม่กรุ๊ปก็จะพลิกสถานการณ์ สามารถทำให้เขาสะดวกกับการตรวจสอบคนในตระกูลโม่
เรื่องนี้ในเวลานี้มู่นวลนวลคือคิดไม่ถึง
ถึงแม้ว่าเธอพูดว่าจะช่วยโม่ถิงเซียว แต่ว่าความจริงแล้วเธอไม่ค่อยจะเข้าใจเรื่องนี้
เวลาที่โม่ถิงเซียวพูด แขนก็วางพาดอยู่บนโซฟาด้านหลังของมู่นวลนวล ทั้งสองนั่งกันอย่างใกล้ชิด ไม่มีการกระทำที่สนิทสนม แต่บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนกลับกลมกลืนราวกลับว่าไม่มีใครเข้าไปได้…
กลายเป็นคนโสด กูจื่อหยานมองเห็นก็รู้สึกกวนใจ“พอได้แล้ว?พวกคุณไม่ต้องทำอะไรที่อิ่มเอิบไปด้วยอารมณ์รัก เห็นแล้วรำคาญ! พวกเรากลับมาคุยเรื่องที่เป็นหัวข้อประเด็นร้อนครั้งนี้กัน”
นับตั้งแต่ครั้งนั้นที่เซินเหลียงพูดสิ่งเหล่านั้น กูจื่อหยานก็ไม่ได้พบเธออีก
บางครั้งก็เจอกันในบริษัท เซินเหลียงก็ทำเหมือนไม่รู้จักเขา ออกไปอย่างรีบร้อน
กูจื่อหยานก็อยากเหมือนโม่ถิงเซียวที่ใช้อำนาจไม่มีเหตุผลนำเธอมัดกลับบ้าน
แต่สถานการณ์ของเขากับโม่ถิงเซียวไม่เหมือนกัน
วันนั้นน้ำเสียงพูดของเซินเหลียงแน่นอนเกินไป กูจื่อหยานเข้าใจเธอมากไป เพราะว่าเข้าใจ ดังนั้นในใจก็เลยกลัว
ยิ่งกลัว ก็ยิ่งต้องระวังมากมาย ก็ไม่กล้าที่จะบุ่มบ่าม
ความจริงเวลาที่อดไม่ไหว เขาก็จะไปหาเซินเหลียงเงียบๆ มองเธอจากไกลๆ ก็รู้สึกพอใจแล้ว
แต่ว่าความพอใจนี้ หลังจากที่มองไปที่โม่ถิงเซียวกับมู่นวลนวลที่กำลังหวานเลี่ยน ก็กลายเป็นกระสับกระส่ายไม่พอใจ
กูจื่อหยานส่ายศีรษะ ถอนความรู้สึกกลับมา“ฉันรู้สึกว่า ไม่ก็บริษัทที่เป็นศัตรูกับพวกเรา ฉันสงสัยว่าอาจจะเป็นเจ้านายเก่าของเซินเหลียง เมื่อก่อนพวกเขายังคิดจะขุดนักแสดงของพวกเรา”
เจ้านายเก่าของเซินเหลียงกับShengdingMediaแข่งขันกันมาโดยตลอด จนกระทั่งพวกเขาอยากจะลองขุดซือเฉิงยวี่ไป
เพียงแต่นี้คือความคิดเพ้อฝัน ไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์ของซือเฉิงยวี่กับโม่ถิงเซียว ทุกคนที่สนใจอนาคตการแสดงก็ต้องเลือกShengdingMedia
ถึงแม้ว่าเจ้านายเก่าของเซินเหลียง เป็นหนึ่งในบริษัทใหญ่แห่งในอุตสาหกรรมบันเทิง แต่กับShengdingMediaค่อนข้างแตกต่างกันมาก
กูจื่อหยานพูดจบ พบว่าโม่ถิงเซียวไม่ได้พูดจา ก็เงยคางขึ้นถามเขา“ถิงเซียว นายว่าไง?”
โม่ถิงเซียวสีหน้าไตร่ตรองชั่วครู่หนึ่ง จึงพูด“สามารถตรวจสอบในทิศทางนี้ ”
พูดจบ เขาก็เหมือนกำลังคิดอะไรขึ้นมาได้“ยังติดต่อพี่ใหญ่ไม่ได้?”
“ยังไม่ได้ ที่นั่นไม่มีผู้คน พวกเราไม่เห็นด้วยที่จะให้เขาไปตั้งแต่แรก แต่เขาอยากที่จะไปให้ได้ แม้แต่สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่มี ไม่สามารถกลับมาได้ชั่วคราว”
กูจื่อหยานพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็รู้สึกโมโหนิดหน่อย“ซุปเปอร์สตาร์ซือคนนี้ ปกติพูดจาเชื่อฟัง แต่ว่าพบกับสิ่งที่เขาอยากทำเป็นพิเศษ ก็ดื้อคล้ายกับวัว ดึงยังไงก็ดึงไม่กลับ”
โม่ถิงเซียวขมวดคิ้ว ไม่ได้พูดจา
ครู่ใหญ่ๆเขาจึงจะพูด“ติดต่อไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ส่งต่อให้แผนกประชาสัมพันธ์ก็ได้แล้ว ดีที่สุดคือแก้ไขให้ได้ภายในเวลาสิบสองชั่วโมง
“แต่ว่าถ้าหากว่าเขาสามารถออกมาล้างมลทิน ก็จะดีมาก”ถึงแม้ว่ากูจื่อหยานก็รู้สึกคำพูดของโม่ถิงเซียวถูก แต่ถ้าหากสามารถให้ซือเฉิงยวี่ออกมาล้างมลทิน เรื่องก็จะกลายเป็นง่ายขึ้น
“ไม่มีประโยชน์”สีหน้าของโม่ถิงเซียวก็มืดครึ้มลง“ตอนนี้ในอินเตอร์เน็ตไม่ได้มุ่งเป้าไปที่พี่ใหญ่ แต่มุ่งเป้าไปที่ShengdingMedia ถ้าหากว่าเวลานี้ให้พี่ใหญ่ออกมาล้างมลทิน จะทำให้พวกเขารู้สึกอย่างไม่สงสัย เป็นพวกเราShengdingMediaบีบบังคับพี่ใหญ่”
มู่นวลนวลได้ฟังก็ขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะทำอะไร ก็อุดปากคนพวกนั้นไม่ได้
กูจื่อหยานอดไม่ได้ระเบิดคำพูดออกมา“艹!งั้นจะสามารถทำอะไรได้?”
“เรื่องเกิดขึ้นมาถึงตอนนี้ ก็สามชั่วโมงแล้ว ในอินเตอร์เน็ตก็ยังคงส่งต่อและแพร่กระจายเพิ่มขึ้น เชื่อว่าไม่กี่ชั่วโมงนี้ ก็จะสามารถมีชาวเน็ตเริ่มจะขุดประวัติที่ไม่ดีของShengdingMedia ไม่ว่าข้อมูลนั้นจะจริงหรือปลอม พวกเขาก็ไม่สนใจ และสุดท้ายShengdingMediaก็เสียหาย”
โม่ถิงเซียววิเคราะห์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย สีหน้าดูสงบและไม่ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย
ช่วงนี้กูจื่อหยานมีแรงกดดันเยอะมาก ได้ยินคำพูดนี้ของเขา ทั่วทั้งตัวก็เหน็บชาลงไป“เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้พัวพันถึงซุปเปอร์สตาร์ซือกับมู่นวลนวล ก็เลยยุ่งยากเล็กน้อย…”
“แผนกประชาสัมพันธ์ควรจะทำอะไรก็ทำ ฉันกลับก่อน”โม่ถิงเซียวพูดจบ ก็ดึงมู่นวลนวลตรงออกไปด้านนอก
น้ำเสียงร้องโหยหวนของกูจื่อหยานดังขึ้นมาจากด้านหลัง“โธ่ คุณชายโม่นายไม่สนใจเรื่องนี้เหรอ!ฉันคนเดียวก็ยุ่งจนไม่ไหวแล้ว!”
มู่นวลนวลรู้สึกว่าน้ำเสียงของกูจื่อหยานอ้างว้างเกินไปแล้ว มู่นวลนวลอดไม่ได้ที่สั่นเทาขึ้นมา“นายจะไม่สนใจจริงๆเหรอ?”