มู่นวลนวลทำปากยื่น “คุณอยากให้ฉันมาทำงานที่ Shengding Media ก็พูดมาตรงๆ สิ อ้อมโลกมาสะขนาดนี้ เหนื่อยบ้างไหม”
ช่างเป็นเหตุการณ์ที่หาพบได้ยาก ที่โม่ถิงเซียวจะถูกมู่นวลนวลตอกกลับเช่นนี้ เขาจึงกำมือหลวมๆ ที่บริเวณริมฝีปากแล้วกระแอมไอเบาๆ หนึ่งที “ฉันแค่สอบถามความเห็นเธอเฉยๆ ”
มู่นวลนวลตอบกลับอย่างตรงๆ “โอเค”
“……..” โม่ถิงเซียวเห็นเธอตอบกลับมาอย่างทื่อๆ ตรงไปตรงมา ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดีไปครู่หนึ่ง
มู่นวลนวลเอ่ยถามสอบสวนเขา “คุณทำแบบนี้เพราะฉันเคยปฏิเสธคุณไป คุณถึงได้…….”
“พรุ่งนี้ก็มารายงานตัวเพื่อทำเรื่องเข้าทำงานด้วย” มีหรือที่โม่ถิงเซียวจะให้โอกาสเธอถามเพิ่มมากขึ้น เมื่อพูดจบก็โทรศัพท์หากูจื่อหยาน
มุมปากมู่นวลนวลยกขึ้น ดูสิ เผยธาตุแท้ออกมาแล้ว
ตอนที่ทั้งสองคนกลับบ้านด้วยกัน จู่ๆ มู่นวลนวลก็ถามเขาขึ้นมาว่า “นี่ถือว่าคุณได้ใช้เส้นหรือไม่ใช้เส้นฝากงานให้ฉัน”
“ใช้เส้นงั้นหรอ” โม่ถิงเซียวเลิกคิ้วขึ้นแล้วเอ่ย “ไม่ใช่”
มู่นวลนวลคิดว่านี่ก็คือการใช้เส้นแล้ว ถ้าโม่ถิงเซียวไม่ได้เอ่ยปาก และมู่นวลนวลอยากที่จะเข้าทำงานที่ Shengding Media ก็อาจจะต้องบุกบ่าฝ่าฟันไม่น้อยเลยทีเดียว
ผ่านไปสักพัก เสียงของโม่ถิงเซียวก็ดังขึ้นมาว่า “หาทีมให้เธออยู่ ให้เขียนบทละคร ภายในหนึ่งปีก็ทำให้เธอโด่งดังในวงการบันเทิงได้ กลายมาเป็นยอดนักเขียนบทละครมือทอง นี่สิถึงจะเรียกว่าใช้เส้น”
มู่นวลนวลถามอยากประหลาดใจว่า “แสดงว่าตอนแรกคุณก็คิดจะใช้เส้นสายทำให้ฉันแบบนั้นงั้นเหรอ”
“เพียงแค่เธอต้องการ จะทำให้เมื่อไหร่ก็ได้” โม่ถิงเซียวหันไปมองเธอ สายตาของเขาเอาจริง
Shengding เป็นเจ้าพ่อในอุตสาหกรรมวงการบันเทิง โม่ถิงเซียวเป็นผู้อำนวยการสูงสุดที่ชักใยอยู่เบื้องหลังของ Shengding เขามีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับเรื่องในวงการบันเทิง
สิ่งที่เรียกว่า ดังในชั่วข้ามคืน ทั้งหมดเป็นเพราะการบริหารจัดการของทีมทั้งนั้น
ในบริษัทแล้ว จะมีบรรดานักแสดงหญิงที่เล่นบทสาวก๋ากั่นที่ดังขึ้นมาช่วงไม่กี่ปีนี้ ทั้งหมดก็เป็นเพราะพึ่งทีมบริหารจัดการให้ดันขึ้นไปทั้งนั้น
มีเพียงซือเฉิงยวี่ ที่เดินไปทีละก้าวๆ กับ Shengding เขาย่างเท้าขึ้นไปทีละข้าง ค่อยๆ ปีนขึ้นไปข้างบน
เมื่อวานมู่นวลนวลก็ได้รู้จักกับความกว้างขวางที่เขามีด้วยตัวเธอเองแล้ว เลยไม่สงสัยแม้แต่น้อยว่า โม่ถิงเซียวจะต้องทำให้เธอกลายเป็นนักเขียนบทละครมือทองในวงการโดยใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งปีแน่นอน
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ
อุดมคติคือสิ่งที่มีค่ามาก จำเป็นที่จะต้องปกป้อง และปฏิบัติด้วยอย่างระมัดระวัง เธอไม่อยากจะประสบความสำเร็จให้ตัวเองโดดเด่นเหนือผู้อื่นด้วยการย่ำเท้าเพียงครั้งเดียว
สิ่งที่เธอต้องการ คือความหมายอันจริงแท้ของการที่อุดมคติของเธอเป็นจริง
ชีวิตคนเรานั้นยังอีกไกล เธอยังถือว่าเด็กอยู่ เพียงแค่พยายามไม่มีอะไรที่จะเป็นไปไม่ได้ เธอเชื่อมั่นในตัวเอง
มู่นวลนวลไม่รู้เลยว่าโม่ถิงเซียวจะคิดลึกขนาดนี้ แม้ว่าเธอจะไม่ต้องการ แต่ก็รู้สึกซาบซึ้งใจอยู่
โม่ถิงเซียวเป็นนักธุรกิจ เห็นลมมรสุมในวงการบันเทิงจนเคยชินแล้ว นับว่าเป็นเรื่องปกติที่จะคิดวิธีแบบนี้เพื่อเธอ
มู่นวลนวลถามเขา “คุณคิดว่าถ้าฉันไม่ใช้ทางลัด จะสามารถเป็นนักเขียนบทละครมือฉมังได้ไหม”
แม้ว่าเธอจะมั่นใจในตัวเอง แต่ก็อยากได้รับคำยืนยันจากโม่ถิงเซียว
โม่ถิงเซียวจ้องตาเธอ “ผู้หญิงของโม่ถิงเซียว แต่ไหนแต่ไรก็สุดยอดอยู่แล้ว”
มู่นวลนวลได้ยินคำว่า “สุดยอด” คำนี้ ก็รู้สึกว่าทั้งหมดที่ผ่านมาพังทลายลง
โม่ถิงเซียวถูกเธอถลึงตาใส่ มุมปากทั้งสองข้างของเขายกขึ้นจนกลายเป็นยิ้มขึ้นมา
ผู้หญิงของเขาไม่มีทางล้มเหลว ถ้าสมมุติว่ามู่นวลนวลปีนไปไม่ไหวจริงๆ ไม่ใช่ว่ายังมีเขาอยู่งั้นหรือ
ความปรารถนานั้นของเธอ เพียงแค่เขาขยับมือช่วยเธออย่างมั่วๆ ก็สามารถทำให้มันเป็นจริงได้แล้ว จะทำให้เธอล้มเหลวได้อย่างไรกันล่ะ
…….
เช้าวันรุ่งขึ้น
มู่นวลนวลต้องไปรายงานตัวที่ Shengding
แต่ตอนที่จะออกมาเมื่อเช้านี้ เนื่องจากเธอไม่อยากให้เกิดเรื่องกระทบกระทั่งกับใครเขา จึงไม่อยากนั่งรถไปกับโม่ถิงเซียว
มู่นวลนวลพูดอยากหนักแน่น “ฉันนั่งรถเมล์ไปเองได้”
สถานภาพผู้อำนวยการ Shengding Media ของโม่ถิงเซียว ตอนนี้คนที่รู้เรื่องนี้มีอยู่ไม่เยอะ ตอนที่เขาเข้าออก Shengding ก็ทำแบบลับๆ ล่อๆ ถ้าจะพาเธอไปด้วยอีกคน ก็จะเป็นการเสี่ยงมากเกินไป
โม่ถิงเซียวทำหน้าขรึมขึ้น เสนออย่างยอมเธอขึ้นมาว่า “งั้นฉันให้คนขับรถไปส่ง”
“ไม่ได้” มู่นวลนวลส่ายหน้า เธอเป็นเพียงผู้ช่วยผู้เขียนบทฝึกหัด จะไปมีคนขับรถไปส่งที่ทำงานได้อย่างไรกันล่ะ!
สีหน้าของโม่ถิงเซียวก็เย็นเยียบลงอีกหลายระดับ เรียกชื่อเธอด้วยเสียงเข้ม “มู่นวลนวล”
ช่วงนี้ความสัมพันธ์ระหว่างมู่นวลนวลกับโม่ถิงเซียวปรองดองกันดีมาก เธอเข้าใจโม่ถิงเซียวมากขึ้นอีกไประดับหนึ่ง โดยเฉพาะการรับมือกับอารมณ์โกรธอันฉับพลันของโม่ถิงเซียว ระดับความสามารถในการรับมือสถานการณ์ที่เปลี่ยนโดยฉับพลันของเธอนั้น ก้าวกระโดดเป็นอย่างมาก
เธอก้าวเท้าสองก้าวไปยืนอยู่หน้าโม่ถิงเซียว เขย่งเท้าขึ้นไปจูบเขาหนึ่งที แล้วจึงลูบหัวเขา “ฉันเข้าบริษัทไปเป็นเพียงผู้ช่วยฝึกหัด ถ้าคนอื่นเห็นว่ามีรถหรูมาคอยรับส่งฉัน ไม่รู้จะเอาฉันไปพูดกันว่าอย่างไรบ้าง จริงๆ นะ ฉันขึ้นรถเมล์ไปก็โอเคแล้ว……..”
เมื่อสักครู่โม่ถิงเซียงที่ดูเหมือนกับสิงโตตัวหนึ่งที่น่าเกรงขามและพร้อมจะระเบิดความโกรธออกมาเสมอ แต่เมื่อเจอการกระทำที่มาอย่างต่อเนื่องมู่นวลนวล ก็ทำให้ขนของสิงโตที่ชันตั้งขึ้นเมื่อครู่ ลู่ลงเป็นระเบียบ ลมหายใจเขากลับมาสงบลงเป็นปกติ
“งั้นฉันไปส่งที่ป้ายรถเมล์”
“โอเค”
โม่ถิงเซียวไปส่งเธอที่ป้ายรถประจำทาง มองเธอขึ้นรถเมล์ไป แล้วจึงค่อยให้ซือเย่ออกรถไป Shengding Media
มู่นวลนวลเห็นว่าโม่ถิงเซียวจากไปแล้ว ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เพียงแต่ ตอนที่รถเมล์ขับผ่านไฟแดง มู่นวลนวลหันไปมองทางด้านหลังอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก็เห็นรถเมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่นจำนวนจำกัดสุดหรูของโม่ถิงเซียวตามหลังรถเมล์มา
มู่นวลนวล “…….”
เธอรู้สึกว่าบางครั้งโม่ถิงเซียวคนคนนี้ ก็ทำเรื่องที่ดูเป็นเด็กไม่รู้จักโต
เธอถอนสายตากลับมา หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาโม่ถิงเซียว
โม่ถิงเซียวรับโทรศัพท์ของเธอเร็วมาก “มีอะไร”
“คุณทำอะไรน่ะ ขับตามรถเมล์มาทำไม! ” มู่นวลนวลเอามือหนึ่งป้องโทรศัพท์ แล้วกดเสียงลงต่ำถามเขา
โม่ถิงเซียวหยุดนิ่งไปสักพัก หลังจากนั้นก็ใช้น้ำเสียงที่จริงจังพูดขึ้นว่า “เพราะว่ารถเมล์อยู่ข้างหน้า ฉันก็ทำได้เพียงแค่ขับตามหลัง”
“คุณ……..” มู่นวลนวลโมโหจนกดวางสายโทรศัพท์ไป
พรุ่งนี้เธอจะไม่นั่งรถเมล์แล้ว จะนั่งรถไฟใต้ดินแทน แล้วดูสิว่าเขาจะตามมาได้อย่างไร
………
เมื่อถึงบริษัท ก็มีคนพาเธอไปจัดการดำเนินเรื่องเข้าทำงาน
สองปีมานี้ ตลาดภาพยนตร์เติบโตเป็นอย่างมาก ความต้องการต่อบทละครจึงเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
อีกทั้งนักเขียนบทดีๆ ก็มักจะเป็นสิ่งที่ตลาดกระหายอยากได้เป็นอย่างมาก นอกจากบริษัทภาพยนตร์ใหญ่ๆ บางแห่ง การที่บริษัทขนาดเล็กจะหานักเขียนบทละครระดับยอดฝีมือมาร่วมเซ็นสัญญาได้นั้น นับว่าค่อนข้างยากมาก
ทั้งนี้สินทรัพย์ของ Shengding Media มีอยู่สูงมาก ด้วยเหตุดังกล่าวจึงถือว่าเป็นต่ออย่างมาก ทว่าก็ยังคงขาดทรัพยากรด้านบุคคลอยู่ดี
เมื่อครั้งที่มู่นวลนวลยังศึกษาเล่าเรียนอยู่ก็เคยเขียนบทละครดู ก็ถือว่ามีประสบการณ์อยู่แล้วบ้าง แต่เมื่อเข้ามาทำงานที่บริษัท ก็ยังต้องเรียนใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้น
Shengding มีนักเขียนบทภาพยนตร์ไม่พอ แม้ว่ามู่นวลนวลจะเริ่มมาทำงานเป็นวันแรก แต่ก็ได้รับหน้าที่ให้มาจัดการอยู่ไม่น้อย
ตอนเที่ยง โม่ถิงเซียวนัดเธอกินข้าว ทันทีที่เธอเข้ามาในห้องทำงานของเขา ก็เดินไปล้มตัวที่โซฟาทันที
“เหนื่อยขนาดนี้เลยหรอ” โม่ถิงเซียวรินน้ำให้เธอแก้วหนึ่ง
มู่นวลนวลรับน้ำมา แล้วดื่มเข้าไปรวดเดียวหมด
“แผนกเขียนบทละครภาพยนตร์ของบริษัทคุณมีพนักงานน้อยไปแล้วนะ เดิมทีงานมันก็ล้นจนเยอะเกินไปด้วยซ้ำ” ด้วยเหตุนี้เธอจึงยุ่งเสียขนาดนี้ ไม่ใช่เนื่องด้วยเหตุที่ว่าเป็นการรับน้องใหม่ แต่คือยุ่งจริงๆ !
โม่ถิงเซียวส่งเสียงครุ่นคิดในลำคอครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดขึ้นมาว่า “เพราะว่ายุ่งจนทำให้เหนื่อยเกินไป คนส่วนใหญ่ก็เลยรับไม่ไหว พาลาออกกันหมด”
มู่นวลนวล “………งั้นเพิ่มเงินเดือนไหม”
เขามองมู่นวลนวลหนึ่งที “ทั้งวงการบันเทิง ไม่มีบริษัทไหนที่จะให้เงินเดือนฝ่ายเขียนบทละคร สูงไปกว่า Shengding แล้ว”