โม่ถิงเซียวกำลังคีบอาหารแล้วสีหน้าของเข้าก็เปลี่ยน
เขาวางตะเกียบลง และกำลังจะจับโทรศัพท์ แต่มู่นวลนวลหยุดเขาเสียก่อน
“คุณทานก่อนเถอะ เรื่องนี้กูจื่อหยานน่าจัดการแล้ว” อันที่จริงมู่นวลนวลก็ยังไม่แน่ใจว่าจัดการแล้วหรือยัง
ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าโม่ถิงเซียวสั่งให้กูจื่อหยานทำแล้ว ในใจเธอเชื่อว่าโม่ถิงเซียวจะต้องจัดการเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีก และทำอาหารรอโม่ถิงเซียวกลับมา
แต่โม่ถิงเซียวก็ดึงโทรศัพท์ไป แล้วโทรหากูจื่อหยาน
กูจื่อหยานยุ่งทั้งวันและเพิ่งหลับไป เสียงโทรศัพท์ดังทำให้เขาตื่น เขารับสายแล้วพูดเสียงดังโดยไม่ได้ดูว่าใครโทรมา:“ใครโทรมาดึกๆดื่นๆ”
“ฉัน” โม่ถิงเซียวพูดง่ายๆคำเดียว กูจื่อหยานที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ก็ได้สติ
กูจื่อหยานเงียบไปชั่วขณะ และน้ำเสียงของเขาก็เบาลง:“คุณชาย นายไม่ได้ดูหรอว่าตอนนี้มันกี่โมงแล้ว ถึงได้โทรมาหาฉัน ถ้านายมีเวลาว่างมาก ก็ไปตรวจสอบหัวข้อประเด็นร้อนของซุปตาร์ซือเถอะ นวลนวลก็ถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หลายวันมานี้ฉันยุ่งอยู่กับเรื่องนี้จนไม่มีเวลากลับมานอนหลับสบายๆที่บ้านเลย”
กูจื่อหยานกับโม่ถิงเซียวสนิทสนมกันมาก พูดถึงเรื่องนี้แล้วก็จะเป็นการชักแม่น้ำทั้งห้า
“แล้วก็ไม่รู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ต้องการที่จะทำอะไรกันแน่ แต่แน่นอนว่าเขาต้องรู้ความสัมพันธ์ของนวลนวลกับนาย ไม่อย่างนั้นคงไม่เป็นเหมือนลูกอมที่เหนียวหนึบอย่างนี้ ทุกครั้งก็จะเอานวลนวลไปติดไว้บนหัวข้อประเด็นร้อนนั้น ทำให้พวกเราต้องวิตกกังวลจนไม่กล้าทำอะไร……”
มู่นวลนวลสังเกตเห็นสีหน้าที่เคร่งขรึมของโม่ถิงเซียว จากนั้นกูจื่อหยานพูดอะไร เธอก็ไม่แน่ใจ
หลังจากนั้นก็วางสาย ทั้งสองคนก็นั่งเงียบและไม่พูดกันอยู่นาน
“วันนี้ฉันเห็นพี่ใหญ่ที่บริษัท” มู่นวลนวลพูดทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน
เมื่อโม่ถิงเซียวได้ยินอย่างนั้นแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองเธอ เขาหน้านิ่วคิ้วขมวด
“วางใจได้ ฉันไม่ได้พูดอะไร” มู่นวลนวลยิ้มและพูดว่า:“แต่เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องหัวข้อประเด็นร้อนเลย”
โม่ถิงเซียวลุกขึ้นยืน:“ฉันอิ่มแล้ว”
มู่นวลนวลลุกขึ้นยืนตาม และพูดเสียงดัง:“โม่ถิงเซียว คุณอย่าหลอกตัวเองอีกเลย คุณก็สืบรู้แล้วว่าเป็นพี่ใหญ่ แต่เพราะคุณยังไม่อยากจะเชื่อ เลยมาโกหกฉันว่ายังสืบอะไรไม่ได้”
คำพูดนี้มู่นวลนวลเก็บไว้ในใจมานานมากแล้ว
โม่ถิงเซียวหันหลังกลับมามองมู่นวลนวล
ครั้งนี้เขาไม่ได้ปฏิเสธแล้วก็ไม่ได้ยอมรับ เพียงแค่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“ฉันจัดการได้”
ในแววตาของเขาไม่มีความอบอุ่น เยือกเย็นมาก
มู่นวลนวลตัวสั่น อ้าปากแต่ก็ไม่พูดอะไรออกไป
เขาสายตาเย็นชาขนาดนั้น ทำให้มู่นวลนวลรู้สึกว่าโมถิงเซียวกลายเป็นคนที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน ทั้งเย็นชาและเหินห่าง
มู่นวลนวลตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น
บางทีเธออาจไม่เคยได้เข้าไปในหัวใจของเขาเลย
เขามีเรื่องอะไรในใจก็ไม่ยอมบอกเธอ เธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา แต่ที่โม่ถิงเซียวเย็นชาอย่างนี้ เหมือนเป็นการต่อว่าว่าเธอว่ายุ่งมากเกินไป……
คืนนี้ทั้งสองคนนอนหันหลังให้กัน โดยไม่กอดกันและไม่มีการสื่อสารใดๆ
……
ที่บริษัทยังมีเรื่องอีกมาก และมู่นวลนวลยังคงยุ่งอยู่กับงาน
เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ มู่นวลนวลจึงใช้เวลาช่วงพักกลางวันไปชงกาแฟที่ห้องชงกาแฟ
จนกระทั่งน้ำในแก้วล้นออกมา มู่นวลนวลถึงได้สติกลับมา
หลังจากดื่มกาแฟ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมจะเข้าไปดูเวยป๋อ
วันนี้เป็นวันศุกร์ บล็อกเกอร์ที่บอกว่าจะเปิดเผยตัวตนของมู่นวลนวลยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เมื่อคืนกูจื่อหยานน่าจะจัดการเรียบร้อยแล้ว
เธอคลิกที่ไอคอนเวยป๋อ จากนั้นเวยป๋อก็เปิดขึ้น เธอยังไม่ทันได้ดูอะไร ก็มีคนโทรเข้ามา
เป็นกูจื่อหยานที่โทรเข้ามา
ทำไมกูจื่อหยานถึงโทรหาเธอ?
หรือว่าหาโม่ถิงเซียวไม่เจอ เลยโทรมาหาฉัน?
มู่นวลนวลรับสาย และยังไม่ทันได้พูด ก็ได้ยินเสียงร้อนใจของกูจื่อหยานดังมาจากในโทรศัพท์:“นวลนวล คุณอยู่ที่ไหน?”
“ฉันอยู่ที่ห้องชงกาแฟ มีเรื่องอะไรหรอ?” มู่นวลนวลได้ยินเสียงที่ร้อนใจของกูจื่อหยาน และคิดว่าเกิดเรื่องขึ้นกับเซินเหลียง ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง
แล้วกูจื่อหยานก็พูดว่า:“คุณอย่าไปไหนนะ ฉันจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องวางสายนะ”
ทำไมฟังจากน้ำเสียงของกูจื่อหยานแล้วเหมือนว่าจะเป็นเรื่องของเธอ?
มู่นวลนวลจึงลองถามดู:“เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า?”
เธอคิดว่าที่กูจื่อหยานโทรหาเธอไม่ใช่เพราะหาโม่ถิงเซียวไม่เจอ แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเซินเหลียง และเขาบอกว่าไม่ให้ไปไหน เขาจะมาหาเธอ
“คุณอย่าเพิ่งถาม ฉันกำลังไปแล้ว”
กูจื่อหยานเสียงหอบเหมือนกำลังวิ่ง
เมื่อเร็วๆนี้มู่นวลนวลตกเป็นหัวข้อประเด็นร้อน ก็วุ่นวายพออยู่แล้ว
เธอคิดว่าต้องมีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้นแน่ๆ กูจื่อหยานถึงได้มีท่าทีอย่างนี้
เธอไม่ได้วางสาย แต่ออกจากการโทรแล้วเปิดเวยป๋อ
เมื่อเธอเห็นรูปของเธอเยอะแยะมากมายบนเวยป๋อ เธอก็ตกตะลึงอึ้งไป ในหัวของเธอว่างเปล่า และเธอก็เหมอลอยอยู่นาน
รูปเดี่ยวของเธอ
รูปที่เธอกับโม่ถิงเซียวใกล้ชิดสนิทสนมกัน
รูปที่เธอทานข้าวด้วยกันกับซือเฉิงยวี่
รูปที่เธอเข้าออก Shengding Media
ยังมีรูปเมื่อก่อนตอนที่เธอขี้เหร่
และยังมี……รูปทะเบียนสมรส
รูปทะเบียนสมรสนั้นชัดเจนมาก หลังจากที่เธอดูหลายรอบแล้ว ก็ยืนยันได้ว่าชื่อทั้งสองชื่อด้านบนคือ:โม่ถิงเซียวกับมู่หวันฉี
ปัง!
โทรศัพท์ที่อยู่ในมือเธอเหมือนจะกลายเป็นหนักมาก ทันใดนั้นก็ร่วงจากมือเธอ และหล่นลงไปที่พื้น
แล้วก็มีคนผลักประตูห้องชงกาแฟเข้ามา
เหมือนมู่นวลนวลจะไม่ได้ยินเสียงคนผลักประตูเข้ามา เธอยังคงอยู่ในท่าทีโทรศัพท์หล่นจากมืออย่างเหม่อลอย และไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
เมื่อกูจื่อหยานเห็นมู่นวลนวลเหม่อลอยอย่างนั้น เขาก็แอบเรียกอยู่ในใจ
เขาเดินเข้าไปสองสามก้าว ก็เห็นโทรศัพท์อยู่ที่พื้น
โทรศัพท์ที่ตกอยู่ที่พื้นไม่ได้แตก หน้าจอยังคงสว่าง และเห็นรูปทะเบียนสมรสได้อย่างชัดเจน
กูจื่อหยานหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาแล้วปิดหน้าจอ และดึงแขนเธอออกไปข้างนอก
“พวกเราออกไปก่อนแล้วค่อยคุยกัน”
มู่นวลนวลเหมือนหุ่นเชิดที่ไร้สติที่ถูกกูจื่อหยานดึงออกไปข้างนอก
ข้างนอกประตูมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ และพาพวกเขาออกไป พนักงานของ Shengding Media ที่อยู่ด้านหลังต่างก็ชี้ไปที่มู่นวลนวล
แม้ว่าพวกเขาจะด่าว่าเธอเสียงดัง แต่ก็ไม่ได้ปาไข่ใส่เธอ แต่มู่นวลนวลรู้สึกเหมือนว่าถูกเปลื้องผ้าต่อหน้าสาธารณชน
หลายหัวข้อประเด็นร้อนบนเวยป๋อล้วนแต่เกี่ยวข้องกับเธอ
และหัวข้อที่ขึ้นเป็นลำดับแรกเลยคือ:#มือที่สามที่ไร้ยางอายที่สุด#
ตั้งแต่แรกเริ่มเธอถูกบังคับให้แต่งงานเข้าตระกูลโม่ จนถึงวันนี้เธอก็ถูกบังคับให้กลายเป็น “มือที่สาม” เธอไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร
เธอมีแม่ที่ไม่รักเธอ เธอตัดสินใจที่จะรักสามีอย่างถูกหลักทำนองคลองธรรม แต่ทำไมถึงกลายเป็นอย่างนี้?