ก่อนหน้านี้ที่โม่ถิงเซียวให้เธอพูดอีกครั้งก็คงจะเป็นประโยคนั้นสินะ
——ฉันต้องรักเขาสิถึงจะถูก
เธอพูดคำนั้นออกมาได้ยังไง!
เธอพูดคำแบบนั้นออกมาต่อหน้าโม่ถิงเซียวได้ยังไง!
มู่นวลนวลยังคงโกรธ เธอปัดมือของโม่ถิงเซียวเเละเดินไปข้างหน้า
โม่ถิงเซียวตามเธอไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มเเย้ม หลังจากนั้นเขาก็รั้งมือของเธอไว้: ” เดินช้าๆหน่อย ”
” ฉันชอบเดินเร็ว ” มู่นวลนวลอยากปัดมือเขาออก เเต่ไม่สำเร็จ เธอจึงทำได้เพียงถูกเขาจูงมือไว้
เเละทั้งสองคนก็เจอเซินเหลียงที่มุมทางเดิน
พอเซินเหลียงเห็นมู่นวลนวลเธอก็ไม่รู้ไปโมโหมาจากไหน: ” มู่นวลนวล! ตอนนี้เธอไม่ใช่ตัวคนเดียวเเล้วนะ เธอทำให้ฉันสบายใจหน่อยไม่ได้หรือไง? ไปห้องน้ำตั้งนานเเถมยังไม่กลับมาก็ทีนึงเเล้ว นี่โทรไปยังไม่รับสายอีก เธอเป็นแบบนี้ทำให้…… ”
ตอนเธอเห็นโม่ถิงเซียว เธอก็กลืนคำพูดประโยคหลังลงไปทันที
เซินเหลียงขมวดคิ้ว หลังจากนั้นก็กระเเอมไอออกมาเบาๆ เธอบีบเสียงให้เล็กลงเเละกลายเป็นเด็กสาวที่นุ่มนวลทันที: ” อะเเฮ่ม……ครั้งหน้าเธอก็อย่าทำแบบนี้อีกก็เเล้วกัน ”
มู่นวลนวลตัวสั่นเเละขนลุก: ” ตอนนี้ฉันไม่ใช่ตัวคนเดียว หรือว่ามีผี? ”
เซินเหลียงยิ้มอย่างไม่เป็นธรรมชาติ: ” ตอนนี้เธอมีสองชีวิต ”
เธอก็รู้สึกเหนื่อยใจเหมือนกัน เธอเเค่นัดมู่นวลนวลทานอาหาร ผลสุดท้ายคือเกิดเรื่องติดต่อกัน จริงๆเลย……เห้อ
ทั้งสามคนกลับไปที่ห้องรับรองพิเศษเเละในที่สุดก็ได้ทานอาหารกันสักที
ในห้องรับรอง เซินเหลียงถามมู่นวลนวล: ” เธอไปทำอะไรมา ทำไมอยู่ๆไปเข้าห้องน้ำเเล้วหายไปเลยล่ะ? ”
” เจอกับโม่ถิงเซียวพอดีน่ะ มีผู้ใหญ่ของตระกูลโม่ทานอาหารอยู่ที่นี่ ฉันจึงเข้าไปพบสักครู่ ” มู่นวลนวลก้มหน้าลง เธอโกหกเก่งเป็นพิเศษ
โม่ถิงเซียวมองเธอนิดหน่อย เเต่ไม่ได้พูดอะไร
” อ้อ เเบบนี้นี่เอง ” เซินเหลียงเชื่อเธออย่างง่ายดาย
จนกระทั่งทานอาหารเสร็จ เซินเหลียงถึงนึกขึ้นได้ว่าโม่ถิงเซียวคือทายาทคนเดียวของตระกูลโม่ นอกจากพ่อกับปู่ของเขาเเล้ว ยังมีใครที่เขาต้องพามู่นวลนวลไปพบอีกหรอ?
อ้อ บางทีที่มู่นวลนวลพูดถึงผู้ใหญ่คนนั้นก็อาจจะเป็นเจ้าสัวโม่ก็ได้
ระหว่างทางกลับบ้าน ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรกัน
ตอนใกล้ถึงบ้าน อยู่ๆมู่นวลนวลก็พูดขึ้น: ” ตอนฉันออกมาจากห้องน้ำได้เจอกับซือเฉิงยวี่พอดี เขาบอกว่าเขาติดต่อมู่หวันฉีไม่ได้ เเละบอกว่ามู่หวันฉีมีนิสัยที่ใจร้อนมาก จึงเป็นไปได้มากว่าคุณจะจับตัวเธอไป ”
ประโยคหลังไม่จำเป็นต้องอธิบายอย่างละเอียด คนฉลาดก็จะคิดได้เองโดยธรรมชาติ
ก่อนหน้านี้มู่นวลนวลก็คิดว่าคนก่อเรื่องน่าจะเป็นมู่หวันฉี เเละด้วยสไตล์ปฏิบัติการของโม่ถิงเซียวเเล้ว ถ้ามู่หวันฉีตกอยู่ในกำมือเขา เขาจะต้องทำให้เธอตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน
ความเป็นจริงก็เป็นแบบนั้นด้วยเช่นกัน ถ้ามู่นวลนวลตามไปไม่ทัน มู่หวันฉีก็อาจถูกทรมานอยู่ก็ได้
โม่ถิงเซียวได้ยินที่เธอพูด เขาทำเพียงพูดถามเธอหนึ่งคำ: ” ซือเฉิงยวี่ไปหาคุณหรอ? ”
” ใช่ ” มู่นวลนวลหันไปมองเขาอย่างสงสัย
รถขับไปบนถนนที่คดเคี้ยว ต้นไม้นอกหน้าต่างก็ถอยเร็วมากเเละบริเวณรอบๆก็มืดตึ๊ดตื๋อ
เเต่มู่นวลนวลยังคงสามารถมองเห็นความเย็นชาได้จากใบหน้าที่เลือนรางของโม่ถิงเซียว
ตอนนั้นมู่นวลนวลกลัวว่าโม่ถิงเซียวจะฆ่ามู่หวันฉีให้ตาย เเต่กลับไม่ได้เป็นเหมือนที่คิดไว้
ตอนนี้พอเธอพูดย้ำคำพูด ” ซือเฉิงยวี่มาหาคุณหรอ ” ของโม่ถิงเซียวอีกครั้ง เธอก็รู้สึกหนาวที่หลังทันที
ตอนที่มู่หวันฉีขับรถมาชนเธออย่างกะทันหันก็ไม่มีคนอยู่รอบๆ พอโม่ถิงซียวโทรศัพท์เสร็จ เขาก็พาเธอไปส่งที่โรงพยาบาลทันที
โม่ถิงเซียวจัดการเรื่องราวได้อย่างรอบคอบมาก ที่เขาโทรศัพท์นั้นก็คงจะให้คนไปจับตัวมู่หวันฉีไว้ก่อน
เเละตอนนั้นมู่หวันฉีก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส สไตล์การปฏิบัติการของคนที่เป็นลูกน้องของโม่ถิงเซียวก็เเข็งแกร่งเเละเด็ดเดี่ยวเช่นกัน ดังนั้น เขาจึงจับมู่หวันฉีได้หนึ่งวันโดยไม่ทำให้คนของตระกูลมู่ตกใจ
เเต่เป็นซือเฉิงยวี่ที่มาหามู่นวลนวลก่อน
แบบนี้ทุกอย่างก็ชัดเจนเเล้ว
ซือเฉิงยวี่ยุให้มู่หวันฉีไปชนมู่นวลนวล หลังจากนั้นเขาก็ใช้เวลาตามหามู่นวลนวลเเละทำให้มู่นวลนวลเห็นวิธีการที่โหดเหี้ยมของโม่ถิงเซียว
นี่ไม่ใช่แผนที่ไร้รอยต่ออะไร เเต่ถ้ามู่นวลนวลขี้ขลาดกว่านี้อีกหน่อย เธอก็คงจะรู้สึกกลัวจริงๆ
หลังจากนั้นก็จะทำให้ความขัดเเย้งระหว่างเธอกับโม่ถิงเซียวขยายใหญ่ขึ้น
เเต่ถ้าความขัดเเย้งระหว่างเธอกับโม่ถิงเซียวขยายใหญ่ขึ้น เเล้วมันส่งผลดีต่อซือเฉิงยวี่ยังไง?
หรือว่าซือเฉิงยวี่เเค่ไม่อยากเห็นโม่ถิงเซียวได้ดี? จึงพยายามทำให้โม่ถิงเซียวไม่มีความสุข?
เเต่เธอเข้าใจโม่ถิงเซียวดี เเละมู่หวันฉีก็ไม่ใช่คนที่บริสุทธิ์ขนาดนั้น
เธอไม่เห็นด้วยกับวิธีการของโม่ถิงเซียว เเต่เธอเข้าใจเขา
อยู่ๆมู่นวลนวลก็นึกอะไรได้ เธอจึงหันไปมองโม่ถิงเซียว: ” ครั้งที่เเล้วคุณก็ใช้วิธีนี้ทำให้มู่หวันฉีเต็มใจชี้แจงเรื่องทะเบียนสมรสต่อหน้าสื่อหรอ? ”
” อืม ” โม่ถิงเซียวยอมรับอย่างตรงไปตรงมา
มู่นวลนวลถอนหายใจออกมานิดหน่อย
ถ้าบอกว่าเขาผิด เเต่จุดเริ่มต้นของเขาดี
ถ้าบอกว่าเขาไม่ผิด เเต่การใช้ความรุนแรงไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องในการแก้ปัญหา
เธอคิดอยู่สักครู่ หลังจากนั้นก็พูดขึ้น: ” ฉันรู้ว่าบางเรื่องกับบางคนไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยเหตุผล เเต่การใช้ความรุนแรงก็ไม่ใช่วิธีเดียวที่เป็นไปได้ ”
โม่ถิงเซียวพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา: ” ฉันเเค่ใช้วิธีที่ได้ผลเร็วที่สุด ”
มู่นวลนวลโมโหเเต่ก็ยิ้มออกมา: ” ดังนั้น ตอนคุณอยากให้ฉันท้อง จึงขังฉันไว้ในคฤหาสน์ไม่ให้ออกไปไหนอย่างนั้นสิ? ”
เพราะคำพูดประโยคนี้ของเธอ บรรยากาศในรถจึงลดลงถึงจุดเยือกแข็ง
เอี๊ยด——
รถเบรกอย่างกะทันหัน ร่างที่เฉื่อยชาของมู่นวลนวลก็เอนไปข้างหน้าทันที
อยู่ๆโม่ถิงเซียวที่อยู่ด้านข้างก็เอนตัวมากอดเธออย่างลุกลี้ลุกลน เเละจับตัวเธอให้นิ่ง
เสียงของเขายังไม่คงที่ดี: ” ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ”
มู่นวลนวลผลักเขาออก เธอเปิดประตูเเละลงจากรถไปทันที
สถานที่ที่รถจอดห่างจากคฤหาสน์เเค่สิบกว่าเมตร
พอลงจากรถมู่นวลนวลก็เห็นรถหลายคันจอดอยู่หน้าคฤหาสน์
มีคนมาที่บ้านหรอ?
เธอไม่มีกะจิตกะใจมาสนใจโม่ถิงเซียว จึงเดินเข้าไปในคฤหาสน์
พอเข้าไปในประตูใหญ่ บอดี้การ์ดที่กำลังยืนเรียงรายกันอยู่ก็โค้งตัวลงอย่างเรียบร้อย: ” คุณชาย คุณหญิง ”
ป้าหูรีบวิ่งออกมาจากด้านในอย่างรีบร้อน: ” คุณชาย คุณหญิงพวกคุณกลับมาเเล้ว เจ้าสัวมาที่นี่ตั้งเเต่บ่ายเเล้วค่ะ เขากำลังรอพวกคุณกลับมาค่ะ ”
เจ้าสัวโม่มาได้ยังไง?
มู่นวลนวลหันไปมองโม่ถิงเซียวอย่างสงสัย
โม่ถิงเซียวกลับมีสีหน้าเข้าใจ หลังจากนั้นเขาก็อธิบายให้เธอฟัง: ” โรงพยาบาลที่ไปตรวจวันนี้เป็นของครอบครัวโม่ ”
ไม่นานมู่นวลนวลก็ตอบสนองกลับมา พอเจ้าสัวโม่รู้ข่าวว่าเธอท้อง เขาก็จงใจมาหาถึงที่
พอคิดดูดีๆเเล้วก็รู้สึกว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ
พอเจ้าสัวโม่ได้ยินการเคลื่อนไหวด้านนอก เขาก็เดินมาที่ทางเข้าห้องโถงเเละพูดขึ้นเสียงดัง: ” กลับมาเเล้วก็รีบเข้ามาสิ จะยืนอยู่ตรงนั้นทำอะไร หนาวขนาดนั้น! ”
มู่นวลนวลมองโม่ถิงเซียวนิดหน่อย หลังจากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในห้องโถงก่อน
โม่ถิงเซียวเดินตามเธอไปด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง: ” มู่นวลนวล เดินช้าหน่อย! ”
พอโม่อันหลิงเห็นมู่นวลนวล เขาก็จูงมือเธอเข้าไปข้างในทันที: ” ด้านนอกหนาวมาก รีบเข้ามานั่งเถอะ ในห้องอบอุ่นกว่านะ ”
มู่นวลนวลยิ้ม: ” คุณปู่ หนูไม่หนาวค่ะ ”
พอเข้ามาในห้องโถง สาวใช้ทุกคนก็ก้มลงทักทายอย่างเป็นระเบียบทันที: ” คุณหญิง ”
มู่นวลนวลชะงักไปนิดหน่อย กลุ่มสาวใช้?