พอมู่นวลนวลคิดเช่นนั้น สีหน้าเธอก็ไม่ต่างไปจากสีหน้าโม่ถิงเซียว
ซือเฉิงยวี่ทำตัวเป็นศัตรูของโม่ถิงเซียว
เธอไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดถึงทำให้ซืเฉิงยวี่คิดตั้งตนเป็นศัตรูกับโม่ถิงเซียว
บรรยากาศภายในรถไม่ค่อยดี
พวกเขาว่างแพลนไว้ว่าถ้าหากเสร็จธุระแล้วจะไปทานข้าวที่ร้านอาหารจินติ่ง
ซือเย่จึงขับรถตรงไปที่ร้านอาหารจินติ่ง
กูจื่อหยานมารอพวกเขาที่ร้านก่อนหน้าแล้ว
ตอนที่พวกเขาเข้าไปในร้าน กูจื่อหยานกำลังสั่งอาหารอยู่
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกูจื่อหยาน เขายังคงดูเหมื่อนไม่ฉลาดอยู่เหมือนเดิม เขาลากเก้าอี้ออกแล้วใช้สายตาสื่อ : “นวลนวล นั่งตรงนี้”
ท่าทางที่เขาทำดีกับเธอ ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ : “ถึงนายจะทำดีกับฉันเท่าไหร่ ฉันก็ไม่มีทางช่วยนายและพูดเรื่องดีของนายต่อหน้าเซินเหลียงหรอก”
“ฉันไม่ได้คิดหาผลประโยชน์จากเธอสักหน่อย ตอนนี้เธอท้องอยู่ พวกเราต้องดูแลเธอเป็นอย่างดี” กูจื่อหยานพูดแล้วมองหน้าโม่ถิงเซียว: “ใช่ไหม ถิงเซียว?”
โม่ถิงเซียวไม่สนใจในสิ่งที่กูจื่อหยานพูด เขาลากเก้าอี้ออกให้มู่นวลนวลนั่งลงแล้วเขาก็นั่งลงข้างๆ
กูจื่อหยานรู้สึกแปลกๆ บรรยากาศไม่ปกติจึงเดินไปข้างๆฟู่ถิงซีแล้วถาม : “มีอะไรหรอ?งานไม่ราบรื่น?”
ฟู่ถิงซีก็ไม่รู้เหตุผล
เขาคิดว่างานที่ทำราบรื่นดี แต่พอโม่ถิงเซียวเห็นซือเฉิงยวี่กลับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
ทุกคนทานข้าวเสร็จ และตอนนี้ก็ 2 ทุ่มแล้ว
กูจื่อหยานและฟู่ถิงซียังมีนัดทานข้าวต่อ โม่ถิงเซียวและมู่นวลนวลจึงกลับบ้านก่อน
……….
พอถึงบ้าน มู่นวลนวลเดินเข้าไปที่ห้องโถง ก็เห็นฉินซุ่ยซานกำลังถูพื้นอยู่
ไม่มีโอกาสเห็นได้ง่ายๆ
ฉินซุ่ยซานเห็นทั้งสองเดินเข้ามา : “คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง”
แม้ว่าตอนนี้หล่อนจะหน้าบวม แต่มู่นวลนวลก็ดูออกว่าหล่อนคิดอะไรไม่ดีอยู่
หน้าของฉินซุ่ยซายที่บวมเป่งและมีรอยแผล ทำให้มู่นวลนวลอดที่จะถามไม่ได้ : “เธอโอเคไหม?”
ฉินซุ่นซานแปลกใจ : “โอเคค่ะ”
โม่ถิงเซียวไม่ได้สนใจหล่อนและพามู่นวลนวลตรงกลับขึ้นไปบนห้อง : “ขึ้นไปพักผ่อนเถอะ”
มู่นวลนวลเดินขึ้นไปแล้วหันกลับมามองเธอ ก็เห็นเธอนั่งลงเช็ดพื้นต่อ
“………..” ฉินซุ่ยซานโดนอะไรตีที่หัวหรือเปล่าหรือหล่อนอยากจะเป็นสาวใช้แบบจริงจัง?
มู่นวลนวลคิดเช่นนั้นแล้วก็รู้สึกแปลกๆ
ทั้งสองกลับถึงห้อง พอมู่นวลนวลไปอาบน้ำเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มีคนส่งข้อความหาเธอ
โม่ถิงเซียวแอบมองว่าคือใครที่ส่งมา เข้าจึงเห็นข้อความบนหน้าจอโทณศัพท์ “จากคุณปู่”
เขานึกออกว่าเมื่อก่อนเจ้าสัวโม่และมู่นวลนวลเคยแลกวีแชทกัน
เขาหันหน้ามองไปที่ห้องน้ำ และได้ยินเสียงน้ำที่มู่นวลนวลกำลังอาบ
โม่ถิงเซียวจึงยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูและเปิดวีแชทอ่านข้อความ
เจ้าสัวโม่ส่งคลิปเสียงให้มู่นวลนวล เข้าจึงกดเปิดฟัง
“นวลนวล วันนี้ขอโทษแทนเอินหยานะที่ไปสร้างเรื่องวุ่นวายที่นั้นทำให้เธอลำบาก”
โม่ถิงเซียวทำหน้าไม่พอใจ
เจ้าสัวโม่ออกตัวปกป้อง แม้ว่าเรื่องการท้องของมู่นวลนวลจะทำให้เขาดีใจไม่น้อย แต่มู่เอินหยาเป็นถึงหลานสาวแท้ๆ
โม่เอินหยาคงกลับไม่ฟ้องเจ้าสัวโม่ แม้เจ้าสัวโม่จะเป็นคนไม่รู้ถูกรู้ผิดแต่ในเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จึงทำให้เขาจำเป็นต้องทำแบบนี้
โม่ถิงเซียวลบข้อความทิ้งแล้วโทรวิดีโอคอลกลับไป
เจ้าสัวโม่เห็นแล้วก็ตกใจมู่นวลนวลทำไมถึงโทรวิดีโอคอลหาเขา
เจ้าสัวโม่กดรับสาย
คนที่เห็นไม่ใช่มู่นวลนวลแต่เป็นโม่ถิงเซียว พอเห็นเช่นนั้นจึงทำให้เขารู้สึกไม่ชอบและรำคาญ
“ทำไมเป็นแก? นวลนวลละ?” เจ้าสัวโม่ทำหน้าดุ ราวกับเขียนคำว่าไม่อยากเห็นโม่ถิงเซียวไว้บนหน้า
โม่ถิงเซียวเปิดกล้องหลังให้ดูที่ห้องน้ำ : “อาบน้ำอยู่”
เจ้าสัวโม่ทำสีหน้าไม่พอใจ : “ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับแก พรุ่งนี้ฉันจะโทรหามู่นวลนวลใหม่”
เจ้าสัวโม่พอพูดจบก็จะตัดสาย แต่โม่ถิงเซียวดันพูดขึ้นก่อน : “ถ้าเกิดว่างมากก็กลับไปทำงานที่บริษัทิสิ ลูกชายของคุณคงเต็มใจอย่างมากที่จะคืนตำแหน่งให้”
เจ้าสัวโม่โมโห : “โม่ถิงเซียว!”
โม่ถิงเซียวถือโทรศัพท์เดินออกไปข้างนอก : “ในขณะที่เมียของหลานชายท้องอยู่กลับส่งผู้หญิงอื่นให้เข้ามาอยู่ที่บ้านของหลานชาย คนแก่ที่ยังสับสนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีคงจะเป็นคนแบบคุณ?”
เรื่องครั้งนี้ทำให้โม่ถิงเซียวโมโหและไม่พอใจอย่างมาก ตอนเด็กๆแน่นอนว่าทั้งสองสนิทและรักกันมาก แต่เรื่องคราวก่อนที่เจ้าสัวโม่ไม่ยอมให้โม่ถิงเซียวสือเรื่องการตายของแม่ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองเปลี่ยนไป
แต่ถึงอย่างไรเจ้าสังโม่ก็ดีกับมู่นวลนวล เขาจึงไม่อยากพูดถึงปล่อยให้เรื่องมันผ่านไป
แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะมาไม้นี้
เจ้าสัวโม่โมโหมาก : “ถิงเซียว ฉันหวังดีกับแก งานทุกอย่างของตระกูลแกจะต้องได้รับทำต่อ แกไม่ควรที่จะทุ่มเทให้กับผู้หญิงแค่คนเดียวเหมือนพ่อของแก…………”
ในมุมมองของเจ้าสังโม่ ลูกหลานของคนรวยจะต้องรายล้อมไปด้วยผู้หญิงถึงจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
แต่ลูกรักอย่างโม่ซิงเฟิงหลังจากที่ภรรยาเสียก็ไม่ได้มีผู้หญิงคนอื่นอีกเลย และใช้ชีวิตผ่านมาอย่างโดดเดี่ยวและหดหู่
พ่อเป็นคนหลายใจมีผู้หญิงหลายคน แต่กลับได้ลูกที่เป็นคนรักเดียวใจเดียว
ตอนที่โม่ถิงเซียวพามู่นวลนวลกลับบ้านเก่า เขาดูแลมู่นวลนวลเป็นอย่างดีไม่ให้คลาดสายตา เพราะกลัวจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
โม่ถิงเซียวยิ้มเหมือนไม่พอใจ : “เหมือนพ่ออย่างนั้นหรอ? คุณแน่ใจหรอว่าพ่อลืมแม่ไม่ได้ มันอาจจะเป็นเพราะว่าในใจเขามีเรื่องอะไรสักอย่างที่ทำให้เขารู้สึกละอายใจอยู่หรือเปล่า?”
“ถิงเซียว ฉันพูดกับแกไปหลายรอบแล้ว เรื่องของแม่แกมันไม่มีเบื่องลึกเบื่องหลังอะไรทั้งนั้น” เขาร่ายยาว
“ฉันเห็นแม่แกตั้งแต่เล็กจนโต พ่อแกรักแม่แกมากแค่ไหนแกก็รู้ดี ถิงเซียว ตัวแกเองก็สืบเรื่องนี้มาตั้งนาน แล้วแกได้เรื่องอะไรบ้าง? มันไม่มีอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แกถึงหาหลักฐานอะไรไม่ได้เลย แกคิดมากไปเอง…………”
เจ้าสัวโม่ยังพูดอยู่อย่างนั้น และโม่ถิงเซียวไม่ได้พูดตัดบทเขา
พอเขาพูดจบ โม่ถิงเซียวจึงถามเขา : “ปีใหม่ปีนี้คุณอาคงกลับมาใช่ไหม? คุณอาไม่ได้กลับบ้านมาหลายปีแล้ว”
โม่ถิงเซียวพูดจบ ก็จ้องไปที่เจ้าสัวโม่เพื่อดูปฏิกริยาของเขา
แต่เจ้าสัวโม่กลับไม่แสดงท่าทีอะไร
โม่ถิงเซียวขมวดคิ้ว หรือว่ามู่เจิ้งซิว(เจ้าสัวมู่)จะพูดโกหก?
จริงๆแล้วเขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าอาของเขาจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย
“โม่ถิงเซียว?”
เสียงของมู่นวลนวลดังขึ้นขัดจังหวะเขา
โม่ถิงเซียวหันกลับมาก็เห็นมู่นวลนวลที่สวมใส่ชุดนอนแล้วยังสวมเสื้อนอกตัวหนาทับเข้าไป