ความเย็นชาของมู่นวลนวล ทำให้เสี่ยวชูเหออึดอัดวางตัวไม่ถูก
เธอดึงมือกลับ และหันหน้าไปมองซินชูฮัน
ซินชูฮันยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน และอารมณ์ที่ดีมาก
เสี่ยวชูเหอสายตาแน่าวแน่:“นวลนวล ออกไปเรามีเรื่องต้องคุยกัน”
มู่นวลนวลหันหลังเดินออกไป
หลังออกจากสำนักงานตำรวจ ซินชูฮั่นรีบเดินตามไปข้างๆมู่นวลนวล และต้องการจะพูดกับเธอ
แต่เขายังไม่ทันจะเข้าใกล้มู่นวลนวลก็ถูกบอดี้การ์ดขัดขวางเอาไว้
ซินชูฮันสีหน้าเปลี่ยน จากนั้นก็กลับมาปกติ และพูดติดตลกว่า:“ฉันแค่อยากจะคุยกับเธอเท่านั้น มีบอดี้การ์ดเฝ้าระวังอย่างนี้ โม่ถิงเซียวเห็นว่าเธอเป็นนักโทษรึไง?”
แวบแรกน้ำเสียงของเขาดูเหมือนจะล้อเล่นกับเพื่อนสนิท
แม่มู่นวลนวลกับเขาไม่ได้สนิทสนมกันมากขนาดนั้น ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกว่าที่เขาพูดเป็นเรื่องตลก
เขาจงใจที่จะพูดอย่างนี้ เพื่อที่จะยุยงเธอกับโม่ถิงเซียว?
เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับซินชูฮัน เธอจึงไม่ได้ปล่อยเขาไป
“สมัยเรียนคุณซินต้องใช้ภาษาจีนได้ดีมากแน่ๆ?ไม่อย่างนั้นจะไม่รู้ได้ยังไงว่าบอดี้การ์ดจะทำอะไร?คุณต้องการให้ฉันอธิบายให้คุณฟังไหมว่าอาชีพบอดี้การ์ดคืออะไร?”
มู่นวลนวลมองไปที่ซินชูฮันด้วยสายตาถากถาง
ซินชูฮันรู้สึกว่ามู่นวลนวลมองเขาราวกับว่าเธอกำลังมองดูตัวตลก
ใบหน้าที่ดูไม่มีออร่าของเขา ยังคงปากครั้ง ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองผิด แต่ก็ไม่ยอมรับ:“แน่นอนฉันรู้ว่าบอดี้การ์ดมีไว้ทำอะไร เพียงแค่ฉันเดินเข้าไปใกล้เธอหน่อย พวกเขาก็เข้ามาขวาง มันไม่เกินไปหน่อยหรอ?”
มู่นวลนวลพูดด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจ:“มันไม่มากเกินไปหรอก ถึงอย่างไรเราก็ไม่ได้คุ้นเคยกันมาก”
จู่ๆเสี่ยวชูเหอที่อยู่ข้างๆก็พูดขึ้นมา:“นวลนวล เธออย่าพูดอย่างนี้กับซินชูฮัน ฉันรู้ว่ามีเรื่องเข้าใจผิดระหว่างเธอกับเขา เธอก็เห็นว่าเขาดูแลฉันมาตลอด จัมมือและสร้างสันติภาพกับเขาได้ไหม?”
ชูฮัน?
ช่างเรียกได้อย่างสนิทสนมและอบอุ่น
มู๋นวลนวลไม่รู้ว่าทำไมซินชูฮันถึงเจอเสี่ยวชูเหอได้ และทำไมเขาถึงดูแลเธออย่างดี
สิ่งที่เธอรู้คือคอยเอาอกเอาใจ และทำดีเพื่อหวังผล
เธอไม่คิดว่าซินชูฮันจะเคยมีความสัมพันธ์กับมู่หวันฉี นั้นคงเป็นเหตุแลที่เขาดูแลเสี่ยวชูเหอ
“ระหว่างเราไม่มีอะไรที่เข้าใจผิด?จะจับมือและสร้างสันติภาพทำไม?” มู่นวลนวลมองไปที่เสี่ยวชูเหออย่างสงสัย:“มู่หวันฉีเป็นลูกสาวของคุณ เธอเคยหมั้นหมายกับคุณซิน ดูเหมือนว่าคุณซินจะเป็นคนใจดี เมื่อเห็นคุณอยู่ข้างนอกก็เลยดูแลคุณ มันก็เป็นธรรมดาของคนไม่ใช่หรอ?”
เสี่ยวชูเหอช่วยพูดแทนให้ซินชูฮัน ดูท่าแล้วหลายวันมานี้ซินชูฮันจะดูแลเธออย่างดี และล่อลวงด้วยคำพูดที่ดี
“นวลนวล……”
“ฉันมีเรื่องที่ต้องกลับไปทำก่อน” มู่นวลนวลแสร้งทำเป็นดูเวลา:“คิดๆดูแล้วคุณซินก็เป็นคนใจดี คุณคงไม่รังเกียจที่จะไปส่งแม่ของอดีตคู่หมั้นกลับไปที่บ้านใช่ไหม?”
ตอนนั้นที่ซินชูฮันรับเสี่ยวชูเหอไว้ ก็เพื่ออยากที่จะได้ใกล้ชินมู่นวลนวล
เขารู้บางอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์ของตระกูลมู่ และรู้แน่นอนว่ามู่นวลนวลดีกับแม่ของเธอมาก
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่อย่างนั้น
เมื่อพูดถึงคำพูดของมู่นวลนวล แน่นอนว่าเขาตกปากรับคำ:“จะถือสาได้อย่างไร แน่นอนว่าเต็มใจ”
“งั้นฉันไปก่อนนะ”
มู่นวลนวลไม่ได้มองไปที่เสี่ยวชูเหออีก แล้วหันกลับมาขึ้นรถไป
เสี่ยวชูเหอยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความตื่นตระหนก และเฝ้าดูรถของมู่นวลนวลจากไปรู้สึกงงงวย
มู่นวลนวลเย็นชากับเธอมากเกินไป
ทันทีที่รถของมู่นวลนวลจากไป สีหน้าของซินชูฮันก็เศร้า:“คุณหญิงมู่ ผมจะไปส่งคุณ”
เมื่อเสี่ยวชูเหอเห็นสีหน้าซินชูฮันไม่ค่อยดีนัก ก็พูดว่า:“คุณอย่าไปถือสาเลย อาจเป็นเพราะนวลนวลเพิ่งตั้งครรภ์ อารมณ์เลยไม่ค่อยดี ดังนั้น……”
คำพูดของเธอทำให้ซินชูฮันหงุดหงิด เขากระแทกแขนของเสี่ยวชูเหอ และพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าหมองว่า:“เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ คุณพูดอีกทีสิ!”
เสี่ยวชูเหอตกใจกับท่าทางของซินชูฮัน:“ชูฮัน คุณเป็นอะไร?”
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาท่าทีของซินชูฮันที่มีต่อเธอนั้นอ่อนโยนมาก และเขายังให้คนพาเธอออกไปซื้อของในห้างสรรพสินค้า
ทันใดนั้นที่สีหน้าของเขาก็เปลี่ยน และทำให้เสี่ยวชูเหอตกใจ
ซินชูฮันจึงเปลี่ยนกลับไปเป็นท่าทางอ่อนโยนเหมือนก่อนหน้านี้ทันที และถามเบาๆว่า:“คุณบอกว่าเธอตั้งครรภ์?”
“ใช่”
เสี่ยวชูเหอถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อเห็นว่าเขาฟื้นกลับมาเป็นปกติ
เมื่อตะกี้เธอคงจะมองผิดไป
“ฉันรู้แล้ว ฉันจะไปส่งคุณที่บ้าน”
ซินชูฮันลดสายตาลง น้ำเสียงของเขายังคงนุ่มนวล แต่ก็มีความรู้สึกแปลก ๆ
……
เรื่องครั้งนี้เป็นไปอย่างที่มู่นวลนวลพูด มันเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ผ่านไปแล้วก็จะลืม
ปีใหม่ใกล้เข้ามาแล้ว มู่นวลนวลเดาว่าถ้าผ่านปีนี้ไป โม่ถิงเซียวอาจจะพาเธอกลับไปบ้านเก่า
อย่างไรก็ตามนี่เป็นวันส่งท้ายปีเก่าสำหรับโม่ถิงเซียวที่จะเข้ารับช่วงต่อของโม่กรุ๊ป เขาต้องกลับไปบ้านเก่าเพราะเหตุผลนี้แน่
แม้ว่าโม่ถิงเซียวจะมีอำนาจที่จะทำอะไรก็ได้ อยากไปก็ไป ไม่อยากไปก็ไม่ไป
แต่สุดท้ายแล้วบัญชีนี้อาจเป็นเธอที่รวบรวม
ก่อนจะถึงวันหยุดของโม่กรุ๊ปอีกสองวัน มู่นวลนวนกำลังเตรียมที่จะนำสิ่งของกลับบ้านเก่าของเขา
บ้านเก่าไม่ขาดเหลืออะไร แต่ในการวิเคราะห์ขั้นสุดท้ายควรใช้สิ่งที่ตัวเองคุ้นเคยจะดีกว่า
ตอนเย็น โม่ถิงเซียวกลับมาช้านิดหน่อย
มู่นวลนวลอาบน้ำเสร็จแล้ว จับคอมพิวเตอร์เตรียมที่จะเขียนบทก่อนนอน
โม่ถิงเซียวเดินถือเสื้อสูทเข้ามาจากด้านนอก ผมยุ่งเหยิงนิดหน่อย และดูเหมือนว่าเขาจะเหนื่อยล้า
“กลับมาแล้ว”
มู่นวลนวลเงยหน้าขึ้นมองเขา
อากาศหนาวแม้ว่าจะเปิดเครื่องทำความร้อน แต่มู่นวลนวลก็ยังคงสวมชุดนอนที่มีขนนุ่มๆ ทำให้เธออบอุ่น
หลังจากที่เธอตั้งครรภ์ เธอก็อยู่แต่ในบ้าน คนรับใช้ดูแลเธออย่างดี กิจวัตรของเธอเองก็ปกติมาก แต่สีหน้าของเธอดีกว่าก่อนนี้มาก เมื่อนั่งอยู่ใต้แสงไฟ เธอก็ขาวราวกับจะส่องสว่าง
เธออิงแอบอยู่ที่มุมโซฟา เหยียดขาตรงและโน้ตบุ๊ควางอยู่บนขาของเธอ เธอมัดผมหลวมๆ ผมสีดำผิวสีขาวหิมะ และดวงตาที่เหมือนแมวกำลังมองเขาอย่างตั้งใจ เผยให้เห็นท่าทางที่แปลกและน่าสัมผัส
โม่ถิงเซียวโยนแจ็คเก็ตในมือแล้วเดินไปหาเธอ เขาเอนตัวลงและโยนโน้ตบุ๊คที่อยู่บนตักของเธอลงข้างๆ จากนั้นก็กอดเธอไว้ในอ้อมแขน
มู่นวลนวลรู้สึกอกสั่นขวัญหาย เมื่อเขาหยิบโน้ตบุ๊คของเธอขึ้นมา:“คุณโยนเบาๆหน่อย……”
โม่ถิงเซียวดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจที่เธอเป็นห่วงโน้ตบุ๊ค และก้มลงจูบเธอสักพัก
เมื่อพวกเขาแยกกัน โม่ถิงเซียวก็พูดเสียงเบาว่า:“คุณอากลับมาแล้ว”