ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 240 เธอก็ไม่ต้องการฉันงั้นสิ?

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

สุดท้ายก็ไม่ได้ดูหนัง กลายเป็นว่ามู่นวลนวลคุยกับโม่เจียเฉิน

โม่เจียเฉินโตที่ต่างประเทศ และอยู่ที่นี่เขาก็ไม่มีเพื่อน คำพูดเหล่านี้คงอยู่ในใจของเขามานาน และเขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดกับใคร

โชคดีที่มู่นวลนวลยินดีจะรับฟัง จนเขาบอกว่าไม่มีอะไรจะพูดแล้ว

จากสิ่งที่เขาพูด บางอย่างก็มีเงื่อนงำ

พ่อแม่ที่ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดี พี่ชายที่ดูอ่อนโยนแต่กลับทรมานและฆ่าสัตว์ตัวเล็กๆ แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบกับช่วงวัยของโม่เจียเฉิน

มู่นวลนวลออกมาจากห้องฉายหนัง และบังเอิญเจอกับโม่ถิงเซียวที่กำลังจะเข้าไปหาเธอ

เธอเดินนำหน้า และโม่เจียเฉินเดินตามหลัง

โม่ถิงเซียวหน้าตาบึ้งตึง เห็นได้ชัดว่าโกรธที่โม่เจียเฉินเรียกให้มู่นวลนวลไปดูหนัง

ก่อนหน้านี้มู่นวลนวลเหนื่อยหน่ายที่ต้องรับมือกับคนตระกูลโม่ เลยบอกให้เธอไปพักผ่อน แต่ก็ถูกโม่เจียเฉินลากไปดูหนังด้วยกัน แน่นอนว่าเขามองโม่เจียเฉินด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี

โม่เจียเฉินโค้งริมฝีปากของเขา และเคลือนตัวไปข้างหลังมู่นวลนวล

นานแล้วที่ไม่ได้เห็นสายตาพิฆาตของลูกพี่ลูกน้อง

น่ากลัว

มู่นวลนวลเหลือบมองโม่ถิงเซียวด้วยความไม่พอใจ จากนั้นหันไปหาโม่เจียเฉินและพูดว่า:“เสี่ยวเฉิน นายกลับไปพักผ่อนที่ห้องเถอะ”

“ครับ” หลังจากที่ได้รับการอนุญาต โมเจียเฉินก็วิ่งไปอย่างราดเร็ว

โม่ถิงเซียวเม้มริมฝีปาก สายตาของเขาเย็นชา:“มู่นวลนวล ตอนนี้เธอมีสองคน ไม่จำเป็นต้องไปดูแลเขา เขาก็เป็นแค่เด็กที่ยุ่งวุ่นวาย……”

“ไม่ฟังบทสวดเทศนา” มู่นวลนวลพูดพลางเอามือปิดแล้วเดินกลับไปที่ห้อง

ใบหน้าของโม่ถิงเซียวมืดครึ้ม และอารมณ์ของเขาก็หงุดหงิด:“มู่นวลนวล!”

มู่นวลนวลหันกลับมา แล้วเอามือลูบท้องตัวเองเบาๆ จากนั้นก็กระพริบตาและพูดว่า:“อย่าเสียงดัง เดี๋ยวลูกตกใจ”

โม่ถิงเซียวสูดหายใจเข้าลึกๆ และบอกตัวเองว่าอย่าไปโต้เถียงกับผู้หญิงดื้อดึงอย่างมู่นวลนวล

มู่นวลนวลมองดูเขาระงับความโกรธ และอดไม่ได้ที่จะยิ้ม และคิดว่าเขาทำทุกอย่างเพื่อเธอ เธอจึงเดินกลับไปจับมือของเขาเพื่อเอาใจ:“เอาล่ะๆ เรากลับห้องไปพักผ่อนกันเถอะ”

เมื่อมู่นวลนวลมาอยู่ข้างหน้า ความโกรธของเขาก็หายไปอย่างรวดเร็ว

พอกลับมาถึงห้อง มู่นวลนวลถูกโม่ถิงเซียวกดลงบนเตียง เขาห่มผ้าให้เธอและพูดว่าว่า:“นอนซะ”

มู่นวลนวลคุยกับโม่เจียเฉินอยู่นานมาก ตอนนี้เธอเลยไม่รู้สึกง่วง:“ฉันมีอะไรจะคุยกับคุณ”

“ตื่นมาค่อยคุยกัน” โม่ถิงเซียวเพิกเฉยต่อสายตาที่เฝ้ารอของเธอ

มู่นวลนวลไม่สนใจ และพูดตรงๆว่า:“ความสัมพันธ์ระหว่างอาของคุณกับอาเขยดีไหม?”

“ในสายตาของคุณปู่พวกเขาเป็นสามีภรรยาที่รักกันมาก” โม่ถิงเซียวยิ้มให้ตนเองหลังจากที่พูดจบ ในสายตาของเจ้าสัวโม่ แม่ของเขากับโม่ชิงเฟิงก็เป็นสามีภรรยาที่รักกันมากเช่นกัน

“แต่เมื่อกี้เสี่ยวเฉินบอกกับฉันว่า พ่อแม่ของเขาไม่ได้รักกันมากอย่างนั้น รู้สึกเหมือนพวกเขาเข้ากันได้ดี……” มู่นวลนวลทอดถอนใจ:“ถ้าเราก็อยู่ด้วยกันไปนานๆ เราจะกลายเป็นสามีภรรยาที่เข้ากันไม่ได้ไหม?”

โม่ถิงเซียวตอบกลับอย่างมั่นใจ:“ไม่หรอก”

“จริงหรอ?” มู่นวลหวั่นไหว

ทำให้วินาทีถัดมาเธอได้ยินโม่ถิงเซียวพูดเบาๆว่า:“กำลังอุ้มท้องลูกของฉัน ยังจะมาคิดเรื่องนี้อยู่ เธอจะไปหาผู้ชายป่าเถื่อนคนอื่นรึไง?”

น้ำเสียงนี้ฟังดูเคร่งขรึม

มุ่นวลนวลมองเขาด้วยหางตา และพบว่าเขาจ้องมองเธออยู่ ราวกับว่าถ้าเธอให้คำตอบที่ไม่น่าพอใจกับเขา เขาก็จะจัดการเธอ

มู่นวลนวลเป็นคนที่รู้จักเอาตัวรอด

เธอจับมือของโมถิงเซียว และยิ้มอย่างสดใส:“จะเป็นไปได้ยังไง ผู้ชายป่าเถื่อนที่ไหนจะหล่อและรวยกว่าคุณ?”

“เธอหมายความว่าถ้ามีผู้ชายที่หล่อและรวยกว่าฉัน เธอก็ไม่ต้องการฉันแล้วงั้นสิ?” หน้าตาท่าทางของเขาดูเคร่งขรึมยิ่งกว่าเดิม

มู่นวลนวลรู้สึกว่าคำตอบของเธอนั้นดูเอาอกเอาใจมาก แต่โม่ถิงเซียวก็ยังไม่เดินไปตามทางปกติ

ในเซี่ยงไฮ้ยังมีผู้ชายที่หล่อกว่าและรวยกว่าเขาอีกหรอ?

มันเป็นไปไม่ได้เลย!

เธอต้องเปลี่ยนวิธีเยินยอเขา!

สิ่งที่เขาให้ความสำคัญกับสิ่งที่เธอต้องการแสดงออกแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

เธอตามความคิดของคนฉลาดไม่ทันจริงๆ

“เป็นไปได้ยังไง!” มู่นวลนวลพูดเสียงสูง เพื่อทำให้น้ำเสียงของตัวเองดูจริงใจขึ้น

สีหน้าของโม่ถิงเซียวค่อยๆดีขึ้น และไม่ได้พูดอะไร

มู่นวลนวลจัมมือของเขามาที่ริมฝีปากของเธอ และจูบที่หลังมือเบาๆ:“ฉันพูดจริงนะ”

เธอรู้สึกว่ามือของโม่ถิงเซียวแข็งนิดหน่อย เมื่อเงยหน้าขึ้นเธอก็พบว่าสีหน้าของโม่ถิงเซียวดูไม่สบายใจ

เดิมที่โม่ถิงเซียวนั่งอยู่ที่ขอบเตียง เธอเหลือบมองและเห็นว่าเขาหันหน้ามา :“รีบนอน ฉันยังมีเรื่องที่ต้องไปจัดการ”

มู่นวลนวลสะดุ้ง เขาก็แค่……เขินอาย?

เมือเธอจูบที่หลังมือของเขา เธอก็รู้สึกได้ถึงความเขินอายของผู้ชายคนนี้?

มู่นวลนวลอยากจะจูบอีกครั้ง แต่ดูเหมือนโม่ถิงเซียวจะคาดไว้แล้วว่าเธอจะจูบอีก เขาจึงดึงมือออกอย่างรวดเร็ว:“ฉันจะไปที่ห้องหนังสือ”

โม่ถิงเซียวออกไปนอกห้อง และก่อนที่จะปิดประตู เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของมู่นวลนวล

โมถิงเซียวสีหน้าเข้ม “ปัง” และปิดประตูเสียงดัง และเขาไม่ทันได้สังเกตว่าป้าหูเดินถือของเข้ามา

เขาเลยชนเข้ากับป้าหู

ในถาดที่ป้าหูถือมีแก้วน้ำหวานที่เตรียมจะไปเสิร์ฟให้มู่นวลนวล

ทำให้น้ำหวานนั้นหกใส่โม่ถิงเซียว

โม่ถิงเซียวตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขายกมือที่มู่นวลนวลจูบเมื่อครู่ขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพื่อไม่ให้มือเปียกน้ำหวาน

เมื่อเห็นเขายกมือขึ้น ป้าหูจึงถามด้วยความสงสัยว่า:“คุณชาย ไม่ได้ลวกมือใช่ไหม?”

“เปล่า”

ป้าหูยังไม่วางใจ:“ให้ฉันดูหน่อย?”

“ไม่ต้องหรอก” โม่ถิงเซียวถอยหลังไปหนึ่งก้าว จับมือที่มู่นวลนวลจูบด้วยมืออีกข้าง แล้วเดินผ่านป้าหูไป

ป้าหูมองดูโม่ถิงเซียวจากไป และพึมพำว่า:“ทำไมต้องถนอมมือขนาดนั้น?ต้องบาดเจ็บแน่ๆเลย……”

……

เมื่อมู่นวลนวลตื่นขึ้นมา เธอก็ได้ยินคนรับใช้พูดว่ามือของโม่ถิงเซียวได้รับบาดเจ็บ

มู่นวลนวลสีหน้าตึงเครียด:“บาดเจ็บได้ยังไง?”

ก่อนที่เธอจะหลับไม่ใช่ว่ายังดีๆอยู่หรอ ทำไมพอเธอตื่นขึ้นมามือของโม่ถิงเซียวถึงได้รับบาดเจ็บ?

“เขาอยู่ที่ไหน?” มู่นวลนวลถาม

คนรับใช้พูดอย่างเคารพว่า:“คุณชายยังอยู่ในห้องหนังสือ และไม่ได้ออกมาเลย”

มู่นวลนวลได้ยินเธอพูดอย่างนั้นก็รู้สึกสับสน อยู่ในห้องหนังสือตลอด แล้วได้รับบาดเจ็บได้ยังไง

มู่นวลนวลยืนอยู่ที่ประตูห้องหนังสือ เธอเคาะประตุแล้วผลักเข้าไป:“พวกเขาบอกว่ามือของคุณได้รับบาดเจ็บ?ให้ฉันดูหน่อย”

โม่ถิงเซียวที่นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ แต่ไม่นานเขาก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

สีหน้าของเขาดูไม่เป็นธรรมชาติ และน้ำเสียงของเขาก็ดูหงุดหงิด:“ไม่ได้บาดเจ็บฉันยังต้องทำงาน เธอออกไปก่อน”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท