เสียงของมู่หวันฉีแหบเล็กน้อย ความเคียดแค้นรั่วไหลออกมา“มู่นวลนวล ส่งฉันเข้าคุก เธอคงลำพองใจสิ!แต่เธอคงคิดไม่ถึง ว่าฉันจะออกมาเร็วขนาดนี้”
คำพูดไม่กี่คำสุดท้าย เธอกัดฟันพูดด้วยความโมโห เหมือนกับเกลียดชังจนอยากจะคลานออกมาจากสายโทรศัพท์มากัดมู่นวลนวล
มู่นวลนวลพูดอย่างเรียบเฉย“ก่อเวรก่อกรรมเอง ก็ต้องได้รับกรรม
มู่หวันฉีได้ฟัง ยิ้มเย็นอย่างหยิ่งยโส“พวกเรามาคอยดูกัน”
เดิมทีมู่นวลนวลอารมณ์ดีก็ถูกสายเรียกเข้าโทรศัพท์ของมู่หวันฉีทำลายไปจนหมด เธอไม่อยากจะฟังคำพูดไร้สาระของมู่หวันฉีที่เหมือนกับคนเป็นโรคประสาท ก็ตัดสายทิ้งไป
เธอหันหน้ากลับมา ก็พบว่าโม่ถิงเซียวกำลังมองเธอ
ดวงตาดำขลับคู่นั้น เปล่งประกายด้วยความรู้สึกจนเธอมองไม่เข้าใจ
คิดๆดูแล้ว เมื่อกี้เขาน่าจะได้ยินสายโทรศัพท์ของมู่นวลนวล ก็รู้แล้วว่าสายโทรศัพท์นี้เป็นของมู่หวันฉีโทรเข้ามา
คนอย่างมู่หวันฉีน่าสนใจจริงๆ ออกจากคุกก็โทรศัพท์มาหาเธอทันทีอยากจะกระตุ้นเธอ
แต่ว่า เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าซือเฉิงยวี่ต้องหาวิธีนำมู่หวันฉีออกมา แต่คิดไม่ถึงว่าจะเร็วขนาดนี้
ซือเฉิงยวี่ประมาณว่าถูกข่าวอื้อฉาวช่วงนี้บังคับจนทนไม่ไหว ในใจก็มีเรื่องตำหนิโม่ถิงเซียว จึงสามารถนำมู่หวันฉีออกมาอย่างรวดเร็ว
มู่นวลนวลพูดออกมา“เธอถูกปล่อยตัวแล้ว ก็เป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็ว”
“อืม”โม่ถิงเซียวถอนสายตากลับไปทางอื่น หรี่ตาลงเล็กน้อยปกปิดความรู้สึกไว้ภายในดวงตา
ในเวลาที่เขาอารมณ์ไม่ดี ก็ชอบที่จะรั่วไหลสีหน้าท่าทางแบบนี้
มู่นวลนวลขยับไปข้างๆเขา หันศีรษะไปมองเขาและพูดเบาๆ“พวกเรากลับบ้านเก่าก่อน อย่าให้คนที่ไม่สำคัญทำให้พวกเราต้องอารมณ์เสีย พรุ่งนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า นี้ก็ถือว่าเป็นปีแรกที่พวกเราจะฉลองด้วยกัน มีความสุขหน่อย หืม?”
คำพูดของเธอคล้ายกลับว่าจะได้ผล โม่ถิงเซียวเงยหน้ามองไปที่เธอ
หลังจากที่มู่นวลนวลตั้งครรภ์ก็หน้าสดตลอด เธอยังอายุน้อยและยังมีนิสัยที่ดี หน้าสดก็สวยมาก
ผิวขาวผ่อง ดวงตาสดใส ลักษณะเหมือนเด็กๆ สะดุดตาคนเป็นพิเศษ
โม่ถิงเซียวใจเต้น อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปจูบเธอ
มู่นวลนวลใช้มือต่อต้านหน้าผากของเขาไว้“เสี่ยวเฉินอยู่”
โม่ถิงเซียวหันศีรษะกลับไป มองไปที่โม่เจียเฉินที่นั่งอยู่บนโซฟาด้านหน้ากำลังหยิบโทรศัพท์มองดูอะไรบางอย่าง สายตารั่วไหลสีหน้าของความรังเกียจออกมา
โม่เจียเฉินเงยหน้าขึ้นมาคล้ายกับรู้สึกได้ พอดีกับที่ไปปะทะสายตาที่รังเกียจของโม่ถิงเซียว
โม่เจียเฉินสีหน้าอธิบายไม่ถูก เขาก็แค่นั่งอยู่ที่นี่เล่นเกมเท่านั้นเอง ทำไมถึงได้รับสายตาที่รังเกียจของพี่ชาย?
“พวกเราออกเดินทางกันเถอะ”โม่ถิงเซียวยื่นมือออกไปลูบศีรษะของมู่นวลนวล ลุกขึ้นยืนจูงเธอออกไปด้านนอก
บอดี้การ์ดจัดเก็บของให้มู่นวลนวลวางไว้ในรถเรียบร้อยแล้ว โม่ถิงเซียวให้ซือเย่หยุดงาน คนขับรถวันนี้ก็คือคนขับรถคนนั้นที่ปกติคอยรับส่งมู่นวลนวล
…
ในรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าประตูคุก
“ฮัลโหล? มู่นวลนวล?”
มู่หวันฉีนำโทรศัพท์มาดูด้านหน้า จึงพบว่ามู่นวลนวลตัดสายโทรศัพท์ของเธอทิ้ง
สีหน้าเธอเต็มไปด้วยความโมโห“มู่นวลนวลนางผู้หญิงต่ำช้าเลวทรามคาดไม่ถึงว่าจะกล้าตัดสายโทรศัพท์ฉัน!”
ซือเฉิงยวี่ที่อยู่ข้างๆนำบุหรี่ที่อยู่ในมือขยี้ พูดเสียงแหบออกมา“แค่นี้ก็ได้แล้ว กลับกันก่อนเถอะ”
ซือเฉิงยวี่เปิดปากพูด ความโมโหบนหน้าของมู่หวันฉีชั่วพริบตาเดียวก็หายไป เธอเผยรอยยิ้มที่ออดอ้อน มุ่งเข้าไปคลอเคลียซือเฉิงยวี่“คุณดีกับฉันมากจริงๆ ฉันไม่รู้ว่าจะต้องตอบแทนคุณยังไง…”
เธอชอบซือเฉิงยวี่จริงๆ
หลังจากที่ชอบซือเฉิงยวี่ เธอก็ไม่ได้ไปปาร์ตี้มั่วไปวันๆที่คลับเหล่านั้นอีกเลย
เธอไม่คิดไม่ฝันว่า ซือเฉิงยวี่จะสามารถหาวิธีมานำเธอออกมาได้
ก่อนช่วงเวลาสั้นๆนี้ เธอยังสิ้นหวังนึกว่าต้องถูกขังอยู่ในนี้สามปีแล้ว ผลลัพธ์คือไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ก็ถูกผู้ชายที่เธอชอบรับออกมา
จากนรกสู่วรรค์ ก็ผ่านมาได้แล้ว
มู่หวันฉีคลอเคลียอยู่ในออ้มอกซือเฉิงยวี่ มือเล็กๆที่อ่อนเหมือนไร้กระดูกกำลังลูบไล้อยู่บนหน้าอกของซือเฉิงยวี่
เพียงแค่ได้กลิ่นอายบนตัวเขา เธอก็รู้สึกว่ากำลังตาพร่าวิงเวียนขึ้นมา
“ซือเฉิง…”
มู่หวันฉีอยากจะใกล้ชิดเขามากกว่านี้ เข้าไปจะจูบเขา
ซือเฉิงยวี่เลิกคิ้วขึ้น หันศีรษะหลีกเลี่ยงริมฝีปากของเธอ แต่ก็ไม่ได้ผลักเธอ
จูบของมู่หวันฉีก็หยุดอยู่ที่บนคางของเขา เพียงแต่เธอไม่ได้สนใจเลย
เธอค่อยๆจูบจากคางของซือเฉิงยวี่ลงมาเรื่อยๆ…
มู่หวันฉีเคยมีประสบการณ์ด้านนี้มานานแล้ว และเข้าไปเที่ยวในคลับเป็นประจำ เปลี่ยนผู้ชายไม่ซ้ำหน้า
ซือเฉิงยวี่ไม่ให้เธอจูบริมฝีปากของเขา แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ปล่อยตามใจให้เธอจูบเขาลูบคลำเขา มู่หวันฉีก็รู้สึกว่าลมหายของเขาหนักหน่วงขึ้นมา
มู่หวันฉีก็มีอารมณ์ขึ้นมานานแล้ว เธอเข้าไปใกล้ใบหูของซือเฉิงยวี่ พูดด้วยเสียงออดอ้อน“คุณไม่คิดถึงฉันเหรอ?”
เสียงแหบของซือเฉิงยวี่ดังขึ้นมา“ทำไมเธอถึงยั่วสวาทขนาดนี้”
มู่หวันฉีได้ยินเขาพูดแบบนี้ ท่วมตัวก็ยิ่งเพิ่มความตื่นเต้น เธอร้องครางเบาๆ“อืม…คุณชอบที่ฉันเป็นแบบนี้ไหม…”
เธอนึกว่าซือเฉิงยวี่จะอดทนไม่ไหวแล้ว ผลลัพธ์คือวินาทีต่อมา เธอได้ยินซือเฉิงยวี่พูดอย่างเรียบเฉย“ไม่ชอบ น่ารังเกียจมาก”
มู่หวันฉีนิ่งอึ้งไป เพิ่งจะมองเห็นสีหน้าของซือเฉิงยวี่ที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ
มู่หวันฉีไม่สนใจสีหน้าที่รังเกียจบนหน้าของเขา“แต่ว่า ร่างกายของคุณไม่ได้เหมือนกับที่คุณบอกฉัน”
“ฉันต้องการ…”มู่หวันฉีสีหน้าเต็มไปด้วยกามารมณ์
ซือเฉิงยวี่ยังคงไม่ได้ผลักเธอ เห็นด้วยเงียบกับความคิดของเธอ
…
มู่นวลนวลกับโม่ถิงเซียวกลับมาถึงบ้านเก่า ก็ตรงไปพักผ่อนที่ห้องนอนของโม่ถิงเซียว
ครั้งก่อนที่กลับมา ห้องข้างในของโม่ถิงเซียวยังเป็นเหมือนสมัยวัยเด็ก ครั้งนี้ได้ถูกจัดให้เป็นระเบียบใหม่ เห็นได้ชัดว่าดูสงบและบรรยากาศดีกว่าเดิมเยอะมาก
มู่นวลนวลรู้สึกเสียดายนิดหน่อย
เวลาตอนเที่ยง คนรับใช้ก็เข้ามาเรียกพวกเขาไปทานอาหาร
มู่นวลนวลมาถึงห้องอาหาร จึงพบว่าพวกเขาเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง
เพิ่งจะนั่งลง ก็ได้ยินเสียงที่ทรงพลังของเจ้าสัวโม่พูดขึ้นมา“เฉิงยวี่ล่ะ?ทำไมเขาไม่มา?”
“เฉิงยวี่ออกไปธุระตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว น่าจะเป็นเรื่องงานค่ะ”คนที่พูดก็คือแม่ของซือเฉิงยวี่ โม่เหลียน
เจ้าสัวโม่สีหน้าไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
มู่นวลนวลนึกไปถึงตอนเช้าสายเรียกเข้าโทรศัพท์ของมู่หวันฉี ก็ครุ่นคิด ซือเฉิงยวี่ไปทำงาน?
เกรงว่าจะไปรับมู่หวันฉีเถอะ!