โม่ชิงเฟิงกับโม่เหลียนเป็นพี่น้องแท้ๆ จากสองวันที่เข้ามาก็เห็นทั้งสองคนอยู่ร่วมกัน เหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็ไม่เลว
ถ้าหากเพียงแค่ทั้งสองคนเดินพูดคุยกันปกติ ก็ไม่มีอะไร
แต่ว่าทั้งสองคนมีท่าทางระมัดระวังตัวเหมือนกลัวคนพบเห็น ดูเหมือนลับๆล่อๆน่าสงสัย
มู่นวลนวลเม้มริมฝีปาก ก็เดินตามขึ้นไปด้วย
เพราะว่าเป็นวันส่งท้ายปีเก่าวันที่สาม คนรับใช้ในบ้านเก่าก็น้อยกว่าปกติ พวกเขาเพิ่งจะทานอาหารข้ามคืนต้อนรับปีใหม่เสร็จ คนรับใช้เหล่านั้นก็กำลังทานอาหารข้ามคืนต้อนรับปีใหม่
ดังนั้น มู่นวลนวลเดินตามขึ้นไป เกือบจะไม่ได้พบกับคนรับใช้เลย
เธอเดินตามโม่ชิงเฟิงกับโม่เหลียน มองเห็นว่าโม่ชิงเฟิงพาโม่เหลียนเข้าไปในห้องของตัวเอง
ในเวลาที่จะปิดประตู โม่ชิงเฟิงยังยืนที่หน้าประตูมองไปรอบๆ
มู่นวลนวลก็เอาตัวหลบซ่อนด้านข้างหัวมุมอย่างระมัดระวัง
ในเวลาที่ออกมา ประตูห้องก็ปิดลงแล้ว
มู่นวลนวลเดินไม่ถึงหน้าประตูห้องของโม่ชิงเฟิง ใช้หูแนบประตูฟังว่าทั้งสองคนกำลังพูดอะไรกัน
เธอรู้สึกว่าทั้งสองคนนี้มีความลับอะไรอย่างแน่นอน
โม่เหลียนเป็นแม่ของซือเฉิงยวี่ ช่วงสองเดือนที่ผ่านนี้มาซือเฉิงยวี่ทันใดนั้นก็เปลี่ยนเป็นศัตรูกับโม่ถิงเซียว และเห็นได้ชัดเจนว่าโม่ถิงเซียวไม่ค่อยใกล้ชิดกับโม่เหลียน
ก่อนหน้านี้โม่ถิงเซียวกับซือเฉิงยวี่ ความสัมพันธ์ของโม่เจียเฉินก็ยังดีกันอยู่เลย กับความสัมพันธ์ของโม่เหลียนเป็นธรรมชาติที่จะไม่เลว เขาไม่อาจที่จะไม่ใกล้ชิดโม่เหลียนโดยไม่มีเหตุผล
ถึงแม้ว่าซือเฉิงยวี่มีปัญหา เขาก็ไม่อาจจะเป็นเพราะซือเฉิงยวี่ก็เลยเย็นชากับโม่เหลียน
มองจากบนตัวโม่เจียเฉินก็สามารถดูออก เขาไม่ได้เพราะว่ามีความแค้นกับซือเฉิงยวี่ จึงจะเย็นชากับโม่เจียเฉิน
ถ้าดูแบบนี้ บนตัวโม่เหลียนแน่นอนว่าต้องมีปัญหาอะไร
คิดแบบนี้ มู่นวลนวลก็รู้สึกว่าตระกูลที่มีทั้งเงินและอำนาจก็ยังสร้างความยุ่งยากจริงๆ
ความลับเยอะไปหมด
การปิดกั้นเสียงของห้องดีเกินไป มู่นวลนวลก็ฟังอะไรไม่ได้ยินแม้แต่นิดเดียว
ในเมื่อฟังอะไรก็ไม่ได้ยิน มู่นวลนวลจำเป็นต้องหันหลังออกมา
เธอเดินมาไม่ไกล ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้นมาจากเบื้องหลัง
มู่นวลนวลอาจจะเป็นเพราะว่ามีความผิดติดตัวทำให้หวาดระแวง ก็วิ่งขึ้นมา
วิ่งมาถึงมุมห้อง มู่นวลนวลก็สูดหายใจเข้า จึงชะโงกหน้าออกไปดู เธอพบว่าโม่ชิงเฟิงกับโม่เหลียนทั้งสองคนออกไปแล้ว
มู่นวลนวลจึงผ่อนคลายลง กลับไปถึงห้องก็เข้าห้องน้ำและไปที่ห้องอาหาร
เดินไปถึงประตูห้องอาหาร เธอก็พบกับโม่ถิงเซียวที่ก้าวเท้าเดินเร่งรีบเข้ามา
โม่ถิงเซียวมองเธอ ก็หยุดก้าวเดิน เลิกคิ้วขึ้นและถามเธอ“ทำไมนานมากจึงจะกลับมา?”
มู่นวลนวลเม้นริมฝีปาก รู้สึกว่าเรื่องเมื่อกี้ที่เกิดขึ้นยืนยันได้ว่าโม่ชิงเฟิงกับโม่เหลียนทั้งสองคนมีความลับอะไรแน่นอน ไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้
ถึงอย่างไรใครไม่มีความลับล่ะ?
ดังนั้น เธอก็ไม่อยากจะบอกโม่ถิงเซียว พูดออกไปสองคำ“ท้องผูก”
โม่ถิงเซียวขมวดคิ้วขึ้น ลูบศีรษะของเธอ จูงมือเธอเดินไปข้างใน
ในเวลาที่มู่นวลนวลเข้าไป ก็พบว่าโม่ชิงเฟิงก็อยู่ในห้องอาหารแล้ว
คล้ายกับว่ารู้สึกได้ถึงสายตาของมู่นวลนวล โม่ชิงเฟิงหันหน้ากลับมามองเธอ และยิ้มไปที่เธอ
เพราะว่าเรื่องเมื่อกี้ มู่นวลนวลมองเห็นรอยยิ้มโม่ชิงเฟิง รู้สึกว่าแปลกประหลาด
แต่สีหน้าของเธอไม่แสดงอะไรออกมา เพียงแค่ยิ้มไปที่โม่ชิงเฟิง
ผ่านไปชั่วครู่ โม่เหลียนก็เข้ามา
มู่นวลนวลกับโม่ถิงเซียวนั่งถัดจากเจ้าสัวโม่ โม่เหลียนก็นั่งลงอีกด้านถัดจากเจ้าสัวโม่
โม่เหลียนพูดอย่างนุ่มนวล“นวลนวลกี่เดือนแล้ว ยังมองเห็นท้องไม่ชัดเจนเลย”
“ยังไม่ถึงสองเดือน”มู่นวลนวลอดไม่ได้ที่จะลูบหน้าท้องของตัวเอง
โม่ถิงเซียวหันหน้าไปมองเธอ สายตาอ่อนโยน
สายตาของโม่เหลียนมองไปที่ทั้งสองคนไปมา ก็ยิ้มขึ้นมา
รอยยิ้มดูเหมือนเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและเจตนาดี
แต่มู่นวลนวลทันใดนั้นก็คิดไม่ออก ผู้หญิงอย่างโม่เหลียน ดูเหมือนจะอ่อนนุ่ม เธอสอนลูกชายทั้งสองคนนิสัยไม่เหมือนกับเธอแม้แต่นิดเดียว
ไม่ นิสัยของโม่เจียเฉินกับเธอแตกต่างกันมาก
แต่ซือเฉิงยวี่ท่าทางอ่อนโยนมาโดยตลอด ใครก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถทำเรื่องที่เลวทรามต่ำช้าเช่นนี้ได้
ซือเฉิงยวี่สามารถกลายเป็นคนที่ภายนอกกับภายในไม่เหมือนกัน หรือว่าเหตุผลจะเกี่ยวข้องกับครอบครัว
ถ้าหากเป็นแบบนี้ ความอ่อนแอของโม่เหลียนที่แสดงออกมาภายนอกหรือว่าจะเสแสร้ง
“นวลนวล?เป็นอะไรไป?”
มู่นวลนวลมีสติกลับมาอย่างรวดเร็ว จึงพบว่าตัวเองใจลอยจ้องมองโม่เหลียน
เธอยิ้มและพูด“คุณอา เป็นอะไรไป?”
“เมื่อกี้ถามเธอไปหลายครั้งแล้ว ถึงเวลาจะไปตรวจดูว่าเป็นลูกผู้ชายหรือลูกผู้หญิงสักหน่อยไหม?”น้ำเสียงของโม่เหลียนยังคงนุ่มนวล
“ไม่น่าจะค่ะ”มู่นวลนวลพูดพร้อมกับหันหน้าไปมองที่โม่ถิงเซียว
โม่ถิงเซียวขมวดคิ้มขึ้นมองไปที่โม่เหลียน น้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย“ลูกผู้ชายหรือว่าลูกผู้หญิงก็ไม่มีปัญหาอะไร”
บรรยากาศอึดอัดขึ้นเล็กน้อย
ตระกูลโม่เป็นแบบนี้ เป็นธรรมชาติที่อยากให้มู่นวลนวลคลอดลูกผู้ชาย
โม่เหลียนถูกโม่ถิงเซียวพูดแบบนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนเล็กน้อย ฝืนยิ้มออกมา ก็ไม่พูดจาอีก
มู่นวลนวลยื่นมือไปบีบมือของโม่ถิงเซียว
ถึงอย่างไรวันนี้ก็เป็นวันส่งท้ายปีเก่าวันที่สาม เธอรู้สึกว่าโม่ถิงเซียวควรจะเก็บความโมโห
ใครจะรู้ โม่ถิงเซียวหันหน้ากลับมากวาดสายตาเย็นชามองเธอ…
…
เมื่อถึงเที่ยงคืน ทุกคนก็กล่าวสวัสดีปีใหม่ซึ่งกันและกัน
เจ้าสัวโม่ให้อั่งเปาโม่ถิงเซียวกับมู่นวลนวลคนละซอง“พวกเธอสองคนดูแลกันดีดี”
มู่นวลนวลยิ้ม“ขอบคุณค่ะคุณปู่”
แน่นอน หลานๆคนอื่นในครอบครัวเขา ก็ได้รับอั่งเปาของเจ้าสัวโม่
กลับถึงในห้อง มู่นวลนวลเปิดซองอั่งเปาพลางสังเกตสีหน้าท่าทางของโม่ถิงเซียว
หลังจากที่โม่ถิงเซียวถูกโม่เหลียนถามเรื่องนั้น สีหน้าก็เปลี่ยน ไม่ดีขึ้นเลย
“โม่ถิงเซียว!”มู่นวลนวลเรียกเขา
โม่ถิงเซียวมองเธอด้วยสีหน้าไร้อารมณ์“อะไร?”
“คุณอาก็แค่ถามว่าจะไปตรวจดูเพศลูกไหม คุณมีท่าทีโต้ตอบรุนแรงทำไม?”
โม่ถิงเซียวไม่พูดจา
มู่นวลนวลลุกลงจากเตียงเดินไปนั่งข้างๆเขา“เธอก็ไม่ได้เจตนาร้าย คุณ…”
“ฉันสนใจว่ามีหรือไม่มีเจตนาร้าย?”โม่ถิงเซียวหันหน้ามามองเธอ สีหน้าเต็มไปด้วยความเยือกเย็น“มู่นวลนวล ตอนแรกที่ฉันยินยอมเธอกลับมาฉลองปีใหม่ที่บ้านเก่า ไม่ใช่ให้เธอมารู้สึกกล้ำกลืนปั้นหน้ายิ้มให้กับคนอื่น”
มู่นวลนวลนิ่งอึ่งไป
เดิมทีเขาโมโหเพราะแบบนี้
“ฉันไม่ได้รู้สึกกล้ำกลืน จริงๆนะ”
มู่นวลนวลอยากยิ้มออกมา หลายวันมานี้โม่ถิงเซียวดูแลเธออย่างเข้มงวด เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนเด็กน้อย จะรู้สึกกล้ำกลืนที่ไหนกัน
โม่ถิงเซียวจ้องมองเธอหลายวินาที เหมือนกับว่าจะแน่ใจว่าเธอไม่ได้พูดโกหก
ทันทีหลังจากนั้น เขาก็พูดเสียงเบา“นอนเถอะ”
…
วันต่อมา
ในเวลาที่มู่นวลนวลตื่นขึ้นมา โม่ถิงเซียวก็ไม่ได้อยู่ข้างกายแล้ว
เสียงคนรับใช้ดังขึ้นมาจากด้านนอก“คุณหญิง คุณตื่นหรือยัง?เจ้าสัวโม่ให้คุณไปหาท่าน คุณชายก็รอคุณอยู่ที่นั่นแล้ว”
มู่นวลนวลได้ยิน ก็ลุกขึ้นนั่งทันที“ตื่นแล้ว จะไปเดี๋ยวนี้”
เธอมองดูเวลา เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงแล้ว
เธอรีบลุกขึ้นล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนเสื้อผ้า และไปที่ห้องเจ้าสัวโม่
ห้องของเจ้าสัวโม่เปิดอยู่ ข้างในไม่มีคน
เธอออกมาจากในห้อง ก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวที่หน้าบันได
“คุณปู่?”
เธอเรียกก็พบว่าไม่มีเสียงตอบรับ ก็เดินเข้าไป
ทันใดนั้น ก็มีเสียงของหนักที่กลิ้งตกลงบันไดดังขึ้นมา
มู่นวลนวลก้นบึ้งในใจตึงเครียด วิ่งลงจากบันได
เธอวิ่งเข้าไปก็พบว่า เจ้าสัวโม่กลิ้งตกลงจากบันไดนอนราบอยู่บนพื้น พื้นสีขาวเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด
มู่นวลนวลเบิกตากว้าง ผ่านไปหลายวินาทีจึงตอบสนองกลับมา ตะโกนเรียกด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา“คุณปู่!”
มีคนรับใช้เดินผ่านมา ตะโกนเรียกออกไป
“ว้าย!เร็วเข้า นายท่านหกล้ม…”
“เกิดอะไรขึ้น…เจ้าสัวโม่!”
“รีบเรียกหมอมา!”