ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 251 เธอมีพยานในที่เกิดเหตุหรือไม่?

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

เสียงของคนรับใช้ดึงดูดให้คนเข้ามา

มู่นวลนวลรู้สึกงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าเธอ เมื่อเห็นผู้คนรายล้อมอยู่รอบๆเจ้าสัวโม่ มู่นวลนวลจึงวิ่งลงไป

โม่เหลียนก็ส่งเสียงเรียกและเดินเข้ามา:“พ่อ!พ่อเป็นอะไร พ่อ?”

เธอวิ่งลงบันไดไปได้เพียงสองก้าวก็เห็นโม่ถิงเซียวกับโม่ชิงเฟิงรีบเดินเข้ามา

ราวกับว่าส่งกระแสจิต โม่ถิงเซียวเงยหน้าขึ้นและมองไปที่เธอ เขาขมวดคิ้วราวกับว่าเขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็มองเธอโดยที่ไม่ได้พูดอะไร

สายตาของเขาดูเยือกเย็นมาก

มู่นวลนวลเดินลงไป คุกเข่าลงที่พื้นแล้วตะโกนเรียก:“คุณปู่?”

เจ้าสัวโม่ตกลงมาจากบันไดที่สูงมาก ทำให้มีเลือดออกเยอะ อีกทั้งเขาก็อายุมากแล้ว ไม่มีใครกล้าขยับเขาสุ่มสี่สุ่มห้า

เจ้าสัวโม่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ คงจะเป็นลมแล้วตกลงไป

ไม่นานหมอประจำตระกูลก็มา เขาจัดการกับเจ้าสัวโม่ และจากนั้นก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

มีคนส่วนหนึ่งตามไปที่โรงพยาบาล

เมื่อเขากำลังจะจากไปโม่ชิงเฟิงก็หันหน้าไปมองคนรับใช้ที่เห็นว่าเจ้าสัวโม่ตกลงมาในตอนแรก:“พวกเธอก็ตามไปด้วย”

โชคดีที่มีโรงพยาบาลเอกชนภายใต้การบริหารของโม่กรุ๊ป และสามารถทำการผ่าตัดได้ทันที

“จากการวินิจฉัยเบื้องต้นพบว่ามีเลือดออกในกะโหลกศีรษะ และร่างกายมีกระดูกหักหลายจุด สถานการณ์ตอนนี้ไม่ดี จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน”

คำพูดของหมอทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และบรรยากาศก็นิ่งสงบ

เมื่อประตูห้องผ่าตัดปิดลง ทุกคนก็รออยู่ข้างนอก

มู่นวลนวลเหลือบมองโม่ถิงเซียวข้างๆ เธอเห็นเขาสีหน้าเย็นชา จึงยื่นมือไปจับมือของเขา

แต่โม่ถิงเซียวไม่ได้จับมือเธอกลับเหมือนอย่างเคย และไม่หันกลับมามองเธอ

ในทางเดินที่เงียบสงัด เสียงของโม่ชิงเฟิงก็ดังขึ้น

“ใครเจอนายเจ้าสัวคนแรก?” น้ำเสียงของเขาเคร่งขรึม

เมื่อมู่นวลนวลได้ยินก็มองไป

“ฉันเอง” คนที่ตอบคือคนรับใช้ที่ตามมาด้วย

ดูเหมือนว่าคนรับใช้จะกลัวว่าโม่ชิงเฟิงจะตำหนิเธอเพราะเรื่องนี้ สีหน้าของเธอเคร่งเครียด และน้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

ทันใดนั้นก็ดูเหมือนว่าเธอจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอชี้นิ้วไปที่มู่นวลนวล:“ฉันได้ยินเสียงของคุณนายจึงเดินเข้าไป แต่หลังจากที่ฉันเข้าไป เจ้าสัวก็ล้มลงแล้ว……”

เมื่อโม่ชิงเฟิงได้ยินอย่างนั้น เขาก็มองไปที่มู่นวลนวล:“นวลนวล เธอพูดมาว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”

ทันทีที่เขาพูดออกมา สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่มู่นวลนวล

ในใจของมู่นวลนวลมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี

พวกเขาคิดว่าเธอผลักเจ้าสัวโม่ตกบันได?

มู่นวลนวลสงบสติอารมณ์และพูดว่า:“ก่อนหน้านั้นมีคนรับใช้มาเรียกฉัน บอกว่าคุณปู่บอกให้ฉันไปหา ตอนที่ฉันไปหาเขาที่ห้อง ที่นั่นไม่มีคนอยู่ ฉันได้ยินเสียงเอะอะที่บันได จึงรีบเดินไปดู และเห็นว่าคุณปู่……ล้มลงมาแล้ว”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นโม่ชิงเฟิงก็ถามอย่างใจเย็น:“คนรับใช้คนนั้นบอก?”

มู่นวลนวลส่ายหัว:“ฉันไม่รู้ ตอนนั้นคนรับใช้คนนั้นเรียกฉันอยู่ที่ด้านนอกห้อง”

โม่ชิงเฟิงได้ยินอย่างนั้นก็ขมวดคิ้ว แล้วมองไปที่มู่นวลนวลที่กำลังจะพูด โม่ถิงเฟิงเดินมาขวางข้างหน้าเธอ และพูดด้วยสีหน้าเย็นชา:“คุณกำลังสงสัยว่ามู่นวลนวลผลักคุณปู่ตกลงมาจากบันได?”

โม่ชิงเฟิงเงยหน้าขึ้นมองโม่ถิงเซียว:“นายท่านเกิดเรื่องขึ้นที่บ้าน แน่นอนว่าต้องซักถามทุกคนที่เกี่ยวข้อง”

โม่ถิงเซียวหัวเราะอย่างไม่พอใจ:“ทุกคนล้วนดูออกว่าคุณปู่ชอบมู่นวลนวลมาก เธอมีเหตุผลอะไรที่ต้องทำแบบนั้นกับคุณปู่?”

“แน่นอนว่าเธอมีเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้น!”

ทันใดนั้นเสียงของโม่เอินหยาก็ดังขึ้น

เมื่อทุกคนหันไปมองก็เห็นว่าโม่เอินหยากับซือเฉิงยวี่เดินมาด้วยกัน

หลังจากที่พวกเขารู้ว่านายท่านตกบันไดก็รีบมา

โม่ชิงเฟิงดุโม่เอินหยาอย่างรุนแรง:“เอินหยา รู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่?”

“แน่นอนว่าฉันรู้ฉันกำลังพูดอะไร!”

ขณะที่พูดโม่เอินหยาก็หันไปมองมู่นวลนวล เธอยิ้มและพูดว่า:“มู่นวลนวลเธอรู้สึกไม่พอใจที่คุณปู่ส่งผู้หญิงไปที่คฤหาสน์ของพี่สาม ดังนั้นเธอจึงลงมือกับคุณปู่อย่างโหดเหี้ยม?”

มู่นวลนวลสีหน้าเปลี่ยน และมองโม่เอินหยาด้วยความไม่เชื่อ:“ฉันเปล่านะ”

“เปล่า?” โม่เอินหยายิ้มมุมปาก:“ในช่วงสองวันที่ผ่านมาในตระกูลโม่ก็มีเธอคนเดียวที่เป็นคนแปลกหน้า นอกจากเธอแล้วจะเป็นใครได้อีก?และยังจะมีใครที่ใจร้ายลงมือกับคุณปู่ได้ลงคอ?เธอบอกว่าเธอเปล่า?พี่สามเชื่อเธอหรอ?”

เมื่อมู่นวลนวลได้ยินอย่างนั้น หัวใจของเธอก็บีบแน่น

โดยสัญชาตญาณของเธอ เธอรู้สึกว่าโม่ถิงเซียวจะเชื่อเธอ

แต่นั่นก็เป็นเพียงสัญชาตญาณเท่านั้น

เธออดไม่ได้ที่จะหันไปมองโม่ถิงเซียว

โม่ถิงเซียวค่อยๆดึงมือของเขาออกจากมือของเธอ เขาจ้องมองเธอและพูดว่า:“เธอเกลียดคุณปู่เพราะเรื่องนั้นจริงๆหรอ?”

ในสมองของมู่นวลนวลมีีเสียงดัง “หึ่งๆ”

โม่ถิงเซียวก็กำลังสงสัยเธอ?

เขาไม่พูดอยางตรงไปตรงมาว่าเชื่อเธอ แต่ถามเธออย่างสงสัย

มู่นวลนวลรู้สึกว่าความเหน็บหนาวแทรกซึมเข้ามาจากเท้าของเธอ

เธอยังคงส่ายหัวเหมือนกับในตอนแรก และปฏิเสธว่า:“ฉันเปล่า”

โม่ถึงเซียวเหลือบไปมองเธอ แล้วละสายตาออกมา จากนั้นก็ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“เธอมีพยานในที่เกิดเหตุหรือไม่?ตอนนั้นมีคนที่อยู่ข้างๆเธอไหม?”

มู่นวลนวลถอยหลังไปครึ่งก้าว เธอมองโม่ถิงเซียวด้วยสายตาที่ไม่คุ้นเคย:“โม่ถิงเซียว คุณหมายความว่ายังไง?ตอนนี้คุณให้ฉันเป็นผู้ต้องสงสัยที่ทำร้ายคุณปู่ ดังนั้นคุณจึงเริ่มสอบสวนฉัน?”

เสียงของโม่ถิงเซียวไม่แสดงออกใดๆ:“ตอบคำถามของฉัน”

เสียงสุดท้ายของเขายังพูดไม่ทันจบ มู่นวลนวลก็พูดเสียงดังว่า:“ฉันไม่ตอบ!

“ฉันไม่ได้ทำร้ายคุณปู่ มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องยอมให้คุณมาสอบสวน!”

ถ้าในตอนนี้คนที่ถามคำถามเธอคือโม่ชิงเฟิง มู่นวลนวลก็คงไม่ต่อต้านอย่างนี้

เธอไม่คิดว่าโม่ถิงเซียวจะเป็นคนแรกที่ตั้งคำถามกับเธอด้วยความสงสัย

โม่ชิงเฟิงยืนขึ้นและตบไหล่โม่ถิงเซียว :“ถิงเซียว พูดคุยกันดีดี นวลนวลกำลังท้องอยู่นะ ตอนนี้คุณปู่ยังอยูในห้องผ่าตัด และเรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ทุกคนล้วนแต่เป็นผู้ต้องสงสัย แต่นวลนวลเป็นภรรยาของแก แกไม่ควรจะสงสัยเธออย่างนี้”

คำพูดของโม่ชิงเฟิงดูเหมือนจะสมเหตุสมผลในแวบแรก แต่หลังจากได้ลิ้มรสมาสองครั้งก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เมื่อกี้เห็นได้ชัดว่าโม่ชิงเฟิงถามว่าใครเป็นคนพบเจ้าสัวโม่ก่อน ตอนนี้กลับออกมาพูดไกล่เกลี่ย และบอกว่าเรื่องนี้ยังได้ข้อสรุป……

เมื่อโม่เอินหยาได้ยินที่โม่ชิงเฟิงพูด ใบหน้าของเขาดูไม่ยอม:“คุณลุง เรื่องของคุณปู่แน่นอนว่าต้องมีส่วนเกี่ยวกับมู่นวลนวล!”

“เอินหยา อย่าเอะอะ คุณปู่ยังอยู่ในห้องผ่าตัด รอให้เขาผ่าตัดแล้ว พวกเราค่อยมาจัดการเรื่องนี้กัน แต่……”

โม่ชิงเฟิงพูดถึงตรงนี้แล้วก็หยุด เขากวาดสายตามองทุกคน แล้วก็ไม่หยุดที่มู่นวลนวล:“ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถไปจากที่นี่ได้โดยพลการ”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท