เช้าตรู่ของวันต่อมา
ในเวลาที่มู่นวลนวลตื่นขึ้นมา ข้างกายก็ไม่พบเงาของโม่ถิงเซียว
เธอลุกขึ้นลงจากเตียง หยิบเสื้อโค้ทขึ้นมาใส่ เดินไปที่ประตูพบว่าประตูไม่ได้ปิดสนิท
โม่ถิงเซียวจองห้องชุด ด้านนอกห้องคือห้องรับแขก
มองทะลุผ่านช่องประตูที่ไม่ได้ปิดสนิท มู่นวลนวลมองเห็นโม่ถิงเซียวกำลังนั่งอยู่บนโซฟาโทรศัพท์
โม่ถิงเซียวพยายามกดเสียงให้ลดลง มู่นวลนวลเพียงแค่มองเห็นริมฝีปากของโม่ถิงเซียวกำลังขยับ ฟังไม่ชัดเจนว่าเขากำลังพูดอะไร
ทันใดนั้น โม่ถิงเซียวเหมือนรู้สึกได้เงยหน้าขึ้นไปมองตรงไปที่มู่นวลนวล
ถูกจับได้แล้ว
มู่นวลนวลถือโอกาสเปิดประตูเดินตรงเข้าไป
โทรศัพท์ในมือของเขายังไม่ได้วางสาย เพียงแค่ยื่นมือไปหยิบกาน้ำที่อยู่บนโต๊ะรินน้ำอุ่นหนึ่งแก้วให้มู่นวลนวลส่งให้เธอ
มู่นวลนวลยื่นมือออกมารับ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพูดต่อไป
เวลานี้ ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
มู่นวลนวลมองโม่ถิงเซียว โม่ถิงเซียวพูด“ฉันสั่งอาหารเช้าให้มาส่ง”
มู่นวลนวลเปิดประตูไม่แสดงท่าทีอะไร
พนักงานผู้ชายเข็นรถอาหารเช้าเดินเข้ามา นำอาหารเช้าวางไว้บนโต๊ะอาหาร“สวัสดีครับท่าน นี่คืออาหารเช้าที่คุณชายโม่สั่งมา ขอให้ท่านรับประทานอาหารอย่างมีความสุข”
“ขอบคุณ”มู่นวลนวลพูดขอบคุณ ก็เดินไปพร้อมพนักงานและจะล็อคประตู
เมื่อถึงหน้าประตู ทันใดนั้นพนักงานผู้ชายก็หันหน้าเรียกเธอ“คุณมู่”
มู่นวลนวลตกใจเล็กน้อย เงยหน้ามองไปที่พนักงานผู้ชายทันที
พนักงานผู้ชายยื่นมือมายัดกระดาษใส่ในมือของเธอ ก็จากไปอย่างรวดเร็ว
มู่นวลนวลก็ตอบสนองกลับมาอย่างรวดเร็ว นำกระดาษเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ
ในเวลาที่หันกลับมา เธอมองไปที่ทิศทางของโม่ถิงเซียวอย่างระมัดระวัง
พอดีกลับที่โม่ถิงเซียววางสายโทรศัพท์หันหน้าไปมองเธอ“เป็นอะไร?”
“ไม่มีอะไร”มู่นวลนวลยื่นมือไปปิดประตู เดินมานั่งที่หน้าโต๊ะอาหารด้วยสีหน้าปกติ
มู่นวลนวลไม่รู้ว่าพนักงานผู้ชายให้กระดาษที่เขียนอะไรกับเธอ แต่ก็ไม่กล้าที่จะรีบไปดู ทานอาหารก็ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กลัวว่าโม่ถิงเซียวจะมองเห็นความผิดปกติของเธอ เธอทำได้แค่ก้มหน้าก้มตาทานอาหาร
ไม่ง่ายที่จะทานหมด มู่นวลนวลลุกขึ้นยืนเดินไปห้องน้ำ
ล็อคประตู เธอหยิบกระดาษออกมา เพียงแค่มอง ก็เบิกตาโตทันที
เนื้อหาในกระดาษ เพียงแค่สามคำง่ายๆ“อยากหนีไหม?”
ด้านล่างนี้เป็นเนื้อหาผสมตัวอักษรและตัวเลข ดูเหมือนจะเป็นหมายเลขป้ายทะเบียนรถยนต์
ทั้งยัง ป้ายทะเบียนรถยนต์นี้ดูเหมือนจะคุ้นตาเล็กตาน้อย
มู่นวลนวลมองแค่สองครั้ง ก็จำป้ายทะเบียนรถยนต์ได้ หลังจากนั้นก็นำกระดาษโยนลงในชักโครก และกดน้ำในชักโครก
ในเวลาที่เปิดประตูห้องน้ำออกมา มู่นวลนวลเงยหน้าก็มองเห็นสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกของมาโม่ถิงเซียว
โม่ถิงเซียวน้ำเสียงไม่ดี“เข้าห้องน้ำล็อคประตู กำลังคิดหาวิธีหนี?”
“ใช่”มู่นวลนวลยกคางขึ้น พูดจริงจัง“คิดหาวิธีนิดหน่อย พบว่าในห้องน้ำหนีออกไปไม่ได้”
โม่ถิงเซียวสีหน้าหนาวขึ้นมา เกือบจะกัดฟันพูดประโยคออกมา“เธอกวนโมโหฉันก็ไม่มีประโยชน์กับเธอ”
มู่นวลนวลแบมือออก“ไม่กวนโมโหคุณ ก็ไม่มีประโยชน์กับฉัน?”
ยิ่งกว่านั้น ดูท่าทางโม่ถิงเซียวที่โมโห คาดไม่ถึงว่าในใจเธอจะรู้สึกสบายใจ
…
หลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จ โม่ถิงเซียวก็พามู่นวลนวลคืนห้อง เตรียมตัวกลับเซี่ยงไฮ้
เดินออกมาหน้าประตูโรงแรม ซือเย่ก็มีเรื่องพูดกับโม่ถิงเซียว มู่นวลนวลก็ยืนจับตามองประตูโรงจอดรถยนต์ตำแหน่งที่จอดรถยนต์
มองเข้าไป เธอก็มองไม่เห็นป้ายทะเบียนรถยนต์ในกระดาษนั่น
นี้มันเกิดอะไรขึ้น?
หมายเลขป้ายทะเบียนรถยนต์นั่นเธอคุ้นตามากจริงๆ และเจ้าของป้ายทะเบียนรถยนต์นั่นพูดว่ารู้จักกับเธอ
เห็นได้ชัดเจนว่าอยากช่วยเธอ
และเธอจะมีเพียงโอกาสเดียวที่จะหนีจากโม่ถิงเซียวก็คือตอนนี้แล้ว
ในเวลานั้นที่ขึ้นรถยนต์โม่ถิงเซียว เธอก็ทำได้เพียงกลับเซี่ยงไฮ้กับโม่ถิงเซียว
เวลานี้ เธอสังเกตรถยนต์สีดำคันหนึ่งปรากฏขึ้นอยู่ที่หัวมุมไม่ไกล
รถขับถอยหลังไปสองเมตรและขับมาข้างหน้าอีกสองเมตร
นี้คือการกระทำที่ทำให้คนประหลาดใจ ดึงดูดความสนใจของมู่นวลนวล
เธอเดินไปข้างหน้าสองก้าว ก็มองเห็นป้ายทะเบียนรถยนต์คันนั้นชัดเจน
ป้ายทะเบียนรถยนต์คันนั้นตรงกับที่เขียนในกระดาษนั่น
มู่นวลนวลในใจตื่นเต้นเล็กน้อย และตึงเครียด
เธอหันหน้าไปมองโม่ถิงเซียว
โม่ถิงเซียวก็ยืนห่างจากเธอสองเมตร มองเห็นเธอมองเข้ามา ก็กวักมือไปที่เธอ บอกใบ้ให้เธอเข้ามา
มู่นวลนวลภายในใจเต้นตึกตัก ตึงเครียดผิดปกติ
ตอนนี้มีโอกาสวางอยู่ตรงหน้า ให้เธอสามารถหลุดพ้นจากการควบคุมของโม่ถิงเซียว เธอจะสามารถปล่อยได้ยังไง
มู่นวลนวลเดินตรงไปที่โม่ถิงเซียว เหลือบไปเห็นรถยนต์คันสีดำนั้นขับตรงเข้ามา ยิ่งใกล้เข้ามามากขึ้น…
มู่นวลนวลวัดด้วยสายตา ความห่างจากเธอไปถึงรถยนต์คันนั้น ถ้าหากเธอรอวิ่งเข้าไป มากสุดน่าจะครึ่งนาที
ต้องการเพียงแค่ครึ่งนาที…
ระหว่างที่กำลังครุ่นคิด เธอก็เดินมาถึงตรงหน้าของโม่ถิงเซียวแล้ว
โม่ถิงเซียวจับมือของเธอ สายตามีรอยยิ้ม“รออีกนิดก็กลับเซี่ยงไฮ้แล้ว”
รอยยิ้มนี้ ในสายตาของมู่นวลนวล ดูไม่เข้าตา
ถึงแม้ว่าในใจของมู่นวลนวลเดือดพล่านแล้วก็ตาม แต่สีหน้าภายนอกก็ยังสงบนิ่ง“งั้นหลังจากที่กลับไปพวกเราจะพักที่ไหน?”
น้ำเสียงของโม่ถิงเซียวผ่อนคลายเล็กน้อย“อยากพักที่ไหนก็ได้หมด”
“จริงเหรอ?”
“แน่นอน”
มู่นวลนวลเหลือบไปมองรถยนต์คันนั้นอีกครั้ง ในใจก็วุ่นวาย ก็เงยหน้าขึ้นไปจูบริมฝีปากของโม่ถิงเซียว
จูบกะทันหันของเธอ ทำให้โม่ถิงเซียวมึนงงเล็กน้อย ถูกมู่นวลนวลจูบไปหลายวินาที พึ่งจะตอบสนองกลับมายื่นมือมาจับเอวของมู่นวลนวลเอาไว้
ซือเย่กับบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่รู้ตัวว่าต้องทำอะไรก็หันหลังกลับไป
มู่นวลนวลเป็นฝ่ายจูบเขา เขาไม่สามารถปฏิเสธได้เลย
ในเวลาที่เขาจูบอย่างลึกซึ้ง ทันใดนั้นมู่นวลนวลก็ปลีกตัวออก
โม่ถิงเซียวไม่ปล่อยเธอ แต่เขาปล่อยความระมัดระวังลง
มู่นวลนวลใช้โอกาสนี้ ผลักโม่ถิงเซียวไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
โม่ถิงเซียวที่ไม่ได้เตรียมป้องกัน ถูกมู่นวลนวลผลักออกไป ก็ล้มลงไปบนพื้น
ในชั่วพริบตาที่เขาล้มลงไป มู่นวลนวลกับโม่ถิงเซียวก็จ้องมองกันและกัน มองเห็นแววตาดำขลับคู่นั้นในเวลาที่ปรากฏแวบความไม่อยากจะเชื่อ เธอก็กัดริมฝีปาก
มู่นวลนวลได้อิสระ ก็รีบวิ่งอย่างรวดเร็วไปที่รถยนต์คันนั้น
ในเวลาที่เธอกำลังวิ่งไปที่รถยนต์คันนั้น ก็ช่วยเปิดประตูรถให้เธอแล้ว
เสียงที่โมโหของโม่ถิงเซียวที่อยู่ด้านหลัง“มู่นวลนวล!”
จิตใต้สำนึกของมู่นวลนวลสั่งให้เธอปกป้องหน้าท้องของตัวเอง แต่เท้าก็วิ่งเพิ่มความเร็วมากขึ้น
เสียงตะโกนร้องของบอดี้การ์ดที่อยู่กับโม่ถิงเซียวเมื่อได้สติกลับมาก็ดังขึ้นมา เริ่มไล่ตามมู่นวลนวล
ช่วงเวลาสั้นๆก่อนที่บอดี้การ์ดจะไล่ตามมู่นวลนวล เธอก็วิ่งมาถึงด้านหน้ารถยนต์คันนั้น ก้มตัวเข้าไปนั่งในรถ
เธอปิดประตูรถอย่างรวดเร็ว หอบหายใจและหันหน้ากลับไปมองคนที่อยู่ด้านหลัง
บอดี้การ์ดวิ่งตามเธอมาหลายก้าว ก็กลับไปขับรถยนต์ไล่ตามมา แต่โม่ถิงเซียวยืนอยู่ด้านหลังสุด เธอมองสีหน้าเขาไม่ชัดเจน