เครื่องบินบินผ่านมาสิบชั่วโมงแล้ว เดินทางมาถึงจุดหมายปลายทาง
ในประกาศ น้ำเสียงนุ่มนวลของแอร์โฮสเตสที่พูดเตือนผู้โดยสารว่าเครื่องบินกำลังจะลงจอด
มู่นวลนวลหันหน้าไปมองนอกหน้าต่าง มองเห็นมหาสมุทรสีเขียวมรกต
นี้เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งทวีป ล้อมรอบไปด้วยทะเลทั้งสี่ทิศ มีพืชและสัตว์ที่เป็นเอกลักษณ์และภูมิทัศน์ธรรมชาติมากมาย
เป็นความบังเอิญ ที่นี่ยังเป็นประเทศที่มู่นวลนวลใฝ่ฝัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอเคยเอ่ยกับซินชูฮัน
เพียงแต่ นั่นเป็นเรื่องที่นานมากแล้ว
เธอคาดเดาว่าซินชูฮันจองตั๋วเครื่องบินของประเทศนี้ เป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น
เมื่อลงจากเครื่อง มู่นวลนวลรู้สึกถึงคลื่นความร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า
ประเทศนี้ล้อมรอบไปด้วยทะเลสี่ทิศ เดือนมกราคมนี้เป็นเวลาที่อบอุ่นที่สุด
มู่นวลนวลเดินออกไปพร้อมฝูงชน
เธอโดดเดี่ยวคนเดียว ไม่ได้นำกระเป๋าเดินทางใดๆมา ใบหน้าที่สวยงามของชาวตะวันออก โดดเด่นและโดดเดี่ยวอยู่ในฝูงชน
ผู้คนที่เดินผ่านไปมามองเธออย่างประหลาดใจ
โชคดีในช่วงเวลาที่เธอเข้าเรียนค่อนข้างจะจริงจัง ถึงแม้ว่าภาษาอังกฤษไม่ค่อยจะดี แต่การสื่อสารพื้นฐานก็ไม่มีปัญหา
เธอเรียกรถและเข้าไปพักโรงแรมแห่งหนึ่งที่ใกล้ที่สุด ยังไม่ได้พักผ่อน ก็ออกไปซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
ก่อนหน้านี้ในเวลาที่ส่งบทละครให้ฉินซุ่ยซาน ส่งไปเพียงแค่ครึ่งหนึ่ง ตอนนี้ฉินซุ่ยซานรู้แล้ว ไม่รู้ว่าจะโมโหมากแค่ไหน
มู่นวลนวลเข้าสู่ระบบในอีเมลของตัวเอง ในนี้ยังมีอีเมลที่ยังไม่ได้อ่านหลายฉบับ
ฉบับแรกเป็นซินชูฮันส่งเข้ามา เป็นเวลาก่อนหน้านี้สามชั่วโมง เวลานั้นเธอเพิ่งจะลงจากเครื่องบิน
ฉบับที่สามเป็นฉินซุ่ยซาน ข้างล่างสุดที่ติดต่อกันเป็นของเซินเหลียง
เธอใช้อีเมลนี้ตอนสมัยที่ยังเข้าเรียน คนที่รู้มีไม่เยอะ เวลาส่วนใหญ่จะใช้สำหรับเรื่องทำงาน แต่เธอมีเพื่อนน้อย ยังไม่ได้สมัครอีเมลส่วนตัวอย่างอื่น
มู่นวลนวลเลื่อนเม้าส์ ลากมาถึงด้านล่างสุดของอีเมลที่ไม่ได้อ่าน นำอีเมลฉบับนั้นที่เซินเหลียงส่งมาก่อนเปิดอ่าน
อีเมลฉบับด้านล่างสุดนั้น เซินเหลียงส่งมาไม่กี่วันก่อนที่เธอวางเพลิงคฤหาสน์วันนั้น เซินเหลียงส่งมาให้เธอ
หลังจากที่เธอวางเพลิงคฤหาสน์ ก็ไม่เคยได้เล่นโทรศัพท์อีก วิธีเดียวที่เซินเหลียงสามารถติดต่อเธอได้ ก็คือส่งอีเมลมาหาเธอ
เธอเปิดอ่านอีเมลฉบับนั้น
เพียงมองเห็นแค่ประโยคแรก มู่นวลนวลก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา
“มู่นวลนวล แม่งเธออยู่ที่ไหน คฤหาสน์เผาจนสะอาดแล้ว คนก็หาไม่พบ นี้คือสิ่งที่เธอทำเกินไปแล้ว เห็นอีเมลแล้วรีบติดต่อหาฉัน ไม่อย่างนั้นฉันลงรูปเธอบนเว็บไซต์วันไนต์สแตนด์ก…”
เซินเหลียงโมโหเหมือนเด็กจริงๆ ชอบขู่เธอด้วยเรื่องไร้สาระ
อีเมลฉบับต่อมา มู่นวลนวลเปิดฉบับที่สอง
“ฉันรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่!!ถ้ามีชีวิตอยู่ก็ส่งเสียงกลับมาหน่อย!!พรุ่งนี้กูจะโพสต์รูปมึง…”
ต่อมาก็ฉบับที่สาม“ อีดอก ส่งเสียงกลับมาหน่อย”
มู่นวลนวลเผลอยิ้มออกมา ส่งอีเมลสั้นๆตอบกลับไปให้เซินเหลียง“สบายดี อย่าคิดถึงฉัน”
หลังจากนั้น เธอก็เปิดอีเมลที่ฉินซุ่ยซานส่งให้เธอ
“มู่นวลนวล คุณให้ฉันครึ่งหนึ่ง?คุณให้บทละครฉันแค่ครึ่งหนึ่งเกิดอะไรขึ้น?คุณ…”
นั่งอยู่อีกด้านหนึ่งของมหาสมุทร กั้นไว้เพียงหน้าจอ มู่นวลนวลก็สามารถรับรู้ถึงเวลาที่ฉินซุ่ยซานส่งอีเมลฉบับนี้ว่ามีความโมโหพุ่งทะลุฟ้า
มู่นวลนวลตอบกลับเธอ“ส่งสัญญาให้ฉันก่อน เค้าโครงเรื่องละครครึ่งหลังส่วนที่เหลือก็จะส่งให้คุณ”
สุดท้ายเป็นอีเมลของซินชูฮัน
เธอกับซินชูฮันรู้จักกันตอนเด็ก ก่อนหน้าที่ความสัมพันธ์จะแตกร้าว ในเวลาที่เข้าเรียนบางครั้งเธอจำเป็นต้องเรียนรู้ข้อมูล ก็จะไปหาซินชูฮันให้ช่วย
ดังนั้น ซินชูฮันก็รู้อีเมลของฉัน
อีเมลของซินชูฮันส่งมาเหมือนข้อความสั้นๆ มีเพียงแค่สองคำ“ถึงแล้ว? ”
มู่นวลนวลไม่ได้ตอบกลับเขา
ครั้งนี้ที่เธอสามารถหนีจากโม่ถิงเซียวได้สำเร็จ ก็เป็นหนี้น้ำใจของซินชูฮัน
เป็นหนี้ก็ต้องใช้คืน
แต่ตอนนี้เธอยังคืนไม่ได้ ก็ไม่ต้องสนใจเขาก่อน
ปิดอีเมล ก็มีอีเมลใหม่เตือนเข้ามา เป็นเซินเหลียงส่งเข้ามา
เนื้อหาในอีเมลถามปัญหาติดต่อกันไม่ขาดสาย“เธออยู่ที่ไหน?มีเงินใช่ไหม?ปลอดภัยไหม?”
มู่นวลนวลในใจรู้สึกซาบซึ้งใจ เวลานี้ยังสามารถเป็นห่วงเธอ มีเพียงแค่เซินเหลียง
ส่งอีเมลตอบกลับเซินเหลียง มู่นวลนวลก็เก็บของแม้แต่ห้องก็ไม่ได้คืน ก็ออกไปจากโรงแรมโดยตรง
โม่ถิงเซียวฉลาดเกินไปแล้ว ถ้าหากว่าเขาต้องการจะหา จะช้าหรือเร็วก็จะต้องหาเจอ ในสายตาของเขา มู่นวลนวลไม่เคยมีความโชคดี
มู่นวลนวลหาค้นหาโฮมสเตย์ในอินเตอร์เน็ต เจ้าของบ้านเป็นคู่รักสองคู่ ลูกของพวกเขาทำงานที่เมืองอื่น โฮมสเตย์ต้อนรับลูกค้าเพราะว่าชอบความคึกคัก
มู่นวลนวลได้รับการตอนรับอย่างคึกคักของพวกเขา
…
เซี่ยงไฮ้
ShengdingMedia ห้องทำงานผู้อำนวยการ
เซินเหลียงเข้าไปก็มองเห็นสีหน้านั้นของโม่ถิงเซียว ก็อยากจะถอยหลังกลับ
แต่บอดี้การ์ดที่อยู่หน้าประตูขวางทางเดินของเซินเหลียง
เธอจำเป็นต้องฝืนหันหน้าเดินเข้าไป
โม่ถิงเซียวยืนหันหลังให้เธออยู่ที่หน้าต่าง แผ่นหลังที่สูงส่งและทรงพลังดูเหมือนว่ากำลังเดียวดาย
แต่เซินเหลียงไม่เห็นใจเขา
เธอเสแสร้งไม่รู้เป้าหมายที่โม่ถิงเซียวเรียกเธอ ยิ้มและถาม“บอสใหญ่เรียกฉัน?มีเรื่องอะไรไหม?”
โม่ถิงเซียวหันหน้ากลับมา ดวงตาดำขลับ ข้างในเหมือนเต็มไปด้วยหมึกดำที่ลบไม่ออกทำให้คนมองไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไร
จิตใต้สำนึกของเซินเหลียงสั่งให้กลืนน้ำลาย สายตาเขาจ้องมองมาเธอก็ก้มหน้าลงไป
ครู่ใหญ่ๆ เธอได้ยินเสียงแหบของโม่ถิงเซียว“มู่นวลนวลติดต่อเธอแล้ว?”
“ไม่มี”ถึงแม้ว่าเซินเหลียงจะกลัว แต่ก็ยังปากแข็งไม่ยอมรับ
“ใช่เหรอ?”
โม่ถิงเซียวไม่โมโหกลับจะหัวเราะ หยิบเอกสารที่อยู่บนโต๊ะโยนให้เธอ
เซินเหลียงยื่นมือไปรับ พบว่าเนื้อหาในเอกสารเป็นเนื้อหาที่เธอกับมู่นวลนวลส่งให้กันในอีเมล
เธอบีบเอกสารอย่างแน่นขึ้นฉับพลัน พูดด้วยน้ำเสียงที่ยอมเทหมดหน้าตัก“ใช่ เธอติดต่อฉันแล้ว คุณคิดจะทำอะไร?”
โม่ถิงเซียวให้คนบุกรุกเข้าคอมพิวเตอร์ของเธอ ค้นพบเนื้อหาที่เธอกับมู่นวลนวลส่งหากันไปมาในอีเมล แล้วจะเป็นอย่างไร?
โม่ถิงเซียวสีหน้ามืดครึ้ม พูดอย่างไร้ความรู้สึก“ถามว่าเธออยู่ที่ไหน พูดว่าเธอจะไปหาเธอ”
เซินเหลียงไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว ก็ปฏิเสธไปโดยตรง“ไม่ได้”
เพิ่งจะพูดจบ เธอก็รู้สึกถึงอำนาจที่บีบรัดมาจากบนตัวของโม่ถิงเซียว
ตั้งแต่เล็กเธอถูกเลี้ยงประจบประแจงจากคนในครอบครัวจนโต ถึงแม้จะทะเลาะกับกูจื่อหยาน แต่กูจื่อหยานไม่เคยเล่นจริงกับเธอ
เซินเหลียงถอยหลังไปสองก้าว คิดที่จะพูดเหตุผลกับเขา“นวลนวลทำไมเธอถึงหนี ในใจของคุณไม่รู้เหตุผลเหรอ?คุณเป็นแบบนี้ไล่ตามเธอไม่หยุด ปล่อยให้เธอหลบซ่อนนอกจากทำให้เธอยิ่งลำบาก ยังสามารถจะทำอะไรได้ล่ะ?”
เห็นได้ชัดว่าโม่ถิงเซียวไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเธอ
เขาหรี่ตามอง น้ำเสียงอันตราย“ให้เธอกลับมาอยู่ข้างกายฉัน”
เซินเหลียงพูดเหน็บแนม“กลับมาอยู่ข้างกายคุณแล้วจะเป็นยังไง?มาเป็นคน“ตาย”เหรอ?เธอมีความคิดของตัวเอง เป็นคนที่มีชีวิต ไม่ว่าคุณจะหาเธอกลับมากี่ครั้ง เธอก็จะหนีไปอีกเหมือนเดิม!”