หลังจากมู่นวลนวลได้คุยโทรศัพท์กับโม่ถิงเซียวแล้ว ทำให้เธอรู้สึกว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
เธอเหมือนถูกต้องมนต์ คิดถึงคำพูดของโม่ถิงเซียวอยู่ตลอดเวลา
เธอคิดทบทวนคำพูดของเขาแต่สุดท้ายกลับไม่รู้ความหมายของมัน
และคนที่โม่ถิงเซียวส่งมาสะกดรอยตามเธอ เดิมทีที่หลบๆซ่อนๆ แต่หลังจากที่เธอคุยกับโม่ถิงเซียวแล้ว พวกเขาก็ไม่หลบๆซ่อนๆอีกต่อไป
เธอและโม่เจียเฉินจะออกไปข้างนอก บอดี้การ์ดขับรถมารับที่หน้าโรงแรม เปิดประตูรถแล้วทำความเคารพเธอ : “คุณผู้หญิง เชิญขึ้นรถ”
เธอและโม่เจียเฉินทานข้าว เวลาจะเช็คบิล ทุกครั้งพนักงานร้านจะบอกกับพวกเธอว่าเช็คบิลไปแล้ว
ตอนแรกๆมู่นวลนวลทำเป็นไม่เห็นและไม่สนใจพวกเขา
แต่พวกเขาตัวติดพวกเธอตลอด เธอและโม่เจียเฉินไปที่ไหนพวกเขาก็จะตามไปที่นั้น
เธอจึงเหนื่อยที่จะต่อต้านพวกเขา
พวกเขาขับรถมารับมาส่งก็แค่นั่งไป พวกเขาจะจ่ายเงินให้ก็ให้พวกเขาจ่าย
พอมู่นวลนวลรู้สึกตัวอีกทีตัวเองก็ได้เข้ามาอยู่ในห้องที่พวกเขาเตรียมไว้ให้ และพบว่าตัวเองได้เข้ามาอยู่ความควบคุมของโม่ถิงเซียว
มู่นวลนวลยืนอยู่ในห้องโถง เธอสับสนกับใจตัวเอง
เสียงของสาวใช้ที่อยู่ข้างๆดังขึ้น : “คุณผู้หญิง คุณพอใจกับห้องนี้ไหม?”
โม่เจียเฉินเดินเขามา : “ผมคิดว่าดีนะ พี่นวลนวลละ”
“นายชอบก็พอแล้ว” มู่นวลนวลไม่ได้พูดอะไรต่อ หันหลังแล้วเดินลงไปข้างล่าง
มู่นวลนวลพึ่งกลับถึงห้องก็ได้รับสายของเซินเหลียง
พอมู่นวลนวลพูดถึงเรื่องทุกอย่างให้ฟังเสร็จเซินเหลียงเห็นด้วยอย่างมาก : “เธอใกล้จะคลอดแล้ว เขาส่งคนมาดูแลเธอมันเป็นเรื่องที่สมควร ถึงยังไงเขาก็เป็นพ่อของเด็ก ทำไมเธอต้องลำบากอยู่คนเดียว………..”
มู่นวลนวลพูดไม่ออก ทำตัวไม่ถูก
ในตอนท้ายเซินเหลียงถามเธอ: “เธอคิดยังไง?เขาบอกว่าพอถึงเวลาจะมารับพวกเธอกลับไป เธอจะกลับไปกับเขาไหม?”
มู่นวลนวลคิดไตรตรอง : “ไม่รู้”
ตอนนี้เธอไม่รู้จริงๆ
เซินเหลียงเป็นคนฉลาด เธอมองออก: “เธอบอกว่า ‘ไม่รู้’ เธอกำลังลังเล ลังเลก็แสดงว่าอยากกลับไปกับเขา”
คำพูดของเซินเหลียง ทำให้เธอคิดได้อย่างชัดเจน
จริงๆแล้วความรู้สึกลึกๆของเธอก็อยากที่จะกลับไปที่เซี่ยงไฮ้
มู่นวลนวลเงียบไปสักพัก แล้วพูด : “ถึงตอนนั้นค่อยพูดเถอะ”
เรื่องที่ยังไม่ชัดเจนและยังไม่แน่ใจก็ปล่อยมันไว้ก่อน
…………
มู่นวลนวลใช้ชีวิตตอนนี้ราวกับใช้ชีวิตอยู่ที่เซี่ยงไฮ้
ออกไปข้างนอกมีบอดี้การ์ด อยู่ในบ้านมีคนรับใช้
เพียงแค่ตอนนี้เธอเป็นอิสระมากขึ้น
ชีวิตก็ผ่านไปแบบนี้จนถึงเดือนเจ็ด
วันแรกของเดือนอากาศไม่ค่อยดี
ฟ้าครึมตั้งแต่ตอนเช้าราวกับว่าฝนจะตก
จนถึงตอนเที่ยงฝนก็ยังไม่ตก แต่บรรยาก็ยังคงอึมครึมทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิด
มู่นวลนวลรู้สึกหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลาทำให้ทำอะไรก็ไม่ราบรื่น
โม่เจียเฉินเห็นเช่นนั้นจึงถามเธอ : “พี่นวลนวล พี่ไม่สบายตรงไหนรึเปล่า?”
มู่นวลนวลขมวดคิ้วแล้วส่ายหน้า: “ไม่มีอะไร” ก็แค่หงุดหงิด
โม่เจียเฉินจับเธอมานั่งที่โซฟา: “พวกเรามาเล่นเกมส์กัน? ช่วงนี้มีเกมส์แก้ปริศนาที่พึ่งออกมาใหม่ มันสนุกนะ พี่จะลองดูไหม…………….”
มู่นวลนวลรับโทรศัพท์จากเขากำลังจะเริ่มเล่น ทันใดนั้นเสียงฟ้าร้องก็ดังขึ้นและฝนก็ตกลงมา
โม่เจียเฉินและมู่นวลนวลตกใจกับเสียงฟ้าร้อง
มู่นวลนวลมองไปที่หน้าต่าง : “ตกลงมาสักที”
โม่เจียเฉินเดินไปที่ประตู : “จริงด้วย ฝนตกแรงเหมือนกันนะ พี่นวลนวนลพี่คิดว่าฝนจะหยุดตอนไหน?”
พอพูดจบ กลับไม่ได้รับคำตอบของคนที่อยู่ข้างหลัง เขาหันหลังกลับไปด้วยความสงสัย : “พี่นวลนวล พี่………………”
เขาหันกลับไปดูก็เห็นมู่นวลนวล ล้มนอนลงอยู่บนโซฟา มือที่กำผ้าคลุมโซฟาไว้อย่างแน่น ท่าทางเธอดูเจ็บปวดทรมาณมาก
โม่เจียเฉินตกใจอย่างมาก รีบวิ่งเข้าไปดูเธอ : “พี่นวลนวล พี่เป็นอะไร?”
ท้องน้อยเธอรู้สึกปวดขึ้นมา มันปวดมากทำให้เธอพูดจาติดๆขัดๆพูดคำเว้นคำ : “ฉัน……จะ…..คลอด……แล้ว……”
“จะ………คลอดแล้ว?” เขาพูดซ้ำอยู่อย่างนั้น เพราะตกใจมากทำอะไรไม่ถูก
ผ่านไป 2-3 วินาทีเขาตั้งสติได้ก็รีบวิ่งไปเรียกคน : “มีคนไหม รีบมาที่นี้ด่วน พี่นวลนวลจะคลอดแล้ว”
เพราะมู่นวลนวลใกล้จะคลอดแล้ว ภายในบ้านมีคุณหมอที่คอยดูแล มีบอดี้การ์ดและคนใช้ที่เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา และโรงพยาบาลที่จัดเตรียมทุกอย่างไว้อย่างเรียบร้อย
โม่เจียเฉินเรียกพวกเขาเข้ามาแล้วพยุงเธอจึ้นรถไปที่โรงพยาบาล
ฝนยังคงตกอยู่และยิ่งตกแรงขึ้นเรื่อยๆ
มู่นวลนวลปวดมาก เธอจับมือโม่เจียเฉินไว้แน่น ทนความปวดแล้วพูดขึ้น : “ โทรศัพท์……….”
โม่เจียเฉินเข้าใจความหมายเธอทันที เขาหยับโทรศัพท์ออกมาโทรหาโม่ถิงเซียว
แต่โม่ถิงเซียวไม่รับสาย
โม่เจียเฉินหันกลับมามองมู่นวลนวล และรีบร้อนอย่างมาก
รีบรับโทรศัพท์สิพี่!
มู่นวลนวลหน้าซีด เธอปวดอย่างมากและรอโทรศัพท์จากเขา แต่โทรศัพท์ยังคงไม่มีใครรับสายและตัดสายไปเอง
โม่เจียเฉินพูดปลอบใจเธอ : “พี่เขาอาจจะกำลังยุ่งอยู่ก็เลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ ผมจะโทรอีกรอบ”
ในตอนนี้มู่นวลนวลปวดมากถึงขั้นไม่มีแรงที่จะพูด เธอใช้น้ำเสียงที่เจ็บปวดพูด : “อืม”
โม่เจียเฉินโทรกลับไปอีกรอบ แต่ก็ไม่มีใครรับสาย
ในตอนนี้ รถก็มาจอดที่หน้าโรงพยาบาลแล้ว
ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงก็ได้ติดต่อกับโรงพบฃยาบาลไว้แล้ว พวกเขาจึงออกมารอรับเธอที่หน้าประตู
มู่นวลนวลมาถึงเตียงพักรอคลอด สายตาของเธอก็มองไปที่โม่เจียเฉิน
ในสายตาของเธอมันชัดเจนมากว่าเธอกำลังถามเขาว่าโม่ถิงเซียวยังไม่รับโทรศัพท์หรอ
โม่เจียเฉินอยู่ไม่เป็นสุขเขารู้สึกผิดมากๆที่โม่ถิงเซียวไม่รับโทรศัพท์
เขาหวังว่าโม่ถิงเซียวจะรับโทรศัพท์ แต่เขาโทรไปหลายรอบแล้วก็ยังไม่มีใครรับสายอยู่ดี
มู่นวลนวนลเข้าห้องคลอดไปแล้ว โม่ถิงเซียวก็ยังไม่รับโทรศัพท์
แผนก่อนหน้าที่วางไว้คือคลอดธรรมชาติ และร่างกายของเธอก็เหมาะที่จะคลอดเองธรรมชาติ
ตัวเธอเองก็ได้ยินมาว่าคลอดเองธรรมชาติมันจะเจ็บปวดมากแค่ไหน พอเธอได้คลอดเองจริงๆก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดนั้น
มันเจ็บปวดมากถึงขั้นที่เธอไม่อยากคลอดแล้ว
“สู้ๆ ใช้แรงอีกหน่อย กำลังจะออกมาแล้ว” คุณหมอและพยาบาลพยายามให้กำลังใจเธอ
“ใจแข็งอีกหน่อย”
มู่นวลนวลเจ็บปวดมากราวกับว่ากระดูกในร่างกายเธอได้แตกสลายไปแล้ว
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ดังขึ้น
คุณหมออุ้มเด็กเข้ามาหาเธอ : “ดูลูกสิ”