มู่นวลนวลมองหน้าเด็กที่อยู่ต่อหน้า
หลายคนบอกว่าเด็กที่พึ่งคลอดจะน่าเกรียดไม่น่ารัก แต่ลูกสาวของเธอกลับน่ารักและสวยมาก
คุณหมอที่อยู่ข้างๆพูดขึ้น : “หายากมากที่จะได้เจอเด็กที่สวยตั้งแต่แรกคลอด”
มู่นวลนวลยิ้มพอใจ แต่เธอออนเพลียมากแล้วหลับไป
…………
รู้สึกตัวอีหครั้งก็ตอนเย็น
อยู่ภายในห้องที่สว่าง
มู่นวลนวลสับสนอยู่พักหนึ่งเธอจึงได้สติกลับมา
โม่เจียเฉินที่คอยเฝ้าเธออยู่ข้างๆพอเห็นเธอรู้สึกตัวจึงรีบเดินเข้ามาใกล้: “พี่นวลนวล พี่ตื่นแล้ว”
มู่นวลนวลไม่พูดอะไร แต่จ้องเขาอยู่อย่างนั้น
โม่เจียเฉินขมวดคิ้ว : “พี่เขาไม่รับโทรศัพท์เลย”
สายตาของมู่นวลนวลที่รู้สึกผิดหวัง
“คุณผู้หญิงจะดื่มน้ำไหมคะ?” สาวใช้ที่อยู่ข้างๆเดินเข้ามา
มู่นวลนวลพยักหน้าแล้วดื่มน้ำไปนิดหน่อย เธอมองไปรอบๆห้องแต่กลับไม่เห็นลูกจึงถามสาวใช้: “ลูกละ?”
สาวใช้พูดกับเธอ : “เมื่อกี่เธอร้องไห้เสียงดัง กลัวจะรบกวนคุณผู้หญิงก็เลยอุ้มออกไปข้างนอก”
มู่นวลนวลขมวดคิ้ว : “ให้พวกเขาอุ้มเข้ามา”
“ค่ะ”
สาวใช้ออกไปไม่นาน ก็อุ้มเด็กเข้ามา
มู่นวลนวลพิงหัวเตียวแล้วรับลูกมา
ลูกน้อยนอนหลับไปแล้ว หน้าตาสวยและน่ารัก แต่ไม่เหมือนที่เธอเคยเห็นก่อนหน้า
มู่นวลนวลมองดูหน้าลูกน้อยอย่างละเอียด ยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่าเด็กคนนี้หน้าตาไม่เหมือนเธอหรือโม่ถิงเซียวคนใดคนหนึ่งเลย
สักพัก มู่นวลนวลวางเด็กลง เธอหน้าซีดแล้วพูดขึ้น: “นี้ไม่ใช่ลูกฉัน”
“พี่นวลนวล พี่พูดว่าอะไรนะ?” โม่เจียเฉินเดินเข้ามามองหน้าเด็ก เด็กพึ่งเกิดก็มีหน้าตาแบบนี้ไม่ใช่หรอ?
ทันใดนั้น ข้างนอกก็มีเสียงโวยวาย : “พวกคุณพาลูกฉันไปไว้ที่ไหน ฉันจะแจ้งความ เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่……………”
มู่นวลนวลพูดกับสาวใช้ : “มีเรื่องอะไร ออกไปดูสิ”
พอประตูเปิดออกเสียงผู้หญิงคนนั้นก็ดังขึ้นอีก
เธอพูดเหมือนกับว่าลูกเธอหายไป
มู่นวลนวลมองเด็กที่อยู่บนเตียงกับเธอก็เห็นบนเสื้อมีป้ายชื่ออยู่และและยังมีชื่อของเด็กอยู่ด้วย
“เสี่ยวเฉิน ให้ผู้หญิงคนนั้นเข้ามา” มู่นวลนวลยื่นมือไปจับป้ายชื่อของเด็ก
โม่เจียเฉินเห็นท่าทีของมู่นวลนวลที่ไม่ปกติทำให้เขาไม่สบายใจ แต่กลับตอบรับเธอ : “อืม”
ผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาอย่างเร็ว
มู่นวลนวลถามเธอ : “ลูกคุณชื่อว่าอะไร?”
ผู้หญิงคนนั้นพูดชื่อที่เหมือนกันกับป้ายชื่อของเด็ก มู่นวลนวลเสียงสั่น : “คุณเข้ามาดู นี้ใช้ลูกของคุณไหม……….”
ผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาดู ทั้งร้องไห้ทั้งยิ้มแล้วพูด : “ใช่ๆ นี้คือลูดของฉัน ฝ่าเท้าของเด็กมีไฝสีดำอยู่”
เธอพูดแล้วยกเท้าเด็กให้มู่นวลนวลดู
ถ้าเกิดเธอไม่บอกว่าเท้าเด็กมีไฝอยู่ มู่นวลนวลก็คงไม่แน่ใจว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของตัวเอง
แม้เธอจะเคยเห็นหน้าลูกแค่ครั้งเดียว เธอมันใจได้แน่นอนว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของตัวเอง
“พี่นวลนวล พี่เข้าใจผิดหรือเปล่า? พี่………… ” โม่เจียเฉินเห็นผู้หญิงคนนั้นอุ้มเด็กออกไป จึงพูดกับเธอ
มู่นวลนวลไม่ตอบคำถามเขา : “โม่ถิงเซียวไม่รับสายเลยใช่ไหม”
โม่จียเฉินลังเลอยู่สักพัก แต่ก็พูดความจริงกับเธอ : “ครับ”
มู่นวลนวลก็หัวเราะขึ้นมาและหัวเราะดังขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งดังยิ่งน่ากลัว หัาเราะพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลออกมา
นี้คือสิ่งที่เขาบอกให้เชื่อใจ?
รอบๆตัวเธอคือคนของโม่ถิงเซียว ตอนนี้ลูกของเธอหายไป ตัวเขาเองก็ไม่รับสาย
นอกจากว่าลูกจะโดนเขาแย้งไป มันยังมีสาเหตุอื่นอีกหรอ?
โม่เจียเฉินไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรกับเธอ : “พี่นวลนวล อย่าทำแบบนี้สิ………..”
สาวใช้ที่อยู่ข้างบอกกับเธอ : “คุณผู้หญิง คุณพึ่งจะคลอดลูก ต้องดูแลสุขภาพ”
มู่นวลนวลเอามือปิดหูแล้วกรี๊ดขึ้น : “อย่าเรียกฉันว่าคุณผู้หญิง ทุเรศ!”
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียง“ปัง!” ประตูห้องถูกเปิดออก
มู่นวลนวลเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นร่างของคนที่คุ้นเคย ทำให้เธอหยุดชะงัก พูดไม่ออก
ทั้งสองจ้องตากันแต่ไม่มีใครเอ่ยปากขึ้นพูดก่อน
โม่เจียเฉินหันไปเห็นพี่ชาย : “พี่!”
“ก็ว่าทำไมไม่รับสายเลย เป็นเพราะพี่กำลังเดินทามาซิดนีย์นี้เอง” โมเจียเฉินพูดแล้วก็เดินเขาไปหาโม่ถิงเซียว
โม่ถิงเซียวไม่สนใจเขา และเดินตรงมาหามู่นวลนวล
มู่นวลนวลสีหน้าขาวซีด ผมยุ่งเหยิง บนใบหน้าก็มีคราบน้ำตา สภาพเธอดูไม่ได้เลย
เขานั่งลงข้างเตียงแล้วยื่นมือไปจับหน้าเธอแต่โดนมู่นวลนวลปัดมือออก : “อ่อนหัด! ฉันจะไม่เชื่อคุณอีกแล้ว!”
โม่ถิงเซียวเสียงต่ำและไม่เข้าใจที่เธอพูด : “มู่นวลนวล คุณพูดอะไร?”
“เวลาแบบนี้ ยังจะแสดงละครอยู่หรอ? ลูกฉันละ? เอาลูกของฉันคืนมา!”มู่นวลนวลตอนนี้เสียสติไปแล้ว เธอพูดแล้วก็กระชากคอเสื้อของโม่ถิงเซียว
โม่ถิงเซียวสีหน้าเปลี่ยนไป เขาหันกลับมาหาโม่เจียเฉิน : “เกิดอะไรขึ้น?”
โม่เจียเฉินหันไปมองมู่นวลนวล: “พี่นวลนวลตื่นขึ้นมาแล้วอยากเจอลูก แต่พอคนใช้อุ้มเด็กเข้ามาให้ พี่เธอกลับบอกว่าไม่ใช้ลูกของเธอ แล้วก็ให้คนอื่นอุ้มออกไป”
โม่ถิงเซียวสีหน้าเปลี่ยนไปและน่ากลัวอย่างมาก เขาเสียงต่ำแล้วพูดขึ้น : “ซือเย่”
ตอนที่โมถิงเซียวมาที่นี้ ซือเย่ก็ติดตามมาด้วย แต่เขาไม่ส่งเสียงคนอื่นจึงไม่สังเกตุเห็นเขา
“ครับ” ซือเย่รู้ทันทีว่าโม่ถิงเซียวสั่งให้เขาไปสืบเรื่องของเด็กที่พึ่งเกิด ได้รับคำสังแล้วก็ออกไปทันที
โม่ถิงเซียวหันกลับมามองเธอ แต่มู่นวลนวลจ้องเขาด้วยสายตาที่เย็นชา สายตาที่เต็มไปด้วยความเกรียดชัง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
เขายื่นมือไปลูบหัวและจัดผมให้เธอ: “ผมจะพาลูกกลับมา ตอนนี้คุณพักผ่อนเถอะ”
มู่นวลนวลปัดมือเขาออก แล้วตบเข้าไปที่หน้าของเขา “เพียะ” : “แค่คุณยอมรับกับฉันมาว่าคุณเอาลูกไป ฉันคงจะรู้สึกเป็นลูกผู้ชายกว่านี้”
โม่เจียเฉินและสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างๆต่างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
มู่นวลนวลใช้แรงทั้งหมดที่มีตบเขา ใบหน้าที่ขาวผ่องตอนนี้มีรอยฝ่ามือแดงก่ำประทับอยู่
โม่ถิงเซียวที่โดนตบจนหน้าเอียง น้ำเสียงเย็นชาและดูสงบ : “พวกเธอออกไปก่อน”
“พี่ครับ” โม่เจียเฉินเป็นห่วงพวกเขา ยื่นอยู่ที่เดิมไม่ออกไป
โม่ถิงเซียวไม่ได้สนใจเขาเลย สุดท้ายโม่เจียเฉินก็เดินออกไป
ภายในห้องเหลือแค่มู่นวลนวลและโม่ถิงเซียวสองคน
ครึ่งปีที่พวกเขาสองคนไม่ได้เจอหน้ากัน พอกลับมาเจอกันอีกครั้งกลับเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
โม่ถิงเซียวหันกลับไปหาเธอ แล้วเห็นเธอที่มีสภาพอ่อนแอ น้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นมาก : “คุณต้องพักผ่อนมากๆ เรื่องอื่นรอให้คุณกลับมาปกติแล้วเราค่อยพูดกันอีกที”