ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 296 เป็นเพียงส่วนหนึ่ง

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

เซินเหลียงฟังมู่นวลนวลพูดจบก็ครุ่นคิดสักครู่ เเละพูดขึ้น: ” ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่…… ”

มู่นวลนวลเอาลิ้นจี่ไปใส่ตู้เย็นเเละพูดถามเซินเหลียง: ” ไม่พูดเรื่องนี้กันดีกว่า เธอกินข้าวมาหรือยัง? ”

” กินกับคนในกองถ่ายเรียบร้อยเเล้ว ” เซินเหลียงพูดจบ เธอก็ตบหัวตัวเองเบาๆ: ” ฉันนึกออกเเล้ว ยังมีอีกเรื่อง ฉันดูคลิปสัมภาษณ์ของเธอเเล้วนะ นี่เธอคิดจะทำอะไรอีก? ”

ตั้งเเต่มู่นวลนวลให้เธอช่วยหานักข่าวให้เมื่อครั้งที่เเล้ว มู่นวลนวลก็เผาคฤหาสน์เเละหลบหนีไป จากเหตุการณ์นั้น เซินเหลียงก็รู้สึกกลัวมู่นวลนวลอยู่บ้างเล็กน้อย

เมื่อก่อนเธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนชอบก่อเรื่อง เเต่ตอนนี้เธอกลับพบว่ามู่นวลนวลร้ายกว่าเธอ

มู่นวลนวลพูดยิ้มๆ: ” เรียกกระเเสให้บทละครเรื่องเมืองที่สาบสูญของฉันน่ะ ”

” ฉันเชื่อเธอก็เเปลกเเล้ว ” เซินเหลียงมองบนนิดหน่อย

มู่นวลนวลถือจานสิ้นจี่ที่ล้างสะอาดเเล้วมาวางลงตรงหน้าเซินเหลียง น้ำเสียงของเธอเป็นความจริงจังที่หาได้ยาก: ” เสี่ยวเหลียง น้ำในตระกูลโม่นั้นลึกเกินไป ถ้าฉันไม่เป็นฝ่ายทำอะไรสักอย่างก็อาจจะถูกพวกเขาชักจูงตลอดไป ”

เซินเหลียงได้ยินมู่นวลนวลพูดถึงตระกูลโม่ สีหน้าของเธอก็จริงจังเช่นกัน: ” ยังไม่ได้ข่าวเสี่ยวมู่มู่เลยหรอ? ”

มู่นวลนวลส่ายหน้า น้ำเสียงของเธอมีความเย็นชาเล็กน้อย: ” ฉันเดาว่าอีกไม่นานคนของตระกูลโม่ก็จะมาหาฉัน ”

……

พอโม่ถิงเซียวออกมาจากในอพาร์ทเม้นท์ของมู่นวลนวล ซือเย่ก็รีบเดินอ้อมไปเปิดประตูรถให้เขาทันที

ซือเย่ขับรถไปด้วยเเละสังเกตโม่ถิงเซียวจากในกระจกมองหลังไปด้วย

โม่ถิงเซียวจ้องมองเล็กน้อยเเละพูดขึ้น: ” มีอะไรก็พูดมา ”

โม่ถิงเซียวพูดถึงขนาดนี้เเล้ว ซือเย่จึงไม่ลังเลอีกต่อไปเเละได้พูดขึ้นทันที: ” ในเมื่อคุณชายยังเป็นห่วง งั้นทำไมถึงให้คุณหญิงย้ายออกมาล่ะครับ? ”

ภายในรถเกิดความเงียบสักครู่ หลังจากนั้นเสียงของโม่ถิงเซียวถึงจะดังขึ้นอย่างไม่รีบร้อน: ” ที่ให้เธอย้ายออกมา บางทีเธออาจจะมีความสุขกว่านี้ก็ได้ ”

ซือเย่จำได้ว่าโม่ถิงเซียวเคยพูดเรื่องนี้กับเขาเมื่อปีที่เเล้ว ตอนนั้นโม่ถิงเซียวพูดว่าอะไรเเล้วนะ?

ตอนนั้นใจความสำคัญของโม่ถิงเซียวคือยอมเจ็บปวดไปด้วยกันไม่ใช่หรอ?

เวลาครึ่งปีกว่า ไม่คิดว่าความคิดของโม่ถิงเซียวจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

……

มู่นวลนวลเดาถูก

ไม่นานคนของตระกูลโม่ก็หาเธอเจอ

คืนนั้นเซินเหลียงอยู่คุยกับเธอสักพัก เเต่เพราะวันต่อไปเซินเหลียงมีงาน จึงต้องรีบกลับ

งานวันต่อไปของมู่นวลนวลยังคงไปที่กองถ่าย

เเต่พอเธอเพิ่งออกจากบ้าน ก็ได้มีรถสีดำมาจอดหยุดตรงหน้าเธอ

หน้าต่างรถเลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าของชายวัยกลางคนที่คล้ายกับโม่ถิงเซียวอยู่พอสมควร

” นวลนวล ไม่เจอกันนานเลยนะ ”

ความรังเกียจฉายผ่านดวงตาของมู่นวลนวลเเละเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจ: ” คุณชายโม่? ”

บนใบหน้าของโม่ชิงเฟิงมีรอยยิ้มประดับอยู่ เขาดูเหมือนผู้ใหญ่ที่อ่อนโยน: ” เเม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ได้อยู่กับถิงเซียวก็ไม่ต้องห่างเหินขนาดนี้ก็ได้มั้ง เรียกลุงสักคำมันทำให้เธอลำบากใจมากเลยหรือไง? ”

ถึงเเม้ว่าสีหน้าของเขาจะอ่อนโยน เเต่ตอนที่เขาพูดกับมู่นวลนวลนั้นเขาได้นั่งอยู่ในรถตลอดเวลา จึงทำให้ทั้งสองคนอยู่ห่างกันพอสมควร

มู่นวลนวลเรียกเขาอย่างใจดี: ” คุณลุงโม่ ”

ในตาของโม่ชิงเฟิงเต็มไปด้วยความพึงพอใจ: ” เธอกำลังจะไปไหน พอจะมีเวลาดื่มกาเเฟกับฉันไหม? ”

มู่นวลนวลพยักหน้าเล็กน้อย: ” มีสิคะ ”

เธอรอให้โม่ชิงเฟิงมาหาเธออยู่เเล้ว เเละเเน่นอนว่าเธอจะไม่ปฏิเสธคำเชิญของเขา

” ขึ้นรถสิ ”

โม่ชิงเฟิงพูดจบ เหลิ่งซูที่นั่งขับรถอยู่ข้างหน้าก็ลงมาเปิดประตูที่นั่งข้างหลังให้มู่นวลนวลทันที

” ขอบคุณค่ะลุงซู ” มู่นวลนวลพยักหน้าให้เหลิ่งซูเล็กน้อย หลังจากนั้นถึงจะขึ้นรถ

โม่ชิงเฟิงนั่งอยู่ข้างเธอด้วยสีหน้าที่สงบ

มู่นวลนวลกัดกรามอย่างตื่นเต้น เธอมองตรงไปข้างหน้าโดยที่ไม่มองโม่ชิงเฟิง

ไม่นานรถก็มาหยุดที่ร้านกาแฟร้านหนึ่ง

เธอเดินตามโม่ชิงเฟิงเข้าไปข้างใน เเละพนักงานก็พาพวกเขาไปที่ห้องรับรองที่ได้จองไว้ก่อนหน้านี้

กาเเฟถูกนำมาเสิร์ฟ โม่ชิงเฟิงคนกาแฟเเละพูดถามอย่างเป็นห่วง: ” ครึ่งปีที่ผ่านมาไปอยู่ที่ต่างประเทศสบายดีไหม? ”

มู่นวลนวลยกยิ้มเเละตอบกลับอย่างมีมารยาท: ” ขอโทษที่ทำให้คุณลุงเป็นห่วง สบายดีค่ะ ”

โม่ชิงเฟิงถอนหายใจเเละพูดขึ้นเสียงเบา: ” ตอนนั้นเรื่องของเจ้าสัว เป็นฉันที่รีบร้อนเกินไป จึงทำให้เข้าใจเธอผิดไป เธอเป็นเด็กดีจะทำเรื่องเเบบนั้นได้ยังไง? อาจเป็นเพราะเจ้าสัวอายุมากเเล้วเเละขาไม่ค่อยเเข็งเเรง จึงทำให้เขาตกบันได ”

มู่นวลนวลได้ยินดังนั้น เธอก็บีบช้อนกาแฟแน่นทันที

อายุมากเเละขาไม่ค่อยเเข็งเเรงอย่างนั้นหรอ?

เจ้าสัวโม่ดูเเลตัวเองดีมาก ร่างกายของเขาแข็งแกร่งมากเเละเป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นมาตลอด

อีกอย่าง เห็นได้ชัดว่าตอนเช้าของวันนั้นมีคนจงใจเรียกเธอให้ไปที่นั่น

เห็นได้ชัดว่าเป็นเเผนที่คิดไว้ก่อนหน้านั้นเเล้ว เเต่ตอนนี้โม่ชิงเฟิงกลับมาบอกเธอว่าเจ้าสัวขาไม่เเข็งเเรง?

เป็นเพราะเธอเพิ่งตื่นนอนและไม่ได้คิดอะไรมากมาย เธอจึงถูกเรียกโดยคำบอกต่อของคนรับใช้ในที่สุด

ต่อมาตอนที่หวนคิดกลับไป ปกติถ้าเจ้าสัวเรียกเธอ เขาจะไม่ให้คนอื่นมาเรียกเธอ

วิธีพูดที่มีพิรุธนี้ไม่มีเหตุผลโดยสิ้นเชิง

เเต่มู่นวลนวลกลับซักถามเขาไม่ได้

มู่นวลนวลเบนสายตาลง มือที่วางอยู่ใต้โต๊ะหยิกลงไปบนขาของตัวเองหนึ่งที

เเรงหยิกเยอะเกินไป ทำให้เธอเจ็บจนหลั่งน้ำตาออกมาทันที

เเละในตอนนี้ เธอก็เงยหน้าขึ้นมามองโม่ชิงเฟิงเเละถามอย่างสะอื้น: ” ตอนนี้คุณปู่สบายดีไหมคะ? ”

คล้ายกับโม่ชิงเฟิงไม่คิดว่ามู่นวลนวลจะเสียใจถึงขนาดนี้ เขาจึงชะงักไป หลังจากนั้นก็พูดขึ้น: ” เหมือนเดิม ”

มู่นวลนวลพยักหน้า หลังจากนั้นเธอก็พูดถามอย่างระมัดระวัง: ” งั้นฉันไปดูเขาหน่อยได้ไหมคะ? ”

ความจริงเเล้วเธออยากไปดูเจ้าสัวโม่จริงๆ

เพียงเเต่เธอไม่มีเหตุผลที่สมเหตุสมผลมาโดยตลอด

” ได้สิ ” รอยยิ้มของโม่ชิงเฟิงหุบลงทันที หลังจากนั้นเขาก็ถามขึ้นอย่างจริงจัง: ” เกิดอะไรขึ้นกับเธอเเละถิงเซียว? ได้ยินเสี่ยวเฉินบอกว่าเขาพาตัวลูกไปเเล้ว?

เคร้ง——

มู่นวลนวลได้ยินเขาพูดถึงลูกเธอก็ปล่อยมือทันที จึงทำให้ช้อนในมือหล่นลงไปในแก้วทั้งเเบบนั้น และมันก็กระแทกกับขอบแก้วจนเกิดเป็นเสียงที่ไม่ดังมาก

นี่โม่ชิงเฟิงหมายความว่ายังไง?

เขาคิดจะลองเชิงอะไร?

ขากำลังทดสอบว่ามู่นวลนวลรู้เรื่องเด็กมากแค่ไหนหรือเขากำลังทดสอบว่าความสัมพันธ์ของโม่ถิงเซียวกับเธอนั้นใกล้ชิดกันหรือเปล่า เเละเขาจะบอกเธอไหมว่าเด็กคนนั้นอาจถูกคนของตระกูลโม่ขโมยไป?

มือของมู่นวลนวลที่อยู่ใต้โต๊ะกำเข้าหากันแน่นทันที เเล้วค่อยคลายออก

เธอไม่รู้ว่าควรรับมือกับคำถามนี้ยังไง เธอจึงก้มหน้าลงเเละเเสดงสีหน้าเสียใจออกมาสะเลย

ทุกครั้งที่เธอคิดถึงมู่มู่ น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมอารมณ์ใดๆได้

โม่ชิงเฟิงหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ผ่านไปสักครู่ เขาก็พูดขึ้นช้าๆ: ” ครั้งนี้ถิงเซียวทำเกินไป ถึงเเม้ว่าฉันจะเป็นปู่ของเด็ก เเละเด็กคนนี้มีชะตากรรมให้อยู่ที่ตระกูลโม่ เเต่ถึงอย่างไรก็ควรให้เด็กอยู่กับแม่เพื่อเติบโตขึ้นถึงจะดี…… ”

มู่นวลนวลจึงร้องไห้ออกมาสะเลย: ” ขอโทษค่ะ คุณลุง ฉันเสียใจเกินไปหน่อย…… ”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท