มู่นวลนวลใช้เวลาไม่กี่วินาทีในการแยกแยะความหมายที่เซินชูฮันพูด
“เมื่อเช้าคุณไม่ได้บอกฉัน?” เธอกลับไปมองเซินซูฮันด้วยสีหน้าเย็นชา
เซินชูฮันยิ้มอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่:“ฉันก็เพิ่งจะรู้”
มู่นวลนวลหัวเราะ ถ้าเธอเชื่อที่เขาพูดก็บ้าแล้ว
เธอหันไปมองที่ทางเข้าห้องจัดเลี้ยง และไม่เห็นโม่ถิงเซียวที่ด้านใน
หลังจากที่โม่ถิงเข้ามาสืบทอดโม่กรุ๊ปอย่างเป็นทางการ เข้าก็ต้องเข้าร่วมกิจกรรมและงานเลี้ยงมากมาย
แต่เนื่องจากงานเลี้ยงและกิจกรรมที่เขาต้องเข้าร่วมนั้นเป็นงานระดับโฮเอนด์ ดังนั้นมู่นวลนวลจึงไม่คาดคิดว่าเซินชูฮันจะมาเข้าร่วมงานที่โม่ถิงเซียวก็มา
ในทางกลับกันตระกูลเซินและตระกูลโม่ไม่ได้มีการติดต่อทางธุรกิจใดๆ และเกี่ยวข้องกันน้อยมาก
ดังนั้นเธอเลยไม่ได้คิดว่าเซินชูฮันจะมาเข้าร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ด้วย
ตอนนี้เธอคิดว่าเซินชูฮันจงใจ
“ตอนนี้เธอเป็นเพื่อนสาวของฉัน หน้าที่คืนนี้ของเธอคือการอยู่กับฉัน” เซินชูฮันยิ้มกว้างขึ้น และเขาก็จับแขนตัวเอง เพื่อบอกใบ้ให้มู่นวลนวลเดินไปกับเขา
มู่นวลนวลรู้สึกสับสน
ถ้าโม่ถิงเซียวมา และเห็นว่าเธอกับเซินชูฮันมาร่วมงานเลี้ยงด้วยกันก็ไม่รู้ว่าเขาจะโกรธมากแค่ไหน
มู่นวลนวลคิดไปคิดมาแล้วก็ไม่สู้ “ยอม” ไปก่อนดีกว่า
เดินไปข้างหน้าได้สองก้าว มู่นวลนวลก็ยื่นมือออกมาจับท้องของเธอ:“ฉันปวดท้องนิดหน่อย ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
เซินชูฮันหยุดเดินและยิ้มให้เธอ
หลังจากมู่นวลนวลพูดจบก็รู้สึกว่าคำพูดนี้ค่อนข้างคุ้นหู
เมื่อต้นปีเธอทิ้งเซินชูฮันไว้ที่สนามบิน และไปต่างประเทศคนเดียว เธอก็ใช้วิธีนี้
มู่นวลนวลเก้อเขิน และอธิบายด้วยความจริงใจว่า:“ครั้งนี้ฉันปวดท้องจริงๆ……”
เธอคิดๆดูแล้วก็แต่งเรื่องขึ้นมาเป็นเหตุผล:“กระเพาะอาหารของฉันไม่ค่อยดี สองวันมานี่ฉันทานอาหารมากมายหลายอย่าง เลยท้องเสียนิดหน่อย……”
เซินชูฮันพยักหน้าแล้วพูดว่า:“ฉันไปเป็นเพื่อนเธอ”
ผู้ชายคนนี้จริงๆเลย……
มู่นวลนวลถอนหายใจโล่งอก และปล่อยให้เซินชูฮันเดินตามเธอไปที่ห้องน้ำอย่างทำตัวไม่ถูก
หลังจากที่มู่นวลนวลเดินเข้าไปในห้องน้ำหญิง เธอก็โทรหาโม่ถิงเซียว
โทรศัพท์ดังขึ้นสองครั้งเขาก็รับสาย
“มู่นวลนวล”
เสียงของโม่ถิงเซียวทุ้มและต่ำ เวลาเขาเรียกชื่อเธอก็มักจะเรียกชื่อเต็มมาตลอด และมู่นวลนวลรู้สึกว่าชื่อที่เขาเรียกก็ดูสนิทสนมเป็นพิเศษเช่นกัน
มู่นวลนวลเรียบเรียงคำพูด แล้วถามว่า:“วันนี้คุณจะไปร่วมงามเลี้ยงที่ไหนรึเปล่า?”
“ทำไม?ตรวจเช็ค?” โม่ถิงเซียวพูดอย่างยิ้มๆ:“วางใจได้ ฉันไม่ได้พาเพื่อนสาวไป ฉันไปกับซือเย่”
เมื่อมู่นวลนวลได้ยินอย่างนั้น ในใจของเธอก็มืดมน
ประโยคหลัง เธอไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี
เมื่อเห็นว่ามู่นวลนวลเงียบไป โม่ถิงเซียวก็ถามว่า:“เป็นอะไร?”
“ฉัน……” มู่นวลนวลพูดไม่ออก หรือเธอไม่กล้าพูดว่าเธอมาร่วมงานเลี้ยงกับเซินชูฮัน
โม่ถิงเซียวรอให้เธอพูด
มู่นวลนวลลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า:“ไม่ได้พาเพื่อนสาวไปก็ดี”
น้ำเสียงของโม่ถิงเซียวเห็นได้ชัดว่าเขาหัวเราะ:“ฉันต้องไปร่วมงานแล้ว ดึกๆฉันจะโทรหาเธอนะ
มู่นวลนวลพูด:“โอเค”
หลังจากวางสายแล้ว มู่นวลนวลก็เดินวนไปวนมาอยู่ในห้องน้ำ
โม่ถิงเซียวมาเข้าร่วมงานเย็นนี้จริงๆด้วย ถ้าเธอออกไปข้างนอก เธอจะต้องเจอกับโม่ถิงเซียวแน่ๆ
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง มู่นวลนวลก็กัดฟันแล้วนั่งลงบนชักโครก
เธอตัดสินใจที่จะไม่ออกไปข้างนอก และจะอยู่ที่นี่จนกว่างานเลี้ยงจะเลิก!
เธอไม่เชื่อว่าเซินชูฮันจะวิ่งเข้ามาหาเธอในห้องน้ำหญิง!
……
เซินชูฮันรอมู่นวลนวลอยู่ข้างนอก รอแล้วรออีกเธอก็ไม่ออกมาสักที
เขาจึงโทรศัพท์หามู่นวลนวล
มู่นวลนวลไม่รับสายช้า เขากำลังคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือเปล่า
ก่อนที่สายกำลังจะตัดอัตโนมัติ มู่นวลนวลก็รับสาย:“ฮัลโหล”
เซินชูฮันถอนหายใจโล่งอกและถามเธอว่า:“ทำไมเธอถึงยังไม่ออกมา?”
มู่นวลนวลเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงว่า:“ฉันท้องเสีย ออกไปไม่ไหว คุณรีบกลับไปก่อนเถอะ ให้ฉันนั่งอยู่ที่นี่สักพัก”
เซินชูฮัน:“……”
เขารู้ว่ามู่นวลนวลไม่อยากเข้าร่วมงานเลี้ยงกับเขา แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะหาข้ออ้างที่น่าเบื่อแบบนี้ได้
เซินชูฮันท้าวเอวและพูดด้วยน้ำเสียงจำใจว่า:“นวลนวล เธอลืมข้อตรงลงก่อนหน้านี้ของเราแล้วหรอ เธอมาเป็นเพื่อนร่วมงานเลี้ยงคืนนี้กับฉัน ฉันก็จะบอกเรื่องที่ฉันรู้กับเธอ”
แม้ว่ามู๋นวลนวลจะอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลโม่จากเซินชูฮัน แต่เรื่องบางอย่างของตระกูลโม่ เมื่อเทียบไม่ได้กับความโกรธที่น่ากลัวของโม่ถิงเซียว
“อย่างมากคุณก็แค่ไม่บอกฉัน ก็แค่นั้น บาย”
“ตู๊ด——”
เสียงตัดสายของโทรศัพท์ดังขึ้น เซินชูฮันตะลึงไปชั่วขณะ เขายืนอยู่ที่นั่นสักพักด้วยสีหน้าที่คาดเดาไม่ได้ และไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ จากนั้นเขาก็เดินจากไป
ในขณะเดียวกันก็มีผู้ชายรูบร่างสูงโปร่งคนหนึ่งเดินเข้ามา
เซินชูฮันหยุดมอง และรอให้ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ จากนั้นก็พูดเพื่อหยุดเขาไว้:“คุณชายโม่ ไม่ได้เจอกันนาน”
โม่ถิงเซียวหยุดเดิน เขาเลิกคิ้วขึ้นและพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า:“คุณอยากเจอผมมากหรอ?”
หลังจากที่เซินชูฮันช่วยมู่นวลนวลหลบหนีครั้งก่อน โม่ถิงเซียวก็ทิ้งคำพูดที่รุนแรงเพื่อรักษาตระกูลเซิน แต่สุดท้ายก็ละเว้นไว้ และไม่ทำให้ตระกูลเซินล้มละลาย
สำหรับผู้ชายที่อยากได้ผู้หญิงของตัวเอง โม่ถิงเซียวไม่เห็นอกเห็นใจเลยสักนิด
แต่เขารู้ว่าถ้าเขาทำลายตระกูลเซิน มู่นวลนวลจะต้องโทษตัวเองอย่างแน่นอน
เมื่อเซินชูฮันนึกถึงสิ่งที่โม่ถิงเซียวทำกับตระกูลเซิน สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึม แต่ไม่นานเขาก็ยิ้ม:“เปล่า ผมแค่รอมู่นวลนวลออกมา ไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอคุณ”
หลังจากที่เซินชูฮันพูดจบ เขาก็ยิ้มเยาะ
เมื่อโม่ถิงเซียวได้ยิน “นวลนวล” สองคำนี้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยน
โม่ถิงเซียวเหล่ตามองเขา และพูดเสียงต่ำว่า:“คุณพูดถึงใครนะ?”
“อดีตภรรยาของคุณ มู่นวลนวล” เซินชูฮันพูดทีละคำ และจงใจเน้นเสียงที่ “อดีตภรรยา” สองคำนี้
เมื่อเซินชูฮันเห็นว่าโม่ถิงเซียวสีหน้าเคร่งขรึม เขาก็พูดเติมเชื้อไฟอีกว่า:“เธอมาผมร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ด้วยกันกับผม ถึงอย่างไรพวกคุณก็เคยเป็นสามมีภรรยากัน อีกเดี๋ยวเธอก็ออกมา คุณอยากจะทักทายเขาหน่อยไหม”
โม่ถิงเซียวหัวเราะเยาะด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมแล้วเหลือบมองไปที่เซินชูฮัน จากนั้นเขาก็เดินตรงไปที่ห้องน้ำหญิง
“คุณจะทำอะไร?” เซินชูฮันเห็นโม่ถิงเซียวเข้าไปในห้องน้ำหญิง
งานเลี้ยงกำลังจะเริ่ม ในห้องน้ำจึงไม่ค่อยมีคน
เมื่อโม่ถิงเซียวนึกถึงตอนที่มู่นวลนวลโทรหาเขาก่อนหน้านี้ สีหน้าของเขาก็เย็นชามากขึ้น
มู่นวลนวล เธอมีความสามารถมาก
เขาเริ่มเปิดประตูห้องน้ำห้องแรก และเคาะประตูไปเรื่อยๆ