มู่นวลนวลนั่งอยู่บนชักโครกในห้องน้ำ เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูจากด้านนอก ในใจก็มีลางสังหรณ์ไม่ดี
คงไม่ใช่เซินชูฮันนะ?
แต่ด้วยนิสัยของเซินชูฮันแล้ว ไม่น่าจะใช่เขา
แม้ว่าเซินชูฮันจะเปลี่ยนไปมาก แต่หน้าตาของเขาไม่ได้เปลี่ยนไป
ดังนั้นไม่ใช่เขาแน่นอน
งั้นเป็นใคร?
และในขณะนี้คนที่เคาะประตูอยู่ด้านนอกก็มาเคาะที่ประตูห้องน้ำของเธอ
ก๊อกก๊อก!
เคาะเป็นจังหวะสองสามครั้งติดต่อกัน ลมหายใจของเธอนิ่งสงบ
มู่นวลนวลถอนหายใจในใจ
เธอคิดว่ามันอาจจะเป็นโม่ถิงเซียว……
สัมผัสที่หกของมนุษย์ช่างเป็นอะไรที่แปลกประหลาด
ชัดเจว่ามีประตูกั้น ทั้งสองไม่ได้พูดกันและมองไม่เห็นซึ่งกัน แต่มู่นวลนวลมั่นใจได้ว่าคนที่อยู่นอกประตูคือโม่ถิงเซียว
มู่นวลนวลบีบจมูก และพูดเสียงต่ำ:“ใคร?ฉันยังไม่เสร็จ”
ในวินาทีถัดมา เสียงเคร่งขรึมของโม่ถิงเซียวก็ดังมาจากอยู่ด้านนอก:“มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?”
เป็นโม่ถิงเซียวจริงๆด้วย!
มู่นวลนวลยื่นมือมาตบหน้าผากตัวเอง
ทำไมโม่ถิงเซียวถึงมาหาที่นี่?
เขาคงจะไม่ได้ติดตั้งระบบ GPS เพื่อระบุตำแหน่งบนตัวของเธอนะ
มู่นวลนวลตัดสินใจจะดิ้นรนให้ถึงที่สุด:“นี่มันห้องน้ำหญิงนะ คุณเข้ามาทำอะไรในนี้ ถ้าคุณยังไม่ออกไปฉันจะแจ้งตำรวจแล้วนะ ฉัน……”
โม่ถิงเซียวพูดขัดจังหวะเธอ:“จะออกมาเอง หรือจะให้ฉันพังประตูก็เลือกเอา”
น้ำเสียงของเขาเย็นชามากเ เมื่อมู่นวลนวลได้ยินก็หนาวสั่น
เธอไม่เลือกทั้งสองเลยได้ไหม?
อย่างไรก็ตามร่างกายของเธอเลือกได้เร็วกว่าสมองของเธอ
เสียง “แอ๊ด” ประตูก็เปิดออก
ใบหน้าของโม่ถิงเซียวเศร้าหมองปรากฏขึ้นในสายตาของมู่นวลนวล
เขาเลิกคิ้วแล้วจ้องมองไปที่มู่นวลนวล เขามองเธออยางแยกแยะไม่ถูก
มู่นวลนวลกลืนน้ำลาย และพยายามทำน้ำเสียงของเธอให้เป็นปกติ:“ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่……บังเอิญจัง……”
“มู่นวลนวล” โม่ถิงเซียวเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง
มู่นวลนวลตื่นคระหนก เธอเหยียดหลังและยืนตัวตรง เตรียมพร้อมที่จะรับมือ
โม่ถิงเซียวยิ้มด้วยความโกรธ:“ตอนนี้รู้จักสำนึกผิดแล้วหรอ?”
มู่นวลนวลก้มหน้าลงและพูดเบาๆ:“สำนึกผิดมาตลอด”
“แล้วเธอก็ยังจะมาร่วมงานเลี้ยงกับเขา?” ตอนนี้โม่ถิงเซียวไม่อยากเอ่ยชื่อของเซินชูฮันต่อหน้ามู่นวลนวล
มู่นวลนวลไม่เคยมาร่วมงานเลี้ยงด้วยกันกับเขา เซินชูฮันจึงต้องการจะคว้าไปก่อน
ฝันไปเถอะ!
“ฉันมีเหตุผล” มู่นวลนวลพยายามที่จะอธิบายให้ตัวเอง
“เหตุผล?เธอซาบซึ้งมากที่ก่อนหน้านี้เขาช่วยเธอออกนอกประเทศ?” โม่ถิงเซียวหัวเราะเยาะ:“ฉันไม่ได้แบนเซินกรุ๊ป ก็ถือว่าใจกว้างมากแล้ว เขายังต้องการให้เธอโปรดปราณเขาอีก?”
มู่นวลนวลเม้มริมฝีปาก:“ไม่ใช่อะไรๆคุณก็ไปแบนบริษัทคนอื่น……”
“เธอสามารถไปร่วมงานเลี้ยงกับผู้ชายคนอื่นได้ แล้วทำไมฉันจะแบนเซินกรุ๊ปไม่ได้?” โม่ถิงเซียวเลิกคิดแล้วมองเธอ น้ำเสียงดูไม่เป็นมิตร
เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธและยังหึงอีกด้วย
น้อยมากที่จะเห็นโม่ถิงเซียวหึงอย่างนี้ มู่นวลนวลรู้สึกแปลกๆและอดไม่ได้ที่จะยิ้ม
โม่ถิงเซียวสังเกตเห็นท่าทางของเธอ เขายื่นมือมาลูบหัวของมู่นวลนวลตามอำเภอใจ
“ผมยุ่งหมดแล้ว” มู่นวลนวลผลักมือเขาออกไปอย่างไม่พอใจ
เมื่อตะกี้โม่ถิงเซียวเพียงแค่โกรธ แต่เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าวันนี้มู่นวลนวลทำทรงผมพิเศษ
เมื่อเห็นโม่ถิงเซียวหรี่ตาลง มู่นวลนวลก็รีบลากเขาออกไป:“เราออกไปกันก่อนเถอะ มันแปลกเกินไปที่จะอยู่ในนี่นานๆ”
โม่ถิงเซียวไม่ได้พูดอะไรมาก และปล่อยให้เธอดึงเขาออกไป
หลังจากที่ออกไป มู่นวลนวลก็เห็นว่าเซินชูฮันยังอยู่ที่นั่น
เมื่อเซินชูฮันเห็นมู่นวลนวลออกมาก็ส่งเสียงเรียก:“นวลนวล”
มู่นวลนวลยิ้มอย่างอึดอัดวางตัวไม่ถูก
โม่ถิงเซียวเพิกเฉยต่อเซินชูฮัน และมองไปที่มู่นวลนวล:“ฉันจะให้คนไปส่งเธอ”
มู่นวลนวลนึกถึงตอนที่ตัวเองเพิ่งเข้ามาในห้องจัดเลี้ยง เมื่อได้ยินผู้หญิงสองสามคนนั้นคุยกัน เธอก็เลยไม่ได้ตอบโม่ถิงเซียวในทันที
โม่ถิงเซียวไม่ให้เธอไปร่วมงานเลี้ยงด้วยกันกับเซินชูฮัน เขาเองก็เจ้าชู้ไม่เลือกหน้า
อีกอย่างช่วงนี้เธอไม่ค่อยได้เจอกับโม่ถิงเซียว ในที่สุดครั้งนี้ก็เห็นความชอบธรรม เธอจะจากไปอย่างนี้ได้ยังไง?
เมื่อเห็นว่ามู่นวลนวลลังเลที่จะตอบ โม่ถิงเซียวก็รู้ว่าเธอไม่อยากจะกลับไป
โม่ถิงเซียวก้มหน้า เขาแตะหน้าของเธอและพูดเบาๆ:“เชื่อฟัง”
มู่นวลนวลร้อนใจ:“ไหนๆฉันก็มาแล้ว ถ้ากลับไปก็จะเสียเที่ยวเปล่าๆ ถือซะว่าให้ฉันได้เปิดหูเปิดตา”
โม่ถิงเซียวขมวดคิ้วและไม่พูดอะไร
มู่นวลนวลเหลือบมองเขา เธอหันไปด้านข้างแล้วเดินไปที่ห้องจัดเลี้ยง
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างโม่ถิงเซียวกับมู่นวลนวลเมื่อครู่นี้ อยู่ภายในสายตาของเซินชูฮัน เขามองไปที่โม่ถิงเซียวด้วยสีหน้าที่ไม่ชัดเจน
ก่อนหน้านี้สื่อปล่อยข่าวว่าโม่ถิงเซียวกับมู่นวลนวลหย่าขาดจากกัน
เขารู้ว่าหลังจากที่มู่นวลนวลหนีไปตอนนั้น โม่ถิงเซียวก็โกรธมาก ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อว่าทั้งสองคนหย่ากันแล้ว
ตอนนี้ดูท่าแล้วเขาจะเดาไม่ผิด
เซินชูฮันสังเกตโม่ถิงเซียวอย่างละเอียด โม่ถิงเซียวก็หันกลับมามองเขา
โม่ถิงเซียวจ้องมองเขาอยู่สองสามวินาที และพูดว่า:“ผมคิดว่าคุณเป็นคนที่ฉลาด”
เซินชูฮันกระพริบตา:“ชมกันเกินไปแล้ว”
“อะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด อะไรควรแตะต้องอะไรไม่ควรแตะต้อง คุณเซินคงจะรู้ชัดเจนอยู่ในใจ”
ตอนที่โม่ถิงเซียวพูด เขาก็ไม่ได้ละสายตาไปจากเซินชูฮัน ดังนั้นแน่นอนว่าเขาเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเซินชูฮัน
เขาหัวเราะเหยียดหยาม แล้วเดินจากไป
เซินชูฮันคนนี้ คิดจะแย่งผู้หญิงของเขา?
……
เมื่อมู่นวลนวลกลับไปที่ห้องจัดเลี้ยง เธอก็เห็นซือเย่
ซื่อเย่มาด้วยกันกับโม่ถิงเซียว โม่ถิงเซียวไม่อยู่ แน่นอนว่ามีหลายคนมาประจบประแจงซือเย่
ซือเย่เป็นทั้งมือขวาและซ้ายของโม่ถิงเซียว
มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถามซือเย่พอดี:“ช่วงนี้คุณชายโม่มีแฟนใหม่รึยัง?”
ผู้หญิงคนนี้ถามตรงมาก และคำถามนี้ก็เป็นสิ่งที่คนอื่นอยากรู้ด้วย
ซื่อเย่ไม่ใช่ลูกน้องธรรมดาทั่วไป และที่เขามาอยู่ข้างกายของโม่ถิงเซียวได้เพราะเขาเป็นคนที่ผ่านการฝึกฝนและผ่านบททดสอบมาอย่างโชกโชน:“นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณชาย ผมก็ไม่รู้แน่ชัด”
หลังจากที่ซือเย่พูดจบ เขาก็เงยหน้าขึ้นและเห็นมู่นวลนวล
ขณะที่มู่นวลนวลหยิบแก้วแชมเปญจากพนักงานเสิร์ฟ เธอก็เห็นว่าซือเย่มองมา เธอจึงพยักหน้าให้เขา
ซือเย่ตะลึงไปชั่วขณะ เขาคิดไม่ถึงว่าจะเจอมู่นวลนวลที่นี่
ไม่น่าล่ะ คุณชายถึงไปห้องน้ำนานขนาดนี้แล้วยังไม่กลับมา ที่แท้เป็นเพราะคุณหญิงก็อยู่ที่ยี่ด้วย
มีผู้หญิงคนหนึ่งสังเกตเห็นสายตาของซือเย่ และแน่นอนว่าเธอก็เห็นมู่นวลนวล
หญิงสาวถามคนที่อยู่ข้างๆว่า:“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?”
เธอรู้สึกว่าเคยเห็นมู่นวลนวล แต่จำไม่ได้ว่าเคยเห็นที่ไหน
“มู่นวลนวล อดีตภรรยาของคุณชายโม่” คนข้างๆเธอพูดว่า:“แต่เคยได้ยินมาว่าเมื่อก่อนขี้เหร่มาก ฉันเดาว่าต้องไปทำศัลยกรรมมา”