ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 308 ฉากนี้เกิดขึ้นแค่ในความฝันเท่านั้น

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

มู่นวลนวลเงยหน้าขึ้น ฝืนใจยิ้ม

สีหน้าท่าทางนี้เป็นความจริง ไม่ใช่เสแสร้ง

เธอนึกถึง โม่มู่อาจจะถูกโม่ชิงเฟิงพาไป ก็ยิ้มไม่ออกแล้ว

โม่ชิงเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล“เธอทำอาหารของเธอเถอะ ฉันมาหาโม่ถิงเซียวมีธุระนิดหน่อย ในบริษัทเขายุ่งมากจนไม่มีเวลาตอนนี้เขาก็ไม่ค่อยจะกลับบ้านเก่าฉันทำได้เพียงมาหาเขาที่นี่…”

มู่นวลนวลก็สังเกตถึงช่องโหว่ในคำพูดของโม่ชิงเฟิง

ในเมื่อโม่ชิงเฟิงรู้ว่าโม่ถิงเซียวอยู่ในบริษัทก็ยุ่ง ไม่มีเวลา เป็นธรรมชาติที่จะรู้ว่าตอนนี้โม่ถิงเซียวยังอยู่ที่บริษัท

โม่ชิงเฟิงในมือไม่มีกุญแจห้องของโม่ถิงเซียว งั้นตอนนี้เขามาในห้องของโม่ถิงเซียวทำอะไร?

เพื่อจะมายืนรออยู่หน้าห้องรอให้โม่ถิงเซียวกลับมา?

ไม่ โม่ชิงเฟิงแสดงชัดเจนแล้วว่ามารอโม่ถิงเซียว

ถ้าหากว่าโม่ถิงเซียวกลับมาก่อนเวลา ถ้าอย่างนั้นโม่ชิงเฟิงก็ต้องรู้แน่นอนว่ามู่นวลนวลกับโม่ถิงเซียวนัดกันแล้ว

“ฉันไปเอาน้ำให้คุณก่อน”มู่นวลนวลพูดพลาง ก็ปิดประตู หมุนตัวกลับไปรินน้ำให้โม่ชิงเฟิง

โม่ชิงเฟิงก็ไม่ได้พูดอะไร เดินไปที่โซฟาและนั่งลง

มู่นวลนวลส่งน้ำหนึ่งแก้วให้โม่ถิงเซียว ก็คิดจะกลับไปที่ห้องครัว ทันใดนั้นโม่ชิงเฟิงก็พูด“ฉันออกมาลืมพกโทรศัพท์ โทรศัพท์ของเธอสามารถให้ฉันยืมใช้โทรได้ไหม?”

มู่นวลนวลในใจดังเพล้ง

เมื่อกี้เธอยังคิดจะเข้าไปส่งข้อความให้โม่ถิงเซียว ให้เขาไม่ต้องกลับมาชั่วคราว

โม่ชิงเฟิงเป็นคนเจ้าเล่ห์จริงๆ

มู่นวลนวลหันกลับไปมองเขา“ได้แน่นอนค่ะ”

โชคดี ที่มู่นวลนวลชินกับการล็อกโปรแกรมที่ใช้เป็นประจำของโทรศัพท์ตัวเอง

“ฉันปลดล็อกให้ก่อน”มู่นวลนวลพูดพลาง ก็ลบรายชื่อผู้ติดต่อล่าจนสุดว่างเปล่า

โม่ชิงเฟิงนั่งอยู่ เธอยืนอยู่ตรงหน้าเขา ก็มองไม่เห็นว่าจริงๆแล้วเธอทำอะไรในโทรศัพท์

หลังจากนั้น เธอจึงนำโทรศัพท์ส่งให้โม่ชิงเฟิง

โม่ชิงเฟิงรับโทรศัพท์ไป ต่อสายโทรศัพท์ แต่ไม่มีคนรับ

เขามองไปที่มู่นวลนวลด้วยความรู้สึกเกรงใจ“เธอวางโทรศัพท์ไว้ตรงนี้ได้ไหม?อีกสักครู่เขาน่าจะโทรศัพท์กลับมาหาฉัน”

ตอนนี้มู่นวลนวลเข้าใจเจตนาทั้งหมดของโม่ชิงเฟิงแล้ว

เขาต้องการทำให้เธอไม่มีวิธีที่จะแอบแจ้งให้โม่ถิงเซียวรู้

สีหน้าของมู่นวลนวลไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ“ได้ค่ะ”

“ขอบคุณมาก”โม่ชิงเฟิงพูดพลาง ยื่นมือไปกดปุ่มล็อกหน้าจอ นำโทรศัพท์วางลงบนโต๊ะชาอย่างเบามือ

มู่นวลนวลจ้องมองโทรศัพท์หลายวินาที จึงหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องครัว

เธอหั่นผักใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คิดว่าโม่ถิงเซียวฉลาดขนาดนั้น ถึงแม้ว่าเขากลับมา ก็น่าจะสามารถมองเห็นรถของโม่ชิงเฟิง

โม่ชิงเฟิงไม่พาโทรศัพท์มาได้ แต่ไม่สามารถจะไม่นั่งรถมาอย่างแน่นอน

เธอทำอาหารอย่างเชื่องช้า เดิมทีสองทุ่มก็สามารถทำเสร็จแล้ว แต่ทำจนถึงสามทุ่มจึงจะเสร็จ

และโม่ถิงเซียวก็ไม่ได้กลับมา

มู่นวลนวลในใจก็ผ่อนคลายลง

หลังจากที่มู่นวลนวลนำอาหารมาวางเสร็จแล้ว เดินออกมาจากห้องครัวมาถึงห้องรับแขก

“คุณลุง ฉันต้องกลับแล้วค่ะ”เธอเดินไปพูดข้างหน้าของโม่ชิงเฟิง

เธอทำอาหารมาสองชั่วโมงแล้ว โม่ชิงเฟิงก็นั่งอยู่ที่ห้องรับแขกสองชั่วโมงแล้ว

สองชั่วโมงไม่ได้พูดจา น้ำเสียงของเขาแหบเล็กน้อย“เธอไม่รอให้โม่ถิงเซียวกลับมา?”

“รอเขากลับมา เขาก็ไล่ให้ฉันกลับ”มู่นวลนวลเหลือบตาลง ไม่ให้เขามองเห็นความรู้สึกของดวงตาของเธอ

เธอพูดแบบนี้แล้ว โม่ชิงเฟิงก็ไม่ได้ขวางเธอไว้อีก

โม่ชิงเฟิงนำโทรศัพท์ส่งให้เธอ“ก็ได้ งั้นเธอกลับไปก่อนเถอะ”

มู่นวลนวลออกมาจากคอนโด ในเวลาที่เข้าไปในลิฟท์ จึงถอนหายหายใจยาวๆอย่างโล่งอก

ดูเหมือนว่าเธอกับโม่ถิงเซียวยังประมาทเกินไปแล้ว

เพียงแต่ โม่ชิงเฟิงในใจของตัวเองก็ไม่สบายใจ

ตอนแรกเขาใช้เรื่องลูกมาหยั่งเชิงมู่นวลนวล นึกไม่ถึงว่าตอนนี้มู่นวลนวลใช้เรื่องนี้เป็นเหตุผลให้เธอได้ใกล้ชิดโม่ถิงเซียว

มู่นวลนวลกลับมาถึงในรถ ก็หยิบโทรศัพท์โทรหาโม่ถิงเซียว

โทรศัพท์โทรไปหลายครั้งก็ไม่มีคนรับ

ก้นบึ้งหัวใจของมู่นวลนวลรู้สึกกระวนกระวาย

โม่ถิงเซียวพูดแล้วว่าจะกลับมาทานอาหาร ตามหลักก่อนสามทุ่มก็น่าจะถึงห้องแล้ว ก่อนหน้านี้เธอยังนึกว่า เป็นเพราะว่าโม่ถิงเซียวรู้ว่าโม่ชิงเฟิงมาหาเขา ดังนั้นก็เลยไม่กลับมาที่ห้อง

แต่ตอนนี้คาดไม่ถึงว่าไม่รับสายโทรศัพท์ของเธอ

หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?

มู่นวลนวลจำเป็นต้องโทรศัพท์ไปหาซือเย่

บังเอิญมาก โทรศัพท์ของซือเย่ก็ไม่มีคนรับสาย

มู่นวลนวลขับรถไปที่โม่กรุ๊ป

เธอรออยู่หน้าประตูใหญ่อยู่ชั่วครู่หนึ่ง ก็มองไม่เห็นโม่ถิงเซียวออกมา

เขาไปไหนแล้ว?

มู่นวลนวลมองดูเวลา ใกล้จะห้าทุ่มแล้ว

ห่างจากก่อนหน้าที่เธอโทรศัพท์หาเขา ก็ผ่านมานานมากแล้ว ถ้าเหตุการณ์ปกติ เขาก็น่าจะโทรศัพท์กลับมาหาเธอแล้ว

ตอนนี้ โทรศัพท์ของมู่นวลนวลดังขึ้นมา

หยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นเซินเหลียงที่โทรเข้ามา

ช่วงนี้เซินเหลียงยุ่งมาก มู่นวลนวลไม่ได้เจอเธอหลายวันแล้ว

มู่นวลนวลกดรับสายโทรศัพท์“เสี่ยวเหลียง”

“นวลนวล เธออยู่ไหน?”ในน้ำเสียงของเซินเหลียงยังระงับอารมณ์ความโมโหไว้

มู่นวลนวลสังเกตเห็นได้ว่าในน้ำเสียงของเซินเหลียงผิดปกติ พูดออกไป“ฉันอยู่ที่โม่กรุ๊ป ทำไม?”

“เธอมาดูด้วยตัวเองที่ร้านอาหารจินติ่งเถอะ ฉันรอเธออยู่ที่นี่”

เซินเหลียงพูดจบก็ตัดสายโทรศัพท์

มู่นวลนวลรู้สึกอึดอัดใจ เรื่องอะไรทำให้เธอโมโหขนาดนี้?

มู่นวลนวลขับรถไปที่ร้านอาหารจินติ่ง เข้าไปก็มองเห็นเซินเหลียงนั่งเอียงอยู่เล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟาในห้องโถงใหญ่

เธอเดินตรงเข้าไปหาเซินเหลียง“เสี่ยวเหลียง?”

เซินเหลียงเงยหน้ามองเธอ ก็เก็บโทรศัพท์ดึงเธอตรงไปที่หน้าประตูลิฟท์“พาเธอไปดูว่าโม่ถิงเซียวคนทรยศกำลังทำอะไรอยู่!”

“โม่ถิงเซียว?”มู่นวลนวลได้ยินชื่อของโม่ถิงเซียว ดวงตาก็สว่างขึ้น“เธอเห็นเขา?”

เซินเหลียงพูดและเสแสร้งยิ้ม“เห็นแล้ว”

มู่นวลนวลผ่อนคลายลง ไม่เป็นไรก็ดี

เซินเหลียงพามู่นวลนวลขึ้นลิฟท์ตรงไปที่ห้องรับรองพิเศษของใครบางคน

ทั้งสองคนเดินเข้าไป คนทั้งหมดที่อยู่ในห้องรับรองพิเศษก็มองตรงไปที่พวกเธอสองคน

มู่นวลนวลมองก็เห็นโม่ถิงเซียวนั่งอยูตรงกลางกลุ่มคน รวมทั้ง…ผู้หญิงแปลกหน้าที่นั่งอยู่ด้านข้างเขา

มู่นวลนวลชะงักไปเล็กน้อย หันหน้ากลับไปมองเซินเหลียง

เซินเหลียงเลิกคิ้วไปที่เธอ บอกใบ้ให้ตัวเธอเองเข้าไป

ในห้องรับรองพิเศษมีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา“เซินเสี่ยวเหลียง เธอพามู่นวลนวลมาด้วยเหรอ”

มู่นวลนวลมองตามเสียง เพิ่งจะพบว่ากูจื่อหยานก็อยู่

ไม่เพียงแต่กูจื่อหยาน ยังมีซือเย่ โม่จิ่นหยุนก็อยู่

มิน่าล่ะโม่ถิงเซียวกับซือเย่ไม่รับสายโทรศัพท์ของเธอเลย

ซือเย่มองมู่นวลนวล ก็เคลื่อนสายตามองไปทางอื่น ดูเหมือนว่ามีพิรุธขึ้นมาเอง

แต่โม่จิ่นหยุนจ้องมองเธอด้วยความประหลาดใจหลายวินาที ก็เคลื่อนสายตาไปทางอื่น พูดคุยต่อกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านข้างโม่ถิงเซียว

มีเพียงกูจื่อหยานลุกขึ้นยืนตรงเข้ามาหาเธอ“มู่นวลนวลมานั่งด้านนี่สิ

เมื่อเปรียบเทียบกับความโมโหของเซินเหลียง เห็นได้ชัดเจนว่ามู่นวลนวลสงบนิ่งกว่าเยอะ

เธอดึงเซินเหลียง“พวกเราเข้าไปนั่งเถอะ”

“นวลนวล”เซินเหลียงไม่ค่อยเห็นด้วยกับความคิดของเธอ

มู่นวลนวลส่ายหน้าไปที่เธอ

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท