ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 311 ทำให้เธอลำบากใจแล้ว

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ตอนนี้มู่นวลนวลไม่ได้รู้สึกอะไรกับเซินชูฮันสักนิด แต่เธอก็ยังรับฟังความในใจของเซินชูฮัน

เธอรอจนเซินชูฮันพูดจบ แล้วจึงพูดว่า:“ต่อไปนายก็เป็นตัวของตัวเองเถอะ ส่วนฉัน ฉันมีแค่โม่ถิงเซียวก็พอแล้ว”

“เธอแน่ใจจริงๆเหรอว่าจะเดินไปกับโม่ถิงเซียวจนถึงตอนสุดท้าย?” เซินชูฮันมองเธอกับโม่ถิงเซียวในแง่ไม่ดีมาตลอด

มู่นวลนวลครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า:“อย่างไรก็ตามฉันไม่เคยคิดจะใช้ชีวิตร่วมกับใคร นอกจากโม่ถิงเซียว”

นี่เป็นความคิดที่เรียบง่ายที่สุดในใจของเธอ

เธอนึกภาพตัวเองไม่ออกว่าจะใช้ชีวิตร่วมกับผู้ชายคนอื่นได้ยังไง ดังนั้นต่อให้ตอนนี้จะเป็นเรื่องยาก เธอก็จะยืนหยัดต่อไป

เซินชูฮันหัวเราะเยาะตัวเอง:“ฉันเข้าใจแล้ว”

หลังจากนั้นทั้งสองก็สนทนากัน

ส่วนใหญ่จะคุยกันงเรื่องอดีต โดยเซินชูฮันเป็นคนพูด แล้วมู่นวลนวลเป็นคนฟัง

หลังจากทานอาหารเสร็จ ทั้งสองก็ออกจากห้องรับรองพิเศษ และเตรียมตัวออกจากร้านอาหาร

พวกเขาบังเอิญเจอซือเฉิงยวี่กับมู่หวันฉีที่ทางเข้าร้านอาหาร

มู่หวันฉีไม่พอใจที่มู่นวลนวลปฏิเสธเธอ และแน่นอนว่าเธอถือโอกาสครั้งนี้ในการเหน็บแหนบ

เธอกวาดสายตามองมู่นวลลนวลกับเซินชูฮันไปมา จากนั้นก็เพิ่มระดับเสียงและพูดว่า“อุ๊ย สานสัมพันธ์กับโม่ถิงเซียวไม่ได้ เธอก็มาจุดถ่านไฟเก่ากับเซินชูฮัน?”

หลังจากที่มู่นวลนวลได้รับผลการตรวจดีเอ็นเอจากเซินชูฮัน ตอนนี้เธอก็ได้พบกับซือเฉิงยวี่อีกครั้ง แน่นอนว่าเธอมองไปที่ซือเฉิงยวี่

เมื่อมู่หวันฉีเห็นว่ามู่นวลนวลจ้องมองซือเฉิงยวี่ เธอก็เข้ามาขวางข้างหน้าซือเฉิงยวี่:“เธอมองอะไร?กินในหม้อแล้วอยากกินในชามหรอ?หน้าไม่อาย?”

ซือเฉิงยวี่ไม่สนใจและกล่าวทักทายกับมู่นวลนวล:“นวลนวล”

มู่นวลนวลเรียกอย่างไม่สนิท:“คุณซือ”

ส่วนเซินชูฮันก็มองซือเฉิงยวี่ด้วยความสนใจ

เนื่องจากสถานะและแวดวงของพวกเขา ทำให้เซินชูฮันกับซือเฉิงยวี่มีโอกาสเจอกันน้อยมาก

เขาได้รับผลการตรวจดีเอ็นเอเป็นครั้งคราวเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงอยากรู้เรื่องของซือเฉิงยวี่มากกว่านี้

ลูกนอกสมรสของโม่ชิงเฟิง

เป็นลูกนอกสมรสมันง่ายขนาดนั้นเลยหรอ?

“เฉิงยวี่!” เมื่อมู่หวันฉีเห็นว่าซือเฉิงยวี่คุยกับมู่นวลนวล เธอก็เรียกเขาด้วยความไม่พอใจ

ซือเฉิงยวี่ก้มหน้าลงและมองไปที่มู่หวันฉีด้วยสายตาที่อ่อนโยน:“ไม่ว่ายังไงมู่นวลนวลก็เป็นน้องสาวของคุณ แม้ว่าบทภาพยนตร์เรื่องเมืองที่สาบสูญของมู่นวลนวล คุณจะไม่มีโอกาสที่จะร่วมมือกับเธอ แต่ก็ยังมีบทเรื่องต่อไปไม่ใช่หรอ?”

คำพูดของซือเฉิงยวี่ ทำให้มู่หวันฉีทำตัวเหมือนแมวที่ถูกลูบขนแล้วเชื่องขึ้นมาทันที

มู่นวลนวลหรี่ตาเล็กน้อย มิน่าล่ะมู่หวันฉีถึงได้ไปออดิชั่นภาพยนตร์เรื่องเมืองที่สาบสูญ ที่แท้ก็เป็นเพราะซือเฉิงยวี่

ซือเฉิงยวี่เคยแสดงในภาพยนตร์แนวระทึกขวัญ แน่นอนว่าเขาเห็นบทแล้วก็มีมุมมองของตัวเอง

แต่ซือเฉิงยวี่ก็ให้มู่หวันฉีไปออดิชั่นภาพยนตร์เรื่องเมืองที่สาบสูญ ไม่ว่าจะเป็นเพราะเขาชอบบทภาพยนตร์ หรือเป็นเพราะอยากให้มู่หวันฉีเห็นความไม่สบายใจของมู่นวลนวล ก็ยากที่จะพูด

มู่นวลนวลเคยเห็นความเลวร้ายของซือเฉิงยวี่

มู่นวลนวลไม่อยากจะพูดคุยกับพวกเขาไปมากกว่านี้ เธอจึงกระซิบบอกเซินชูฮันว่า:“พวกเราไปกันเถอะ”

จากนั้นเธอก็เดินออกไป

……

มู่นวลนวลไม่ได้กลับบ้าน แต่ขับรถตรงไปที่บ้านพักของโม่ถิงเซียว

เธอมีกุญแจคอนโดของโม่ถิงเซียว

เมื่อเธอเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าในห้องมืด และโม่ถิงเซียวก็ยังไม่กลับมา

มู่นวลนวลเปิดไฟ แล้วเดินไปดูทุกห้อง

มีฝุ่นบางๆบนเคาน์เตอร์ในครัว ซึ่งบ่งบอกได้ว่าโม่ถิงเซียวไม่เคยทำอาหารที่บ้าน

และโม่ถิงเซียวก็ทำอาหารไม่เป็น

นอกจากน้ำเปล่าและไวน์ไม่กี่ขวดแล้ว ในตู้เย็นก็ไม่มีของอย่างอื่นอีก

ไม่เหมือนห้องที่มีคนอยู่เลยจริงๆ

มู่นวลนวลรอแล้วรอเล่า จนถึงห้าทุ่มโม่ถิงเซียวก็ยังไม่กลับมา

มู่นวลนวลอาบน้ำเสร็จแล้วก็ปิดไฟ และขึ้นไปนอนบนเตียงของเขา

จนกระทั่งตีหนึ่ง โม่ถิงเซียวก็กลับมา

เขาเดินเข้ามาแล้วเปิดไฟ เมื่อเขาก้มลงก็สังเกตว่ามีรองเท้าผู้หญิงคู่หนึ่งวางอยู่ที่ข้างประตู

ผู้หญิงที่สามารถเข้ามาในห้องของเข้าได้ นอกจากมู่นวลนวลแล้วจะมีใคร?

เขายิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของเขาก็หายไป เขาโยนเสื้อสูทที่แขนออก แก้เน็กไทของตัวเองออกพร้อมกับเดินไปที่ห้องนอน

ในห้องนอนไม่ได้เปิดไฟ แต่โม่ถิงเซียวก็ชินกับห้องแบบนี้แล้ว เขาค่อยๆเดินมือไปเปิดโคมไฟที่หัวเตียง

มู่นวลนวลนอนห่มผ้าอยู่บนเตียงของเขา ผมยาวสีดำของเธอสยายคลุมหมอน

เมื่อเขาเลิกงานกลับมาแล้วได้เห็นมู่นวลนวลนอนหลับอยู่บนเตียงของเขา

ฉากนี้เกิดขึ้นแค่ในความฝันเท่านั้น

โม่ถิงเซียวโน้มตัวเขาไปใกล้มู่นวลนวล และยื่นมือไปเขี่ยผมที่ปิดหน้าของเธอออกและจูบเบาๆ

ตั้งแต่กลับมาที่เซี่ยงไฮ้ มู่นวลนวลก็ไม่ได้หลับสนิท

แม้ว่าการเคลื่อนไหวของโม่ถิงเซียวจะเบามาก แต่ก็ยังทำให้เธอตื่น

เธอลืมตาขึ้น และหันไปเห็นใบหน้าหล่อเหลาของโม่ถิงเซียว

“คุณกลับมาแล้ว” เธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงแหบและทำท่าทางเหมือนเด็ก

โม่ถิงเซียวนั่งอยู่ที่ขอบเตียง เขาลูบหน้าของเธอแล้วพูดเบาๆว่า:“อืม รอนานแล้วหรอ?”

มู่นวลนวลพยักหน้าแล้วยื่นมือไปหยิบนาฬิกาข้อมือที่หัวเตียง

โม่ถิงเซียวเห็นความตั้งใจของเธอ เขาจับมือของเธอแล้วพูดว่า:“เกือบจะตีสองแล้ว”

“คุณทำงานล่วงเวลาจนดึกขนาดนี้เลยหรอ?” ในขณะที่พูดมู่นวลนวลก็ลุกขึ้นนั่ง

โม่ถิงเซียวโอบไหล่ของเธอ:“เปล่า”

การปฏิเสธนั้นตรงไปตรงมามาก ทำให้มู่นวลนวลรู้ว่าเขากำลังโกหก

มู่นวลนวลไม่ได้ซักไซ้อะไร เธอเอียงหันมองเขา:“คุณบอกว่าไงก็ช่าง ฉันจะไปถามซือเย่”

“ทำงานสักพักก็เสร็จแล้ว” โม่ถิงเซียวเผลอยิ้มออกมา เขาเห็นใบหน้าที่สวยงามของเธอภายใต้แสงไฟก็อดไม่ได้ที่จะแต่โน้มตัวไปจูบเธอ

เขาจูบเธอเบาๆ:“นอนก่อนเถอะ ฉันจะไปอาบน้ำ”

“ฉันจะรอคุณ มีเรื่องจะคุยด้วย” ในใจของมู่นวลนวลคิดถึงแต่เรื่องผลการตรวจดีเอ็นเอ อยากจะพดกับโม่ถิงเซียวเร็วๆ

โม่ถิงเซียวนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า:“อืม”

มู่นวลนวลเอาผลการตรวจดีเอ็นเอที่เซินชูฮันให้เธอมาด้วย เธอวางไว้ในลิ้นชักหัวเตียง

เมื่อโม่ถิงเซียวออกมาจากห้องน้ำ เธอก็ส่งผลการตรวจดีเอ็นเอให้เขา

“มันคืออะไร?” โม่ถิงเซียวยื่นมือออกไปรับ เขามองแล้วก็ขมวดคิ้วแน่น

เขานั่งลงที่ขอบเตียง และดูผลการตรวจดีเอ็นเอ

มู่นวลนวลเห็นว่าเขาพลิกไปดูผลตรวจที่ด้านหลัง

เห็นได้ชัดว่าโม่ถิงเซียวเข้าใจอะไรบางอย่าง เขาดูอยู่นานมาก ก่อนที่จะเงยหน้าถามมู่นวลนวลว่า:“ใครให้เธอมา?”

น้ำเสียงของเขาจริงจังมากราวกับว่าเขารู้ว่ามันเป็นผลการเปรียบเทียบดีเอ็นเอของใครกับใคร

มู่นวลนวลบอกตามความจริง:“เซินชูฮันให้ฉันมา”

เมื่อโม่ถิงเซียวได้ยินอย่างนั้นก็หรี่ตาลง และพูดด้วยน้ำเสียงต่ำว่า:“เธอไปเจอเซินชูฮันมาอีกแล้วหรอ?”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน