เดิมทีโม่จิ่นหยุนก็ไม่ได้ชอบมู่นวลนวล มองเห็นฉากนี้ ทันทีหลังจากนั้นก็ก้าวเท้ายาวๆตรงเข้ามาด้วยความโกรธ
มู่นวลนวลได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงของโม่จิ่นหยุนเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ก็อยากถอยออก แต่โม่ถิงเซียวกัดริมฝีปากเธอไม่ปล่อย ยังกระซิบอย่างคลุมเครือ“เธอกล้าผลักฉันก็ลองดู”
มู่นวลนวลไม่กล้า
โม่ถิงเซียวมีความสามารถพิเศษในการขู่เธอ
เป็นผู้ชายเย่อหยิ่งและทะนงตน
โม่ถิงเซียวยกเปลือกตาขึ้นไม่พูดจา เห็บแวบหนึ่งว่าโม่จิ่นหยุนเดินมาถึงด้านหน้าแล้ว ก็ยกมือผลักมู่นวลนวลอย่างรวดเร็ว
เขาควบคุมกำลังดีแล้ว มู่นวลนวลเพียงถูกเขาผลักถอยหลังไปสองก้าว
หลังจากผลักมู่นวลนวลแล้ว ยื่นมือขึ้นจัดการดึงคอเสื้อของตัวเองให้เข้าเรียบร้อยอย่างเย็นชา ในน้ำเสียงฟังไม่ออกถึงอารมณ์“มู่นวลนวล เธอต้องการจะกวนใจฉันอีกนานแค่ไหน”
คำพูดนี้คนอื่นได้ยิน รู้สึกว่าโม่ถิงเซียวเมินเฉยมู่นวลนวลมาก
แต่ในหูของมู่นวลนวลเมื่อได้ยิน แต่ก็ฟังออกว่ามีความลำพองใจ
ผลักเธอ โม่ถิงเซียวลำพองใจมากใช่ไหม?
มู่นวลนวลเพียงแค่ร่วมมือกับเขา“กวนใจตลอดชีวิต”
โม่ถิงเซียวสายตากระพริบเล็กน้อย มู่นวลนวลรู้จักเขาเป็นอย่างดี ก็สังเกตเห็นรอยยิ้มในดวงตาของเขา
โม่จิ่นหยุนที่ยืนอยู่ด้านข้างได้ยินคำพูดของมู่นวลนวล ความโมโหก็ออกมาจากในใจ“มู่นวลนวล เธอเป็นผู้หญิง รักษาหน้าตัวเองไว้บ้าง!”
มู่นวลนวลหันหน้าไม่มองทางโม่จิ่นหยุน ใบหน้ายิ้มไม่มีพิษมีภัย“ถึงแม้ว่าฉันกับโม่ถิงเซียวแยกกันแล้ว แต่ก็ยังมีความเกรงใจ ถึงอย่างไรฉันยังต้องเรียกคุณว่าพี่ นี้คือเป็นเรื่องส่วนตัวของฉันกับโม่ถิงเซียว โม่ถิงเซียวก็อายุยี่สิบเจ็ดปีแล้ว แม้แต่เรื่องส่วนตัวของเขาพี่ก็ยังจะต้องก้าวก่ายเหรอคะ?จะก้าวก่ายเยอะเกินไปหรือเปล่าคะ?”
โม่จิ่นหยุนยิ่งเห็นมู่นวลนวล ก็รู้สึกไม่ถูกชะตา“ตอนนี้เธอยังคิดว่าตัวเองเป็นคุณหญิงของตระกูลโม่เหรอ?”เรื่องระหว่างฉันกับโม่ถิงเซียว จะต้องให้เธอมาก้าวก่าย? ”
“ไม่ใช่ค่ะ ก็เพราะว่าในใจฉันเข้าใจชัดเจนดีว่าฉันไม่ใช่เป็นคุณหญิงของตระกูลโม่แล้ว ดังนั้นจึงอยากจะกอบกู้หัวใจของโม่ถิงเซียวกลับมา
มู่นวลนวลพูดจบ หันหน้ากลับไปมองโม่ถิงเซียว ขยิบตายิ้มและพูด“ฉันคิดถึงอดีตสามี รู้ถึงความรู้สึกฉันที่อยากจะกอบกู้โม่ถิงเซียวกับมาอย่างเด่นชัดแล้วสิ?”
เธอรู้ว่าโม่ถิงเซียวชอบดวงตาแมวของเธอมาก ในเวลาที่ยิ้มขึ้นมา และในเวลาที่ตั้งใจจ้องมองเขา
เธอเพียงแค่จ้องมองโม่ถิงเซียวหลายวินาทีเท่านั้นเอง โม่ถิงเซียวก็ยื่นมือขึ้นดึงเนคไทของตัวเองแล้ว แต่เขาละสายตาลงเพื่อปกปิดแววตาของดวงตา ท่าทางดูสงบนิ่ง“เป็นผัวเมียกันวันหนึ่งซึ้งรักกันถึงร้อยวัน เรื่องของวันนี้ ฉันไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเธอแล้ว”
มู่นวลนวลอดไม่ไหวที่จะกระตุกมุมปาก
โม่ถิงเซียวน้ำเสียงนี้ยังฟังเหมือนใจกว้าง
มู่นวลนวลได้ยินคำพูดของโม่ถิงเซียว มองไปที่โม่จิ่นหยุน หลังจากนั้นจึงพูดเพิ่มเติม“ก็ได้ เวลาก็ดึกมากแล้ว ฉันกลับก่อน”
เธอพูดจบ ก็หันกลับไปมองโม่ถิงเซียว“โม่ถิงเซียว ลาก่อน”
โม่ถิงเซียวมองเธออย่างไม่แยแส ไม่ได้พูดจา
หลังจากมู่นวลนวลไปแล้ว โม่จิ่นหยุนอดไม่ได้อยากจะสั่งสอนโม่ถิงเซียว แต่ว่าคิดขึ้นได้ว่าซูเมี่ยนยังอยู่ ก็ทำได้แค่อดกลั้นเอาไว้ และพูดเสนอ“ถิงเซียว ช่วยฉันไปส่งซูเมี่ยนหน่อย”
พูดเสนอ จะดีกว่านี้ถ้าพูดว่าเป็นคำสั่ง
โม่จิ่นหยุนก็เป็นคนที่เผด็จการ สำหรับน้องชายคนนี้ ก็ยังอยากควบคุมความคิดของเขา
“ไม่ใช่เคยพูดแล้วเหรอ ให้ซือเย่ไปส่งเธอกลับ เวลาของฉันมีค่ามาก ไม่ใช่จะเสียเวลาแบบนี้ได้ง่ายๆ”โม่ถิงเซียวชำเลืองมองโม่จิ่นหยุน ก็หมุนตัวกลับเดินตรงไปที่รถของตัวเอง
โม่จิ่นหยุนรู้สึกเหมือนถูกโม่ถิงเซียวทำให้เสียหน้า สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่น่าดู
เธออดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทิศทางที่มู่นวลนวลได้หายไปแล้ว
เธอมักจะรู้สึกว่าท่าทีโม่ถิงเซียวกับมู่นวลนวลแปลกประหลาดมาก แต่ว่าก็พูดไม่ออก
โม่จิ่นหยุนจัดการอารมณ์ของตัวเองนิดหน่อย หันกลับมาไปมองที่ซูเมี่ยน“ซูเมี่ยน ทำให้เธอหัวเราะแล้ว”
ซูเมี่ยนยิ้ม พูดปลอบโยนเธอ“ฉันสนใจน้องชายเธอจริงๆ ฉันไม่เคยเจอผู้ชายแบบเขา นัยน์ตามองไม่เห็นใคร แลยังเย่อหยิ่งสุดขีด”
“เป็นเพราะว่าตอนเขายังเด็กแม่จากไปเร็ว เขาจึงกลายเป็นแบบนี้ ตอนที่เขายังเด็กไม่ได้เป็นแบบนี้”โม่จิ่นหยุ่นพูดเรื่องเมื่อตอนที่โม่ถิงเซียวยังเล็กขึ้นมา ก็รู้สึกหดหู่ใจ
ซูเมี่ยนกับโม่จิ่นหยุนเหมือนกัน ต่างก็มาจากวงศ์ตระกูลที่ดี ข้างกายมีคนดีเลิศมากมายมาตามจีบ
พบเจอผู้ชายที่เข้ามาประจบเอาใจเธอมาเยอะแล้ว ทันใดนั้นก็สัมผัสถึงโม่ถิงเซียวชนิดนี้ ช่างมีความตื่นเต้นจริงๆ
ผู้ชายแบบโม่ถิงเซียว ผู้หญิงที่มีสายตาแหลมคมอยากจะพิชิตใจเขา
รอคอยวันที่โม่ถิงเซียวถูกเธอพิชิตใจมากจริงๆ รู้สึกโดดเด่นแน่นอน
…
มู่นวลนวลขับรถอยู่ระหว่างทาง ในใจด่าโม่ถิงเซียวตลอดทาง
ทุกครั้งก็ขู่เธอตลอด
ความคิดเหมือนเด็ก!
มู่นวลนวลคิดขึ้นได้ถึงคำพูดของโม่ถิงเซียวก่อนหน้านี้ และเข้าใจในความหมายของคำพูดโม่ถิงเซียวแล้ว รู้สึกว่ามู่นวลนวลไม่สนใจเขา
กลับมาถึงเซี่ยงไฮ้ หลังจากที่ปรึกษากันว่าจะเลิกกันชั่วคราว เธอไม่มีธุระก็ไม่ไปหาโม่ถิงเซียว
นอกจากนี้ทั้งสองคนก็ตกลงกันตั้งแต่ต้นแล้ว ต้องแกล้งทำเป็นว่าเลิกกันแล้ว
เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ตอนนี้กลับจะตำหนิเธอที่ไม่สนใจเขา
ยังนิสัยไม่ปกติกลับไปกลับมาไม่แน่นอน ยังปรนนิบัติยากกว่าผู้หญิงอีก
เธอเพิ่งจะกลับถึงบ้านโทรศัพท์ของโม่ถิงเซียวก็เหมือนกับรู้เวลาโทรเข้ามาพอดี
เดิมที่มู่นวลนวลอยากจะทิ้งเขาไว้สักพัก แต่นึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้ที่โม่ถิงเซียวไม่รับสายโทรศัพท์ของตัวเอง ตัวเองก็เป็นห่วงทั้งคืน จึงกดรับสายโทรศัพท์
โม่ถิงเซียวเปิดปากถามเธอ“ถึงแล้ว?”
“ถึงแล้ว”มู่นวลนวลตอบรับ คิดไปคิดมาก็รู้สึกก่อนหน้านี้ที่ถูกเขาขู่ให้แสดงแดงละคร พูดอย่างไร้อารมณ์“คุณชายโม่ถิงเซียว ฉันรู้สึกว่าคุณมีพรสวรรค์ที่จะเป็นผู้กำกับ”
โม่ถิงเซียวในสายโทรศัพท์เงียบไปพูดจาไปสองวินาที เหมือนกับกำลังไตร่ตรอง“ผู้กำกับ?ไม่มีความสนใจ”
นี้คือเธอกำลังเยาะเย้ยเขา คาดไม่ถึงว่าเขาจะฟังไม่ออก
“พอแล้ว ไม่มีธุระฉันจะไปอาบน้ำแล้ว คุณอย่าลืมเรื่องผลตรวจดีเอ็นเอด้วย ต้องให้เร็วที่สุด”มู่นวลนวลพูดจบ น้ำเสียงก็ตกต่ำขึ้นมา“ได้ยินมาว่าเด็กทารกจะโตเร็ว โตขึ้นทุกวัน”
ถ้าหากว่าเธอหาโม่มู่พบ จะจำโม่มู่ได้ไหม?
คิดถึงตรงนี้ มู่นวลนวลก็รู้สึกเจ็บปวดใจ
โม่ถิงเซียวตอบกลับเบาๆ“ไม่รู้ เปลี่ยนเป็นยังไงก็เป็นลูกสาวของโม่ถิงเซียว”
มู่นวลนวลได้ฟัง เพียงแค่หัวเราะออกมา
…
วันต่อมา
โม่ถิงเซียวกลับมาบ้านเก่า ไปหาโม่ชิงเฟิง
เมื่อวานโม่ชิงเฟิงไปที่คอนโดของเขา แต่ไม่ได้พบโม่ถิงเซียว ก็ไม่รู้สึกโมโห
ถึงอย่างไรความสัมพันธ์เขากับโม่ถิงเซียวก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว
แต่เขาคิดไม่ถึงว่าโม่ถิงเซียวจะกลับมาที่บ้านเก่าหาเขา
ในเวลาที่โม่ชิงเฟิงมองเห็นโม่ถิงเซียว สีหน้ามีความประหลาดใจอย่างชัดเจน“วันนี้ทำไมถึงคิดจะกลับมาล่ะ?”
“เมื่อวานคุณไม่ได้ไปหาผมที่คอนโดของผม?” โม่ถิงเซียวพูดพลาง สังเกตโม่ชิงเฟิงเงียบๆ