มู่นวลนวลตกตะลึงกับคำถามของมู่ซือเหยี่ยน
แต่ไม่นานมู่นวลนวลก็ตอบกลับเขาว่า:“เปล่า แม่ของฉันไม่ได้บ้า”
“เธอรอก่อนนะ ฉันจะไปตามคนมาเปิดประตูให้เธอ” เดิมทีมู่ซื่อเหยี่ยนก็ไม่สนใจเรื่องที่เสี่ยวชูเหอจะบ้าหรือไม่
หลังจากมู่ซื่อเหยี่ยนพูดจบ เขาก็หันหลังเดินลงไปชั้นล่าง เพื่อหาคนมาเปิดประตูให้มู่นวลนวล
มู่นวลนวลหมอบลงที่หน้าประตูแล้วฟังการเคลื่อนไหวข้างนอก แต่เธอไม่ได้ยินอะไรเลย
มู่ซื่อเหยี่ยนออกไปแล้ว
เด็กอายุเจ็ดขวบมีความอ่อนไหวมากอยู่แล้ว
มู่นวลนวลรู้สึกได้ชัดเจนว่าในตระกูลมู่ไม่มีใครชอบเธอเลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมู่หวันฉี มีเจตนาร้ายต่อเธอเลยก็ว่าได้
อันที่จริงเธอกับมู่ซือเหยี่ยนก็ไม่ได้สนิทสนมกันมากนัก แต่เธอรู้สึกได้ว่ามู่ซือเหยี่ยนไม่ได้เกลียดเธอเหมือนมู่หวันฉี
เธอคิดว่าที่มู่ซือเหยี่ยนบอกว่าจะไปหาคนมาเปิดประตู เขาไม่น่าจะโกหกเธอ
หลังจากที่มู่ซือเหยี่ยนจากไป มู่นวลนวลก็ยังคงยืนอยู่ข้างประตู รเธออให้มู่ซือเหยี่ยนหาคนมาเปิดประตูให้เธอ
ไม่นานก็มีการเคลื่อนไหวข้างนอก
มู่นวลนวลที่หมอบอยู่ข้างประตูก็ได้ยินเสียงของที่คลุมเครือมู่ซือเหยี่ยน:“เปิดประตู”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น มู่นวลนวลก็รีบถอยออกไปและรอให้คนข้างนอกเปิดประตู
ไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดออกจากข้างนอก
ทันทีที่ประตูเปิดออก มู่นวลนวลก็เห็นคนรับใช้และมู่ซือเหยี่ยนยืนอยู่ข้างนอก
มู่นวลนวลเรียกเขาอย่างซาบซึ้งใจ:“พี่ใหญ่!”
เมื่อคนรับใช้ที่เปิดประตูเห็นอย่างนั้นก็พยักหน้าให้มู่ซือเหยี่ยนเล็กน้อย:“คุณชาย ฉันลงไปก่อนนะคะ”
“ไปเถอะ” มู่ซือเหยี่ยนโบกมือเพื่อบอกใบ้ให้คนรับใช้ออกไป
จากนั้นมู่ซือเหยี่ยนก็หันไปมองมู่นวลนวล:“เธอยังไม่ได้ทานข้าวใช่ไหม?ลงไปหาอะไรกินหน่อยเถอะ”
หลังจากที่พูดจบ เขาก็จากไป
มู่นวลนวลมองไปที่มู่ซือเหยี่ยนและตะโกนว่า:“ขอบคุณค่ะ พี่ใหญ่!”
นี่อาจไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับมู่ซือเหยี่ยน
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มู่นวลนวลสัมผัสได้ถึงน้ำใจของคนในตระกูลมู่
ปกติแล้วมู่ซือเหยี่ยนจะไม่สนใจเธอ และเธอก็พยายามที่จะไม่ขัดแย้งกับมู่ซือเหยี่ยน
ด้วยวิธีนี้ทุกคนจึงจะอยู่กันอย่างสงบสุข
เมื่อมู่ซือเหยี่ยนได้ยินอย่างนั้น เขาก็ขมวดคิ้วและหันกลับไปมองเธอ
เด็กผู้หญิงเบ้าตาแดงยืนอยู่ที่หน้าประตู และมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้ม
มู่ซือเหยี่ยนไม่สามารถบอกความรู้สึกอในจได้ แต่จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้เกลียดมู่นวลนวล
เขาก็แค่ไม่ชอบมู่นวลนวลกับเสี่ยวชูเหอเท่านั้น
มู่นวลนวลมองดูมู่ซือเหยี่ยนค่อย ๆ หายไป จากนั้นก็เดินลงไปชั้นล่าง
หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว มู่นวลนวลก็หยุดอีกครั้ง
เพราะเธอนึกถึงคำพูดของเสี่ยวชูเหอ
เสี่ยวชูเหอให้เธอพิจารณาความผิดของตัวเองอยู่ในห้อง ไม่ให้เธอออกมาและไม่ให้เธอทานอาหารเย็น
ถ้าเสี่ยวชูเหอเห็นเธอออกมาจากห้อง คงจะโกรธมาก?
เธอไม่อยากให้เสี่ยวชูเหอโกรธ
มู่นวลนวลลังเลว่าจะกลับห้องดีไหม
ในเวลานี้เสี่ยวชูเหอก็ปรากฏตัวขึ้นที่อีกด้านหนึ่งของทางเดิน
มู่นวลนวลสีหน้าเปลี่ยนไป เธอหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นและรอให้เสี่ยวชูเหอเดินมา
เมื่อเสี่ยวชูเหอเข้ามาใกล้ มู่นวลนวลสังเกตว่าสีหน้าของเธอไม่พอใจมาก
มู่นวลนวลจึงเรียกอย่างระมัดระวัง:“แม่……”
ยังคงมีเสียงหวาดกลัวอยู่ในน้ำเสียงของเธอ
สีหน้าของเสี่ยวชูเหอเย็นชา แล้วยื่นมือออกไปคว้าแขนของมู่นวลนวล จากนั้นก็ดึงเธอเข้าไปในห้อง
หลังจากเข้าไปในห้องแล้วก็ปิดประตูเสียงดัง “ปัง”
มู่นวลนวลตกใจเสียงปิดประตูจนสะดุ้ง
เธอรู้สึกได้ถึงความโกรธของเสี่ยวชูเหอในเวลานี้ ดังนั้นเธอจึงหวาดกลัว
เสี่ยวชูเหอยื่นมือออกไปคว้าหัวของมู่นวลนวล และบังคับให้มู่นวลนวลเงยหน้าขึ้นมองเธอ
“เธอกล้าขอให้พี่ใหญ่ของเธอมาเปิดประตูให้เหรอ?เธอตั้งใจจะทำให้ฉันมีชีวิตที่ลำบากมากขึ้นใช่ไหม?”