ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 345 เก็บศพแทนฉันด้วยนะ

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

เมื่อกูจือหยานจอดรถไว้ที่ลานจอดรถของโม่กรุ๊ป เขายังไม่ทันได้เดินขึ้นไปก้เห็นโม่ถิงเซียวกับซือเย่เดินมาที่ลานจอดรถอย่างรีบร้อน

สีหนาท่าทางของทั้งสองคนดูเคร่งขรึม

กูจื่อหยานเดาว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างแน่นอน

กูจื่อหยานปิดประตูรถและเดินไปหาพวกเขา:“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

เขาเดาไว้ในใจว่าอาจจะเป็นเรื่องของมู่นวลนวล

เมื่อโม่ถิงเซียวเห็นกูจื่อหยานก็ไม่ได้พูดอะไรและเดินตรงไปที่รถของเขา

ซือเย่ที่เดินตามหลังมาก็หันไปพูดอธิบายกับกูจื่อหยานว่า:“คุณหญิงถูกคุณชายใหญ่จับตัวไป”

กูจื่อหยานยื่นมือไปลูบผมของตัวเอง:“พูดชื่อ!”

คุณชายของตระกูลโม่คนนี้กับคุณหญิงคนนั้น บางครั้งกูจื่อหยานได้ยินแล้วก็รู้สึกรำคาญ

ซือเย่ผงะไปชั่วขณะและพูดอีกครั้ง:“ซือเฉิงยวี่จับตัวมู่นวลนวลไป!”

“เรื่องมันเป็นยังไง?เกิดขึ้นอะไรขึ้น?”

“ไม่รู้” หลังจากที่ซือเย่อพูดจบ เขาก็หันไปมองโม่ถิงเซียว และเห็นว่าโม่ถิงเซียวขับรถออกไปแล้ว

เมื่อซือเย่เห็นอย่างนั้นก็กำลังจะขับรถของตัวเองตามไป

กูจื่อหยานดึงเขาเข้ามาในรถของตัวเอง:“เราไปด้วยกันดีกว่า”

โม่ถิงเซียวขับรถเร็วมากจนกูจื่อหยานตามไม่ทัน

ตอนที่เขาขับตามออกมา ยังเห็นรถของโม่ถิงเซียวอยู่ตรงนั้น?

……

มู่นวลนวลถูกซือเฉิงยวี่พาไปที่โกดังร้างในเขตชานเมือง ในนั้นมีคนของซือเฉิงยวี่อยู่เต็มไปหมด

โกดังมีสภาพทรุดโทรมมาก และยังมีสินค้าบางอย่างที่ผลิตขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งตอนที่เธอยังเด็กมากๆก็มีแบบนั้น

มู่นวลนวลยังถูกมัดไว้

เมื่อซือเฉิงยวี่เห็นเธอมองไปรอบๆก็เดินมาข้างหน้าและพูดว่า:“ฉันจัดเตรียมโกดังนี้ไว้เป็นอย่างดี”

มู่นวลนวลไม่เข้าใจความหมายที่ซือเฉิงยวี่พูด แต่เธอรู้ว่าซือเฉิงยวี่ไม่ได้มีเจตนาที่ดี

ซือเฉิงยวี่ดูเหมือนจะพอใจกับการที่มู่นวลนวลรับฟัง เขาหันหลังไปแล้วโบกมือ

วินาทีต่อมาก็มีบอดี้การ์ดถือเก้าอี้มาสองตัว ตัวหนึ่งว่างไว้ด้านหลังของซือเฉิงยวี่ และอีกตัวหนึ่งวางไว้ด้านหลังของมู่นวลนวล

มู่นวลนวลถูกบอดี้การ์ดกดให้นั่งบนเก้าอี้และมัดเธอไว้กับเก้าอี้

ซือเฉิงยวี่ไม่ได้นั่งลง

เขาลุกขึ้นเดินไปรอบๆในโกดัง และหันกับมาด้วยแววตาที่ดูบ้าคลั่ง:“ฉันรวบรวมข้อมูลมากมายเกี่ยวกับคดีลักพาตัวในปีนั้น และต้องใช้เวลาอย่างมากนการจัดฉากของโกดังให้เหมือนกับที่เกิดขึ้นในปีนั้น อีกเดี๋ยวพอโม่ถิงเซียวมาถึงที่นี่ เขาจะต้องดีใจมากแน่ๆ?”

ความสงสัยปรากฏขึ้นในดวงตาของมู่นวลนวล และจากนั้นดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้นพร้อมกับความประหลาดใจ:“คุณวางแผนจัดโกดังแห่งนี้ให้เหมือนกับในปีนั้นที่โม่ถิงเซียวกับแม่เขาถูกลักพาตัวมา?”

หางเสียงของเธอสั่นจนสังเกตได้

“ใช่นะสิ อย่าดูถูกสถานที่โทรมๆนี้นะ ฉันต้องเสียเงินไปไม่น้อยเลย!แต่ดีที่ฉันพอใจมาก” ซือเฉิงยวี่เดินมาข้างหน้ามู่นวลนวลด้วยรอยยิ้มที่สดใส

มู่นวลนวลรีบส่ายหัว:“ทำไมคุณต้องทำแบบนี้?แม้ว่าคุณกับโม่ถิงเซียวจะเป็นพี่น้องพ่อเดียวกันแต่ต่างแม่ก็ตาม คนที่ผิดคือโม่ชิงเฟิงไม่ใช่โม่ถิงเซียว!เขาไม่ได้ทำผิดต่อคุณ”

คดีลักพาตัวในปีนั้นตามติดโม่ถิงเซียวมาโดยตลอด

เขาตามหาฆาตกรที่อยู่เบื้องหลังคดีลักพาตัวมานานหลายปี แม่ของเขาคือมารร้ายในชีวิตของเขา

ซือเฉิงยวี่วางแผนจัดฉากโกดังแห่งนี้ให้เหมือนกับสถานที่เกิดเหตุในปีนั้น เพียงเพื่อให้โม่ถิงเซียวสะเทือนใจ

ถ้าจุดประสงค์ของซือเฉิงยวี่คือเพื่อทำให้โม่ถิงเซียวสะเทือนใจ และเห็นโม่ถิงเซียวเจ็บปวดทรมาน งั้นเขาก็ทำสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง

“อ้อ?แม้แต่เธอก็รู้เรื่องนี้?ดูเหมือนว่าโม่ถิงเซียวมีอะไรก็จะบอกเธอ”ซือเฉิงยวี่เอียงหัวด้วยแววตาที่เคร่งขรึม แต่น้ำเสียงของเขาตื่นเต้นดีใจราวกับเด็กที่เจอเรื่องสนุก:“งั้นเธอลองพูดมาซิว่าแม่ของฉันคือใคร?”

สายตาที่ซือเฉิงยวี่มองมู่นวลนวลเหมือนคนที่ไม่รู้จักกันอย่างสิ้นเชิง

ดูเหมือนเขาจะเป็นบ้า

เมื่อเห็นว่ามู่นวลนวลไม่พูด ซือเฉิงยวี่ก็หัวเราะ:“อ้อ?ดูเหมือนว่าโม่ถิงเซียวจะอับอายมากก็เลยไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเธอ”

ในที่สุดซือเฉิงยวี่ก็เดินไปที่ฝั่งตรงข้ามของมู่นวลนวลแล้วนั่งลง แววตาของเขาดูแปลกๆ:“งั้นฉันก็จะบอกเธอแล้วกัน แม่ของฉันก็คือโม่เหลียน”

ซือเฉิงยวี่พูดสองคำสุดท้ายด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

แต่สำหรับหูของมู่นวลรู้สึกเหมือนเสียงฟ้าร้องที่พื้น

นวลนวลหรี่ตาลงและสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที:“คุณพูดอะไร?”

“ฉันบอกว่าแม่ผู้ให้กำเนิดฉันชื่อโม่เหลียน โม่เหลียนเธอรู้จักไหม?” ซือเฉิงยวี่โน้มตัวเขาไปใกล้หน้ามู่นวลนวล:“อาของโม่ถิงเซียว แม่ของเสี่ยวเฉิน น้องสาวแท้ๆ……ของโม่ชิงเฟิง”

ในหัวของมู่นวลนวลมีเสียงพึมพำและมีความว่างเปล่าอยู่นาน สิ่งที่ซือเฉิงยวี่พูดต่อหน้า เธอพบว่าเธอไม่ได้ยินเลย

โม่เหลียนกับโม่ชิงเฟิง……

เป็นไปได้ยังไง!

“ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ๆ……” มู่นวลนวลบ่นพึมพำกับตัวเองอยู่นาน

ซือเฉิงยวี่หัวเราะ ดูเหมือนว่าเขาจะพอใจกับการที่ได้เห็นสีหน้าตื่นตระหนกและไม่อยากจะเชื่อของมู่นวลนวล

หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็ยิ้มและพูดว่า:“งั้นก็เป็นความเข้าใจผิดครั้งใหญ่มาก มากจนพวกเขาร่วมกันวางแผนสร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งเมือง จนกระทั่งวันนี้คนก็ยังไม่ลืม คดีลักพาตัว!”

ซือเฉิงยวี่พูดประโยคสุดท้ายออกมาทีละคำ

มู่นวลนวลกัดริมฝีปากแน่น:“ที่คุณจับฉันมาวันนี้ก็เพื่อที่จะบอกเรื่องพวกนี้กับฉัน?”

เธอยังรู้สึกว่ายากที่จะเชื่อ

เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคดีลักพาตัวโม่ถิงเซียวกับแม่ของเขาจะเป็นเพราะความลับที่เหลวไหลและน่าอับอาย……

ถ้าเรื่องที่ซือเฉิงยวี่พูดเป็นความจริง

อนุมานจากเรื่องของโม่ชิงเฟิงกับโม่เหลียนแล้ว เป็นไปได้มากว่าแม่ของโม่ถิงเซียวจะรู้เรื่องของสองพี่น้องนี่ แล้วถูกพวกเขาฆ่าตาย

“มันยากที่จะยอมรับใช่ไหม?แล้วก็รู้สึกว่ายากที่จะเชื่อ?” หลังจากที่ซือเฉิงยวี่พูดจบ เขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะ:“ฮ่าฮ่าฮ่า!ฉันรู้มาตั้งแต่เด็กแล้วว่าระหว่างพวกเขามีอะไรแปลกๆ!ฉันรู้ทุกอย่าง ฮ่าฮ่าฮ่า……”

ตอนที่เขายังเด็กเขาเคยเห็นทั้งสองคนเสื้อผ้าฉีกขาดอยู่ด้วยกัน แต่เขาไม่กล้าที่พูดอะไรและไม่กล้าบอกใคร

จนกระทั่งปีที่แล้วเขาพบว่ากรุ๊ปเลือดของเขาเหมือนกับของโม่ชิงเฟิง เขาจึงไปทำการเปรียบเทียบดีเอ็นเอ……

โชคชะตาให้เขาเกิดมาจากความไม่ละอายต่อบาป

ซือเฉิงยวี่หัวเราะอย่างบ้าคลั่งและเห็นได้ชัดว่าเขาหมดอาลัยตาอยาก

เมื่อก่อนมู่นวลนวลชอบที่เขาเป็นนักแสดงที่มากความสามารถอยู่ในจอ

ต่อมาหลังจากที่เธอได้สัมผัสกับซือเฉิงยวี่จริงๆ เธอก็เริ่มรู้สึกว่าซือเฉิงยวี่แสดงได้สมบูรณ์แบบมากเกินไป

ยิ่งสมบูรณ์แบบและไร้ที่ติมากเท่าไหร่ก็ยิ่งแปลกประหลาดและยากที่จะคาดเดา

ประโยคนี้เหมาะสมมากที่จะใช้กับซือเฉิงยวี่

เมื่อเธอมองใบหน้าที่บ้าคลั่งของซือเฉิงยวี่ จู่ๆเธอก็นึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เขาพูดถึงเรื่องลูกสาวของเธอ และหัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นมา

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท