ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 358 คู่หมั้นของเธอ

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ก๊อกก๊อก!

เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของโม่จิ่นหยุน

โม่จิ่นหยุนระงับสีหน้าของเธอ:“เข้ามา”

บอดี้การ์ดผลักประตูเข้ามาและพูดด้วยความเคารพ:“คุณโม่ ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วครับ”

“ไม่ต้องรอจนถึงคืนนี้แล้ว ออกเดินทางตอนนี้เลย”

โม่จิ่นหยุนออกคำสั่งและไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เข้ามาเคลื่อนย้ายโม่ถิงเซียว

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์กำลังจะส่งโม่ถิงเซียวขึ้นเครื่องบิน พวกเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าโม่ถิงเซียวดูเหมือนจะตื่นขึ้นมา

“คุณโม่ คุณชายโม่น่าจะฟื้นขึ้นมาในอีกไม่นาน” หมอบอกเรื่องนี้กับโม่จิ่นหยุนด้วยสีหน้าดีใจ แต่บนใบหน้าของโม่จิ่นหยุนไม่มีร่องรอยของความดีจเลย

เธอพูดอย่างเฉยเมยว่า:“รู้แล้ว”

โม่จิ่นหยุนไล่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์คนอื่นๆออกไป จนเหลือเพียงคนเดียวและสั่งว่า:“ช่วงนี้อาการที่บ่งบอกว่าเขาจะฟื้นเริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มปริมาณยาหน่อย อย่าให้เขาฟื้นขึ้นมาก่อนที่จะไปสหรัฐอเมริกา”

อันที่จริงแล้วอาการของโม่ถิงเซียวไม่ได้บาดเจ็บมากขนาดนั้น

หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาโม่ถิงเซียวสามารถฟื้นขึ้นมาได้ และโม่จิ่นหยุนเป็นคนสั่งให้คนให้วางยาโม่ถิงเซียว เพื่อที่จะไม่ให้เขาฟื้นขึ้นมา

สิ่งที่กูจื่อหยานพูดก่อนนี้หยั่งรากลึกลงในหัวใจของโม่จิ่นหยุน

แม้ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับโม่ถิงเซียวจะเปราะบาง แต่เธอก็รู้อยู่แก่ใจว่าถ้าโม่ถิงเซียวฟื้นขึ้นมา แล้วรู้ว่าเธอไม่ได้ส่งคนไปช่วยมู่นวลนวล เขากับเธอจะต้องกลายเป็นอริกันอย่างแน่นอน

เธอจะไม่มีวันปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

โชคดีที่เธอได้ติดต่อกับนักสะกดจิตบำบัดที่มีชื่อเสียงระดับโลกไว้แล้ว

เมื่อคิดถึงตรงนี้แล้วโม่จิ่นหยุนก็เม้มริมฝีปาก และแววตาของเธอก็เป็นประกาย

……

เครื่องบินจอดที่สนามบินส่วนตัวในสหรัฐอเมริกา และนักสะกดจิตบำบัดที่โม่จิ่นหยุนติดต่อไว้ได้ส่งคนมารับแล้ว

มีชายสีหน้าเย็นชาเดินเข้ามาหาโม่จิ่นหยุน:“ขออนุญาติถาม ใช่คุณโม่ไหม?”

“ใช่ ฉันเอง”

หลังจากยืนยันตัวตนแล้ว พวกเขาก็พาโม่ถิงเซียวกับโม่จิ่นหยุนเดินทางออกไป

โม่จิ่นหยุนยังไม่ไว้วางใจนักสะกดจิตบำบัดท่านนั้นมากนัก:“พวกคุณเป็นลูกน้องของผู้เชี่ยวชาญท่านนั้นใช่ไหม?”

ชายคนขับรถพูดอย่างไม่แสดงอารมณ์ใดๆว่า:“คุณโม่ไม่เชื่อใจบอสของเราหรอ?แต่คุณก็ทำได้แค่เชื่อใจเขา ถึงแล้ว เชิญคุณโม่ลงจากรถ”

โม่จิ่นหยุนกัดฟันและลงจากรถไปด้วยกัน

ข้างหน้าของเธอคือคฤหาสน์ทรงกลมสีดำเข้มสไตล์แปลกๆ

ในใจของโม่จิ่นหยุนคิดจะถอย คฤหาสน์หลังนี้และลูกน้องสองคนที่ผู้เชี่ยวชาญส่งมานั้นดูแปลกเกินไป

คนที่อยู่ข้างหลังพูดเร่งรัดเธอ:“คุณโม่ เชิญ”

โม่จิ่นหยุนไม่ได้พาลูกน้องมาด้วย สาเหตุหลักคือยิ่งมีคนรู้เรื่องนี้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น

ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องลองดู

โม่จิ่นหยุนยกเท้าขึ้นและเดินเข้าไป

พวกเขาพาเธอเข้าไปข้างใน

เดินผ่านทางเดินเข้าไปในห้องว่างห้องหนึ่ง

เมื่อเปิดไฟในห้องมีชั้นหนังสือขนาดใหญ่เต็มผนัง ด้านหน้าชั้นหนังสือมีโต๊ะไม้สีเข้มและมีชายรูปร่างสูงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน

ชายคนนั้นสวมแว่นตา หน้ากากและชุดสูทสีดำธรรมดา เขาดูลึกลับมาก

ลูกน้องเดินไปหาชายคนนั้นด้วยความเคารพ:“MR.Li พาคนมาแล้วครับ”

ชายคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อย และลุกขึ้นเดินไปหาโม่จิ่นหยุน จากนั้นก็ยื่นมือมาให้เธออย่างสุภาพ:“สวัสดีครับคุณโม่”

เขาพูดภาษาจีน

โม่จิ่นหยุนยื่นมือออกมาและพูดอย่างไม่แน่ใจ:“คุณหลี่?”

เสียงของชายคนนั้นมีรอยยิ้ม:“สามารถเริ่มได้เลย”

“คุณหลี่ คุณสวมหน้ากากตลอดเวลาหรอคะ?” โม่จิ่นหยุนระวัง ผู้เชี่ยวชาญคนนี้ดูหนุ่มเกินไป

“พาคุณโม่ออกไปดื่มชา” ชายคนนั้นออกคำสั่งและคนของเขาก็เชิญโม่จิ่นหยุนออกไป

เมื่อประตูปิดลง สายตาของชายคนนั้นก็จ้องมองไปที่ร่างของโม่ถิงเซียว

เขาถอดแว่นออก แววตาของเขาดูสนใจและพูดพึมพำว่า:“น่าสนใจ”

……

“ช่วงไม่กี่วันมานี้ มีปาปารัสซี่ถ่ายรูปโม่ถิงเซียวประธานบริหารของโม่กรุ๊ปที่เดินทางไปต่างจังหวัด ในรูปเขากับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนั้นดูสนิทสนมกันมาก สงสัยว่าจะเป็นลูกสาวนอกสมรส……”

ในหอผู้ป่วยวีไอพีข่าวบันเทิงกำลังออกอากาศทางทีวี

เมื่อพยาบาลที่กำลังเปลี่ยนชุดของคนไข้บนเตียงได้ยินข่าวก็เริ่มกระซิบกระซาบกัน

“จริงหรือไม่จริง?โม่ถิงเซียวมีลูกสาวนอกสมรส?”

“เขาเพิ่งเปิดเผยว่าเขามีคู่หมั้นไม่ใช่หรอ?เด็กนั่นคงไม่ใช่ลูกของเขากับคู่หมั้นนะ?”

พยาบาลคนหนึ่งชี้ไปที่คนไข้ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงและพูดขึ้นว่า:“……เธอระวังหน่อย อย่าแทงลึกจนเกินไป……”

พยาบาลอีกคนไม่เห็นด้วย:“แทงลึกไปสักหน่อยเธอก็ไม่รู้สึก นอนหลับเป็นผักมาสามปีแล้ว คงจะไม่ฟื้นขึ้นมาแล้ว”

“อย่าพูดอย่างนี้……ฉันทำเอง”

ทันทีที่พยาบาลกำลังจะแทงเข็มเข้าไปที่ด้านหลังข้อมือของผู้ป่วย เธอก็รู้สึกว่าข้อมือที่ถูกเข็มแทงมานานจนเป็นจ้ำเขียวๆนั้นเหมือนจะขยับได้

“เมื่อกี้ฉันตาลายรึเปล่า?”

พยาบาลอีกคนถามเธอ:“อะไร?”

ในเวลานี้มีเสียงของผู้หญิงที่อ่อนแอมากจนแทบจะไม่ได้ยินดังขึ้นจากเตียง:“พวกคุณ……คือ……”

พยาบาลทั้งสองมองลงไปที่คนไข้ผู้หญิงบนเตียงพร้อมกัน:“เธอฟื้นแล้ว?!”

มู่นวลนวลกระพริบตา เนื่องจากเธอนอนหลับมาสามปี จึงทำให้เธอพูดลำบาก

เธอยังไม่ทันได้พูดอีก พยาบาลทั้งสองคนก็วิ่งออกไป

“ฉันจะไปโทรแจ้งคุณลี่!”

“ฉันจะแจ้งหมอ!”

……

ทันทีที่ลี่จิ่วเหิงออกมาจากลิฟต์พยาบาลก็วิ่งเข้ามาอย่างดีใจและบอกเขาว่า:“คุณลี่ คู่หมั้นของคุณฟื้นขึ้นมาเมื่อกี้ค่ะ!”

เมื่อสามปีก่อนคนไข้ผู้หญิงคนหนึ่งมาที่โรงพยาบาล เธอไม่ฟื้นสามปีแล้ว แต่ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออกผู้ชายที่ชื่อลี่จิ่วเหิงจะมาเยี่ยมคนไข้ผู้หญิงคนนี้ทุกวัน และไม่แคยละทิ้งเธอ

แม้ว่าลี่จิ่วเหิงจะไม่เคยบอกว่าเขาเกี่ยวข้องอะไรกับคนไข้ผู้หญิงคนนี้ แต่พยาบาลและหมอเหล่านี้ต่างก็คิดว่าคนไข้ผู้หญิงคนนี้เป็นคู่หมั้นของลี่จิ่วเหิง

เมื่อลี่จิ่วเหิงได้ยินอย่างนั้น รอยยิ้มก็ปรากฎขึ้นในแววตาของเขา แต่เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แปลกใจเลยสักนิด:“จริงหรอ?”

เมื่อพยาบาลเห็นท่าทางของลี่จิ่วเหิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยเล็กน้อย เขาควรจะดีใจมากไม่ใช่หรออ

“เดี๋ยวผมไปดูเธอก่อนนะ” ลี่จิ่วเหิงไม่สนใจความสงสัยของพยาบาลและเดินตรงไปที่ห้องผู้ป่วย

ในห้องผู้ป่วยมีหมออยู่สองสามคนที่กำลังตรวจดูอาการให้มู่นวลนวล

เมื่อลี่จิ่วเหิงเดินเข้าไป เขาเห็นมู่นวลนวลนอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าที่งุนงงและพูดว่า:“มู่นวลนวล ในที่สุดเธอก็ฟื้นแล้ว”

เธอเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่ลี่จิ่วเหิงด้วยดวงตาคู่เดิมที่สวยงามและสดใสของเธอ เสียงของเธอแหบจนแทบไม่ได้ยิน:“คุณเรียกฉันหรอ?”

เมื่อลี่จิ่วเหิงได้ยินที่เธอพูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

เขากระพริบตาแล้วชี้ไปที่ตัวเอง:“รู้จักฉันไหม?ฉันเป็นใคร?”

มู่นวลนวลส่ายหัว:“คุณเป็นใคร?”

ลี่จิ่วเหิงหรี่ตาเล็กน้อยแล้วยิ้ม:“คู่หมั้นของเธอ”

มู่นวลนวลจ้องมองเขาสองสามวินาที แววตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย:“จริงหรอ?”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท