หลังจากที่มู่นวลนวลพูดจบ เธอก็เหลือบมองไปที่โม่มู่อีกครั้ง
ในขณะที่โม่มู่โอบคอของโม่ถิงเซียวก็เอียงหัวแล้วพูดเสียงหวาน:“พี่สาวคนสวย”
“หึ้ม” มู่นวลนวลตอบเสียงของเธออ่อนโยนลง:“ต่อไปมู่มู่อย่าวิ่งซนอย่างนี้อีกนะ”
โม่ถิงเซียวจำได้แล้วว่าทำไมเขาถึงคุ้นเคยกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขามาก
ในช่วงสามปีที่ผ่านมามีผู้หญิงที่สวยและมีชื่อเสียงหลายคนที่จะเข้ามาอยู่ใกล้เขา
เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงไม่สนใจ “คนสวย” เหล่านั้น ในสายตาของเขารู้สึกว่าพวกเธอก็ดูเหมือนกันหมด
แม้แต่ซูเหมียนที่เป็นแม่แท้ๆของโม่มู่ เขาก็ไม่ได้รู้สึกสนใจเลยสักนิด
ถ้าเขาไม่ได้ให้คนเปรียบเทียบดีเอ็นเอของเขากับโม่มู่ เขาก็คงไม่เชื่อว่าตัวเองจะเคยคบกับซูเหมียน
เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกแล้วแตกต่างกันมาก และดูเหมือนว่าจะสบายตากว่าเยอะ
ครั้งก่อนเขาแค่ชำเลืองมองอย่างเร่งรีบ จำได้เพียงว่าผู้หญิงคนนี้ผอมมากและหน้าขาวซีดเหมือนผี เธอน่าเกลี๊ยดน่าเกลียด
ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีเนื้อขึ้นนิดหน่อย
แต่……
สายตาของโม่ถิงเซียวจ้องมองไปที่ข้อมือที่เล็กๆของมู่นวลนวล เขาสงสัยว่าถ้าเขาเพียงแค่บีบเบาๆก็สามารถทำให้ข้อมือของเธอหักได้
สายตาของโม่ถิงเซียวเฉียบคมมากเกินไป มู่นวลนวลถูกเขามองจนรู้สึกอึดอัด
เธอจึงถามว่า:“คุณโม่ คุณ……ก่อนหน้านี้ทางโทรศัพท์ คุณรู้ได้ยังไงว่ามู่มู่ ขอให้พี่สาวคนหนึ่งช่วยเธอโทรศัพท์?”
โม่ถิงเซียวหรี่ตาลงและมองไปที่ใบหน้าของเธอ จากนั้นก็พูด้วยน้ำเสียงเมินเฉย:“คนเพศเดียวกันที่สูงกว่าเธอ เธอ็จะเรียกว่าพี่สาว”
ความจริงคือเมื่อโม่มูเห็นคนเพศเดียวกันที่ตัวเองคิดว่าสวย ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่เธอก็จะเรียก “พี่สาวคนสวย”
“อย่างนี้นี่เอง……” มู่นวลนวลพยักหน้า
จู่ๆโทรศัพท์ในกระเป๋าก็สั่น มู่นวลนวลหยิบโทรศัพท์ออกมาและเห็นว่าเซินเหลียงโทรมา
เธอถือโทรศัพท์ไว้โดยไม่ได้รับสาย และรีบเงยหน้าขึ้นพูดกับโม่ถิงเซียวว่า:“คุณโม่ ฉันไม่ต้องการอะไรตอบแทนจริงๆ ต่อไปคุณก็ดูแลลูกให้ดีดี เธอยังเด็กมาก ฉันไปก่อนนะ”
หลังจากที่พูดจบเธอก็มองไปที่โม่มู่อีกครั้ง จากนั้นก็เดินจากไป
ในขณะที่เดินเธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมารับสายของเซินเหลียง
“ขอโทษนะ ลืมโทรกลับหาคุณเลย” เมื่อกี้เธอกำลังเล่นกับโม่มู่ก็เลยลืมเรื่องนี้ไปเลย
เธอก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองชอบเด็กมากขนาดนี้
“ไม่เป็นไร เธอถึงบ้านรึยัง?”
“ฉันกำลังจะกลับ……”
เมื่อมู่นวลนวลวางสายเซินเหลียง ลี่จิ่วเหิงก็โทรเข้ามา
ลี่จิ่วเหิงที่อยู่ในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์สงบเงียบ:“อยู่ไหน?”
มู่นวลนวลดูเวลาและพบว่าเป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว เธอจึงถามว่า:“ฉันอยู่ข้างนอก กำลังจะนั่งแท็กซี่กลับ คุณกลับบ้านแล้วหรอ?”
ลี่จิ่วเหิง “อื้ม” และพูดว่า:“ส่งที่อยู่มา วฉันจะไปรับเธอ”
“ไม่ต้องหรอก คุณพักผ่อนเถอะ ฉันจะนั่งแท็กซี่กลับไปเดี๋ยวนี้……” มู่นวลนวลรู้ว่าถ้าพูดต่ออีก เธอต้องเถีงลี่จิ่วเหิงไม่ได้แน่ เธอจึงวางสาย
ในเวลานี้เป็นชั่วโมงเร่งด่วน และไม่สะดวกที่จะนั่งแท็กซี่
ดูเหมือนว่าฝนจะตก และมู่นวลนวลก็ยังเรียกแท็กซี่ไม่ได้ ฟ้าร้องฟ้าแลบและฝนก็เริ่มตกแล้ว
มันอาจจะเป็นพายุฝนฟ้าคะนองครั้งสุดท้ายในช่วงปลายฤดูร้อนรุนแรงมาก เม็ดฝนเม็ดใหญ่กระทบใบหน้าของเธอจนรู้สึกเจ็บ
เสื้อผ้าบางๆของมู่นวลนวลเปียกโชก เธอหาป้ายโฆษณาเพื่อหลบฝน แต่ก็ไม่ช่วยอะไร
และในขณะนี้โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
มู่นวลนวลหรี่ตาและชำเลืองมอง เธอเห็นเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่มีชื่อ
นั่นคือโทรศัพท์จากโม่ถิงเซียวที่โทรมาหาเธอก่อนหน้านี้ และเธอไม่ได้บันทึกไว้
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แลธรับสายโทรศัพท์
“คุณโม่ มีอะไรหรอคะ?”
เสียงของชายคนนั้นต่ำและทุ้ม และมีเสียงฝนที่ตกกระทบแก้วหูของเธอ:“ขึ้นรถ ตรงนี้ไม่สามารถจอดได้”
เมื่อเขาพูดจบ มู่นวลนวลก็ได้ยินเสียงแตรรถ “ปี๊น”
เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นรถสีดำขับมาข้างหน้าเธอ แล้วบีบแตรอีกครั้ง
มู่นวลนวลกัดริมฝีปากแล้ววางกระเป๋าบนหัวของเธอ จากนั้นก็รีบเดินไปเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านข้างคนขับ
ทันทีที่เธอนั่งลงเธอก็ได้ยินเสียงอ้อแอ้ของมู่มู่ดังมาจากด้านหลัง:“พี่สาวคนสวย!”
เมื่อมู่นวลนวลหันกลับไปก็เห็นโม่มู่นั่งอยู่บนเบาะนิรภัยสำหรับเด็กที่ด้านหลัง เธอกำลังดื่มนม ดวงตาของเธอโค้งงอเป็นเสี้ยวด้วยรอยยิ้ม
เธอยิ้มและส่งเสียงเรียก:“มู่มู่”
ในขณะที่ขับรถโม่ถิงเซียวก็อดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมองที่มู่นวลนวล
นอกจากเห็นว่าเธอสวยกว่าผู้หญิงคนอื่นแล้ว ทำไมโม่มู่ถึงชอบเธอขนาดนี้?
โม่มู่ที่นั่งอยู่เบาะหลังยกนมในมือขึ้นแล้วพูดกับมู่นวลนวลว่า:“เธอดื่มสิ”
ความคิดของเด็กนั้นเรียบง่ายมาก หากชอบใครสักคนก็จะเต็มใจแบ่งปันของเล่นและของกินให้
“ฉันไม่ดื่ม มู่มู่ดื่มเลย”
มู่นวลนวลหันไปพูดกับโม่ถิงเซียวว่า:“ต้องขอโทษคุณโม่ด้วยที่ทำให้รถของคุณเปียก……”
คนทั่วไปคงจะพูดว่า “ไม่เป็นไร”
แต่โม่ถิงเซียวตอบกลับอย่างเฉยเมย:“อืม”
อืม?
หมายความว่าไง?
แม้ว่าข้างนอกจะมีฝนตก แต่ในระหว่างนี้อุณหภูมิก็ไม่ลดลง ดังนั้นจึงเปิดแอร์ในรถ
เสื้อผ้าของมู่นวลนวลเปียกไปหมด เมื่อโดนลมเธอ็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
ในขณะนี้ผู้ชายข้างๆเธอก็โยนเสื้อสูทของเขามาให้และปิดแอร์
คุณภาพของเสื้อสูทดีมาก การตัดเย็บและการออกแบบที่หรูหรามาก มีกลิ่นอายที่สะอาดและเป็นเอกลักษณ์ของผู้ชาย
มู่นวลนวลถือเสื้อสูทและตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ แล้วก็หันไปมองโม่ถิงเซียว:“คุณโม่……”
โม่ถิงเซียวถามเธอว่า:“คุณพักอยู่ที่ไหน?”
น้ำเสียงของเขาแน่วแน่และแข็งกร้าวเกินไป ทำให้มู่นวลนวลบอกที่อยู่โดยไม่รู้ตัว
เมื่อโม่ถิงเซียวได้ยินอย่างนั้น เขาก็ตั้งค่าการนำทาง และไม่ได้พูดอะไรอีก
มู่นวลนวลมองใบหน้าที่ดูเรียบร้อยของเขาและลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอยังคงหลุมเสื้อของเขาไว้ที่ตัว
ร่างกายของเธอในตอนนี้อ่อนแอกว่าคนทั่วไปเล็ก ดังนั้นเธอจึงรู้สึกหนาวเล็กน้อย
ถ้ากลับไปแล้วไม่สบาย ลี่จิ่วเฉิงต้องโกรธแน่ๆ
โม่มู่ที่อยู่เบาะหลังดื่มนมแล้วหลับไป โม่ถิงเซียวก็ไม่พูดอะไร และแม้แต่มู่นวลนวลก็หายใจเบาๆ
ภานในรถเงียบสงบ แต่มีความรู้สึกกลมกลืนอย่างประหลาด
เหมือนกับว่าฉากนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อน
มู่นวลนวลใจลอย และเสียงเย็นชาของโม่ถิงเซียวก็ดังขึ้นข้างๆหูเธอ:“ถึงแล้ว”
เธอได้สติและถอดเสื้อคลุมออก:“ลำบากคุณโม่แล้ว”
โม่ถิงเซียวไม่พูดอะไร เขามองดูเธอลงจากรถและวิ่งฝ่าฝนเข้าไป ร่างผอมเพรียวดูบอบบางผิดปกติ
มือที่อยู่ข้างพวงมาลัยกำแน่นโดยไม่รู้ตัว