ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 381 เห็นได้ชัดว่าเป็นปรปักษ์กัน

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

โม่ถิงเซียวกระหายน้ำนิดหน่อย จึงยืนมือไปหยิบแก้วน้ำมาจิบ

เมื่อเงยหน้าขึ้นเขาก็เห็นสีหน้าของมู่นวลนวลเหมือนอยากจะพูด เขามองลงไปที่แก้วน้ำและถามโม่มู่ว่า:“น้ำจากไหน?”

โม่มู่ชี้ไปที่ห้องน้ำด้วยสีหน้าไร้เดียงสา:“น้ำที่นั่น ที่นั่นยังมีน้ำเยอะมาก พ่ออยากดื่มอีกไหม?”

ในวันปกติโท่มู่เป็นเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยของบ้าน มีคนรับรายล้อมอยู่รอบๆตัวเธอ เธอจะรู้ได้ยังไงว่าน้ำอะไรดื่มได้น้ำอะไรดื่มไม่ได้

โม่ถิงเซียวเม้มริมฝีปาก สีหน้าของเขาเคร่งขรึม:“ต่อไปห้ามเอาน้ำที่นั่นมาดื่มอีกนะ?”

โม่มู่ทำหน้ามุ่ย:“ทำไม?พี่สาวคนสวยบอกว่าอร่อย”

มู่นวลนวลเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้โม่มู่ก็เอาน้ำในแก้วนี้ให้เธอดื่ม……

งั้นเธอกับโม่ถิงเซียวก็……จูบกันทางอ้อม?

ไม่รู้ว่าโม่ถิงเซียวคิดแบบเดียวกันกับเธอรึเปล่า และเขาก็เหลือบมองเธอโดยไม่ทราบสาเหตุ

มู่นวลนวลหันหน้าไปอย่างลุกลี้ลุกลน:“คือว่า……คู่หมั้นของฉันน่าจะใกล้กลับมาแล้ว ฉันจะไปรอเขาก่อน”

หลังจากที่พูดจบเธอก็รีบเดินออกไป

สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือเมื่อเธอพูดสายตาของโม่ถิงเซียวยังคงอยู่ที่ริมฝีปากของเธอ

……

หลังจากที่มู่นวลนวลออกจากบ้านของโม่ถิงเซียว เธอพิงกำแพงและถอนหายใจยาวๆอย่างโล่งอก

ทำไมถึงรู้สึกประหม่าเมื่อยืนอยู่ตรงหน้าโม่ถิงเซียว

แค่ดื่มแก้วเดียวกันไม่ใช่หรอ?

ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าหัวใจของเธอกำลังจะกระโดดออกมา

ปกติอยู่ร่วมกันกับลี่จิ่วเหิงก็ไม่มีความรู้สึกแบบนี้

นอกจากนี้ผู้ชายที่มีนิสัยเย็นชาอย่างโม่ถิงเซียว และมีลูกสาวนอกนอกสมรสจะดีกว่าลี่จิ่วเหิงได้ยังไง?

หลังจากนั้นไม่นานมู่นวลนวลก็สงบลงและเห็นลี่จิ่วเหิงเดินออกมาจากลิฟต์

เมื่อลี่จิ่วเหิงเห็นเธอก็รีบเดินเข้ามาถามด้วยความกังวล:“ไปไหนมา?ฉันกลับมาบ้าน เห็นโทรศัพท์และกุญแจของคุณยังอยู่ ฉันเลยถามไปที่ร้านสะดวกซื้อ”

ลี่จิ่วเหิงกับมู่นวลนวลต่างเป็นคนหน้าตาดีเข้าออกคอนโดกันเป็นคู่ และเจ้าของร้านสะดวกซื้อตรงทางเข้าคอนโดก็รู้จักพวกเขา

มู่นวลนวลนึกถึงแก้วน้ำแก้วนั้นและลืมตาขึ้นด้วยความรู้สึกผิด:“ฉันลืมกุญแจ เมื่อกี้ฉันอยู่บ้านเพื่อนบ้าน”

ลี่จิ่วเหิงยกมุมริมฝีปากขึ้นแล้วยิ้ม:“สะเพร่าจัง?ดูเหมือนว่าเธอจะขาดฉันไม่ได้จริงๆ”

ในเวลานี้ประตูห้องข้างๆก็เปิดออก

มู่นวลนวลกับลี่จิ่วเหิงหันหน้าไปมอง และเห็นโม่ถิงเซียวยืนอยู่ที่ห้องโถงสวมเสื้อผ้าสีดำ

ลี่จิ่วเหิงที่กำลังจะยื่นมือไปจับมู่นวลนวลก็หยุดชะงัก:“คุณโม่”

“ที่แท้คุณโม่ก็เป็นเพื่อนบ้านใหม่ของเรา”

ไม่รู้ว่าเป็นความเข้าใจผิดของมู่นวลนวลหรือเปล่า เธอรู้สึกว่าน้ำเสียงของลี่จิ่วเหิงไม่ได้แปลกใจ แต่เหมือนจะเป็นอย่างที่คิดไว้

โม่ถิงเซียวกอดอกและพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย:“คิดไม่ถึงว่าจะได้เป็นเพื่อนบ้านของพวกคุณ บังเอิญจัง”

“หวังว่าจะมีโอกาสได้สังสรรค์กัน เราคงต้องกลับบ้านไปทานข้าวก่อน” ในขณะที่ลี่จิ่วเหิงพูดก็หันไปยิ้มให้มู่นวลนวลอย่างอ่อนโยนและจูงมือเธอ

มู่นวลนวลงอนิ้ว ลี่จิ่วเหิงจึงทำได้เพียงจับมือที่หลังมือของเธอ

นี่เป็นการปฏิเสธ ทุกครั้งที่ลี่จิ่วเหิงแตะต้องเธอ เธอก็จะแสดงท่าทางปฏิเสธอย่างนี้

ก่อนหน้านี้ลี่จิ่วเหิงเป็นสุภาพบุรุษมาก

แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าเขาจงใจจะแสดง เขาไม่ยอมปล่อยมือของมู่นวลนวล และกลับจับมันให้แน่นกว่าเดิม

โม่ถิงเซียวมองดูทั้งสองคนจับมือกันด้วยแววตาที่อธิบายไม่ได้และพูดว่า:“บังเอิญจัง เราก็ยังไม่ได้ทานข้าว”

มู่นวลนวลถามด้วยความประหลาดใจ:“ดึกขนาดนี้แล้วยังไม่ทานข้าว?”

ตอนนี้เกือบจะสามทุ่มแล้ว พวกเขายังไม่ได้ทานข้าวเย็น

โม่ถิงเซียวเป็นผู้ชายตัวใหญ่ไม่เป็นไร แต่โม่มู่ยักเด็กขนาดนั้นจะทนไหวได้ยังไง

“อึ้ม” โม่ถิงเซียวตอบอย่างเฉยเมย และดูไม่มีร่องรอยของการโกหกเลย

“ถ้างั้นก็ไปทานข้าวด้วยกันสิ?ฉันทำอาหารหลายอย่างเลย”

หลังจากที่มู่นวลนวลพูดจบ โม่ถิงเซียวก็พูดว่า:“โอเค”

น้ำเสียงของเขาไม่ได้เปลี่ยนไป แต่เพราะเขาตอบเร็วเกินไป จึงทำให้คนรู้สึกไม่อดทน

หลังจากที่โม่ถิงเซียวพูดจบ เขาก็หันหน้าเข้าไปในห้องและส่งเสียงเรียก:“มู่มู่ กินข้าวกัน”

โม่มู่สวมรองเท้าแตะวิ่งออกมา:“กินแล้วไม่ใช่หรอ?”

โม่ถิงเซียวจับมือเธอและพูดอย่างเป็นธรรมชาติว่า:“นั่นมันมื้อกลางวัน”

“แต่ก่อนหน้านี้อาซือเย่……” โม่มู่ยังอยากจะเถียงเขา แต่ก็ถูกโม่ถิงเซียวพูดขัดเธอ:“อาลี่กับน้ามู่ชวนพวกเราไปทานอาหารเย็น หนูว่าไง?”

โม่มู่พูดอย่างเชื่อฟัง:“ขอบคุณค่ะอาลี่ น้ามู่……”

เมื่อพูดถึง “น้ามู่” เธอดูลังเลอย่างเห็นได้ชัด

คนสวยหน้าตาดีทุกคนเป็นพี่สาว จะเรียกว่าน้าได้ยังไง?

เธอมองโม่ถิงเซียวและมู่นวลนวลอีกครั้งสีหน้าของเธอว่างเปล่า

……

โม่ถิงเซียวพาโม่มู่ไปร่วมทานอาหารที่บ้านของลี่จิ่วเหิง

มู่นวลนวลเสิร์ฟอาหาร และลี่จิ่วเหิงก็ไปหยิบชาม

ลี่จิ่วเหิงยื่นตะเกียบให้โม่มู่:“ช่วยถือตะเกียบให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

“ได้ค่ะ”

ลี่จิ่วเหิงเดินเข้ามาแล้วลูบหัวของเธอ:“เยี่ยมจริงๆ”

โม่มู่ยิ้มให้เขา และเดินไปที่ด้านข้างของโม่ถิงเซียว จากนั้นก็ปีนขึ้นไปนั่งลงบนเก้าอี้

ในบ้านของมู่นวลนนลไม่มีเก้าอี้ทานข้าวสำหรับเด็ก โม่มู่จึงต้องนั่งบนเก้าอี้

โม่มู่กำลังปีนอย่างโซซัดโซเซ โม่ถิงเซียวช่วยเธอแล้วถามว่า:“เมื่อวานพ่อพูดอะไรกับหนู?”

“พูดอะไร?” โม่ถิงเซียวพูดกับเธอมากมาย เธอยังเป็นเด็กเล็กจะจำได้ยังไง

โม่ถิงเซียวพูดเตือนเธอ:“ไม่ควรพูดกับมนุษย์ป้า”

โม่มู่พยักหน้าเหมือนไก่จิกข้าว:“จำได้”

“ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ก็ไม่ควรพูดกับมนุษย์อา” เมื่อโม่ถิงเซียวพูดอย่างนี้แล้ว เขาก็เหลือบไปที่ลี่จิ่วเหิง

ทั้งสองคนสบตากันและต่างคนก็ต่างไม่ยอมละสายตาให้กัน

มู่นวลนวลเสิร์ฟอาหาร และได้ยินที่โม่ถิงเซียวพูดพอดี

เธอรู้สึกดีว่าบรรยากาศบนโต๊ะผิดปกติ

ทั้งสองคนยังคงจ้องหน้ากันด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร และและความเป็นปรปักษ์ระหว่างกันนั้นชัดเจนมากจนมู่นวลนวลไม่อาจเพิกเฉยได้

เธอเหลือบมองไปที่โม่มู่ และเห็นว่าโม่มู่กำลังเล่นกับตะเกียบของตัวเอง เธอจึงพูดว่า:“ทานข้าวกันเถอะ”

ทันทีที่เธอพูดผู้ชายทั้งสองคนก็ดูเหมือนจะนัดหมายกัน ในขณะเดียวกันก็ละสายตาและมองออกไป

ลี่จิ่วเหิงคีบอาหารให้มู่นวลนวล:“กินเยอะๆ ต่อไปไม่ต้องรอฉันทานข้าวดึกขนาดนี้นะ”

“ฉันกินคนเดียวแล้วรู้สึกไม่เจริญอาหาร” ในขณะที่พูดมู่นวลนวลก็คีบอาหารให้โม่มู่

โม่ถิงเซียวชำเลืองมองทั้งสองคนที่อยู่ตรงข้ามด้วยสีหน้าที่คาดเดาไม่ได้ และไม่ได้ขยับตะเกียบของเขา

โม่มู่เอียงหัวและถามเขาอย่างสนิทสนม:“พ่อ พ่ออยากกินอะไร?”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท