โม่ถิงเซียวรับอาหารและดูบิลการสั่งซื้อ
และเห็นรายการอาหารของเด็ก
เมื่อพนักงานเดลิเวอรี่เห็นว่าโม่ถิงเซียวรับอาหารแล้ว เขาก็พูดว่า “ขอให้มีความสุขกับอาหารมื้อนี้” และจากไป
โม่ถิงเซียวไม่ได้ปิดประตูทันที เขาเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องตรงข้ามที่ปิดอยู่
นอกจากผู้หญิงห้องตรงข้ามคนนั้นที่ชื่อมู่นวลนวลแล้ว จะมีใครที่จะสั่งอาหารให้เขากับโม่มู่ในเวลานี้
เธอเป็นผู้หญิงละเอียดรอบคอบและใจอ่อน
เข้าเม้มริมฝีปากแล้วยิ้ม
เขากับโม่มู่ทานอาหารเย็นแล้ว เขาถือกล่องอาหารจะเอาไปโยนทิ้ง
ทันใดนั้นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของผู้หญิงคนนั้นก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา และมือของเขาที่ยื่นออกไปก็หดกลับมาอีกครั้ง แล้วหมุนไปรอบๆ จากนั้นเขาก็ใส่อาหารในตู้เย็น
ก่อนนอนเขาก็แอบไปดูโม่มู่อีกรอบ ก่อนจะกลับห้องของตัวเอง
……
“โม่ถิงเซียว คุณกลับมาแล้ว”
เสียงที่อ่อนโยนของผู้หญิงดังขึ้น เมื่อโม่ถิงเซียวเงยหน้าขึ้นก็พบว่าตัวเองยืนอยู่ที่ลานบ้านของคฤหาสน์แห่งหนึ่ง
คฤหาสน์ล้อมรอบไปด้วยป่าเขียวชอุ่มและต้นไม้ที่งอกงาม ดูเหมือนว่าคฤหาสน์จะสร้างขึ้นบนภูเขา
ผู้หญิงที่เรียกเขาเมื่อตะกี้พูดอีกครั้ง:“คุณดูอะไรน่ะ?รีบเข้ามาทานข้าวเร็ว”
เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นผู้หญิงร่างบางเดินเข้ามาหาเขา
ผู้หญิงคนนี้สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ท่วงทาอ่อนช้อยและเธอดูอายุยังน้อย
ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาใกล้มากขึ้น และในที่สุดโม่ถิงเซียวก็เห็นใบหน้าของเธออย่างชัดเจน
โม่ถิงเซียวพึมพำเละเรียก:“มู่นวลนวล?”
“ฉันทำอาหารมังสวิรัติและสตูว์เนื้อ……แต่ช่วงนี้คุณงานยุ่งมาก ฉันไม่ได้ใส่พริกเยอะ คุณกินอาหารอ่อนๆหน่อย……”
มู่นวลนวลเข้ามาจับแขนของเขา เธอมองเขาแล้วยิ้ม ทั้งสองดูสนิทกันมาก
ทันใดนั้นภาพก็เปลี่ยนไป
เขาไม่ได้อยู่ที่ลานบ้านอีกและมู่นวลนวลก็หายไป
เขามองไปรอบ และพบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอน
มีเสียงน้ำในห้องน้ำ
แต่ไม่นานเสียงของน้ำก็หยุดลง
มู่นวลนวลนุ่งผ้าเช็ดตัวเดินออกมา ใบหน้าขาวของเธอแดงระเรื่อจากน้ำอุ่น ไหล่และแขนที่เผยให้เห็นสีชมพูพีช
ราวกับเธอรู้สึกได้ถึงการจ้องมองของโม่ถิงเซียว มู่ยวลนวลยื่นมือออกไปปกปิดอย่างเขินอาย:“ลืมหยิบชุดนอนเข้าไป……”
โม่ถิงเซียวเดินเข้าไปหาเธออย่างไม่สามารถควบคุมได้ เสียงของเขาต่ำและแหบ:“ไม่ต้องใส่แล้ว อีกเดี๋ยวคุณยังต้องถอดมันอีก”
หลังจากนั้นร่างที่ดูเหมือนจะมีสติของเขาก็ผลักมู่นวลนวลลงบนเตียง
แม้ว่ามู่นวลนวลจะเขินอาย แต่เธอก็ไม่ขัดขืน
เขาดึงผ้าเช็ดตัวของเธอออก
ผมที่ยาวสลวยพาดบนหมอน ผิวขาวบอบบาง แววตาของเธอเปล่งประกาย เธอเรียกชื่อของเขาเบาๆ
“โม่ถิงเซียว……ช้าๆ……”
“ช้าๆไม่ได้แล้ว……”
“โม่ชิงเจียว!”
โม่ถิงเซียวลืมตาขึ้นอย่างดุร้ายและเห็นใบหน้าของโม่มู่อยู่เหนือหัว
โม่มู่ก้มลงมองโม่ถิงเซียวอยู่ที่หัวของเขา:“พ่อตื่นแล้ว หนูหิว”
และท้องของเธอก็ร้องตาม “ก๊อดก๊อด”
โม่ถิงเซียวถือคอเสื้อด้านหลังของโม่มู่ และหิ้วเธอไปข้างๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง
ที่แท้ก็เป็นแค่ความฝัน
ครั้งก่อนที่เขามาส่งมู่นวลนวล เขาก็รู้ว่าตัวเองสนใจในตัวมู่นวลนวล
การเผชิญหน้ากับความฝันทำให้เขาเข้าใจว่าเขารู้สึกยังไงกับมู่นวลนวล
นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“พ่อ”
โม่ถิงเซียวรู้สึกว่ามีคนดึงผ้าห่มของเขา
เขาก้มลงมองและเห็นว่าโม่มู่กำลังดึงผ้าห่มของเขา
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เขายื่นมือไปจับผ้าห่มและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง:“หนูออกไปรอพ่อข้างนอกก่อนนะ”
โม่มู่:“อ้อ”
เมื่อเธอออกไป โม่ถิงเซียวก็ล็อกประตูและเข้าไปในห้องน้ำ
……
โม่ถึงเซียวจัดการกับตัวเองอยู่ครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะออกมา
โม่มู่เล่นผมที่ยุ่งเหยิงของเธอ และพูดพึมพำอยู่ที่หน้าประตูห้องของเขา
โม่ถิงเซียวพาเธอไปล้างหน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อหวีผมของเธอก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เขาจ้องไปที่ผมนุ่มๆของโม่มู่สักสองสามวินาทีและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า:“ปล่อยผมสวยมาก”
โม่มู่พูดด้วยความตื่นเต้น:“อยากถักผมเปีย”
โม่ถิงเซียวพูดด้วยสีหน้าว่างเปล่า:“ถักเปียไม่สวย”
โม่มู่หันไปมองเขา แล้วหมุนนิ้มมือของตังเองและพูดเสียงดัง:“พ่อถักเปียไม่เป็น!”
โม่ถิงเซียว:“……”
กริ๊ง——
“พ่อไปเปิดประตูก่อน” โม่ถิงเซียวลุกขึ้นไปเปิดประตู
คนที่มาเอาอาหารเช้ามาด้วย
“อาซือเย่” เมื่อโม่มู่เห็นอาหารเช้าก็แววตาเป็นประกาย แล้ววิ่งเข้าไปกอดขาซือเย่
ซือเย่ยิ้ม:“อรุณสวัสดิ์มู่มู่”
หลังจากที่เขาจัดอาหารเช้าให้ทั้งสองคนแล้วโม่ถิงเซียวก็พูดว่า:“ตรวจสอมมู่นวลนวลอีกสักครั้ง”
เมื่อโม่มู่ได้ยิน “มู่นวลนวล” สามคำนี้ก็ประทับใจแล้วเงยหน้าขึ้น:“หือ?”
โม่ถิงเซียวไม่พูดและป้อนนมให้เธอ
และความสนใจของเด็กถูกเบี่ยงเบนได้ง่ายมาก
……
หลังจากที่โม่ถิงเซียวย้ายเข้ามาก็ยังไม่มีคนรับใช้ เขาจึงทำได้เพียงพาโม่มู่ไปที่บริษัทด้วย
ตอนที่ออกไปก็เจอกับมู่นวลนวลที่กลับมาจากซื้อกับข้าว
โม่มู่ดูดีใจ:“น้ามู่”
“อรุณสวัสดิ์มู่มู่”
มู่นวลนวลยิ้มให้โม่มู่ เธอหันหน้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจและเห็นสายตาของโม่ถิงเซียวจ้องมองเธออย่างไม่กระพริบตา
สีหน้าของมู่นวลนวลดูตกใจ เธอพยักหน้าเล็กน้อยและเรียก:“คุณฌม่”
“อึ้ม” โม่ถิงเซียวตอบอย่างเย็นชาและพาโม่มู่เข้าไปในลิฟต์
หลังจากที่พวกเขาจากไป มู่นวลนวลส่ายหัว โม่ถิงเซียวเป็นคนที่ยากที่จะคาดเดาได้
เมื่อคืนเธอสั่งเดลิเวอรี่ให้พวกเขา โม่ถิงเซียวน่าจะเอาให้โม่มู่กินแล้ว
มู่นวลนวลรู้สึกว่าเธอจะให้ความสำคัญกับสองพ่อลูกมากเกินไป แม้ว่าเธอจะชอบโม่มู่มากก็ตาม……
ช่างเถอะ ไม่คิดมากแล้ว
หลังจากที่มู่นวลนวลกลับมาถึงบ้าน เธอก็ได้รับสายโทรศัพท์จากเซินเหลียง
“นวลนวล ฉันมีบางอย่างที่สำคัญมากจะบอกกับเธอ” น้ำเสียงของเซินเหลียงฟังดูจริงจังมาก
“ที่ไหน เมื่อไหร่?” หลังจากที่เจอกันครั้งก่อนที่ห้าง มู่นวลนวลก็ระมัดระวังตัวมาก
หลังออกจากโรงพยาบาลเธอก็ไม่ได้ดูหนังและละครทีวีมากนัก เธอจึงไม่รู้ว่าเซินเหลียงเป็นคนในวงการบันเทิง
เซินเหลียงพูดว่า:“ฉันจะไปรับเธอ”
เซินเหลียงวางและขับรถไปหามู่นวลนวล
เธอคิดเรื่องนี้ทั้งคืนและคิดว่าต้องบอกมู่นวลนวลว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้
มู่นวลนวลมีสิทธิ์ที่จะรู้ว่าเธอยังมีลูกสาวอีกคน
ลี่จิ่วเหิงไม่รู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ และเธอก็รู้สึกว่ามันไม่ง่าย