ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 383 สั่งอาหารเดลิเวอรี่

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

โม่ถิงเซียวรับอาหารและดูบิลการสั่งซื้อ

และเห็นรายการอาหารของเด็ก

เมื่อพนักงานเดลิเวอรี่เห็นว่าโม่ถิงเซียวรับอาหารแล้ว เขาก็พูดว่า “ขอให้มีความสุขกับอาหารมื้อนี้” และจากไป

โม่ถิงเซียวไม่ได้ปิดประตูทันที เขาเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องตรงข้ามที่ปิดอยู่

นอกจากผู้หญิงห้องตรงข้ามคนนั้นที่ชื่อมู่นวลนวลแล้ว จะมีใครที่จะสั่งอาหารให้เขากับโม่มู่ในเวลานี้

เธอเป็นผู้หญิงละเอียดรอบคอบและใจอ่อน

เข้าเม้มริมฝีปากแล้วยิ้ม

เขากับโม่มู่ทานอาหารเย็นแล้ว เขาถือกล่องอาหารจะเอาไปโยนทิ้ง

ทันใดนั้นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของผู้หญิงคนนั้นก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา และมือของเขาที่ยื่นออกไปก็หดกลับมาอีกครั้ง แล้วหมุนไปรอบๆ จากนั้นเขาก็ใส่อาหารในตู้เย็น

ก่อนนอนเขาก็แอบไปดูโม่มู่อีกรอบ ก่อนจะกลับห้องของตัวเอง

……

“โม่ถิงเซียว คุณกลับมาแล้ว”

เสียงที่อ่อนโยนของผู้หญิงดังขึ้น เมื่อโม่ถิงเซียวเงยหน้าขึ้นก็พบว่าตัวเองยืนอยู่ที่ลานบ้านของคฤหาสน์แห่งหนึ่ง

คฤหาสน์ล้อมรอบไปด้วยป่าเขียวชอุ่มและต้นไม้ที่งอกงาม ดูเหมือนว่าคฤหาสน์จะสร้างขึ้นบนภูเขา

ผู้หญิงที่เรียกเขาเมื่อตะกี้พูดอีกครั้ง:“คุณดูอะไรน่ะ?รีบเข้ามาทานข้าวเร็ว”

เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นผู้หญิงร่างบางเดินเข้ามาหาเขา

ผู้หญิงคนนี้สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ท่วงทาอ่อนช้อยและเธอดูอายุยังน้อย

ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาใกล้มากขึ้น และในที่สุดโม่ถิงเซียวก็เห็นใบหน้าของเธออย่างชัดเจน

โม่ถิงเซียวพึมพำเละเรียก:“มู่นวลนวล?”

“ฉันทำอาหารมังสวิรัติและสตูว์เนื้อ……แต่ช่วงนี้คุณงานยุ่งมาก ฉันไม่ได้ใส่พริกเยอะ คุณกินอาหารอ่อนๆหน่อย……”

มู่นวลนวลเข้ามาจับแขนของเขา เธอมองเขาแล้วยิ้ม ทั้งสองดูสนิทกันมาก

ทันใดนั้นภาพก็เปลี่ยนไป

เขาไม่ได้อยู่ที่ลานบ้านอีกและมู่นวลนวลก็หายไป

เขามองไปรอบ และพบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอน

มีเสียงน้ำในห้องน้ำ

แต่ไม่นานเสียงของน้ำก็หยุดลง

มู่นวลนวลนุ่งผ้าเช็ดตัวเดินออกมา ใบหน้าขาวของเธอแดงระเรื่อจากน้ำอุ่น ไหล่และแขนที่เผยให้เห็นสีชมพูพีช

ราวกับเธอรู้สึกได้ถึงการจ้องมองของโม่ถิงเซียว มู่ยวลนวลยื่นมือออกไปปกปิดอย่างเขินอาย:“ลืมหยิบชุดนอนเข้าไป……”

โม่ถิงเซียวเดินเข้าไปหาเธออย่างไม่สามารถควบคุมได้ เสียงของเขาต่ำและแหบ:“ไม่ต้องใส่แล้ว อีกเดี๋ยวคุณยังต้องถอดมันอีก”

หลังจากนั้นร่างที่ดูเหมือนจะมีสติของเขาก็ผลักมู่นวลนวลลงบนเตียง

แม้ว่ามู่นวลนวลจะเขินอาย แต่เธอก็ไม่ขัดขืน

เขาดึงผ้าเช็ดตัวของเธอออก

ผมที่ยาวสลวยพาดบนหมอน ผิวขาวบอบบาง แววตาของเธอเปล่งประกาย เธอเรียกชื่อของเขาเบาๆ

“โม่ถิงเซียว……ช้าๆ……”

“ช้าๆไม่ได้แล้ว……”

“โม่ชิงเจียว!”

โม่ถิงเซียวลืมตาขึ้นอย่างดุร้ายและเห็นใบหน้าของโม่มู่อยู่เหนือหัว

โม่มู่ก้มลงมองโม่ถิงเซียวอยู่ที่หัวของเขา:“พ่อตื่นแล้ว หนูหิว”

และท้องของเธอก็ร้องตาม “ก๊อดก๊อด”

โม่ถิงเซียวถือคอเสื้อด้านหลังของโม่มู่ และหิ้วเธอไปข้างๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง

ที่แท้ก็เป็นแค่ความฝัน

ครั้งก่อนที่เขามาส่งมู่นวลนวล เขาก็รู้ว่าตัวเองสนใจในตัวมู่นวลนวล

การเผชิญหน้ากับความฝันทำให้เขาเข้าใจว่าเขารู้สึกยังไงกับมู่นวลนวล

นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“พ่อ”

โม่ถิงเซียวรู้สึกว่ามีคนดึงผ้าห่มของเขา

เขาก้มลงมองและเห็นว่าโม่มู่กำลังดึงผ้าห่มของเขา

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เขายื่นมือไปจับผ้าห่มและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง:“หนูออกไปรอพ่อข้างนอกก่อนนะ”

โม่มู่:“อ้อ”

เมื่อเธอออกไป โม่ถิงเซียวก็ล็อกประตูและเข้าไปในห้องน้ำ

……

โม่ถึงเซียวจัดการกับตัวเองอยู่ครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะออกมา

โม่มู่เล่นผมที่ยุ่งเหยิงของเธอ และพูดพึมพำอยู่ที่หน้าประตูห้องของเขา

โม่ถิงเซียวพาเธอไปล้างหน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อหวีผมของเธอก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เขาจ้องไปที่ผมนุ่มๆของโม่มู่สักสองสามวินาทีและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า:“ปล่อยผมสวยมาก”

โม่มู่พูดด้วยความตื่นเต้น:“อยากถักผมเปีย”

โม่ถิงเซียวพูดด้วยสีหน้าว่างเปล่า:“ถักเปียไม่สวย”

โม่มู่หันไปมองเขา แล้วหมุนนิ้มมือของตังเองและพูดเสียงดัง:“พ่อถักเปียไม่เป็น!”

โม่ถิงเซียว:“……”

กริ๊ง——

“พ่อไปเปิดประตูก่อน” โม่ถิงเซียวลุกขึ้นไปเปิดประตู

คนที่มาเอาอาหารเช้ามาด้วย

“อาซือเย่” เมื่อโม่มู่เห็นอาหารเช้าก็แววตาเป็นประกาย แล้ววิ่งเข้าไปกอดขาซือเย่

ซือเย่ยิ้ม:“อรุณสวัสดิ์มู่มู่”

หลังจากที่เขาจัดอาหารเช้าให้ทั้งสองคนแล้วโม่ถิงเซียวก็พูดว่า:“ตรวจสอมมู่นวลนวลอีกสักครั้ง”

เมื่อโม่มู่ได้ยิน “มู่นวลนวล” สามคำนี้ก็ประทับใจแล้วเงยหน้าขึ้น:“หือ?”

โม่ถิงเซียวไม่พูดและป้อนนมให้เธอ

และความสนใจของเด็กถูกเบี่ยงเบนได้ง่ายมาก

……

หลังจากที่โม่ถิงเซียวย้ายเข้ามาก็ยังไม่มีคนรับใช้ เขาจึงทำได้เพียงพาโม่มู่ไปที่บริษัทด้วย

ตอนที่ออกไปก็เจอกับมู่นวลนวลที่กลับมาจากซื้อกับข้าว

โม่มู่ดูดีใจ:“น้ามู่”

“อรุณสวัสดิ์มู่มู่”

มู่นวลนวลยิ้มให้โม่มู่ เธอหันหน้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจและเห็นสายตาของโม่ถิงเซียวจ้องมองเธออย่างไม่กระพริบตา

สีหน้าของมู่นวลนวลดูตกใจ เธอพยักหน้าเล็กน้อยและเรียก:“คุณฌม่”

“อึ้ม” โม่ถิงเซียวตอบอย่างเย็นชาและพาโม่มู่เข้าไปในลิฟต์

หลังจากที่พวกเขาจากไป มู่นวลนวลส่ายหัว โม่ถิงเซียวเป็นคนที่ยากที่จะคาดเดาได้

เมื่อคืนเธอสั่งเดลิเวอรี่ให้พวกเขา โม่ถิงเซียวน่าจะเอาให้โม่มู่กินแล้ว

มู่นวลนวลรู้สึกว่าเธอจะให้ความสำคัญกับสองพ่อลูกมากเกินไป แม้ว่าเธอจะชอบโม่มู่มากก็ตาม……

ช่างเถอะ ไม่คิดมากแล้ว

หลังจากที่มู่นวลนวลกลับมาถึงบ้าน เธอก็ได้รับสายโทรศัพท์จากเซินเหลียง

“นวลนวล ฉันมีบางอย่างที่สำคัญมากจะบอกกับเธอ” น้ำเสียงของเซินเหลียงฟังดูจริงจังมาก

“ที่ไหน เมื่อไหร่?” หลังจากที่เจอกันครั้งก่อนที่ห้าง มู่นวลนวลก็ระมัดระวังตัวมาก

หลังออกจากโรงพยาบาลเธอก็ไม่ได้ดูหนังและละครทีวีมากนัก เธอจึงไม่รู้ว่าเซินเหลียงเป็นคนในวงการบันเทิง

เซินเหลียงพูดว่า:“ฉันจะไปรับเธอ”

เซินเหลียงวางและขับรถไปหามู่นวลนวล

เธอคิดเรื่องนี้ทั้งคืนและคิดว่าต้องบอกมู่นวลนวลว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้

มู่นวลนวลมีสิทธิ์ที่จะรู้ว่าเธอยังมีลูกสาวอีกคน

ลี่จิ่วเหิงไม่รู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ และเธอก็รู้สึกว่ามันไม่ง่าย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท