ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 384 นั่นเป็นลูกสาวของเธอ

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

มู่นวลนวลมองไปที่ด้านหลังของมู่หวันฉีอยู่นานและไม่ได้พูดอะไร

เซินเหลียงถอนหายใจ:“ในที่สุดก็ไปซะที”.

เธอหันไปและเห็นมู่นวลนวลจ้องมองไปทีมู่หวันฉีอย่างไม่ละสายตา และเธอก็อดไม่ได้ที่จะถามอย่างเป็นห่วง:“นวลนวล เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”

มู่นวลนวลตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อน เธอจำอะไรไม่ได้เลย ไม่แน่ว่ามู่หวันฉีอาจจะทำให้เธอตกใจ

เซินเหลียงรู้สึกว่าตัวเธอเองไม่ได้ระมัดระวังมากพอ

มู่นวลนวลหันกลับไปถามเซินเหลียง:“เธอชื่อมู่หวันฉี เกี่ยวข้องอะไรกับฉัน?”

เซินเหลียงเห็นว่าเธอสงบนิ่ง จึงรู้สึกวางใจและพูดว่า:“เป็นพี่สาวพ่อเดียวกันแต่ต่างแม่ของเธอ”

“แม่ของฉันเป็นแม่เลี้ยงของเธอหรอ?” แววตาของมู่นวลนวลดูแปลกใจ

เซินเหลียงพยักหน้า:“อึ้ม”

มู่นวลนวลครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง:“โดยทั่วไปแล้วแม่เลี้ยงจะปฏิบัติไม่ดีต่อลูกสาวของสามี ดูเหมือนว่ามู่หวันฉีจะเกลียดฉันมาก แม่ของฉันโหดร้ายทารุณกับเธอหรอ?”

เซินเหลียงยกมุมปากขึ้น บางครั้งเธอก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี

เสี่ยวชูเหอปฏิบัติต่อมู่หวันฉีดีกว่าลูกสาวแท้ๆของเธอเองซะอีก จะโหดร้ายทารุณกับเธอได้อย่างไร?

เมื่อเซินเหลียงเห็นสายตาที่งงงวยของมู่นวลนวลก็พูดว่า:“เปล่า ในตอนนี้ยังพูดได้ไม่ชัดเจน แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด……”

มู่นวลนวลดูเหมือนจะรู้ว่าเธอกำลังจะพูดอะไร จึงขัดจังหวะเธอ:“แต่ลี่จิ่วเหิงบอกว่าเขาเป็นคู่หมั้นของฉัน ฉันคิดว่าเขาไม่ได้โกหกฉัน ถ้าเขาเป็นคู่หมั้นของฉัน แล้วฉันจะเป็นสามีภรรยากับโม่ถิงเซียวได้ยังไงล่ะ?ฉันได้บอกว่าเธอโกหกฉัน เพียงแค่รู้สึกว่า……”

“น้ามู่”

ทันใดนั้นเสียงของโม่มู่ก็ดังขึ้น

เมื่อมู่นวลนวลหันไปก็เห็นโม่ถิงเซียวกับโม่มู่กำลังเดินมาทางด้านนี้

โม่มู่ดูกระตือรือร้นที่จะดึงโม่ถิงเซียวมาทางด้านนี้ด้วยความพยายามอย่างมาก ขาสั้นๆของเธอเดินมาด้วยความรวดเร็ว

ในทางกลับกันโม่ถิงเซียวสงบนิ่งมาก เขาถูกโม่มู่ลากให้เดินมาทางนี่อย่างช้าๆ

เมื่อมู่นวลนวลเห็นโม่มู่ก็ประหลาดใจ:“มู่มู่ หนูมาได้ยังไง?”

“กินข้าว” เมื่อโม่มู่เดินไปถึงตรงหน้ามู่นวลนวลก็ปล่อยมือของโม่ถิงเซียวทันที เธอเงยหน้าขึ้นมองมู่นวลนวลและตอบคำถามอย่างเชื่อฟัง

เมื่อเซินเหลียงเห็นโม่ถิงเซียว เธอก็ก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว

โม่ถิงเซียวก็สังเกตเห็นเซินเหลียง

เขาจำได้ว่าครั้งก่อนเซินเหลียงบอกว่าซูเหมียนไม่ใช่แม่แท้ๆของโม่มู่ คิดไม่ถึงว่าเธอจะรู้จักกับมู่นวลนวลด้วย

เรื่องนี้ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ

มู่นวลนวลนึกถึงสิ่งที่เซินเหลียงพูดถึงเมื่อตะกี้ ตอนที่เธอเห็นโม่มู่ ในใจของเธอก็รู้สึกสับสน

โม่มู่เป็นลูกสาวของเธอจริงๆหรอ?

เธอเคยเป็น……สามีภรรยากับโม่ถิงเซียว?

เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปที่โม่ถิงเซียว

เธอมองไปที่โม่ถิงเซียวอย่างระมัดระวัง

ไม่ว่าจะมองยังไงก็รู้สึกว่าโม่ถิงเซียวดูเหมือนจะไม่ใช่คนที่เข้ากันได้กับเธอ

ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังรู้สึกว่าโม่ถิงเซียวไม่มีอะไรดึงดูดเธอเลย

ราวกับรู้สึกได้ถึงการจ้องมองของมู่นวลนวล และทันใดนั้นโม่ถิงเซียวก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่มู่นวลนวล

แววตาของเขาลึกล้ำและมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชาและเฉียบคม

ดวงตาของโม่มู่ดูเหมือนเขา แต่น่ารักกว่ามาก

เมื่อซือเย่จอดรถไว้ด้านหลังแล้วก็เห็นเซินเหลียงกับมู่นวลนวลอยู่ที่นี่ เขาอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า:“คุณเซิน คุณมู่”

มู่นวลนวลพยักหน้าให้ซือเย่เป็นการักทาย

เซินเหลียงประหลาดใจเล็กน้อย:“ซือเย่?”

เธอไม่รู้ว่าซือเย่กลับไปทำงานให้โม่ถิงเซียวอีกครั้ง

ในเมื่อโม่ถิงเซียวให้ซือเย่กลับไปทำงานกับเขา ตอนนี้โม่ถิงเซียวอาจจะไม่ได้ไว้ใจโม่จิ่นหยุนมากขนาดนั้นแล้ว?

และในเมื่อวันนี้ทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว งั้นก็พูดเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา?

เมื่อเซินเหลียงคิดอย่างนี้แล้ว เธอก็ขยิบตาให้ซือเย่

ซือเย่ก็เข้าใจแล้วก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าว เขาเดินไปที่ข้างๆโม่ถิงเซียวและกระซิบเบาๆ:“คุณชาย ก่อนหน้านี้ผมจองห้องรับรองพิเศษไว้แล้ว”

“อึ้ม” โม่ถิงเซียวตอบกลับ แล้วดึงโม่มู่หันหลังกลับและจะเดินไป

โม่มู่คว้ามือของเขาและบิดตัวออกจากมือของโม่ถิงเซียว แล้ววิ่งไปจับมือของมู่นวลนวล:“หนูอยากไปกับน้ามู่”

โม่ถิงเซียวเม้มริมฝีปาก และดูไม่ออกว่าเขาโกรธหรือไม่

“ตามใจ”

หลังจากทิ้งคำสองคำนี้ไปอย่างเมินเฉยแล้ว โม่ถิงเซียวก็หันหลังเดินจากไป

นี่หมายความว่าไม่มีการคัดค้านใดๆ

“น้ามู่ ป่ะ……”

มู่นวลนวลไม่สามารถต้านทานโม่มู่ได้ หลังจากนั้นก็ถูกโม่มู่ลากเข้าไปในห้องรับรองพิเศษ

เมื่อเห็นว่าทั้งสามคนเข้าไปในห้องรับรองพิเศษ เซินเหลียงก็ดึงซือเย่ไปด้านข้าง:“คุณกลับไปทำงานให้บอสใหญ่ตั้งแต่เมื่อไหร่?เมื่อหลายวันก่อนฉันยังเห็นคุณอยู่ที่ Shengding Media”

ซือเย่พูดว่า:“เมื่อสองสามวันก่อน”

“แล้วคุณได้บอกบอสใหญ่เรื่องของเบากับมู่นวลนวลรึเปล่า?” เซินเหลียงถามด้วยน้ำเสียงกังวล

“ยังครับ แต่คุณชายสั่งให้ผมไปตรวจสอบข้อมูลของคุณหญิง แต่ข้อมูลของคุณหญิงถูกบิดเบือนอย่างเห็นได้ชัด”

เซินเหลียงไม่ใช่นนอก ซือเย่จึงไม่ได้ปิดบังเธอ

“ใครเป็นคนทำ?” หลังจากที่เซินเหลียงได้เจอกับมู่นวลนวลอีกครั้ง นอกจากจะดีใจแล้ว ยังอยากทำให้เธอได้รู้จักกับโม่มู่ และแน่นอนว่าเธอไม่ได้ใส่จกับเรื่องนี้

สีหน้าท่าทางของซือเย่ดูจริงจังเล็กน้อย:“อาจจะเป็นโม่จิ่นหยุนหรือไม่ก็ลี่จิ่วเหิง”

“ลี่จิ่วเหิง?ผู้ชายคนนั้นอ้างตัวว่าเป็นคู่หมั้นของนวลนวล?” เซินเหลียงประทับใจลี่จิ่วเหิง

เมื่อซือเย่ได้ยินอย่างนั้นก็ถามว่า:“คุณยังจำเมื่อสามปีก่อนที่คุณหญิงเป็นข่าวกับผู้ชายคนหนึ่งได้ไหม?”

“จำได้ แต่ก็ชัดเจนมากนัก” ในตอนนั้นเซินเหลียงยุ่งมาก เธอเลยไม่ค่อยรู้เรื่องของมู่นวลนวล

ซือเย่ขมวดคิ้วแน่น:“ในตอนนั้นผู้ชายคนนั้นที่เป็นข่าวกับคุณหญิงก็คือลี่จิ่วเหิง ตอนนั้นคุณชายเคยให้ผมไปตรวจสอบประวัติของเขา แต่ต่อมาซือเฉิงยวี่ก็ก่อเรื่อง เรื่องนี้จึงถูกดองไว้”

“ถ้าอย่างนั้นในช่วงสามปีที่ผ่านมาหลังจากที่ลี่จิ่วเหิงเจอกับมู่นวลนวล ก็หมายความว่าลี่จิ่วเหิงรู้จักมู่นวลนวล”

“ไม่มีใครที่จะช่วยผู้หญิงที่สลบและบาดเจ็บสาหัสอย่างไร้เหตุผล และยังคอยดูแลมาตลอดสามปี”

เซินเหลียงและซือเย่เงียบไม่พูดไม่จา

เซินเหลียงกัดริมฝีปากและพูดว่า:“เรื่องที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือทำให้พวกเขาได้รู้จักกัน”

“ให้ใครได้รู้จักกันนะ?”

ทันใดนั้นเสียงแหบๆของโม่ถิงเซียวก็ดังขึ้น

เซินเหลียงและซือเย่หันหน้าไปมอง และเห็นว่าโม่ถิงเซียวยืนอยู่ข้างประตูด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม ไม่รู้ว่าเขายืนฟังอยู่ตรงนั่นนานแค่ไหนแล้ว

ซือเย่ตกตะลึงและส่งเสียงเรียก:“คุณชาย”

โม่ถิงเซียวกวาดสายตามองไปที่ทั้งสองคนและสั่งว่า:“เข้ามาให้หมด”

ซือเย่กับเซินเหลียงมองหน้ากันแล้วเดินตามเข้าไป

โม่ถิงเซียวค่อยๆเปิดการ์ตูนนโทรศัพท์และวางไว้ข้างหน้าโม่มู่

โม่มู่หยิบโทรศัพท์และตั้งหน้าตั้งตาดูการ์ตูน

หลังจากจัดการกับโม่มู่แล้ว โม่ถิงเซียวก็หันไปมองพวกเขาและพูดว่า:“พูดมาเถอะ”

โม่ถิงเซียวเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วเอาขาไขว้กัน ท่าทางของเขาดูสบายๆ สายตาเฉียบคม ดูเหมือนว่าจะไม่โกรธและสง่าผ่าเผย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท