ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 399 ไม่สามารถเอาชนะโม่ถิงเซียวได้

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

มู่นวลนวลยิ้มทื่อๆ:“ฉันรู้ว่าคุณโม่ร่ำรวยมาก แต่ฉันไม่ต้องให้คุณสิ้นเปลือง”

ตอนที่เธอพักอยู่กับลี่จิ่วเหิง เธอก็มีข้าวของในชีวิตประจำวันมากนัก แต่ก็ต้องเสียเงินไปไม่น้อย

ของเหล่านั้นยังใช้งานได้ ทำไมต้องทิ้ง

โม่ถิงเซียวมองไปที่เธอแล้วยิ้ม และพูดด้วยน้ำเสียงที่อธิบายไม่ถูก:“ไม่ใช้เงินของผม?แล้วคุณจะใช้เงินของลี่จิ่วเหิง สุภาพบุรุษจอมปลอมคนนั้น คณรจะได้สบายใจงั้นหรอ ?”

“คุณโม่ คุณกรุณาอย่าพูดเรื่องที่ไม่รู้แน่ชัด คุณกำลังมีเจตนาที่จะใส่ร้ายคนอื่น!”

มู่นวลนวลรู้สึกว่าโม่ถิงเซียวคิดว่าตัวเองถูกมากเกินไป

เดิมทีลี่จิ่วเหิงก็ไม่ได้ทำผิดต่อเขา ส่วนเขาก็มุ่งเป้าไปที่ลี่จิ่วเหิงอย่างนี้หรอ?

พูดได้ว่าผู้ชายคนนี้บ้าระห่ำ และทำทุกอย่างตามใจมาตั้งแต่ไหนแต่ไร?

หลังจากที่มู่นวลนวลพูดจบก็ไม่ให้โอกาสโม่ถิงเซียวได้พูด เธอพูดเสริมว่า:“อีกอย่าง ฉันจะใช้เงินของใครก็ไม่เกี่ยวกับคุณ”

เธอใช้เงินของลี่จิ่วเหิง แต่เธอก็จดบันทึกค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวในโรงพยาบาลในช่วงสามปีก่อนหน้านี้ เธอทำบัญชีไว้อย่างละเอียด

เธอรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร

เมื่อโม่ถิงเซียวได้ยินที่เธอพูด สีหน้าของเขาก็จมลง

ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้จักเสือเอาเรือเข้ามาจอด!

เพื่อหลีกเลี่ยงการที่จะได้ยินคำพูดที่ไม่น่าฟังของโม่ถิงเซียว มู่นวลนวลจึงไม่ให้โอกาสเขาได้พูดอีก และทันทีที่เธอพูดจบ เธอก็รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

โม่ถิงเซียวหันไปพูดด้วยความโกรธ:“มู่นวลนวล!”

มู่นวลนวลกำหมัดแน่น และค่อยๆสงบสติอารมณ์

หลังจากออกมาข้างนอก มู่นวลนวลกับลี่จิ่วเหิงก็พูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์โดยทั่วไป

ลี่จิ่วเหิงยิ้มและบอกเธอว่า:“ไม่เป็นไร ของของคุณ ผมจะเก็บไว้ให้”

คำพูดนี้บังเอิญไปรึเปล่า โม่ถิงเซียวเดินออกมาจากข้างในและได้ยินพอดี

เขาเดินตรงเข้ามาและมองไปที่มู่นวลนวลด้วยสีหน้าเมอนเฉย:“ไม่อยากกลับไปเอาของหรอ?”

“หื้ม?” เมื่อกี้บอกว่าไม่ต้องกลับไปเอาไม่ใช่หรอ?

โม่ถิงเซียวเร่งรัดเธออย่างไม่สบอารมณ์:“ยังไม่รีบไปอีก?”

มู่นวลนวลเดินตามเขาไปโดยไม่รู้ตัว

เธอเดินไปข้างหน้าได้สองก้าว แล้วหันไปมองลี่จิ่วเหิง

ลี่จิ่วเหิงยิ้มให้เธอและเดินตามไป

……

มู่นวลนวลยืนอยู่ในห้องโถงของบ้านลี่จิ่วเหิง เธอมองไปที่โม่ถิงเซียวสั่งให้ลูกน้องมาช่วยเธอขนของด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย

ธุรกิจข้ามชาติของโม่กรุ๊ปมีขนาดใหญ่ ประธานอย่างโม่ถิงเซียวว่างมากหรอ?

หรือว่าโม่กรุ๊ปจะก้าวกระโดด

เธอบอกว่าไม่มีข้าวของอะไร แต่โม่ถิงเซียวก็ยังพาคนมาช่วยเธอขนของ

เมื่อเห็นลูกน้องของเขายืนอยู่ในห้องอย่างทำอะไรไม่ถูก มู่นวลนวลก็ทนดูไม่ได้ จึงพูดว่า:“ฉันทำเองดีกว่า มีแต่ของส่วนตัวทั้งนั้น……”

และไม่โทษพวกเขาที่ทำอะไรไม่ถูก เพราะเธอไม่ได้มีข้าวของอะไรมากมาย

โม่ถิงเซียวยืนกวาดสายตามองอยู่ที่ประตู และเห็นว่ามีเพียงร่องรอยของมู่นวลนวลคนเดียวที่พักอยู่ในห้อง

เขาถามอย่างไม่สนใจว่า:“ลี่จิ่วเหิงพักอยู่ที่ไหน?”

มู่นวลนวลกำลังเห็บข้าวของของตัวเองและพูดอย่างไม่ใส่ใจ:“เขาพักอยู่ที่ห้องของตัวเอง”

โม่ถิงเซียวไต่ตรองอยู่ครู่หนึ่งและไม่พูดอะไรอีก

หลังจากมู่นวลนวลจัดเก็บข้าวของเรียบร้อยและออกมา ก็ถูกลูกน้องของโม่ถิงเซียวลากกระเป๋าและเดินตรงเข้าไปในลิฟต์

มู่นวลนวลถามโม่ถิงเซียว:“ไม่ใช่พักอยู่ตรงข้ามหรอ?”

โม่ถิงเซียวเหลือบมองเธอและพูดอย่างใจเย็น:“เล็กเกินไป อยู่ไม่ได้”

มู่นวลนวลเม้มริมฝีปากและไม่มีอะไรจะพูด

คอนโดระดับไฮเอนด์แห่งนี้ เต็มไปด้วยอาคารดูเพล็กซ์ซึ่งไม่เล็กเลย

โม่ถิงเซียวก็เพิ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่นาน และต้องย้ายอีกแล้ว……

บางทีนี่อาจจะเป็นเพราะรวยมาก

ในที่สุดรถก็มาหยุดที่หน้าคฤหาสน์แห่งหนึ่ง

มู่นวลนวลยืนอยู่หน้าคฤหาสน์ และเข้าใจว่าทำไมโม่ถิงเซียวถึงบอกว่าคอนโดนั้นเล็กเกินกว่าที่จะอยู่ได้

คฤหาสน์ในสวนนี้มีสี่ชั้น มีลานบ้านที่กว้างขวาง และมีคนรับใช้กับบอดี้การ์ด

เมื่อเดินเข้าไปคนรับใช้และบอดี้การ์ดก็ยืนเรียงแถวทั้งสองข้างแล้วโค้งตัวลง:“คุณชาย!”

มู่นวลนวลเดินตามหลังโม่ถิงเซียวเข้าไป

ก่อนที่ทั้งสองคนจะเข้าไปในห้องโถง เจ้าก้อนกลมก็รีบเดินออกมาจากด้านใน

โม่ถิงเซียวเดินอยู่ข้างหน้ามู่นวลนวล และเมื่อเห็นเจ้าก้อนกลมเดินเข้ามา เขาก็หยุดเดินและยื่นมือออกไปเตรียมจะรับเธอ……

แต่เจ้าก้อนกลมนั่นวิ่งผ่านด้านข้างเขาไป และพุ่งเข้าไปในอ้อมแขนของมู่นวลนวล

“น้ามู่!”

เด็กหญิงตัวเล็กกระพริบตาปริบๆ และส่งเสียงเรียกเธอ

ทุกครั้งที่โม่มู่เห็นเธอก็จะกระตือรือร้น และทุกครั้งมู่นวลนวลก็จะรู้สึกมีความสุขและดีใจ

แต่ครั้งนี้เธอเสียใจมากจนอยากจะร้องไห้

“มู่มู่……”

มู่นวลนวลกอดเธอไว้แน่นด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

เธอควรจะบอกโม่มู่ยังไงดีว่าเธอไม่ใช่ “น้ามู่” แต่เธอคือ “แม่”

โม่ถิงเซียวหดมือของตัวเองกลับไป และหันหน้าไปมองมู่นวลนวลที่กำลังโม่มู่ด้วยดวงตาที่แดงก่ำเหมือนจะร้องไห้ออกมา

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย คนรับใช้กำลังจะก้าวไปข้างหน้า แต่ก็ถูกเขาหยุดไว้ด้วยสายตา

หลังจากนั้นไม่นานโม่มู่ก็พูดก่อนว่า:“มันแน่นเกินไป”

เมื่อมู่นวลนวลได้ยินอย่างนั้นก็รีบปล่อยโม่มู่

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วสงบสติอารมณ์ จากนั้นก็อุ้มโม่มู่ขึ้นมา

เธอหันไปโดยไม่ตั้งใจและเห็นโมถิงเซียวกำลังจ้องมองพวกเขาทั้งสองคนด้วยสีหน้านิ่ง

“โม่ชิงเจียว” ทันทีที่โม่มู่เห็นโม่ถิงเซียว เธอก็ยื่นมือทั้งสองข้างออกมาเพื่อขอให้เขาอุ้ม

โม่ถิงเซียวนึกถึงเมื่อตะกี้ที่โม่มู่วิ่งตรงเข้าไปในอ้อมแขนของมู่นวลนวล สีหน้าของเขามืดดำและหันเดินเข้าไปข้างใน

โม่มู่กระพริบตาและขมวดคิ้ว เธอหันไปถามมู่นวลนวลด้วยความงงงวย:“เขาโกรธ?”

มู่นวลนวลรู้สึกขบขันกับการขมวดคิ้วของคุณยายตัวน้อย:“เขาไม่โกรธหรอก เขาหึง”

เมื่อกี่มู่นวลนวลเดินตามหลังโม่ถิงเซียวมา และแน่นอนว่าสังเกตเห็นการกระทำของโม่ถิงเซียว เพียงแค่ตอนนี้เป็นการมองย้อนกลับไปเท่านั้น

โม่มู่ย่นจมูกด้วยสีหน้ารังเกียจ:“ทำไมถึงกินน้ำส้มสายชู เปรี้ยวๆ ”

มู่นวลนวลพูดอย่างเห็นด้วย:“ใช่ น้ำส้มสายชูเปรี้ยวๆ”

โม่มู่เป็นเด็กช่างพูดและพูดไม่รู้จบ

มู่นวลนวลฟังอย่างอดทนและพบว่าทักษะทางภาษาของโม่มู่นั่นแข็งแรงมาก และคำศัพท์ก็มีจำนวนมากเช่นกัน

ในตอนนี้สาวใช้คนหนึ่งก็เดินมาหามู่นวลนวล แล้วพูดด้วยความเคารพ:“คุณมู่ คุณชายให้ฉันพาคุณไปที่ห้องค่ะ”

มู่นวลนวลพยักหน้าเล็กน้อย:“ขอบคุณค่ะ”

สาวใช้พามู่นวลนวลขึ้นไปชั้นสอง และเปิดประตูห้อง จากนั้นก็ทำท่าทางเชิญให้เข้าไป:“ที่นี่ เชิญค่ะ”

มู่นวลนวลยืนอยู่ที่หน้าประตูและเหลือบไปมองด้วยใบหน้าที่แปลกใจเล็กน้อย:“นี่เป็นห้องของฉันหรอ?”

สาวใช้ยิ้มและพูดว่า:“ค่ะ คุณลองดูว่าต้องการอะไรอีกไหม และสามารถบอกฉันได้ตลอดเวลาเลยค่ะ”

หลังจากที่สาวใช้พูดจบก็จากไป

มู่นวลนวลพาโม่มู่เดินเข้าไป

ห้องนอนมีขนาดใหญ่ มีหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน มีระเบียงและมีห้องเก็บสัมภาระเล็กๆ

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท