ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 406 ให้ดูแค่คนเดียว

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

มู่นวลนวลเข้าใจในทันทีว่าโม่มู่เป็นเด็กที่มองหน้าตา

เด็กจะใกล้ชิดกับผู้หญิงง่ายเป็นพิเศษ

เซินเหลียงอยู่ในวงการบันเทิง ดังนั้นจึงหน้าตาดี โม่มู่จึงมีความรู้สึกดีกับเธอได้ง่าย

เซินเหลียงอุ้มโม่มู่ไปนั่ง แล้วหันไปมองทางกูจื่อหยาน และพูดด้วยรอยยิ้ม “ประธานกู คุณว่างมากหรอ”

กูจื่อหยานทำเป็นไม่เข้าใจความหมายแฝงของคำพูดนั้น “ผมยุ่งมาก แต่วันนี้มู่มู่น้อยมา ผมก็เลยต้องทำตัวว่างทั้งที่ยุ่ง”

จะไล่เขาไปหรอ ไม่มีทาง

มู่นวลนวลมองไปที่เซินเหลียงและกูจื่อหยาน จากนั้นก็ยิ้มโดยไม่พูดอะไร

เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็เห็นโม่มู่กำลังมองเธอด้วยสีหน้าประหม่า

มู่นวลนวลจึงเรียก “มู่มู่”

สีหน้าของโม่มู่ตึงเครียดขึ้นกว่าเดิม เธอดิ้นอยู่บนตักของเซินเหลียง เหมือนกับต้องการจะลงมา

เมื่อกี้ยังดีอยู่เลยไม่ใช่หรอ

เซินเหลียงก็รู้สึกว่าโม่มู่อยากลงไปเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงวางเธอลงบนพื้น

ทันทีที่ขาแตะพื้น โม่มู่ก็วิ่งไปตรงหน้ามู่นวลนวล และเข้าไปในอ้อมแขน

มู่นวลนวลรู้สึกตลกเล็กน้อย

เธออุ้มโม่มู่ขึ้นมา กลั้นหัวเราะ และถามโม่มู่เสียงเบาว่า “เป็นอะไรไป”

โม่มู่มองไปที่เซินเหลียงอย่างระมัดระวัง และรีบหันมากอดคอมู่นวลนวลอย่างรวดเร็ว พร้อมพูดเสียงเบาว่า “ป้าปีศาจ”

“ใคร”มู่นวลนวลตะลึง และถาม “ป้าคนที่อุ้มหนูเมื่อกี้หรอ”

โม่มู่บีบนิ้ว และพยักหน้าลงด้วยสีหน้าตึงเครียด

มู่นวลนวลอ้าปากอย่างไม่เข้าใจ

เซินเหลียงมองไปที่โม่มู่และถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น “เขาพูดว่าไง”

มู่นวลนวลได้แต่ส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม

จากนั้นก็ก้มหน้าถามโม่มู่เสียงเบา “ทำไมถึงบอกว่าคุณป้าเซินเป็นปีศาจล่ะ หนูไม่รู้สึกว่าเขาสวยหรอ”

โม่มู่หันไปมองเซินเหลียง และปะทะกับสายตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเซินเหลียงพอดี

เธอเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของมู่นวลนวล พร้อมพูดเสียงอ้อแอ้ “สวย”

“งั้นทำไมถึงบอกว่าเป็นปีศาจล่ะ เขาชอบหนูมาก ไม่รู้หรอ”มู่นวลนวลลูบหัวของเธอ และพูดกล่อม

“คุณพ่อบอก…. ป้าปีศาจ”คำพูดตรงกลางของโม่มู่เบามาก มู่นวลนวลฟังไม่ชัด แต่เธอก็พอจะเข้าใจความหมายของโม่มู่

มู่นวลนวลฟังจบก็ได้แต่ทำอะไรไม่ถูก

เธอหันไปถามเซินเหลียง “เธอเคยเจอโม่ถิงเซียวไหม”

“เคยสิ คราวก่อนเขาพามู่มู่ไปกินข้าวที่จินติ่ง ฉันเลยบังเอิญเจอเขาพอดี”เธอพูดพลางหันไปกระพริบตาใส่โม่มู่ “มู่มู่ก็อยู่ ยังทักทายฉันอยู่เลย”

มู่นวลนวลฟังจบก็อดไม่ได้ที่จะนวดขมับของตัวเอง

โม่ถิงเซียวคนนี้ช่าง….

มู่นวลนวลก้มหน้าลง พูดกับโม่มู่เสียงอ่อน “คุณป้าเซินไม่ใช่ป้าปีศาจ เขารู้จักกับแม่ เป็นเพื่อนของแม่ เป็นคนดี เขาชอบหนูมาก”

โม่มู่ใช้ดวงตากลมโตคู่นั้นมองมาที่มู่นวลนวลอย่างใสซื่อ

มู่นวลนวลจับมือน้อยๆของเธอแล้วถามว่า “คุณป้าเซินชอบหนูขนาดนั้น หนูไม่อยากชมเธอหน่อยหรอ”

โม่มู่กระพริบตาหันหน้าไปมองเซินเหลียงและพูด “คุณสวยมาก”

“อุ้ย…”

เซินเหลียงอุทานออกมาและถามมู่นวลนวล “เธอสอนหรอ”

มู่นวลนวลโบกมือ แสดงว่าไม่ได้สอนลูกพูด

เซินเหลียงหันไปยิ้มให้โม่มู่ “มู่มู่เป็นเด็กดีมาก คุณป้าเตรียมของขวัญมาให้หนูด้วย”

เมื่อได้ยินคำว่าของขวัญ สายตาของโม่มู่ก็เป็นประกายขึ้นมา

เซินเหลียงยื่นมือไป “หนูมานี่ก่อน ป้าให้หนูดูแค่คนเดียว”

โม่มู่มองไปที่มู่นวลนวลด้วยสายตาคาดหวัง

มู่นวลนวลวางเธอลงบนพื้น “ไปสิ”

โม่มู่วิ่งไปทางเซินเหลียงด้วยความดีใจ ขึ้นมู่นวลนวลแกล้งทำให้ของขวัญเธออย่างลึกลับ

“มู่มู่ หนูยืนบังตรงนี้นะ อย่าให้คุณแม่เห็นล่ะ”

“ค่ะ”

โม่มู่ให้ความร่วมมือขึ้นมู่นวลนวลเป็นอย่างดี เธอหันไปมองมู่นวลนวล และกางมือออกมาเพื่อบังข้างหลัง

แต่มู่นวลนวลก็เห็นของขวัญที่เซินเหลียงให้โม่มู่อยู่ดี

มันเป็นตุ๊กตาที่เด็กผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบ และโหลกากเพชรเล็กๆหลากสี

ไม่ใช่ของขวัญที่พิเศษนัก แต่โม่มู่ก็ยิ้มจนตาเป็นสระอิ แสดงให้เห็นว่าเธอชอบมาก

“อันนี้หมุนแล้วเปลี่ยนสีได้ อย่างนี้….”

“สวยจัง”

โม่ถิงเซียวยุ่งมาก จึงไม่มีเวลาเล่นกับโม่มู่

และเธอก็ดูจะเข้าใจแล้วว่าทำไมโม่ถิงเซียวถึงให้เธอกับพวกเขาอยู่ด้วยกัน

โม่มู่ยกขวดกากเพชรขึ้นมายื่นให้มู่นวลนวลดู “แม่ดูสิ”

“สวยจังเลย ไม่ขอบคุณคุณป้าเซินหน่อยหรอ”มู่นวลนวลพยักหน้าตาม

“ขอบคุณค่ะ”โม่มู่วิ่งมาขอบคุณเซินเหลียงเสียงหวาน พร้อมทั้งเข้าไปหอมแก้มด้วย

เซินเหลียงแกล้งสุดตัวนั่งลงไปบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง “อยู่ดีๆก็ปวดหัวขึ้นมา ต้องให้มู่มู่จุ๊บถึงจะหาย”

โม่มู่ใส่ซื่อ เข้าไปจุ๊บอีกครั้ง

กูจื่อหยานที่มองอยู่ข้างๆรู้สึกอิจฉามาก

เขากระแอมพูดว่า “สั่งของเถอะ”

เขาพูดและยื่นเมนูอาหารไปให้โม่มู่ “มู่มู่หนูอยากกินอะไร”

โม่มู่หันไปมองเขา แล้วส่งเมนูอาหารให้มู่นวลนวล

มู่นวลนวลช่วยสั่งน้ำผลไม้และเฟรนช์ฟรายให้โม่มู่ และสั่งกาแฟให้ตัวเอง จากนั้นก็ส่งเมนูอาหารให้เซินเหลียง

อาจเป็นเพราะว่ากูจื่อหยานก็อยู่ในห้องอาหารด้วย ดังนั้นอาหารที่สั่งจึงมาเสริฟอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรอ

โม่มู่นั่งอยู่ในห้องอาหารเด็ก ตั้งใจกินเฟรนช์ฟรายอยู่

มู่นวลนวลจึงพูดถึงเรื่องช่วงนี้กับพวกเขาสั้นๆ

หลังจากที่กูจื่อหยานฟังจบ เขาก็ถามมู่นวลนวลต่อว่า “ถิงเซียวกับน้องสาวของเขาแตกหักกันแล้วจริงหรอ”

“น่าจะใช่นะ ฉันก็ไม่แน่ใจ”เรื่องวันนั้นเหมือนโม่ถิงเซียวกับโม่จิ่นหยุนจะแตกหักกันแล้ว แต่ยังไงก็เป็นพี่น้องกัน ผ่านไปสักพักอาจจะดีกันก็ได้

กูจื่อหยานฟังแล้วก็ขมวดคิ้ว “รอดูก่อนเถอะ ถ้าโม่ถิงเซียวฟื้นความทรงจำขึ้นมา ก็ดีต่อโม่จิ่นหยุน”

เขาพูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้มู่นวลนวลตะลึง เธอจึงถาม “ยังไงนะ”

เซินเหลียงเตะขากูจื่อหยานใต้โต๊ะ “คุณไปได้แล้ว คุณยุ่งขนาดนั้น….”

แม้กูจื่อหยานจะไม่อยากไป แต่ก็ลุกขึ้นเดินออกไป

ทันทีที่เขาออกไป เซินเหลียงก็ย้ายมานั่งข้างมู่นวลนวล พร้อมถาม “เถ้าแก่นั่นทำยังไงกับเธอ”

“ไม่ทำยังไง”มู่นวลนวลคิดอยู่พักหนึ่ง “แค่ไม่มีปัญหาก็ดีมากแล้ว”

เซินเหลียงพยักหน้าถาม “เธอเกลียดเขามากหรอ”

“พูดไม่ถูก แค่รู้สึกว่าไม่ได้เดินทางเดียวกัน”

มู่นวลนวลเม้มปาก สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย เธอมองไปที่โม่มู่ และถามเซินเหลียงเสียงเบา “เมื่อก่อนความสัมพันธ์ของฉันกับโม่ถิงเซียวเป็นยังไง”

“เธอก็ต้องรู้สึกรักเขามากสิ ไม่งั้นจะมีลูกน่ารักอย่างนี้ได้ยังไง”เซินเหลียงพูด และอดไม่ได้ที่จะจับคางของตัวเองและมองไปที่โม่มู่ “น่ารักจัง”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท