มู่นวลนวลอ่านคร่าวๆ พบว่าส่วนใหญ่รอเมืองที่สาบสูญภาคที่สองอยู่
และยังมีบางความคิดเห็น ทันทีที่โพสต์ก็ถูกคนอื่นตอบกลับทันที
มู่นวลนวลปิดโทรศัพท์ ทำความสะอาดโต๊ะอาหาร ตั้งใจว่าจะโทรหาโม่ถิงเซียวเพื่อถามถึงโม่มู่
เธอเพิ่งจะทำความสะอาดโต๊ะเสร็จโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เป็นเบอร์แปลก
ช่วงนี้มีเบอร์แปลกโทรมาไม่น้อย มู่นวลนวลมองและรับสาย “สวัสดีค่ะ”
ปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงที่คุ้นเคย “ใช่มู่นวลนวลไหม”
มู่นวลนวลฟังแล้วก็คิดเล็กน้อย ก่อนจะตอบ “ฉินซุ่ยซาน”
“เธอจริงด้วย”น้ำเสียงของฉินซุ่ยซานไม่สามารถปิดความตื่นเต้นได้ “ช่วงนี้มีแต่ข่าวของเธอเต็มไปหมด ฉันนึกว่าเป็นข่าวปลอม คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเธอจริงๆ”
ตอนนั้นฉินซุ่ยซานเห็นดีเห็นงามกับบทของมู่นวลนวลมาก
ตอนที่ถ่ายเมืองที่สาบสูญเสร็จ เธอตั้งใจจะชวนมู่นวลนวลไปร่วมงานเลี้ยงจบ แต่ก็หาตัวมู่นวลนวลไม่เจอ
มู่นวลนวลหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
สามปีนี้ฉินซุ่ยซานก็รอข่าวของมู่นวลนวลมาตลอด ตอนที่เธอเห็นเวยป๋อของมู่นวลนวลมีการอัพเดท เธอยังแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นมู่นวลนวลตัวจริง
ดังนั้นเธอจึงเฝ้าดูอยู่หลายวัน เมื่อมั่นใจว่าเป็นมู่นวลนวลแล้ว เธอถึงโทรมา
มู่นวลนวลยังรู้สึกสนิทกับฉินซุ่ยซาน เธอจึงพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันเองค่ะ กลับมาสักพักแล้ว”
“งั้นเราหาเวลาเจอกันหน่อยไหม”ฉินซุ่ยซานพูด
“ได้ค่ะช่วงนี้ฉันก็ไม่มีอะไรทำ”
ฉินซุ่ยซานเป็นคนที่ทำอะไรรวดเร็ว เมื่อได้ยินมู่นวลนวลพูดอย่างนั้น เธอจึงพูด “ถ้าไม่มีธุระอะไร วันนี้เจอกันเป็นไง”
มู่นวลนวลตอบรับ “ได้ค่ะ”
…..
มู่นวลนวลกับฉินซุ่ยซานนัดกันที่ร้านอาหารหรู
ร้านนี้เป็นร้านอาหารของคนในวงการบันเทิง จึงมีคนในวงการมากินอาหารเป็นปกติ
เมื่อเทียบกับสามปีก่อน ฉินซุ่ยซานดูดีมีความสามารถและสวยมากขึ้น
เมื่อเธอเห็นมู่นวลนวล เธอก็รีบเดินไปหา และสำรวจมู่นวลนวลอย่างละเอียด “รู้สึกว่าเธอไม่ต่างจากเมื่อสามปีก่อนเลย”
มู่นวลนวลพูดด้วยความจริงใจ “เธอสวยขึ้นนะ”
“คำพูดนี้ฉันได้ยินจนเบื่อแล้ว ไม่คิดว่าเธอก็จะเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก เจอหน้ากันก็ยอซะแล้ว”ฉินซุ่ยซานแกล้งพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ
พูดจบก็ดึงมู่นวลนวลนั่งลง
ทั้งสองคนเริ่มพูดคุยกัน
“สามปีนี้เธอไปไหนมา ราวกับหายสาบสูญไปเลย ไม่มีข่าวอะไรเลยสักนิด”ฉินซุ่ยซานจำได้ว่าตอนนั้นทั้งโลกตามหาเธอ แต่ก็ไม่ได้ข่าวอะไรเลย คิดแล้วได้แต่ส่ายหน้า
“เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย สลบไปสามปี”เธอพูดถึงเรื่องสามปีนี้อย่างไม่รู้สึกอะไร เหมือนพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ
ตาของฉินซุ่ยซานเบิกกว้าง “สลบไปสามปี”
“อยากรู้มากหรอ”มู่นวลนวลเลิกคิ้วถาม “ไม่บอกหรอก”
ฉินซุ่ยซานส่งเสียง “จิ๊”ออกมา และเปลี่ยนหัวข้อพูด “รู้แล้วใช่มั้ยว่าเมืองที่สาบสูญดังมาก แฟนๆกำลังรอภาคต่อไปอยู่ เธอคิดว่าไง”
มู่นวลนวลก็มองน้ำในแก้ว และพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่คิดว่ายังไง”
ฉินซุ่ยซานจ้องมองมู่นวลนวลนานมาก และพูดอย่างประนีประนอม “บอกมาว่าเธออยากได้ส่วนแบ่งเท่าไหร่”
ตอนที่เธอซื้อบทละครของมู่นวลนวล เธอก็รู้อยู่แล้วว่ามู่นวลนวลไม่ใช่คนที่ขาดทุน
มู่นวลนวลเป็นคนที่ฉลาด
เมืองที่สาบสูญดังระเบิด หลังจากฉายไปสองปี แฟนคลับก็ยังจำได้
ฉินซุ่ยซานเป็นผู้อำนวยการสร้าง มู่นวลนวลเป็นนักเขียน ใครจะไม่อยากใช้โอกาสตอนดังกัน แค่ถ่ายซีรีย์นี้เพิ่ม ก็จะได้เงินมหาศาล
แต่มู่นวลนวลเพิ่งบอกว่าไม่คิดว่ายังไง ก็แสดงว่ากำลังรอฉินซุ่ยซานพูดอยู่
มู่นวลนวลยิ้มบางๆ ดูแล้วอ่อนโยนมาก “ก็ดูว่าคุณใจกว้างขนาดไหน”
ฉินซุ่ยซานกระตุกยิ้ม มู่นวลนวลกำลังจะขุดหลุมให้เธอกระโดดลงไป
มู่นวลนวลไม่พูดว่าต้องการเท่าไหร่ แต่ให้ฉินซุ่ยซานเสนอ แสดงว่าเธอกำลังเป็นคนถืออำนาจอยู่
ก่อนหน้านี้ก็รู้สึกว่ามู่นวลนวลเจ้าเล่ห์มากอยู่แล้ว แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเจ้าเล่ห์มากกว่าเดิมอีก
“ฉันสงสัยว่าสามปีก่อนเธอไม่ได้นอนอยู่ในโรงพยาบาล แต่กำลังไปฝึกฝนตัวเอง นับวันยิ่งเจ้าเล่ห์ขึ้น”ฉินซุ่ยซานพูดอย่างไม่พอใจ
มู่นวลนวลยกยิ้มเล็กน้อย “ฉันจะถือว่านี่เป็นคำชมแล้วกัน”
ฉินซุ่ยซานกระตุกยิ้มที่มุมปาก แสดงสีหน้าจริงจัง และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น “เพื่อแสดงถึงความจริงใจของฉัน ฉันสามารถแบ่งเงินจำนวนนี้ให้เธอได้จากการถ่ายภาคที่แล้ว”
เธอพูดและยกมือขึ้นมาข้างหนึ่ง
มู่นวลนวลยังคงนิ่ง ถามอย่างไม่แน่ใจ “เท่าไหร่คะ”
ฉินซุ่ยซานอ้าปากพูดอย่างเคร่งขรึม “ห้าล้าน”
มือที่จับแก้วของมู่นวลนวลสั่นเล็กน้อย
ห้าล้าน เกินกว่าที่เธอคาดไปมาก
ถึงเมืองที่สาบสูญจะทำให้ฉินซุ่ยซานได้เงินเป็นจำนวนมาก แต่ตอนที่เซ็นสัญญากับฉินซุ่ยซาน เธอขายสิทธิ์ไปในราคาแค่หนึ่งล้าน
แต่เพื่อที่ฉินซุ่ยซานจะได้เซ็นสัญญาภาคที่สองกับมู่นวลนวล เธอจึงยินดีแบ่งกำไรจากภาคแรกเพิ่มอีกเป็นห้าล้าน
ซึ่งมันพอใจแล้ว
มู่นวลนวลไม่ได้ตอบรับในทันที ฉินซุ่ยซานก็ไม่สามารถเดาความคิดเธอได้
แม่มู่นวลนวลจะเด็กกว่าเธอหลายปี สำหรับเธอมู่นวลนวลเป็นเพียงคนที่เพิ่งเข้าสู่วัยสาว แต่บางครั้งความคิดของมู่นวลนวลก็ลึกซึ้งและยากที่จะคาดเดา
แต่มู่นวลนวลก็มีข้อดีนั่นก็คือ เธอเป็นคนจริงใจ
เพราะอย่างนี้ แม่น้ำจึงไม่อ้อมค้อม และเสนอข้อเสนอให้เธออย่างใจกว้างที่สุด
ทั้งสองคนสบตากัน แล้วก็เป็นฉินซุ่ยซานที่เป็นคนพูดก่อน “นี่เป็นความจริงใจของฉัน เธอสามารถเก็บไปคิดก่อนได้”
มู่นวลนวลไม่ได้ตอบคำถามของเธออย่างตรงไปตรงมา แต่ถามกลับไปว่า “เมืองที่สาบสูญภาคสองเธอคิดจะเซ็นสัญญากับฉันยังไง”
ฉินซุ่ยซานแสดงรอยยิ้มออกมา “แค่เธอยินยอมขายให้กับฉัน ทุกอย่างคุยกันได้”
มู่นวลนวลยิ้มและพยักหน้า “ค่ะ”
ฉินซุ่ยซานเป็นคนจริงจัง มู่นวลนวลไม่คิดจะขายเรื่องเมืองที่สาบสูญภาคสองให้คนอื่นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ถึงแม้คนอื่นจะให้เงินเธอมากกว่าฉินซุ่ยซาน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทีมอื่นจะถ่ายได้ดีกว่าทีมของฉินซุ่ยซาน
อย่างน้อยถ้าเธอขายให้ฉินซุ่ยซาน บทละครก็จะไม่ถูกดอง
มู่นวลนวลคุยเนื้อเรื่องเมืองที่สาบสูญกับฉินซุ่ยซานอีกครั้ง และเมื่อกินข้าวเสร็จก็แยกกัน
ตอนบ่ายวันนั้น ฉินซุ่ยซานก็โอนเงินห้าล้านให้กับมู่นวลนวล
หลังจากที่มู่นวลนวลได้รับเงิน เธอก็กลับไปศึกษาเนื้อเรื่องของภาคสอง และค้นหาเนื้อเรื่องเมืองที่สาบสูญภาคแรกในอินเตอร์เน็ต