ณภัทรไม่รอให้เขาได้กล่าวอะไรก็วางสายไปแล้ว
วายุงุนงง ผู้บัญชาการยังไม่เคยคบผู้หญิงด้วยซ้ำ แล้วจะขอแต่งงานยังไงกับใครกัน?
แต่ว่านะคำสั่งนี้ยังต้องปฏิบัติตาม เพราะยังไงฉายายมราชหน้าตายของเขาก็ไม่ได้ได้มาฟรี ๆ ถ้าใครขัดคำสั่งของเขา ก็เท่ากับเอาตัววิ่งเข้าใส่ลูกกระสุน
……
หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน เสียงถอนหายใจยาว ๆ ติดต่อกันดังออกมาจากห้องหอพักแพทย์ทหาร แต่มีนากลับนอนพลิกตัวกลับไปกลับมา
ทันใดนั้นโทรของเธอก็สั่นขึ้น เธอโค้งตัวลงเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ ย่องไปที่ห้องน้ำ เพราะยังไงที่นี่นอกจากทหารแล้วห้ามใช้โทรศัพท์
เธอเปิดดูโทรศัพท์ เป็นข้อความจากไอรินเพื่อนสนิทของเธอ: คุณการันต์ได้กลับประเทศอย่างปลอดภัยแล้ว กลับมาด่วน
เธอกุมหน้าอกที่เต้นตุบตับของตัวเองเอาไว้ รอยยิ้มโล่งใจปรากฏขึ้นที่มุมของเธอ เขากลับถึงประเทศอย่างปลอดภัย งั้นงานแต่งงานของพวกเขาก็จะต้องจัดขึ้นตามกำหนด เพียงแค่เธอเป็นภรรยาของการันต์ได้อย่างราบรื่น ก็จะมีเหตุผลพาทิวาจากไปได้
นึกถึงอาการป่วยของทิวาน้องสาวของเธอ เธอก็อดที่จะเศร้าใจไม่ได้
ในปีนั้นทิวาพึ่งจะมีอายุเพียงห้าขวบได้เห็นสภาพของคุณแม่ที่ตกลงมาจากตึกสูงอย่างอนาถกับตา ทำให้ได้รับผลกระทบทางจิตใจ ตอนนี้ถึงจะอายุสิบหกปีแล้ว แต่ก็เป็นเหมือนกับคนปัญญาอ่อน มักจะสติเลอะเลือน
เธอหวังเพียงว่าในตอนที่มีชีวิตอยู่จะสามารถให้ชีวิตที่สงบสุขกับทิวาได้ ให้เธอไม่ต้องถูกรังแกอีก
เช้าตรู่วันถัดมามีนาเก็บของของใช้ส่วนตัวของเธอ และทิ้งโน้ตเอาไว้ แล้วออกไปจากห้องพักอย่างเงียบ ๆ เธอจะต้องกลับไปที่เมืองรามก่อนที่งานแต่งจะจัดขึ้น จะชักช้าไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว
เมื่อหัวหน้ากิจผู้ดูแลรับผิดชอบทีมแพทย์ได้ฟังสถานการณ์ของเธอ ก็ได้รีบจัดเตรียมรถทหารให้เธอหนึ่งคันทันที อีกประมาณสามสิบนาทีก็จะมาถึง
เธอยืนถือกระเป๋าเดินทางรออยู่ที่สี่แยกอย่างใจจดใจจ่อ
เอี๊ยด! เสียงเบรกรถดังขึ้น นายทหารสวมชุดลายพรางทหาร เพ้นหน้านายหนึ่งเดินลงมาจากรถ
แผ่นหลังของเขาเหยียดตรง นัยน์ตาราวกับคืนที่เหน็บหนาว เขาทำความเคารพแบบทหารอย่างงดงามกับเธอ แล้วรับเอากระเป๋าเดินทางจากเธอนำไปเก็บไว้ที่ที่นั่งด้านหลัง และไม่ลืมที่จะเปิดประตูรถให้เธอ
“ขอบคุณค่ะ”
เขาเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย โดยไม่กล่าวอะไร
เธอขึ้นรถทหารไป หยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ แล้วส่งข้อความให้กับการันต์ : รบกวนคุณช่วยดูแลทิวาด้วย ฉันจะรีบกลับไปแต่งงาน
เพียงแต่ว่าข้อความนี้ไม่สามารถส่งออกไปได้ เธอตรวจดูสัญญาณโทรศัพท์ ถึงได้พบว่าโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณเลยสักนิด คงจะเป็นเพราะที่นี่อยู่ในเขตป่าดงดิบสัญญาณไม่ค่อยจะดี เธอเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แล้วเก็บโทรศัพท์ลง
เธอเงยหน้าขึ้นดูถึงพบว่านี่ไม่ใช่เส้นทางไปสนามบิน
เธอพิจารณาดูนายทหารที่ขับรถอย่างระมัดระวัง ชุดลายพรางทหาร รองเท้าหนัง ที่เอวมีปืนเหน็บอยู่ ถึงแม้บนไหล่จะไม่มีอินทรธนู แต่ก็ได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ ชัดเจนว่าชายคนนี้เป็นทหาร และมีตำแหน่งที่สูงพอควร เพียงแต่ว่าจงใจปลดอินทรธนูออกเท่านั้นเอง
เธอสงบลงอย่างรวดเร็ว และค่อย ๆ หยิบเอามีดผ่าตัดออกมา แล้วถือไว้ในมือ
ในขณะที่รถทหารเบรกอย่างกะทันหันเพื่อเลี้ยวนั่นเอง เธออาศัยแรงเฉื่อยของร่างกายโผเข้าไปอย่างรวดเร็ว แล้วใช้มีดผ่าตัดจี้ไว้ที่คอหอยของเขา
“ฟังคำสั่งฉัน หันรถกลับซะ”
แววความตกตะลึงแวบผ่านขึ้นมาในดวงตาของเขา และหายไปในทันที เพียงแต่ว่าเขาได้ยิ้มมุมปากขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์
นำเสียงของมีนาเย็นยะเยือก: “อย่ามองว่ามีดผ่าตัดนี่มีขนาดเล็ก แต่มันคมมาก ฉันเคยใช้มันกรีดหัวใจ ตัดเส้นเลือด และผ่ากระดูก สามารถตัดเส้นเลือดใหญ่บนคอหอยของนายได้ง่าย ๆ ฉันเป็นหมอ จะช่วยคนหรือฆ่าคนก็อยู่ที่ฉันจะเลือกว่าจะทำแบบไหน”
มีดผ่าตัดเลื่อนผ่านลำคอของเขาอย่างเยือกเย็น และหยุดลงที่เส้นเลือดใหญ่บนลำคอของเขา กรีดลงเบา ๆ เลือดสด ๆ ไหลซึมออกมาบนผิวสีน้ำตาลเข้มของเขา
เหมือนกับว่าเขาไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดใด ๆ เลย เขาหันหน้ากลับมา แล้วยิ้มให้เธอเล็กน้อย มีเสน่ห์ไร้ที่สิ้นสุด สั่นคลอนหัวใจมนุษย์
กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ ฟุ้งกระจายไปทั่วรถที่ปิดอย่างมิดชิด มีนาขมวดคิ้วเล็กน้อย มีดในมือกรีดลึกลงไปอีกนิดหน่อย เลือดสด ๆ ไหลออกมา เขายังคงยิ้มอย่างสั่นคลอนหัวใจมนุษย์อยู่เหมือนเดิม เหมือนกับว่าไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดใด ๆ เลย
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกขนหัวลุกขึ้นมา คนที่ไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดแบบนี้ ถ้าไม่ใช่ผู้ป่วยสภาพผักถาวร ก็เป็นปีศาจที่ต้องเผชิญหน้ากับความตายอยู่บ่อยครั้ง เห็นได้ชัดว่าวันนี้เธอโชคไม่ค่อยดีนัก ที่ได้พบกับปีศาจ
เพียงชั่ววินาที มีดผ่าตัดหล่นลงบนพื้น ส่วนเธอได้ถูกชายคนนั้นทับอยู่ด้านบน ดวงตาสองคู่ประสานกัน เขาอันตรายราวกับเสือดาว เธอตอบรับอย่างดื้อรั้น
“หึ! ผู้หญิงที่ฉันเลือกนี่ เด็ดถึงใจจริง ๆ!”
เป็นณภัทรนั่นเอง เขาบ้าไปแล้วเหรอ?
เธอยิ้มอย่างเย็นชา: “ท่านนายพลณภัทรตอบแทนที่ฉันช่วยชีวิตลูกน้องของคุณแบบนี้เหรอ?”
ริมฝีปากของเขาเลื่อนผ่านติ่งหูของเธอ ร่างกายของเธอราวกับถูกไฟช็อต รู้สึกชาไปหมดทั้งตัว เกือบจะตกลงไปในดวงตาที่ลึกซึ้งของเขา เพียงแต่ว่าทันใดนั้นคำพูดในเวลาต่อมาของเขากลับทำให้เธอไหม้เกรียมราวกับถูกระเบิด
“ดังนั้นผมก็เลยตัดสินใจพลีกายถวายชีวิตให้คุณไงล่ะ”
เขาจริงจังมากเมื่อพูดประโยคนี้ เลือดอุ่น ๆ ที่ลำคอหยดลงบนใบหน้าของเธอ ทำให้เธอรู้สึกร้อนแผดเผา
ทันทีทันใด ความคิดของเธอพลิกแพลงไปมา ณภัทรเป็นคนฉลาด เพราะคนประเภทนี้รู้จักการเอาตัวรอด ถึงได้เลื่อนขั้นขึ้นมาได้อย่างราบรื่น พวกเขาจะพูดคุยสร้างความสัมพันธ์เฉพาะกับคนที่มีประโยชน์กับพวกเขาเท่านั้น
ถึงแม้เธอจะมีฐานะเป็นถึงคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลพรหมพิริยะ แต่กลับไม่ได้เป็นที่รัก ไม่ว่าจะเป็นด้านอิทธิพลหรือด้านความสามารถก็ไม่อาจช่วยเขาได้ทั้งนั้น หรือจะบอกว่าสำหรับเขาแล้ว ตัวเองเป็นตัวภาระ ถ้าพูดถึงบุญคุณที่ช่วยชีวิต ก็ไม่จำเป็นให้เขาเป็นคนมาตอบแทน
คิดอยู่สักพัก เธอก็ได้บทสรุปออกมา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาบ้าไปแล้ว ก็เป็นเพราะเขาต้องการใช้สถานะว่าที่สะใภ้ตระกูลอัครโภคินของเธอบีบบังคับเอาผลประโยชน์จากตระกูลอัครโภคิน
ตรงหน้านี้เป็นสงครามจิตวิทยา เธอลองเอาใจปีศาจนั่น พยายามที่จะดึงสติของเขากลับคืนมา
เธอฉีกเสื้อของตัวเองออกแล้วนำไปปิดแผลที่คอให้เขา พยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลที่สุด: “ท่านนายพลณภัทร คุณฟังฉันพูดนะ ฉันเป็นเพียงหมากที่ตระกูลพรหมพิริยะใช้เพื่อสร้างไมตรีกับตระกูลอัครโภคินเท่านั้นเอง และหมากของตระกูลพรหมพิริยะไม่ได้มีแค่ฉันเพียงคนเดียว ดังนั้นคุณคิดจะใช้จากฉัน บีบบังคับเอาผลประโยชน์อะไรกับตระกูลอัครโภคินไม่ได้หรอก”
“แต่มีนา พรหมพิริยะมีเพียงคนเดียว”
เธอตะลึงงัน: “อะไรนะ?”
เขาใช้ปลายนิ้วมือเช็ดหหยดเลือดบนใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน: “มีนา ที่ผมต้องการคือคุณคนนี้”
“ท่านนายพลณภัทรคะ คุณน่าจะเข้าใจผิดแล้ว ต่อให้คุณการันต์ชอบคุณ แต่เพื่อผลประโยชน์ของครอบครัวแล้วเขาก็จะยอมทำตามที่ครอบครัวต้องการ ดังนั้นสำหรับคุณฉันก็เป็นเพียงหมากที่ไร้ประโยชน์เท่านั้น”
“เหอะ! ผมเคยเห็นตระกูลอัครโภคินอยู่ในสายตาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
เมื่อก่อนไม่เคย ตอนนี้ยิ่งแล้วไปใหญ่!
มีนาไม่เข้าใจผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย: “คุณต้องการอะไรกันแน่?”
เขาแตะที่หน้าอกอันอ่อนนุ่มของเธออย่างมีเลศนัย: “ร่างกายของคุณ หัวใจของคุณ”
เธอมองดูเขาอย่างตะลึงงัน ตอนนี้สามารถมั่นใจได้แล้วว่า ถ้าไม่ใช่เธอฟังผิด ก็เป็นณภัทรที่บ้าไปแล้ว ไม่อย่างนั้นละก็เธอต้องบ้าแน่ ๆ
ระหว่างเธอกับณภัทรนั้นไม่เคยมีความสัมพันธ์ใด ๆ กันมาก่อน ถ้าบอกว่าเขามีใจให้เธอตั้งแต่แรกเห็น เช่นนั้นคงบ้าไปแล้วแน่ คนประเภทนี้วางสติสัมปชัญญะไว้อันดับแรกเสมอมา
เขายิ้มออกมา ลุกขึ้นแล้วใช้มือข้างหนึ่งดึงเข็มขัดออก
ปีศาจบ้านนี่ต้องการทำอะไรกันแน่? นอกจากนี้แล้วที่นี่เป็นเขตป่าดงดิบ ถ้าหากข่มขืนแล้วฆ่า และทิ้งศพเอาไว้ในป่า ก็ไม่สามารถสืบหาใด ๆ ได้ ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ยังเป็นอาณาเขตของเขาอีก
เธอจะตายอยู่ที่นี่ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นละก็ทิวาจะมีชีวิตต่อไปยังไง?
เธอร้องเตือนอย่างเด็ดขาด: “ณภัทร ถึงแม้ตระกูลพรหมพิริยะของเราจะสู้อำนาจของคุณไม่ได้ แต่อยู่ที่เมืองรามก็นับว่าพอจะมีหน้ามีตาอยู่บ้าง!”
เขายกเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย ดึงเข็มขัดออก แล้วยิ้มอย่างเย้ายวน