ดวงตาของการันต์หรี่แสงลง เขาได้คำตอบแล้ว แต่คำตอบก็เหมือนกับมีดดาบที่ทิ่มแทงมาที่หัวใจของเขา เขายอมให้มีนาทุบตีเขาจะยังดีกว่า หรือให้มีนาพูดต่อว่าอะไรเขาก็ได้ แต่ไม่ใช่คำอวยพรที่เฉยชาแบบนี้
เขาอยากจะถามมีนาว่าเธอเคยรักเขาบ้างไหม แต่พอคำพูดที่หลุดออกมาจากปากก็เป็นได้แค่เพียง‘ขอโทษ’
มีนายกยิ้มออกมาอย่างนิ่งเฉย “ฉันรู้ว่าคุณเองก็ไม่มีทางเลือก ในฐานะคุณชายอัครโภคิน ก็ต้องทำเพื่อผลประโยชน์ของครอบครัวเป็นสำคัญ ต่อให้คนที่อัครโภคินให้คุณแต่งด้วยคือทิวา คุณก็คงจะไม่ลังเลอะไรเหมือนกัน”
อำนาจของอัครโภคินไม่เหมือนแต่ก่อน ทำได้เพียงขอความช่วยเหลือและพึ่งพาพรหมพิริยะจึงจะทำให้พวกเขาสามารถยืนหยัดและรักษาชื่อเสียงของพวกเขาในฐานะบุคคลสำคัญทางการเมืองอันดับหนึ่งต่อไปได้
ความเข้าใจของเธอ และความห่วงใยของเธอ ก็เปรียบดั่งเป็นยาขมสำหรับเขา เพราะตลอดหลายปีมานี้ เธอเป็นเพียงคนเดียวที่เขารักมากที่สุด
ลมในยามค่ำคืนที่พัดผ่าน พัดจนผมเผ้าของเธอยุ่งเหยิงไปด้วย เขาอยากจะเป็นเหมือนเมื่อก่อน ช่วยเธอรวบผมมาไว้ด้านหลัง แต่มือที่ยกขึ้นมาก็อ่อนแรงจนร่วงลง ทำได้เพียงแค่ตบไปที่ไหล่ของเธอเบาๆ
“มีนา คุณก็ยังเป็นคนที่เข้าใจผมที่สุดเสมอ”
เธอเม้มปากแล้วยกยิ้ม พูดไปแล้วก็แปลก เขาไม่รักษาสัญญา แต่เธอก็ไม่ได้โกรธอะไรเขา คงเป็นเพราะไม่ได้รักแล้วก็ไม่คิดจะโกรธเกลียดล่ะมั้ง เธอรู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งที่เขาทำมาตลอดหลายปี แต่ไม่มีความรู้สึกอะไรด้วย บางครั้งเธอก็รู้สึกเหมือนตัวเองจะใจจืดใจดำเกินไป
“การันต์ ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ฉันกับทิวาจะจดจำบุญคุณนี้ของคุณเอาไว้ ”
การันต์กลืนความขมขื่นลงคอ แล้วยกยิ้ม“มีนา อย่าพูดอีกเลย มันจะทำให้ผมยิ่งรู้สึกแย่มากขึ้นไปอีก”
ทั้งสองต่างก็พากันเงียบ และได้ยินเพียงแค่เสียงลม
สักพักการันต์ก็หันไปมองที่หญิงสาว“มีนา ผมขอกอดคุณหน่อยได้ไหม?”
มีนาเงียบไปชั่วครู่จากนั้นก็พยักหน้าให้
การันต์กอดเธอเอาไว้แน่น “มีนา ต่อไปผมคงปกป้องคุณไม่ได้อีก อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะ ณภัทรไม่ใช่คนธรรมดา ที่เขาแต่งงานกับคุณก็คงมีจุดประสงค์อะไรแอบแฝง”
ตอนนี้ในมุมมืดของดาดฟ้ามีคนคนหนึ่งได้เก็บบันทึกภาพนี้เอาไว้
เขาค่อยๆคลายมือออกแล้วปล่อยตัวเธอ แม้ว่าเขาจะไม่อยากปล่อยก็ตาม แต่ก็ต้องปล่อยมือ คนบางคนแค่เพียงหันหลังให้มันก็หมายถึงตลอดชีวิต
อันที่จริงแล้วจุดประสงค์ที่ณภัทรแต่งงานกับเธอ จนถึงตอนนี้เธอเองก็ยังไม่รู้สาเหตุ แต่เมื่อคิดถึงข้อตกลงระหว่างกัน เธอก็อยากที่จะลองเสี่ยงมันดูสักตั้ง
“ฉันไม่อยากจะรู้ว่าเขามีจุดประสงค์อะไร แต่ขอแค่เขาดีกับฉัน ฉันก็จะไม่ทำให้เขาต้องผิดหวังอย่างแน่นอน”
เธอเป็นคนฉลาด ไม่อยากจะคิดอะไรมาก แค่อยากมีชีวิตอยู่อย่างสบายภายใต้เงื่อนไขที่จำกัด ยิ่งไปกว่านั้นเธอคิดว่าเธอไม่มีผลประโยชน์อะไรให้ณภัทรได้พึ่งพาอาศัยทั้งในด้านของอำนาจอิทธิพลหรือเงินทองณภัทรล้วนไม่จำเป็นต้องมาอาศัยอะไรเธอเลย
ดวงตาของการันต์มีประกายไหววูบผาดผ่าน ความลับนี้เป็นรอยแผลที่อยู่ในใจของเขากับคนในครอบครัวอัครโภคิน ไม่มีใครอยากจะพูดถึง แม้แต่กับต่อหน้าของคนที่ตัวเองรัก
“งั้นผมก็ขอให้พวกคุณมีความสุข”
จากนั้นเขาก็มองไปยังดวงดาวที่อยู่ไกลๆ จู่ๆก็สังเกตเห็นแสงไฟรางๆ และตระหนักถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แล้วพูดอย่างตื่นตระหนกไปว่า “ระวัง!”
เขารีบกอดไปยังร่างของมีนาแล้วกลิ้งลงไปกับพื้น ได้ยินเพียงเสียง‘ปัง’ดังขึ้น บนหน้าต่างของหลังคามีรอยกระสุนขนาดเล็กเท่าเล็บมือปรากฏ
กระสุนนั้นถากไปยังบริเวณศีรษะของการันต์ทั้งสองรู้สึกราวกับได้เกิดใหม่ หอบหายใจแรง ได้ยินเพียงเสียงตะโกนดังมา “การันต์ นายกำลังทำอะไร!”
ณภัทรรีบเดินเข้ามาหา ยกรองเท้าบูตทหารขึ้นแล้วเตะไปที่หน้าอกของเขา จากนั้นก็ชักปืนออกมาแล้วจ่อไปที่หน้าผากของเขา
มีนารีบลุกขึ้น แล้วมองไปที่เขาอย่างเย็นชา “ณภัทร เมื่อกี้มีคนลอบทำร้ายฉัน ”
เธอไม่ได้รีบร้อนที่จะอธิบายอะไรให้เขาฟัง ทำเพียงชี้ไปยังรูกระสุนบนหน้าต่างของหลังคาอย่างนิ่งเฉย
ณภัทรเก็บปืนเข้าที่อย่างคล่องแคล่ว จ้องเขม็งไปที่การันต์แวบหนึ่ง จากนั้นก็ออกคำสั่งเสียงเบากับผู้ช่วยธนาไปสองสามคำ ผู้ช่วยธนามองไปยังฝั่งตรงข้าม จากนั้นก็ลงมือดำเนินการอย่างรวดเร็ว
ณภัทรจับไปที่ข้อมือของเธอแน่น แล้วออกแรงลากเธอเดินลงไปยังชั้นล่าง
การันต์มองไปยังมีนาที่เดินซวนเซ เดินทีว่าอยากจะพูดอะไรสักหน่อย แต่พอเห็นมีนาหันกลับมองมาที่เขาแล้วส่ายหน้าให้ เขาก็เข้าใจได้ทันที หากเขายิ่งพูดอะไรออกไป กลัวว่ามีนาจะยิ่งตกที่นั่งลำบาก
ณภัทรลากเธอไปที่ลิฟต์ แล้วดันมือเธอขึ้นไปยังเหนือศีรษะ ใบหน้าหล่อเหลาก็แทบจะแนบชิดไปกับใบหน้าของเธอ เยือกเย็นและเย็นชา เขายกมือขึ้นแล้วจิ้มชี้ไปที่หน้าอกของเธอ “มีนา ผมไม่สนว่าก่อนหน้านั้นระหว่างคุณกับเขาจะมีเรื่องอะไรกันมาก่อน แต่ตอนนี้คุณเป็นภรรยาของผมนายณภัทร ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเอง หากคุณคิดที่จะสวมเขาให้ผม คุณก็ลองดู”
ในขณะที่พูดเขาก็ควักปืนพกออกมาแล้วจ่อไปที่หน้าผากของเธอ
เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา มองเห็นได้แม้กระทั่งเส้นเลือดที่เต้นกระตุกอย่างรุนแรงบนหน้าผากและหางตา ราวกับต่อหน้าเธอแล้ว ผู้ชายคนนี้ก็มักจะอารมณ์ฉุนเฉียวดั่งพายุฝนที่โหมกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรงได้ง่ายๆ
เธอค่อยๆโน้มตัวไปข้างหน้า เขย่งปลายเท้าแล้วจูบไปที่คางของเขาเบาๆ“คุณวางใจได้ ฉันไม่ชื่นชอบการสวมเขาให้คุณ เว้นแต่คุณจะชอบมัน”
ในตอนที่ริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอแตะกับยังคางของเขา ไอพิฆาตของเขาก็มลายหายไป ราวกับเธอเกิดมาเพื่อเป็นมือปรามเขา
เมื่อเห็นว่าลิฟต์กำลังจะถึงชั้นหนึ่ง และชั้นหนึ่งก็เต็มไปด้วยผู้คน เขาก็ปล่อยมือเธอออก โน้มตัวลงแล้วช้อนร่างเธอขึ้นมา กัดฟันแล้วพูดว่า“กลับไปแล้วผมจะจัดการกับปีศาจจิ้งจอกอย่างคุณ ”
ตอนที่ประตูลิฟต์เปิดออก ภาพที่ทุกคนเห็นก็คือพลเอกณภัทรที่หล่อเหลาและหยิ่งทะนงอุ้มร่างของมีนาก้าวเท้าเดินออกมา
ทุกคนต่างพากันอ้าปากค้าง มือกุมหัวใจที่เต้นโครมคราม
“ว้าว ท่านนายพลณภัทรเท่จังเลย”
“ไม่คิดว่าท่านนายพลณภัทรที่เย็นชาจะอ่อนโยนก็เป็นด้วย ”
“เป็นผู้หญิงของท่านนายพลณภัทรนี่ช่างมีความสุขจริงๆ”
เขมิกาที่หลบซ่อนตัวอยู่บนชั้นสองเห็นภาพนี้แล้วก็ปาแก้วไวน์ในมือทิ้งจนแตกกระจาย
“ก็แค่พวกเศษสวะ มีสิทธิ์อะไรที่จะมีความสุข!”
ปรางทองเดินมาปิดปากของเธอเอาไว้“ทูนหัว เบาๆหน่อย หากความลับนี้รั่วไหลออกไป พรหมพิริยะของเราต้องจบเห่แน่ ”
เขมิกากัดฟันกร่อน “แม่ หนูเป็นคุณหนูใหญ่ของพรหมพิริยะแท้ๆ คนที่หมั้นหมายกับการันต์ก็ควรจะเป็นหนู ทำไมตอนนี้หนูถึงได้กลายเป็นมือที่สามที่ใครๆต่างก็พากันรังเกียจ และเธอก็กลายเป็นคุณผู้หญิงที่สูงส่งของท่านนายพลไปได้ ? หนูไม่ยอม !”
ปรางทองยิ้มเยาะออกมา“ปล่อยให้นังแพศยานั่นได้ใจไปก่อน ลูกคิดว่าหากณภัทรรู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอจะยังอยากได้ตัวเธออยู่ไหม ? อีกอย่างเธอยังไม่ไปไหนในตอนนี้สักหน่อย เราค่อยคิดหาทางจัดการกับเธอ ระวังเด็กในท้องของลูกด้วย ”
เขมิกาลูบไปที่ท้องของเธอ มุมปากมีรอยยิ้มที่น่ากลัวปรากฏ
ในตอนนี้ณภัทรเองก็ได้อุ้มตัวมีนามาถึงที่รถ แต่ก็พบรูปถ่ายกองไว้ที่หลังเบาะรถ ในตอนที่เขาเห็นชายหนุ่มในรูปก็อารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมา แล้วหยิบรูปถ่ายเหล่านั้นขึ้นมาปาไปที่ใบหน้าของมีนา
“ขอคำอธิบายที่สมเหตุสมผลให้ผมด้วย ไม่งั้นวันนี้ผมเอาคุณตายแน่ !”
เขาหันหน้าไปหาผู้ช่วยธนาแล้วออกคำสั่ง“ ไสหัวลงไปแล้วถอยออกไปให้ห่างสิบเมตร!”
นี่มันลมพายุโหมกระหน่ำก่อนมีเมฆฝน ผู้ช่วยธนามองไปยังมีนาเพื่อให้เธอช่วยตัวเองไปก่อนจากนั้นก็ลงจากรถไปอย่างรวดเร็ว