ในตอนนี้ผู้ช่วยธนาได้เดินเข้ามาดูปลาแซลมอนที่อยู่บนโต๊ะ ทันใดนั้นใบหน้าก็มืดมน“คุณผู้หญิงให้ท่านนายพลกินอันนี้ได้ยังไงครับ ?”
เขาหันกลับไปแล้วพูดตำหนิกอหญ้ากับใบบัว “ คุณผู้หญิงไม่รู้ แล้วนี่พวกเธอก็ไม่รู้ด้วยงั้นเหรอ ?”
กอหญ้ารู้สึกผิด“เดิมทีก็ว่าจะบอกคุณผู้หญิงแล้ว แต่ท่านนายพล ……”
“เงียบไปเลย!เธอสองคนลงไปรับโทษเดี๋ยวนี้ !”
สีหน้าของกอหญ้าและใบบัวซีดเซียว กฎระเบียบของบ้านหลังนี้ยึดตามกฎทหาร เขาทั้งสองไปคราวนี้คิดว่ากลับมาก็คงจะบอบช้ำไปทั้งตัว
มีนาคิดว่าที่ณภัทรไม่แตะต้องปลานั้น อย่างมากก็คงเป็นเพราะไม่ชอบมัน หรือแพ้อาหารทะเลนี้ เธอก็แค่อยากจะแกล้งเขา ไม่คิดว่าผลที่ตามมาจะร้ายแรงขนาดนี้
“ผู้ช่วยธนา เรื่องนี้เป็นความผิดของฉัน ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา”
ผู้ช่วยธนาพูดอย่างเย็นชาว่า“ ละเมิดกฎทหารก็ต้องถูกลงโทษโดยกฎทหาร คุณผู้หญิงไปดูอาการของท่านนายพลก่อนเถอะครับ ”
เธอรีบตามไปที่ห้องน้ำ ก็เห็นณภัทรอ้วกแตกอ้วกแตน ร่างกายชักกระตุกเล็กน้อย และเธอก็รีบย่อตัวลงแล้วลูบหลังให้เขา พูดอย่างรู้สึกผิดว่า“ณภัทร ขอโทษ”
หลังจากที่อาเจียนเสร็จ ก็จุ่มหน้าลงไปในอ่างล้างหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำเย็น ผ่านไปสักพัก ก็เงยหน้าขึ้น แล้วเช็ดหยดน้ำบนใบหน้าจนหมด
“คุณไม่ผิด”
เรื่องนี้เขาไม่อยากจะกล่าวโทษเธอ
เธอคว้าไปที่แขนของเขา “ณภัทร นี่มันอะไรกัน ”
เขายิ้มให้อย่างแผ่วเบา“ไม่มีอะไร ตอนเด็กๆเคยกินปลาแซลมอนแล้วมันติดคอ ก็เลยฝังใจกลัว ”
พลเอกณภัทรที่ทรงอำนาจกลับมาฝังใจกลัวกับเรื่องแบบนี้ เธอไม่เชื่อแน่ หรือเพราะเขาไม่อยากจะพูด แล้วเธอจะทำอะไรได้ ?
“ในเมื่อไม่อยากกิน แล้วจะกลืนมันทำไม ? ”
เขาคว้าตัวเธอเข้ามาไว้ในอ้อมแขน “ ยัยโง่ ก็ภรรยาของผมเป็นคนป้อนผมยังไงล่ะ ”
เธอสูดจมูก“ หากป้อนยาพิษให้คุณ คุณก็จะกินหรือไง ?”
“ขอแค่คุณเป็นคนป้อน ผมก็จะกิน”
“ณภัทร เจ้าคนโง่!”
ไม่คิดว่าท่านนายพลณภัทรจะมีมุมแบบนี้ด้วย ช่างแตกต่างกับผู้ชายในสนามรบที่กล้าหาญและองอาจอย่างสิ้นเชิงราวกับเป็นคนละคน
เขายิ้มแล้วถอนหายใจข้างหูของเธอ“ จะว่าไปผู้ชายของคุณมากความสามารถแบบนี้ คุณจะใจดำทำกับผมได้ลงคอเลยเหรอ?”
เมื่อกี้ก็ยังซึ้งๆอยู่เลย ถูกเขาย้อนมาแบบนี้ เธอโมโหจนหยิกไปที่หน้าอกของชายหนุ่ม “จนตอนนี้แล้วก็ยังจะทำตัวกวนอีก!”
เขาอ้าปากค้าง มองดูเธออย่างมีเลศนัย “ผมเคยบอกไปแล้ว ว่าคนอย่างผมความแค้นแม้เล็กน้อยก็ต้องเอาคืน ”
เธอเอามือปิดหน้าอกตัวเองอย่างไม่รู้ตัว แล้วค่อยๆถอยหลัง แต่ก็ไม่มีทางให้ถอยแล้ว
สักพักภายในห้องน้ำก็มีเสียงที่ทำให้คนถึงกับต้องหน้าแดงหูแดงดังขึ้น
“อ๊ากก!ณภัทรไอคนบ้า!”
เสียงตึกๆตักๆดังขึ้น ทั้งสองก็ตกลงไปในอ่างอาบน้ำที่อยู่ข้างๆ
ในห้องรับแขกทุกคนต่างใบหน้าเห่อร้อนกันขึ้นมาแปลกๆ ผู้ช่วยธนาออกคำสั่งให้ทุกคนแยกย้ายในทันที
กอหญ้าพูดอย่างเขินอาย“ผู้ช่วยธนา แล้วเราสองพี่น้องยังต้องถูกลงโทษอยู่ไหม ?”
“ยังไม่รีบไปเตรียมเสื้อผ้าให้ท่านนายพลกับคุณผู้หญิงในตอนที่ออกมาอีก ? ”
ทั้งสองถอนหายใจด้วยความโล่งอก และรีบขึ้นไปที่ชั้นบนเพื่อเอาเสื้อผ้าลงมาให้
ผู้ช่วยธนากระวนกระวายใจ เมื่อครู่เหมือนเขาจะตะคอกใส่คุณผู้หญิง จะถูกกลั่นแกล้งอะไรหรือเปล่าไม่รู้
ไม่นาน ณภัทรในชุดเครื่องแบบทหารที่หล่อเหลา และมีนาในชุดทำงานที่คล่องแคล่วก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน คู่ที่สมบูรณ์แบบอย่างไม่มีที่ติ
มีนาเห็นณภัทรที่นั่งอยู่ในรถกับเธอ ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “คุณจะไปที่ทำเนียบประธานาธิบดีไม่ใช่เหรอคะ ?”
“ไปส่งคุณสำคัญกว่า ปล่อยให้เขารอสักหน่อยไม่เป็นอะไรหรอก”
เขานี่ช่างหน้าใหญ่จริงๆ ถึงขนาดให้ประธานาธิบดีรอได้ ถ้างั้นก็หมายความว่าเขาจะไปส่งเธอที่โรงพยาบาลด้วยตัวเองงั้นเหรอ ?
แต่ทั้งเมืองรามไม่มีใครไม่รู้ว่านี่เป็นรถประจำตำแหน่งของณภัทร หากปรากฏขึ้นที่ไหน ก็จะมีผู้คนแออัดกันที่นั่น งั้นเธอก็ต้องกลายเป็นจุดสนใจในโรงพยาบาลทหารนะสิ ?
“ไม่ต้องหรอก ฉันจะเรียกรถไปเอง หรือไม่ก็ให้คนขับรถเปลี่ยนรถอีกคันไปส่งก็ได้ ”
เขากุมมือเธอ“ในเมื่อเป็นผู้หญิงของผมแล้ว ก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการถูกจับตามองจากคนอื่นๆ ”
เธอไม่ได้กลัวอะไร แค่กลัวว่าในอนาคตข้างหน้าหากต้องการจะเข้าผ่าตัดอะไรแบบเงียบๆก็คงจะเป็นเรื่องยากแล้ว
เป็นไปตามคาด ในตอนที่รถของณภัทรมาเทียบจอดที่หน้าโรงพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลก็ชุลมุนวุ่นวายไปหมด มีเสียงกรีดร้องของผู้คนดังไปถ้วนทั่ว
“ว้าว ท่านนายพลณภัทรหล่อจังเลย”
“พยุงฉันด้วย ฉันจะเป็นลม ”
ณภัทรลงจากรถแล้วเปิดประตูให้มีนาอย่างที่สุภาพบุรุษควรทำ จากนั้นก็จูบลาเธอ“ตอนเย็นผมจะมารับคุณ ”
หญิงสาวแก้มแดงระเรื่อ “ค่ะ”
เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในอีกซีกโลกหนึ่ง ราวกับเธอและเขาเป็นสามีภรรยาทั่วๆไป เธอได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่อบอุ่นจากสามี และมีเขาคอยรับคอยส่งหลังเลิกงาน แต่ในท่ามกลางเสียงกรีดร้องของผู้คนก็มีกลุ่มผู้บริหารของโรงพยาบาลเตรียมเข้าแถวต้อนรับเธอจนทำลายความเพ้อฝันของเธอลง
ณภัทรได้พูดคุยสนทนากับผู้บริหารของโรงพยาบาลอยู่ครู่หนึ่ง เขาดึงตัวมีนาเข้ามาในอ้อมแขน ยิ้มอ่อนแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นภรรยาสุดที่รักของผมก็ฝากพวกคุณช่วยดูแลด้วยนะครับ ”
หมอทัพทองรีบพยักหน้ารับทันทีเหมือนไก่จิกข้าว“ แน่นอนอยู่แล้วครับ ”
หลังจากที่ณภัทรไปแล้ว คนในโรงพยาบาลที่มีตำแหน่งต่างๆก็พากันมาห้อมล้อมที่ตัวมีนาเหมือนดาวล้อมเดือนยังไงอย่างนั้น
หมอทัพทองถึงขนาดรับเอากระเป๋าในมือของเธอมาถือ ประสานมือก้มตัวลงแสดงความเคารพแล้วเดินนำทางไป
กับหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานที่ปรับตัวไปตามสถานการณ์พวกนี้ ในใจของมีนาก็รับไม่ได้ ที่เธอเห็นแล้วไม่สบอารมณ์ก็คือพวกนกสองหัว แต่เธอก็รู้ดีว่าการประจบสอพลอนั้นเป็นเรื่องปรกติทั่วไปของสังคม หากไม่อยากที่จะอยู่ร่วมกับคนพวกนี้ ก็ต้องเลือกที่จะเป็นปลาที่ว่ายทวนน้ำ
เธอที่เพิ่งจะเปลี่ยนเสื้อกาวน์เสร็จ ก็ได้ยินผู้ช่วยแพทย์ลลิตารายงานว่า “คุณมีนาค่ะ ช่วงเช้าคุณมีเคสผ่าตัดทรวงอกเท่านั้นค่ะ ”
มีนาคิ้วขมวด ตามหลักทั่วไปแล้วช่วงเช้าเธอจะมีเคสผ่าตัดทรวงอกอย่างน้อยเจ็ดถึงแปดเคส หรือเพราะเธอกลายเป็นผู้หญิงของณภัทรแล้ว แม้แต่งานของเธอก็ลดลงไปด้วยงั้นเหรอ ?
ลลิตากระซิบบอก“ นี่เป็นการจัดแจงของผู้อำนวยการญาดาอย่างกะทันหันค่ะ ”
มีนายิ้มเยาะในใจ ในแผนกนี้เธอไม่ถูกกับผู้อำนวยการญาดาที่สุด ประการแรกเลยเพราะหล่อนไม่ชอบที่หมอทัพทองเอ็นดูเธอเป็นพิเศษจนได้เลื่อนตำแหน่ง วันทั้งวันหล่อนก็เอาแต่แต่งหน้า รู้เรื่องวิชาการรักษาอะไรที่ไหนกัน ไม่วายแทบจะโยนการผ่าตัดทุกอย่างของแผนกมาให้เธอ ประการที่สองญาดาเป็นเพื่อนรักกับเขมิกา ปรกติหล่อนก็มักจะสร้างปัญหาให้เธออยู่ตลอด และส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะได้รับคำสั่งการมาจากเขมิกา
เธอมาถึงที่หน้าประตูห้องทำงานของญาดา เปิดประตูพรวดเข้ามาอย่างกะทันหัน เห็นสีหน้าของญาดากับเขมิกาที่ตื่นตระหนก และเขมิกาเองก็รีบหยิบรูปอัลตราซาวนด์กับผลการตรวจทางการแพทย์ที่อยู่บนโต๊ะยัดลงในกระเป๋าอย่างรวดเร็ว
“มีนา เธอเข้ามาทำไม?”
มีนายิ้มเยาะ“ตลกล่ะ ฉันเป็นหมอที่นี่นะ ก็ต้องมีเรื่องมาขอคำชี้แนะจากผู้อำนวยการญาดานะสิ”
เธอสำรวจมองไปยังใบหน้าของเขมิกาที่ยังไม่หายบวม แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ“เธอรักสวยรักงามขนาดนี้ ทำไมถึงได้พาใบหน้าที่ปูดบวมแบบนี้มาที่โรงพยาบาลได้ หรือเด็กในท้องของเธอจะเป็นอะไรงั้นเหรอ ?”
ใบหน้าของเขมิกาซีดเซียว“ไอคนบ้า พูดบ้าๆอะไรแบบนี้ ?”
เธอบอกลากับญาดา แล้วจากไปอย่างรวดเร็ว
แต่ในตอนที่เธอเดินมาถึงที่ตรงหน้าของมีนา มุมปากก็เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายให้เห็น จากนั้นจู่ๆก็กระแทกเข้ามาที่ร่างของมีนาอย่างแรง จากนั้นก็เดินโซเซแล้วล้มลงไปที่พื้น ที่หว่างขาของเธอมีเลือดจำนวนมากไหลออกมา
ด้วยสัญชาตญาณของการเป็นหมอ มีนาย่อตัวลงแล้วรีบตรวจเช็กอาการของเธอทันที
ญาดาวิ่งออกไปยังด้านนอกอย่างร้อนรน“ฉัน……ฉันจะไปหาหมอสูติมาเดี๋ยวนี้”
มีนาลองจับไปที่ชีพจรของเธอ เปิดเสื้อเธอออกแล้วสัมผัสไปที่ท้องของเธอ ดวงตามีแสงแห่งความไม่แน่ใจปรากฏ
เขมิกาลืมตาขึ้นมาทันที แล้วคว้าดึงแขนเสื้อของมีนาเอาไว้แน่น หัวเราะออกมาอย่างน่ากลัว “พี่มีนา พี่ฆ่าความหวังเดียวของอัครโภคิน ต่อให้พี่จะเป็นภรรยาของประธานาธิบดี อัครโภคินก็ไม่มีวันอภัยให้พี่ !”