เขมิกาบอกกับเธอ สองวันให้หลังหลังจากที่เธอแต่งงานกับการันต์ การันต์ก็ได้ทำหมันแล้ว เพราะฉะนั้นเด็กในท้องของเธอคนนี้อาจจะเป็นเพียงลูกคนเดียวของการันต์ในชีวิตนี้ก็ได้
หว่างขาของเธอยังคงมีเลือดไหลไม่หยุด และดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้สึกอะไรเลย ทำเพียงหัวเราะออกมาอย่างน่ากลัว แววตามีเพียงความกระหายเลือดปรากฏ ราวกับจะทำลายล้างมีนาให้ได้ในตอนนี้ ผู้หญิงคนนี้ช่างร้ายกาจและน่ากลัวจริงๆ
มีนามองดูเธอด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย“ เพื่อจะทำลายฉัน แลกกับความสุขตลอดชีวิตของเธอ มันคุ้มเหรอ ?”
เธอหัวเราะออกมาจนตัวสั่น“ขอแค่ฆ่าเธอให้ตายได้ ต่อให้ฉันต้องแท้งอีกสักร้อยครั้งมันก็คุ้ม ”
“เธอเกลียดฉันขนาดนี้เลยเหรอ?”
เสียงหัวเราะของเธอหยุดลงอย่างกะทันหัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุร้าย “ฉันเกลียดเธอมาก เธอแย่งทุกอย่างที่ควรจะเป็นของฉันไป ทำให้ฉันกับแม่ของฉันต้องมีสภาพที่น่าสมเพชเวทนาหนีหัวซุกหัวซุนมานานหลายปี อันที่จริงแล้วฉันต่างหากที่เป็นคุณหนูใหญ่ของพรหมพิริยะตัวจริง และตัวเธอมีนาก็เป็นแค่ ……”
จู่ๆประตูก็ถูกเปิดออก ญาดาพาคนจำนวนหนึ่งพุ่งเข้ามา
“หมอทัพทอง เป็นเธอที่ผลักภรรยาของรองนายกเทศมนตรีลงที่พื้น ฉันเห็นมันกับตาค่ะ!”
ใบหน้าของเขมิกาก็เปลี่ยนเป็นน่าสงสารขึ้นมาทันที และก็ร้องไห้ออกมาอย่างเศร้าโศก “พี่มีนา ฉันรู้ว่าพี่อิจฉาฉันที่ฉันแย่งเอาความรักของการันต์มา แต่เด็กไม่รู้เรื่องด้วย ทำไมพี่ถึงได้ใจร้ายใจดำขนาดนี้ ?”
ทุกคนต่างมองไปที่มีนา แววตาแฝงไปด้วยการดูถูก และสงสัยปะปนอยู่ และยังมีสายตาที่มองดูความสุขบนความทุกข์นี้
สีหน้าของหมอทัพทองดูลำบากใจ ฝั่งหนึ่งก็เป็นภรรยาของท่านนายพล อีกฝั่งหนึ่งก็เป็นภรรยาของรองนายกเทศมนตรี แม้ว่าตำแหน่งของรองนายกเทศมนตรีจะเล็กกว่า แต่ในเมืองรามนี้ทุกคนต่างก็รู้จักอัครโภคินในฐานะของตระกูลอันดับต้นๆ และในประเทศซีดานนี้ก็ถือว่ามีชื่อเสียงอยู่มาก แม้แต่ตัวประธานาธิบดีเองก็ยังต้องหลีกทางให้กับอัครโภคิน
ไม่คิดว่าผู้กระทำความผิดอย่างมีนาจะยังมีสีหน้าที่เรียบเฉย“หากยังไม่ทำการห้ามเลือดให้ผู้ป่วย เกรงว่าคงจะไม่สามารถแก้ไขอะไรแล้วได้จริงๆ ”
ตอนนี้ในดวงตาของเธอไม่มีความโกรธเกลียด มีแค่คนป่วย ในเมื่อเลือกที่จะสวมใส่เสื้อกาวน์แล้วก็ต้องทำหน้าที่ของหมอ ต่อให้เธอจะถอดเสื้อกาวน์ออก แล้วจะมาตบตีกับผู้หญิงแพศยาอย่างเขมิกาจนเลือดตกยางออกก็ตาม
การเป็นคนต้องมีขอบเขต และยิ่งเป็นหมอก็ต้องมีความเมตตากรุณา นี่คือหน้าที่และขอบเขตที่เธอควรทำ
ในตอนนี้ทุกคนต่างก็ได้สติ มือไม้เป็นระวิงต่างช่วยกันพาร่างของเขมิกาที่มีใบหน้าซีดเซียวไปที่ห้องผ่าตัดเพื่อทำการผ่าตัดฉุกเฉิน
ญาดารีบกดโทรศัพท์ไปยังบ้านอัครโภคิน แล้วพูดสาธยายความผิดที่มีนาได้ทำขึ้นมาอีกครั้ง เธอมองไปยังมีนาอย่างมีชัย “อีกเดี๋ยวรถตำรวจและคนของบ้านอัครโภคินก็คงจะตามมา แน่จริงเธอก็โทรตามท่านนายพลด้วยสิ ดูว่าเขาจะรักษาหน้าที่การงานของเขาเอาไว้ หรือว่าเลือกที่จะปกป้องนังจิ้งจอกอย่างเธอ ”
มีนาเหยียดยิ้ม “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงโง่ๆที่คอยแต่จะสร้างปัญหาให้กับผู้ชายของตัวเอง ”
ญาดาโกรธจนควันออกหู “หึ!ไม่มีท่านนายพลคอยปกป้อง เธอจะมีปัญญาทำอะไรได้ !”
ใบหน้าของมีนาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ดูถูก“ ฉันกับเขมิกามีความแค้นที่สะสมกันมานาน ที่เขาเกลียดฉันพอมีเหตุผลที่เข้าใจได้ แล้วทำไมผู้อำนวยการญาดาถึงได้เกลียดฉันเข้ากระดูกด้วย ? หรือคุณอิจฉาคนที่ได้แต่งงานกับณภัทรคือฉัน ไม่ใช่ตัวคุณเอง ? ”
สีหน้าของญาดาตึงเครียด
มีนาหัวเราะแล้วพูดว่า“ ฉันเดาถูกจริงๆด้วย แต่ณภทัรเขาเป็นคนที่เกลียดความไม่ถูกต้องเป็นอย่างมาก ฉันขอแนะนำให้คุณเป็นเมียน้อยของหมอทัพทองเงียบๆจะดีกว่า เพราะยังไงอายุเขาก็แค่หกสิบกว่าๆ กินยาโด๊ปสักหน่อยก็คงจะเติมเต็มให้คุณได้ ”
ญาดากระทืบเท้าด้วยความโกรธ “หึ!รอให้คนของอัครโภคินมาก่อน ดูสิว่าเธอจะยังอวดเก่งได้อยู่ไหม !”
ในความคิดของเธอ วันนี้ยังไงมีนาก็ต้องตายแน่ๆ เด็กในท้องของเขมิกาเป็นหลานคนโตของอัครโภคิน และเป็นเพียงลูกคนเดียวของการันต์ อัครโภคินจะปล่อยเธอไปได้ยังไง? ยิ่งไปกว่านั้นณภัทรอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญของกองทัพ และเพิ่งจะมีความดีความชอบได้เลื่อนขั้น หากเขาเลือกที่จะปกป้องเธอในตอนนี้ ก็จะกลายเป็นเป้าในการโจมตีจากทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย เขาฉลาดออกขนาดนี้จะเลือกอะไรที่มันโง่ๆได้ยังไงกัน ?
เขมิกาให้คำมั่นสัญญากับเธอแล้ว หากเธอช่วยเขากำจัดผู้หญิงแพศยาอย่างมีนาได้ ก็จะส่งเธอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ และใช้อำนาจของอัครโภคินให้เธอมีตำแหน่งในกองทัพ และให้เธอมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับณภัทร เธอเบื่อกลิ่นสาบคนแก่ของหมอทัพทองจะแย่แล้ว ถึงตอนนั้นก็ไปทำรีแพร์ใหม่ จะได้กลับมาเป็นแม่สาวแรกรุ่นอีกครั้งได้ไม่ใช่เหรอ ?
โรงพยาบาลได้เชิญหมอเฉพาะทางด้านการทำแท้งมาให้กับเขมิกา ใช้เวลาเพียงสิบนาทีทุกอย่างก็เรียบร้อย
มีนาที่รออยู่หน้าประตู ในตอนที่หมอเฉพาะทางเดินออกไป เธอก็รีบปรี่เข้ามา คนในโรงพยาบาลต่างก็เห็นแก่สถานะนายหญิงของท่านนายพลจึงไม่มีใครกล้าที่จะรั้งตัวเธอเอาไว้
ภายใต้คำสั่งของหมอทัพทองพยาบาลหลายคนก็ตามมาด้วย
มีนาหันกลับไปมอง แววตาเต็มไปด้วยความดุร้าย“ถ้าไม่อยากตายก็เข้ามา”
นางพยาบาลตัวน้อยต่างก็ตกใจกลัวจนต้องถอยร่นออกไป แล้วยังช่วยเธอปิดประตูอย่างว่าง่ายอีกด้วย
เขมิกานอนอยู่บนเตียงผ่าตัด ดวงตาเบิกกว้างมองดูเธอที่ค่อยๆก้าวเข้ามาทีละก้าวอย่างโกรธเคือง ในใจถูกครอบงำไปด้วยความกลัว
“นี่เธอ……คิดจะทำอะไร?”
มีนาหยิบมีดผ่าตัดขึ้นมาถือเล่น คมมีดสะท้อนแสงประกายเย็นเยือก ทำให้เธอรู้สึกกลัวจนตัวสั่น
“ฉัน……ฉันขอเตือน อย่าคิดจะทำอะไรทั้งนั้น ไม่งั้น……เรื่องระหว่างเราไม่จบแน่”
มีนาวางมีดผ่าตัดไปที่ใบหน้าของเธอ แล้วขยับมันไปมาช้าๆทั่วร่างกายของเธอ
“เธอก็รู้ว่าฉันเรียนแพทย์มา ฉันสามารถแทงเธอเจ็ดสิบสองแผล และสามารถหลีกเลี่ยงจุดสำคัญเหล่านั้นได้ อย่างมากก็เป็นแค่แผลเล็กน้อย และต่อให้ต้องถูกตัดสินโทษก็เป็นเพียงแค่สามถึงห้าปีเท่านั้น และหากณภัทรยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือฉัน ไม่แน่ก็อาจจะได้ลดโทษด้วย ”
มีดผ่าตัดเล่มนั้นหยุดลงที่ตรงหัวใจของเขมิกา ได้ยินแค่เสียงซ่าๆดังขึ้น นี่เธอตกใจกลัวจนฉี่ราดเลยเหรอ
มีนาบีบจมูกแล้วถอยห่างออกไป ใบหน้ามีรอยยิ้มที่ดูถูกปรากฏ “ความกล้าแค่นี้ของเธอยังอยากที่จะฆ่าฉันอีก ช่างน่าขำจริงๆ”
ทันใดนั้นเขมิกาก็รู้สึกอายและโกรธ แต่ตอนนั้นเธอรู้สึกกลัวจริงๆ เธอเพิ่งจะสมหวังได้แต่งงานกับผู้ชายที่เธอรัก และยังกลายเป็นลูกสะใภ้ผู้สูงศักดิ์ของอัครโภคิน จะคิดสั้นในตอนนี้ได้ยังไง ?
“มีนา เธอ…….เธอเก่งได้อีกไม่นานหรอก รอให้คนของอัครโภคินมาก่อน เธอก็จะหนีความตายไม่พ้นแล้ว !”
เมื่อคิดถึงแม่สามีที่มีอำนาจของตัวเอง เธอก็มีความมั่นใจมากขึ้นมาทันที แม่สามีคนนี้กำลังรอที่จะได้อุ้มหลาน ตอนนี้ไม่มีหลานแล้ว แม่สามีต้องเกลียดมีนาจนเข้ากระดูกแน่ ด้วยอำนาจบารมีของอัครโภคินแค่ความผิดเล็กน้อยก็สามารถทำให้เธอต้องจบชีวิตอยู่ในคุกได้
มีนาตบไปที่ใบหน้าของเธอเบาๆ“ยัยน้องโง่ของฉัน ไม่รู้ว่าเธอประเมินไอคิวตัวเองสูงไป หรือประเมินอำนาจของณภัทรต่ำไป”
เธอเชื่อว่าต่อให้เธอจะเป็นคนทำร้ายลูกของเขมิกาจริงๆ ณภัทรก็ช่วยเธอหาทางออกได้ เธอแค่ไม่อยากจะสร้างปัญหาให้เขาก็เท่านั้น
“เหอะๆ ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว ฉันไม่เชื่อหรอกว่าณภัทรจะยอมทิ้งอนาคตที่รุ่งโรจน์เพื่อมาปกป้องเธอเอาไว้”
มีนาไม่ได้สนใจคำพูดเหน็บแนมของเธอ แต่มองไปที่เธอด้วยสายตาที่น่าสังเวช แล้วพูดเสียงแผ่วเบา“เด็กในท้องของเธอไม่น่าจะมีอายุครรภ์แค่เดือนเดียว แต่น่าจะเป็นสามเดือน และสามเดือนก่อนเธอยังเรียนอยู่ที่ประเทศเอเดนอยู่เลย ไม่มีทางได้เจอกับการันต์แน่ แล้วถ้าคนที่บ้านอัครโภคินรู้ความจริงจะเป็นยังไงนะ ? ”
ใบหน้าของเขมิกาซีดเผือด เธอรู้ความจริงเรื่องนี้ได้ยังไง ? เธอคิดว่าเธอปกปิดเรื่องนี้ได้อย่างมิดชิดแล้ว แม้แต่เรื่องการทำแท้งนี้เธอก็เตรียมการวางแผนมาอย่างดีแล้ว