จอมพลที่รัก – บทที่ 30 แลกเปลี่ยนความโหดร้าย

จอมพลที่รัก

เขมิกาตกใจจนฉี่ราด ความเปียกชื้นทางด้านล่างของร่างเธอนั้นทำให้เธอรู้สึกอับอายและทนไม่ได้ขึ้นมาในทันใด แต่หากเทียบกับหน้าตาแล้วเธอเสียดายชีวิตมากกว่า

เวลานี้วายุกำลังชื่นชมเนื้อหาในคลิปนั้นด้วยความตื่นเต้น พลางส่งเสียงดังขึ้นมา “พี่สะใภ้นี่มีดูอำนาจดีจัง!”

ตอนที่ณภัทรแย่งกล้องในมือเขามาดูเนื้อหาด้วยใบหน้าที่โมโหนั้น มีแนวโน้มแห่งความชั่วร้าย พลางเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา : “ทิ่มตาตัวเองซะ!”

วายุรู้สึกกลัวจนสั่นไปหมด หลบอยู่ทางด้านหลังของมีนา พลางพึมพำออกมาเบาๆ : “ลูกพี่ ผมเพียงแค่รู้สึกว่าพี่สะใภ้กล้าหาญแล้วก็โดดเด่นมาก ส่วนบนร่าง……..”

ณภัทรมองเขาอย่างเย็นชา เขาจึงรีบหุบปากลงอย่างว่าง่าย ในใจก็แอบบอกให้ผู้หญิงเลวๆคนนั้นขอพรเอาเองก็แล้วกัน คนที่รังแกพี่สะใภ้ ลูกพี่ไม่ยอมปล่อยไปอยู่แล้ว!

ณภัทรดูคลิปนั้นด้วยใบหน้าที่มีความโมโหจนจบ ทางด้านหนึ่งเขาเองก็รู้สึกภูมิใจกับความมีสติและสงบนิ่งนี้ของมีนา ผู้หญิงที่เธอให้ความสำคัญไม่ได้แย่เลยจริงๆ ส่วนอีกทางด้านหนึ่งเมื่อนึกถึงพวกบ้ากามพวกนี้ที่จ้องมองร่างกายของเธอแล้ว เขาก็แทบอยากจะฆ่าพวกนั้นซะ!

เวลานี้พวกอันธพาลพวกนั้นถูกรุมตีเสียจนทั่วทั้งตัวนั้นเต็มไปด้วยเลือด แขนขาหัก เป็นแบบนี้ต่อไปกลัวว่าจะไม่มีชีวิตอยู่เสียแล้ว

ณภัทรยกมุมปากที่เย็นชาขึ้นมาเล็กน้อย : “หยุดก่อน!”

พวกเพื่อนพี่น้องมีใบหน้าที่ประหลาดใจ ตามสไตล์ของลูกพี่แล้ว จะต้องถลกหนังของพวกนี้เสียก่อนสิ วันนี้เกิดอะไรขึ้นกัน?

จนกระทั่งพวกเขาเห็นรอยยิ้มที่เยือกเย็นบนใบหน้าของณภัทร จึงรับรู้ได้ทันที ว่าลูกพี่จะต้องคิดแผนหลอกล่อใหม่เอาไว้จัดการอีกแล้ว

และเป็นอย่างที่คิดไว้จริง ณภัทรเดินมาตรงหน้าเขมิกา มองเธอตั้งแต่บนลงล่างด้วยความเหยียดหยาม พลางเอ่ยขึ้นอย่างเยาะเย้ย : “คุณวางใจได้ ผมไม่ฆ่าคุณหรอก เพราะถึงอย่างไรคุณก็ยังเรียกผมว่าพี่เขย”

เขมิกามองเขาอย่างงงๆ ผู้ชายคนนี้ยิ้มขึ้นมาแล้วสรรพสิ่งก็ดูจะกลับตาลปัตรไปหมด แค่เพียงระหว่างการพูดคุยกันลักษณะท่าทางดุร้ายก็ทำให้เธอรู้สึกกลัวจนตัวสั่นแล้ว

“พี่…..พี่เขย ฉัน…..ฉันเพียงแค่หยอกล้อกันเล่นเล็กๆน้อยๆกับพี่เท่านั้นเอง ไม่ได้มีเจตนาร้าย”

“อ่อ! ที่แท้ก็เป็นการล้อเล่นกันเล็กๆน้อยๆระหว่างพี่น้องนี่เอง ในเมื่อคุณชอบการล้อเล่นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นผมก็จะช่วยให้เป็นไปตามที่คุณต้องการเอง!”

เขมิกาเข้าใจความหมายของเขาขึ้นมาในทันที ลุกขึ้นพลางกรีดร้อง แล้ววิ่งโซเซออกไปด้านนอก เพียงแต่ยังไม่ทันได้วิ่งออกไปไกลเลยนั้น ก็ถูกคิงจับตัวได้เหมือนกับเหยี่ยวจับนกตัวเล็กๆได้เลยอย่างไรอย่างนั้น ล้มลงไปที่พื้นด้วยความบุ่มบ่าม และนี่ก็ดูเหมือนจะทำให้กระดูกทั้งร่างกายของเธอนั้นหักไปหมดแล้ว เจ็บปวดเสียจนแยกเขี้ยวยิงฟันออกมาด้วยความตกใจ

วายุส่งเสียงจุ๊ๆออกมา : “คิง นายเองก็ไม่ทะนุถนอมกับผู้หญิงเลยนะ ไม่แปลกใจเลยที่จนถึงตอนนี้แล้วจะยังบริสุทธิ์อยู่น่ะ”

คิงยกกำปั้นขึ้นมาใส่เขาด้วยความโมโห แต่พอนึกถึงว่าสิ่งเขาพูดนั้นก็เป็นความจริง จึงรู้สึกสูญเสียความมั่นใจขึ้นมาในทันที

เขมิกาอดทนกับความเจ็บปวดนี้แล้วค่อยๆคลานราวกับสุนัขมาตรงหน้าของมีนา แล้วกอดขาเธอเอาไว้ น้ำตาไหลลงไม่หยุดพลางอ้อนวอนขอร้อง : “พี่ ฉัน……ความจริงแล้วฉันแค่อยากจะขู่ให้พี่กลัวแค่นั้น ไม่ได้มีความคิดอื่นเลย พี่เขยจะต้องเข้าใจฉันผิดแน่ๆ พี่รีบอธิบายให้เขาฟังสิ”

มีนาสะบัดเธอออกอย่างแรง ใบหน้าเต็มไปด้วยความดูถูก : “เธอเปลี่ยนหน้าได้เร็วกว่าเปลี่ยนหน้าหนังสืออีกนะ เพียงแต่เธอจำเอาไว้ประโยคนึงก็แล้วกัน กรรมที่ตัวเองทำไว้น่ะเธอไม่มีทางหนีพ้นหรอก!”

เขมิกายังคงไม่ตายใจ เธอกดเสียงลงต่ำเพื่อนขู่ : “พี่กับฉันเป็นลูกสาวของตระกูลพรหมพิริยะ หรือว่าพี่คิดที่จะทำลายตระกูลพรหมพิริยะจริงๆใช่ไหม เด็กโง่นั่นก็ไม่มีที่จะไปแล้วด้วย”

ในใจของมีนานั้นหัวเราะเยาะอยู่ ตอนนี้นอกจากเรื่องนี้แล้ว ก็เท่ากับว่าผลักทิวามาอยู่ตรงหน้าณภัทร จากสติปัญญาที่ฉลาดของเขาแล้วเกรงว่าเขาจะสามารถเดาความคิดของเธอได้ตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าอย่างนั้นเป็นแบบนี้แล้ว ทิวายังมีความจำเป็นที่จะต้องซ่อนอยู่ที่ตระกูลพรหมพิริยะอีกหรือเปล่า?

“อา! ความเจริญและความเสื่อมโทรมของตระกูลพรหมพิริยะมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ? ปกติแล้วพวกเธอก็ไม่ได้เห็นฉันกับทิวาเป็นคนอยู่แล้ว ทำไมเธอยังได้มีหน้ามาขอร้องฉันอีกกัน?”

“หรือว่าพี่ไม่อยากจะรู้เรื่องราวความจริงในปีนั้นหรือ? เพียงแค่ครั้งนี้พี่ปล่อยฉันไป ฉันรับประกันว่าจะบอกพี่ทุกเรื่องเลย”

มีนาก้มตัวลง แล้วจ้องมองเธออย่างเย็นชา : “ดูเหมือนกว่าเธอจะเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า เวลานี้ไม่ใช่ว่าเธอควรจะเอาความลับที่มีอยู่ในมือมาแลกกับหนทางเอาตัวรอดของเธอกับตระกูลพรหมพิริยะหรอกหรือ?”

ไม่คิดว่าเธอจะไม่ติดกับแบบนี้? เขมิกากัดริมฝีปาก เธอรู้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะพูดถึงความลับนี้ออกมา เนื่องจากว่าความลับนี้ถ้าหากพูดออกไปแล้วทั้งตระกูลพรหมพิริยะและตัวเธอจะต้องจบกันอย่างแน่นอน

แววตาของมีนาเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที ทันใดนั้นเองเธอก็รู้สึกว่า การตายของแม่นั้นมีสาเหตุอื่นอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ หรือจะพูดได้ว่าเป็นการวางแผนร้ายเอาไว้นั่นเอง มิเช่นนั้นแล้วคนที่เห็นแก่ตัวอย่างเขมิกาแบบนี้ ยินยอมที่จะรับความอับอายขายหน้าจากณภัทรก็ไม่ยอมพูดความลับนั้นออกมาอยู่แล้ว

ณภัทรส่งสายตาไปยังเพื่อนๆของเขา แล้วคิงก็เตะไปที่ร่างของเธอ เธอลอยออกไปในทันทีราวกับลูกบอล แล้วก็ล้มลงที่พื้นอีกครั้ง เจ็บเสียจนแทบจะหมดสติไป

เพียงแต่ที่ร่างกายของเธอนั้นมีขวดยาเม็ดขวดหนึ่งหล่นออกมา คิงเอายาเม็ดนั้นขึ้นมาดู แล้วเอ่ยพูดหยาบคายขึ้นมาทันที : “แม่ง นี่มันภาษาอะไรเนี่ย ฉันอ่านไม่ออกเลยแม้แต่ตัวเดียว!”

เขารู้สึกว่านี่จะต้องไม่ใช่ของดีอะไรอย่างแน่นอน จากนั้นก็เทยาเม็ดออกมาเกินครึ่งแล้วจับยัดเข้าปากของเขมิกาไป เธอเบิกตาขึ้นไม่ยอมกลืนลงไป คิงทุบท้องของเธอไปแรงๆหนึ่งที ยาเม็ดเหล่านั้นก็ถูกเธอกลืนลงไปทั้งหมดแล้วนั่นเอง

คิงเอาขวดยาทิ้ง ขวดยากลิ้งไปอยู่ที่ใต้เท้าของณภัทร เขาเก็บขวดนั้นขึ้นมาอ่านดูภาษาต่างประเทศที่อยู่ด้านบน สีหน้ามืดมน พลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา : “หนีไม่พ้นกรรมชั่วที่ตัวเองทำไว้จริงๆ!”

แท้ที่จริงแล้วในนี้เป็นยากระตุ้นเพื่อเพิ่มความสนุกทางอารมณ์ คาดว่าจะเอามาใช้ให้ร้ายมีนา ตามคำอธิบายทางด้านบน ปกติแล้วจะกินสองถึงสามเม็ดก็จะเห็นผลแล้ว แต่เมื่อครู่นี้คิงดูเหมือนกับจะยัดเข้าไปให้เธอหนึ่งกำใหญ่เลย

และเป็นอย่างที่คิดเขมิกาดูเหมือนกับสุนัขตัวเมียที่กำลังรุ่มร้อนขึ้นมาทันทีทันใด เธอฉีกเสื้อผ้าบนร่างของตัวเองออก และพอเห็นผู้ชายนั้นก็พุ่งตัวเข้าไปทันที

พวกพี่ๆน้องๆของหน่วยอินทรีย์สามารถหลบได้อย่างคล่องแคล่ว แต่พวกอันธพาลที่ถูกมัดมือมัดเท้าและถูกตีเสียจนจะพิการเหล่านั้นช่างน่าเวทนาจริงๆ

“อา……หลบไปไอ้คนน่าเกลียด ขนของฉันถูกดึงเกือบจะหมดแล้ว”

แต่สองสามคนนั้นเพิ่งจะถูกหน่วยอินทรีย์รุมตีไป แม้กระทั่งตรงนั้นก็ไม่ละเว้นด้วยเช่นกัน จะฝืนขึ้นมาได้เสียที่ไหนกัน คิดไม่ถึงเลยว่าเขมิกานอนคว่ำร่างลงแล้วเลียนิ้วเท้าของพวกเขา หลังจากนั้นก็ฝืนยัดไปตรงนั้น ปากก็ยังส่งเสียงออกมาอย่างสบายอีกด้วย แบบนั้นจะล่วงเกินมากแค่ไหนก็ล่วงเกินได้เท่านั้น

ทุกคนต่างก็ทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว พวกเขาจะพากันออกไป แล้วก็พากันไปตบบ่าของวายุ : “ถ่ายดีๆล่ะ ถ่ายดีเดี๋ยวลูกพี่จะต้องมีรางวัลให้นายอย่างแน่นอน”

ในใจของวายุนั้นพังทลาย ทำไมทุกครั้งคนที่โชคร้ายจะต้องเป็นเขาด้วย?

เวลานี้ท้องฟ้าเป็นช่วงเวลากลางคืนแล้ว ณภัทรกับมีนานั่งอยู่ในรถ ทั้งสองคนเงียบอยู่นาน ได้ยินเพียงแค่เสียงลมจากหน้าต่างรถที่พัดผ่านไปเพียงเท่านั้น

แสงของความมืดที่กำลังจะหมดไปสาดส่องอยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา บรรยายคร่าวๆว่าเป็นความอึมครึมแบบหนึ่ง ตั้งแต่ต้นจนจบเธอไม่เชื่อตัวเอง จนถึงตอนนี้แล้วไม่คิดว่าจะยังไม่ยอมพูดความจริงกับเขา เพียงแต่เวลานี้เธอกำมือของตัวเองเอาไว้แน่นแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ความรู้สึกเครียดและลังเล จนสุดท้ายแล้วเขาก็ทนไม่ไหว ยื่นแขนยาวๆออกไปแล้วโอบร่างของเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด

“พรุ่งนี้ไปรับน้องสาวของคุณออกมาจากตระกูลพรหมพิริยะเถอะครับ ผมรู้จักคนที่ศึกษาวิจัยทางด้านนี้ สถานพักฟื้นส่วนบุคคลที่เขาก่อตั้งส่วนมากจะเป็นเกี่ยวกับโรคแบบนี้ หรือบางทีได้รับการรักษาจากเขา อาการป่วยของเธอก็จะค่อยๆดีขึ้นได้นะครับ”

มีนารู้สึกแสบจมูกขึ้นมาเล็กน้อย : “คุณไม่โทษฉันจริงๆหรือคะ?”

จอมพลที่รัก

จอมพลที่รัก

Status: Ongoing
ครั้งแรกที่เจอเธอ เธอไล่เขาไป เจอกันครั้งที่สอง เธอถือมีดผ่าตัดจ่อที่คอของเขา……แต่ไม่รู้ทำไม เขาถึงรักเธอได้ถึงขนาดนี้ แม้จะโดนหลอกยังไงก็ตาม เขาก็จะเอาเธอมาเป็นภรรยา

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน