แม้ว่ามีนายังมีความต้องการอย่างมาก แต่เธอก็เข้าใจถึงความเร่งรีบของสถานการณ์ตอนนี้ดี ถ้าหากทั้งสองใช้แรงไปจนหมด จะหนีออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร คนในเรือสำราญลำนี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนของไบร์ท คนเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นอาชญากรที่ไม่เกรงกลัวความตายทั้งนั้น จึงไม่ง่ายที่จะรับมือ
“เดี๋ยวก่อนนะ คนของคุณวางแผนดักซุ่มโจมตีเรียบร้อยแล้วใช่ไหม ?”
“ผมมาคนเดียวก็จัดการกับคนทั้งลำเรือได้แล้ว”
“อะไรนะ ? คุณหมายความว่าคุณจะทำตัวเป็นฮีโร่ที่ต่อสู้ตามลำพังอย่างนั้นหรือ ?”
มีนาพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้น ณภัทรเสียสติไปแล้วหรืออย่างไร ถึงแม้เขาจะเทิดทูนความกล้าหาญของตนเอง แต่ก็สมควรมองสถานการณ์ให้ชัดเจน
เขายอมปล่อยเธอไปซะที่ไหน เขากดเธอไว้ใต้ร่างของเขาอย่างแน่นหนา : “อย่าดื้อสิ ผมกำลังจะพาคุณขึ้นสวรรค์นะ”
เธอรู้สึกร้อนใจเหมือนมีไฟมาแผดเผา นี่มันเวลาไหนกันแล้ว เขายังจะมัวนั่งคิดเรื่องพวกนี้อีก ทำให้เธอรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที : “ขึ้นสวรรค์ ? ฉันว่าอีกเดี๋ยวพวกเราคงได้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์กันจริง ๆ แน่ ยังไม่รีบหนีเอาชีวิตรอดอีก !”
“ด้านนอกมีคนของ ไบร์ทเต็มไปหมด พวกเราจะหนีรอดไปได้อย่างนั้นหรือ ?”
มุมปากของเธอกระตุกเล็กน้อย : “เช่นนั้นคุณคิดจะทำอย่างไร ?”
เมื่อเห็นท่าทีร้อนใจของเธอ เขาก็รู้สึกว่าช่างน่ารัก จึงอดไม่ได้ที่จะหยอกเย้าเธอ : “โบราณว่าไว้ หากได้ตายเคียงคู่กับสาวงาม ก็ไม่รู้สึกเสียดายชีวิต”
เธอโกรธจนอยากยืนกำปั้นเล็ก ๆ ออกมาต่อยเขา แต่กลับถูกเขาจับไพล่เอาไว้เหนือศีรษะ จากนั้นเขาจึงหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า : “เด็กโง่ ผมไม่เคยทำเรื่องโง่เขลามาก่อน”
เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกสนใจ เขามาเพียงลำพัง ไม่พามาแม้กระทั่งทหารสักนาย อีกทั้งบนเรือสำราญก็มีแต่พวกนักเลงฝีมือฉกาจทั้งนั้น มิหนำซ้ำในมือของพวกเขายังมีอาวุธพร้อมสรรพ เขาคิดจะรับมือคนพวกนั้นเช่นไรกันแน่ ?
“อยากรู้ไหม ?”
“อืม อยากรู้”
“รอให้ผมเสร็จกิจก่อนแล้วจะบอกคุณ”
เขาก้มลงไปจูบริมฝีปากของเธอ ปลดปล่อยอารมณ์และความรักที่ฝังแน่นอยู่ในกระดูกออกมาจนหมดสิ้น เขาเองก็ไม่กล้าที่จะกระทำกับเธอรุนแรงนัก เมื่อเธอทนไม่ไหวและร้องขอความเมตตา เขาก็จะปล่อยเธอ
ทั้งสองนอนราบอยู่บนเตียงและจับมือกัน ราวกับว่าพวกเขาได้ยินเสียงเต้นของอีกใจของอีกฝ่าย
เธอหลุดขำออกมา : “ณภัทร ทำไมฉันรู้สึกเหมือนว่าคนที่กินยาเข้าไปคือคุณ ?”
ความหลงใหลและความตื่นเต้นเช่นนี้ ราวกับถูกฉีดสารกระตุ้นเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น
เขาพลิกตัวไปด้านข้าง แล้วกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน : “พูดเหลวไหล ผมไม่ได้แตะต้องตัวคุณมาหลายวันแล้วนะ”
เมื่อเค้านึกถึงภาพที่ผู้ชายเหล่านั้นกระทำกับเธออย่างหยาบคายเมื่อครู่ ก็กัดฟันแล้วพูดว่า : “อีกเดี๋ยวก็จะถึงตาของพวกเดรัจฉานพวกนี้ !”
“คุณทำอะไรกันแน่ ?”
เขายิ้มอย่างมีเลศนัย : “นอนหลับพักผ่อนก่อนเถอะ ถึงเวลานั้นคุณก็จะรู้เอง”
ถึงแม้ด้านนอกจะมีเสียงดังเกิดขึ้นไม่หยุด ถึงแม้ตอนนี้พวกเขายังไม่อาจหนีพ้นจากอันตราย แต่เมื่อนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอกลับนอนหลับได้อย่างสงบ
หลังผ่านพ้นช่วงเวลาเที่ยงคืนไป เขาปลุกเธอให้ตื่นขึ้น : “มีนา ใส่เสื้อผ้า พวกเราจะไปกันแล้ว”
เธอตื่นขึ้นมาด้วยท่าทีสะลึมสะลือ เขานำเสื้อผ้าของเขาคลุมเอาไว้บนตัวของเธอ ตอนนี้ด้านนอกมีเสียงของความโกลาหลดังขึ้น ทุกที่เต็มไปด้วยเสียงฝีเท้าและเสียงปืน มีผู้ชายตะโกนด่าอย่างหยาบคาย และมีเสียงร้องด้วยความหวาดกลัวของผู้หญิงดังขึ้น
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ?”
“ออกไปแล้วผมจะค่อย ๆ บอกคุณเอง”
เขาใช้เสื้อคลุมศีรษะของเธอไว้ แล้วคุ้มกันเธอวิ่งออกไปด้านนอก ตอนนี้ฝูงชนต่างตกอยู่ในความโกลาหล จึงทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็นพวกเขา
มีแสงสว่างจ้าสาดส่องเข้ามาจากระยะไกล มีเรือขนาดใหญ่หลายลำมุ่งหน้าเข้ามา คนที่อยู่ในเรืออีกฝ่ายใช้ภาษาต่างประเทศในการสื่อสารบางอย่างออกมา ส่วนคนที่อยู่บนเรือต่างกระโดดลงจากเรืออย่างไม่คิดชีวิต เพื่อเข้าไปแย่งชิงเจ็ตสกีที่จอดอยู่ใกล้ ๆ
ณภัทรอาศัยทักษะและวิธีการอันยอดเยี่ยม จนสามารถคว้าเจ็ตสกีมาได้หนึ่งลำ เขาคว้าเองของมีนาและกอดเธอไว้แน่น : “กอดเอวผมให้แน่น ๆ”
เธอซบลงบนแผ่นหลังที่หนาและกำยำของเขา สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิในร่างกายของเขา
เขาขับเจ็ตสกีด้วยความเร็วสูงสุด และมุ่งหน้าเข้าฝั่ง ละอองน้ำที่กระจายอยู่ด้านหลังกระทบเข้ากับแสงจันทร์ จนเกิดเป็นประกายเส้นโค้งสวยงาม พาดผ่านอยู่บนผืนทะเลอันมืดมิด
“เรือทหารสองลำนั้นคุณเป็นคนเรียกมาใช่ไหม ?”
“เหอะ ๆ……ฉลาดนี่”
“ฉันก็แค่สงสัยว่าคุณเรียกคนแบบไหนมากันแน่ ถึงทำให้เหล่าอาชญากรที่ไม่เกรงกลัวความตายเกิดความหวาดผวาได้เช่นนี้ ?”
“พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำเต็มไปด้วยมังกรและเสือที่แข็งแกร่ง ผมก็แค่ส่งข่าวให้ศัตรูของไบร์ทรู้เท่านั้น เขาพาคนมาเพียงแค่หยิบมือเพื่อจัดปาร์ตี้ที่นี่ คุณว่าอีกฝ่ายจะไม่คว้าโอกาสในครั้งนี้จัดการกับไบร์ทหรือ ?”
“ให้คนชั่วจัดการคนชั่ว ? คุณนี่มันร้ายจริง ๆ”
“คุณรู้สึกว่าสามีของคุณยอดเยี่ยมใช่ไหมล่ะ บางครั้งก็ต้องใช้สมองสักหน่อย”
ตอนนี้ไบร์ทนั่งเจ็ตสกีมุ่งหน้าเข้าฝั่งด้วยความอับอาย โดยมีบอดี้การ์ดคอยคุ้มกันมาตลอดทาง
“ใครเป็นคนแพร่งพรายความลับ ?”
“หัวหน้า ปกติแล้วคนที่มาเข้าร่วมในงานปาร์ตี้ล้วนแล้วแต่เป็นลูกค้ารายเก่าที่เชื่อถือได้ เรื่องนี้จึงค่อนข้างแปลกเล็กน้อย”
ไบร์ทกำหมัดแน่น แล้วต่อยลงไปบนม้านั่งแข็ง ๆ เขารู้สึกเหมือนมีเลือดกำลังค่อย ๆ ไหลออกจากหัวใจของเขา ธุรกิจของเขาในครั้งนี้ถูกทำลายย่อยยับ อีกทั้งบนเรือสำราญยังมีสินค้าสีขาวคุณภาพสูงบางประเภทรวมอยู่ด้วย ครั้งนี้จึงถือว่าเพลี่ยงพล้ำให้ศัตรูแล้ว
เขาเงยหน้าแล้วหันมองไปในทะเล เห็นเจ็ตสกีลำหนึ่งกำลังแล่นด้วยความเร็วอยู่เหนือผิวน้ำ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที : “ตามเจ็ทสกีลำนั้น !”
ทุกคนต่างมุ่งหน้าไปยังเจ็ตสกีลำนั้น หลังจากที่ระยะห่างน้อยลง ดวงตาของไบร์ทก็ฉายแววของความโกรธแค้นและตื่นเต้นออกมา : “เขาคือณภัทร ฉันเขามาให้ฉัน !”
เขาควรจะเดาออกตั้งแต่แรกแล้วว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นแผนการของณภัทร เพราะในมือของเขามีผู้หญิงที่ณภัทรรักอยู่ เพียงแต่ความโกลาหลที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทำให้เขาลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเสียสนิท
“หัวหน้า เป็นเขาจริง ๆ หรือ ? ทำไมเขาถึงมาคนเดียวได้ ?”
“เหอะ ! ฉันอยู่กับเขามาหลายปี ต่อให้เขากลายเป็นขี้เถ้า ฉันก็ยังจำเขาได้ !”
เมื่อยิ่งเข้าใกล้ เขาก็ยิ่งมั่นใจ ว่าผู้ชายที่อยู่ด้านหน้านั้นคือณภัทร ส่วนผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังเขาก็คือมีนา
“ส่งปืนมาให้ฉัน !”
“หัวหน้า เมื่อครู่พวกเราต่างตื่นตระหนก จึงไม่ได้……”
“พวกสวะ ! ไสหัวไปให้พ้น !”
เขาลุกขึ้นแล้วขับเจ็ตสกีด้วยตัวเอง : “แจ้งพี่น้องของเราให้ขับเข้าไปชน !”
เจ็ตสกีสิบกว่าลำมุ่งหน้าเข้าไปใกล้ณภัทร เขารับรู้ได้ว่าอันตรายกำลังเข้ามาใกล้ จึงสั่งมีนาว่า : “กอดผู้ชายของคุณให้แน่น ๆ”
ตอนนี้มีเจ็ตสกีลำหนึ่งพุ่งชนเข้ามา เขาเอนตัวหลบเล็กน้อย แล้วขับหนีออกจากเจ็ตสกีลำนั้น ละอองน้ำขนาดใหญ่กระเซ็นขึ้นมา ทำให้เนื้อตัวของเขาทั้งสองเปียกปอน
เจ็ตสกีสิบกว่าลำนั้นขับเข้ามาล้อมเขาเอาไว้
ไบร์ทพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา : “ณภัทร แกหมดทางหนีแล้ว !”
มีนากอดณภัทรแน่นด้วยความตื่นตระหนก เขาหันหน้าไปด้านหลังแล้วแสยะยิ้มออกมา : “คุณเชื่อใจผมไหม ?”
เธอพยักหน้าอย่างจริงจัง : “เชื่อค่ะ !”
เขาจุมพิตเบา ๆ ลงบนหน้าผากของเธอ : “ผมจะปกป้องคุณให้ปลอดภัยเอง”
เธอกอดเขาแน่น : “ฉันรู้ ณภัทร ตอนนี้เชอร์รี่บนถนนแสงดาวสุกแล้ว คุณไปเก็บเชอร์รีเป็นเพื่อนฉันได้ไหม ?”
“ได้สิ”
“ณภัทร ฉันรักคุณ”
แต่เสียงของเธอกลับถูกเสียงของละอองน้ำขนาดใหญ่กลบไปจนหมด
เจ็ตสกีสิบกว่าลำเหล่านั้นพุ่งตรงเข้ามาหาเขาในทันที แต่ภาพที่ปรากฏขึ้นคือ เขาเล่นเครื่องและพาเจ็ตสกีลอยขึ้นไปเหนือหัวของทุกคน จากนั้นจึงแล่นลงจอดบนผิวน้ำอีกครั้ง
มีนาจูบท้ายทอยของเขาด้วยความตื่นเต้น : “ณภัทร คุณยอดเยี่ยมจริง ๆ !”
“หากคุณเรียกว่าสามี จะยิ่งทำให้ผมมีแรงฮึดสู้มากขึ้นนะ !”
“สามีคะ คุณยอดเยี่ยมจริง ๆ”
“ผมจะยิ่งชอบถ้าหากคุณพูดประโยคนี้บนเตียง”
แก้มทั้งสองข้างของมีนาแดงก่ำ ถึงเวลานี้แล้ว เขายังจะมีอารมณ์พูดทะลึ่งเช่นนี้อีก
จู่ ๆ เจ็ตสกีก็ลดความเร็วลง ณภัทรมีสีหน้าเคร่งขรึม : “มีนา กระโดดลงเดี๋ยวนี้ !”