จอมพลที่รัก – บทที่ 56 นอกจากคุณแล้ว ผมก็ไม่ต้องการใครอีก

จอมพลที่รัก

ณภัทรนอนทับลงไปบนตัวของมีนาทันที แล้วจ้องมองเธอราวกับหมาป่าผู้หิวโหย : “ที่รัก ผมเองก็หิวเหมือนกัน หิวมากจริง ๆ”

“อา……”

สองชั่วโมงผ่านไป มีใครบางคนลุกขึ้นแล้วเดินลงไปชั้นล่างด้วยใบหน้าอิ่มเอม มีนาไม่หลงเหลือแม้เพียงเรี่ยวแรงที่จะขยับตัว เธอนึกเสียใจทีหลังขึ้นมาทันที หิวก็ควรจะลงไปหาอะไรกินชั้นล่างเงียบ ๆ ทำไมจะต้องไปบอกเจ้าสัตว์ร้ายนี่ด้วยนะ ? ตอนนี้ช่างเยี่ยมจริง ๆ รู้สึกหิวมาก แต่กลับไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้น

หากณภัทรเป็นหมาป่า ชั่วชีวิตนี้ของเธอก็คงเป็นได้เพียงสัตว์ตัวเล็ก ๆ อย่างกระต่าย ที่ทั้งอ่อนแอและล้มลงได้อย่างง่ายดาย จึงได้ถูกเขาขย้ำเช่นนี้

ผ่านไปสักพัก ณภัทรก็ยกอาหารอันโอชะเข้ามา เขารู้สึกอารมณ์ดี จึงเดินฮัมเพลงมาตลอดทาง มีนาจ้องมองเขาแล้วกัดฟันกรอด

“หิวแล้วไม่ใช่หรือ รีบลุกขึ้นกินอะไรสักหน่อยสิ”

เธอทำสีหน้าเบื่อหน่าย : “คุณคิดว่าฉันยังมีแรงลุกขึ้นอีกหรือ ?”

เขาดึงเธอให้ลุกขึ้น แล้วนำมากอดเอาไว้ในอ้อมแขน จากนั้นจึงป้อนซุปรังนกเข้าปากของเธอ

เธอเบือนหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์

เขาแสยะยิ้มมุมปาก : “ให้ผมป้อนคุณไหม ?”

เธอรีบยื่นมือออกไปรับซุปมาดื่มอย่างว่าง่ายทันที ซุปหนึ่งถ้วยตกถึงท้อง จากนั้นจึงตักอาหารเข้าปากไปอีกสองสามคำ ก็รู้สึกอิ่ม

เขาขมวดคิ้ว : “กินแค่นี้เองหรือ ? กินมาก ๆ จะได้อ้วนท้วนสักหน่อย เวลาผมลูบคลำจะได้รู้สึกสบาย”

เธอหันมองเขาอย่างเบื่อหน่าย : “วัน ๆ ถูกคุณขย้ำเอาแบบนี้ ฉันไม่มีทางอ้วนได้แน่นอน เอ่อ……”

คงเป็นเพราะเมื่อครู่เธอกินเร็วจนเกินไป จึงช่วยไม่ได้ที่จะสะอึกออกมา จากนั้นเธอจึงฝังเข็มลงบนนิ้วของเธอสองสามเล่มตามแบบฉบับโบราณ

เมื่อเห็นหยดเลือดบนนิ้วของเธอ เขาก็รู้สึกสงสารทันที จึงก้มหน้าลงไปดูดนิ้วของเธอเอาไว้ ความรู้สึกซาบซ่านส่งผ่านจากปลายนิ้วไปสู่หัวใจของเธอ เธอก้มมองเขา ศีรษะสะอาดสะอ้าน ผมถูกจัดแต่งเอาไว้เป็นทรงเรียบร้อย เส้นผมละเอียดอ่อนราวกับเส้นไหม เขามีสองขวัญบนศีรษะ คนเช่นนี้มักมีนิสัยดื้อรั้น และมีความต้องการทางเพศสูง แต่บางครั้งก็เผยความอ่อนโยนออกมาจนทำให้เธอรู้สึกหลงใหล

“ณภัทร……”

“เรียกที่รัก”

“ที่รักคะ เอ่อ……”

เมื่อเห็นเธอยังสะอึกออกมาไม่หยุด เขาก็แสยะยิ้มออกมา : “ผมว่าผมมีวิธีดี ๆ ที่จะรักษาอาการสะอึกแล้ว”

“อะไร ? อา……”

เขาคล้องคอเธอให้โน้มลงมา จากนั้นจึงจูบลงไปบนริมฝีปากของเธออย่างดูดดื่ม เป็นจูบที่ทั้งดุดัน อ่อนโยน แนบแน่น และยาวนาน เขาจูบเธอจนกระทั่งเธอหายใจเหนื่อยหอบจึงปล่อยเธอลง

“ได้ผลใช่ไหมล่ะ ?”

เธอมองเขาด้วยแก้มที่แดงก่ำ : “คนบ้า เห็นชัด ๆ ว่าทำเพื่อตอบสนองตัณหาของคุณ”

ริมฝีปากของเธอถูกจูบจนบวมเป่งออกมา มิหนำซ้ำยังดูเป็นมันเงาอีกด้วย ใบหน้าขาวนวลเนียนของเธอค่อย ๆ พองโตขึ้น ดูราวกับลูกพีชผลอวบอ้วน ช่างน่าดึงดูดใจจริง ๆ

“อย่ามองผมแบบนี้ ไม่อย่างนั้นผมยังอยากจะจูบคุณอีก”

ทันทีที่พูดจบ เขาก็ผลักตัวเธอให้ล้มลงไปบนเตียงทันที ตาทั้งสองคู่ประสานกัน แลกเปลี่ยนลมหายใจซึ่งกันและกัน

“พอได้แล้ว ฉันเหนื่อยแล้ว”

“เหนื่อยกายหรือว่าเหนื่อยใจ ? อาจารย์พูดอะไรกับคุณกันแน่ ถึงทำให้คุณจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเช่นนี้ ?”

เธอมองตาเขาอย่างจริงจัง : “ณภัทร ถ้าหากฉัน……ไม่ใช่มีนา ถึงขนาดไม่รู้ว่าฉันคือใครกันแน่ คุณจะทำอย่างไร ?”

เขาก้มหน้าลงไปจูบหน้าผากของเธอ : “เด็กโง่ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณก็เป็นผู้หญิงที่ณภัทรคนนี้รักที่สุด นอกจากคุณแล้ว ผมก็ไม่ต้องการใครอีก !”

ดวงตาของเธอหดหู่ เธอใช้แขนทั้งสองข้างโอบรอบคอของณภัทรเอาไว้และจูบเขาเบา ๆ น้ำตาสองสายไหลรินลงมาจากหางตา

ความเหนื่อยล้าตลอดทั้งคืนทำให้เธอรู้สึกง่วงมาก จึงนอนหลับสนิท ณภัทรลุกขึ้นแล้วไปยืนอยู่ข้างหน้าต่าง มองดูท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดด้านนอก ดวงตาของเขาเป็นประกายเล็กน้อย อย่างไรเสียเธอก็ยังไม่ยอมเล่าเรื่องทุกข์ใจของเธอให้เขาฟัง แต่ก็ไม่เป็นไร เขาสามารถสืบเองได้ ! โดยปกติแล้วเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเธอ เขาก็มักจะสืบหาให้กระจ่างแจ้งอย่างสุดกำลัง ไม่มีทางปล่อยให้เธอแบกรับเรื่องทุกข์ใจเอาไว้เพียงลำพังเด็ดขาด เขาเป็นผู้ชายของเธอ จึงควรช่วยเธอแบกรับเอาไว้

เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็ใช้มือคลำข้าง ๆ ตัวด้วยความเคยชิน แต่กลับสัมผัสเข้ากับบางอย่างที่ร้อนฉ่า อีกทั้งยังบวมเป่งขึ้นมาอีกด้วย

เธอลืมตาขึ้นทันที : “คุณ……คุณยังอยู่อีกหรือ ?”

ตอนนี้เขาควรจะไปที่ค่ายทหารแล้วไม่ใช่หรือ ?

อันที่จริงแล้ว วันนี้เขาตั้งใจลางานเพื่ออยู่เป็นเพื่อนเธอที่บ้าน หลังจากที่ตื่นเช้าขึ้นมา เขาก็นั่งเฝ้าเธออยู่ตลอด เมื่อรู้สึกเบื่อก็พิงหัวเตียงแล้วนั่งอ่านข่าวสารของกองทัพ คิดไม่ถึงว่าขณะที่กำลังอ่านอยู่นั้น มือคู่หนึ่งที่นุ่มนวลจะ……

เขายิ้มอย่างชั่วร้าย : “ต้องการหรือ ? พวกเราจะได้ออกกำลังกายยามเช้าด้วยกันพอดี”

เธอสั่นไปทั้งตัว แล้วรีบลุกขึ้นนั่งทันทีโดยไม่สนใจความเมื่อยล้าของร่างกาย : “ฉัน……วันนี้ฉันมีการผ่าตัดครั้งสำคัญที่จะต้องไปทำ”

เมื่อเห็นท่าทางที่เธอรีบลุกจากเตียงอย่างลนลานก็อดขำไม่ได้ ช่างดูน่ารักเสียจริง ๆ

เป็นเพราะความเคยชินที่ถูกบ่มเพราะมาในค่ายทหาร เขาจึงใช้เวลาเพียงแค่สามนาทีในการจัดการกับอาหารเช้า แต่ก็ยังไม่รีบจากไป แต่ยังคงนั่งอ่านนิตยสารต่างประเทศอยู่บนโซฟาอย่างสบาย ๆ และคอยแอบมองเธอเป็นระยะ ๆ แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมอง ก็แสร้งทำทีเป็นอย่างนิตยสารอย่างไม่ใส่ใจ

“วันนี้ไม่ต้องทำงานแล้ว ผมจะพาคุณไปที่ที่หนึ่ง”

มีนาจับตะเกียบในมือเอาไว้แน่น : “ไม่ได้ ฉันยังมีเคสผ่าตัดรออยู่ อีกทั้งคนไข้ก็ระบุอย่างชัดเจนว่าต้องการให้ฉันเป็นคนผ่า”

จากนั้นเธอก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวอย่างรวดเร็ว

ณภัทรเงยหน้าขึ้นมองก็รู้ว่าเธอกำลังโกหก แต่เขาก็ไม่คิดที่จะเปิดเผยเธออย่างรวดเร็วนัก จึงทำเพียงแค่พูดออกมาอย่างนิ่งเฉยว่า : “วันนี้ผมจะไปที่ทำเนียบประธานาธิบดี ถือโอกาสไปส่งคุณที่โรงพยาบาลด้วยก็แล้วกัน”

เธอเกรงว่าเขาจะเกิดความสงสัยในตัวเธอ จึงไม่ได้ปฏิเสธ

เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ทันทีที่เธอแน่ใจว่าเขาจากไปแล้ว ก็ค่อย ๆ แอบเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นจึงเดินออกจากประตูด้านหลังโรงพยาบาล แล้วเรียกรถแท็กซี่คันหนึ่ง

“ลูกพี่ เป็นพี่สะใภ้จริง ๆ จะให้ตามไปไหมครับ ?”

“ระวังอย่าให้เธอสังเกตเห็น”

“ลูกพี่จับตาดูให้ดี ๆ นะครับ”

วายุกลับหัวรถแล้วขับตามแท็กซี่คันนั้นไป รถทั้งสองคันรักษาระยะห่างกันพอสมควร มีนาไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้น

ผ่านไปสักพัก รถแท็กซี่ก็มาจอดอยู่ที่ด้านหน้าของตระกูลพรหมพิริยะ มีนาจอดรถแล้วเดินเข้าไปด้านใน

“ลูกพี่พวกเราจะบุกเข้าไปไหมครับ ?”

ณภัทรส่ายหัว เขาหรี่ตาแล้วมองเข้าไปยังคฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูลพรหมพิริยะ และเกิดความกังวลขึ้นมาในใจ

เมื่อปรางทองเห็นมีนาซึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ก็เดินเข้าไปเพื่อที่จะตบเธอ แต่กลับถูกเธอจับแขนเอาไว้แน่น : “คุณป้าคิดจะทำอะไรคะ ?”

“หึ ! แกทำให้น้องสาวของแกต้องมีสภาพแบบนั้น แล้วยังจะมีหน้ากลับมาอีกหรือ ?”

เธอยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า : “เธอเสียสติจนถึงขั้นยอมกินอุจจาระ แล้วยังไม่สมควรจะให้เธออยู่ที่นั่นอีกหรือ ? ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องที่เธอเป็นน้องสาวของหนูจริง ๆ หรือเปล่าก็ยังบอกไม่ได้”

ปลางทองโซเซถอยหลังไป แววตาของเธอสั่นคลอนเล็กน้อย เด็กคนนี้รู้อะไรมาหรือเปล่า ?

ตอนนี้ไกรเลิศเดินลงมาจากด้านบน เมื่อเขาเห็นมีนาเข้า ก็รีบเร่งฝีเท้าทันที บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่ประจบสอพลอออกมา : “มีนา ทำไมถึงกลับมาแล้วล่ะ ? แล้วนายพลณภัทรล่ะ ?”

เธอหันมองเขาอย่างเย็นชา : “คุณไกรเลิศ ฉันอยากพูดคุยกับคุณเป็นการส่วนตัวสักหน่อย”

ไกรเลิศขมวดคิ้วเล็กน้อย : “ทำไมแม้แต่คำว่าพ่อก็ไม่ยอมเรียกเสียแล้ว”

“เหอะ ๆ คุณสมควรถูกเรียกอย่างนั้นหรือ ?”

“แก !”

ไกรเลิศง้างมือขึ้น แต่เมื่อคิดถึงฐานะของเธอ ก็ค่อย ๆ ลดมือลง : “ลูกตามพ่อมาสิ”

มีนาตามเขาไปถึงห้องหนังสือ แล้วเริ่มพูดอย่างตรงไปตรงมา : “ฉันเป็นลูกสาวของใครกันแน่ ?”

จอมพลที่รัก

จอมพลที่รัก

Status: Ongoing
ครั้งแรกที่เจอเธอ เธอไล่เขาไป เจอกันครั้งที่สอง เธอถือมีดผ่าตัดจ่อที่คอของเขา……แต่ไม่รู้ทำไม เขาถึงรักเธอได้ถึงขนาดนี้ แม้จะโดนหลอกยังไงก็ตาม เขาก็จะเอาเธอมาเป็นภรรยา

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท