เขมิกากรีดร้องโวยวายและโยนเข็มฉีดยาในมือทิ้งลงไปบนพื้น จ้องเธอเขม็งด้วยดวงตาแดงก่ำ: “สารเลวแกมันนังงูพิษ!”
มีนาตบเข้าที่ใบหน้าของเธออย่างไม่เกรงใจ: “หึ! ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว!”
เขมิกายกมือขึ้นคลำรอยแผลเป็นบนใบหน้าของตัวเอง ความเกลียดชังในดวงตายิ่งทวีคูณ: “ถ้าไม่ใช่เพราะแกฉันจะกลายมาเป็นอย่างทุกวันนี้ได้ยังไง! เป็นแกที่แย่งทุกอย่างไปจากฉัน!”
มีนาหมดคำจะพูด คนเลวไม่มีวันที่จะมองเห็นความผิดของตัวเอง มักจะโยนความผิดไปให้คนอื่นตลอด
“เห็นแก่ที่พวกเราต่อสู้แย่งชิงกันมานานหลายปี ฉันจะบอกอะไรแกให้นะ ต่อให้แกเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลพรหมพิริยะจริง ต่อให้ตอนนี้แกสวยเหมือนนางฟ้า คุณการันต์ก็ไม่มีทางรักแก”
การันต์ถูกวางไว้ในจุดที่อ่อนไหวที่สุดในหัวใจของเขมิกา ทันทีที่ได้รับการกระทบกระเทือน สติทั้งหมดของเธอก็จะหายไปทันที เธอแทบจะกรีดออกมา: “ไม่จริง! ถ้าหากคนที่หมั้นกับเขาในตอนนั้นเป็นฉัน เขาจะต้องรักฉันแน่ เป็นแกที่แย่งหัวใจของเขาไป!”
มีนาเดินใกล้เข้าไปอย่างช้า ๆ : “ดูเหมือนแกจะรู้ทุกอย่างแล้ว งั้นแกบอกฉันหน่อยสิว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ถึงทำให้ครอบครัวของแกหวาดกลัวแบบนี้!”
เธอตกใจสะดุ้งโหยง และดึงสติกลับคืนมาทันที จากนั้นก็เริ่มแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้: “ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น……”
มีนายื่นมือออกไปบีบเข้าที่คอของเธอ จากนั้นก็กดเธอลงไปในบ่อน้ำพุ เธอออกแรงขัดขืนอย่างหนัก จนน้ำในบ่อน้ำพุแตกกระเพื่อมเป็นระลอก ๆ ในตอนที่เธอกำลังจะขาดอากาศหายใจนั่นเอง มีนาพลันปล่อยมือจากเธอ: “แกสามารถใช้ความลับที่มีอยู่ในมือแลกกับชีวิตของแก จะลองพิจารณาดูหน่อยไหม”
เขมิกาหอบหายใจติดต่อกัน เธอมองดูเงาสะท้อนของตัวเองที่มีสภาพทุลักทุเลที่อยู่ในน้ำ ความโกรธแค้นผุดขึ้นมาในใจครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เธอรู้ว่าตอนนี้ตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมีนา และวิธีเดียวที่จะรักษาความลับเอาไว้ได้ก็คือ……
ทันใดนั้นเธอก็ดึงผมของตัวเอง และยัดเข้าไปในปากเส้นแล้วเส้นเล่า ปากก็พึมพำไป: “ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
มีนายิ้มเยาะ ผู้หญิงคนนี้ถ้าไม่ใช่เพราะตัวเองโง่เกินไป ก็คงคิดว่าคนอื่นโง่ เมื่อกี้ยังด่าเธอเป็นฉอด ๆ
ทำไมแค่แป๊บเดียวก็เริ่มเสแสร้งแกล้งทำเป็นบ้าไปแล้วล่ะ?
มีนาถีบเข้าไปที่ก้นของเธอ ได้ยินเพียงเสียงดังตูม เขมิกาได้ตกลงไปในบ่อน้ำพุอย่างทุลักทุเล เธอเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำจ้องมองมีนาด้วยความอาฆาตแค้น
“หึ! ดูความแค้นในดวงตาของแกสิมันได้ขายแกแล้ว”
ถึงตอนนี้เขมิกาถึงนึกขึ้นได้ จึงรีบทำเป็นกระเสือกกระสนอยู่ในน้ำด้วยความตื่นตระหนก: “ช่วยด้วย ช่วยด้วย……”
มีนาทำเป็นปัดฝุ่นละอองที่ไม่มีอยู่จริงบนเสื้อผ้า พลางพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา: “การแสดงของแกน่ะมันไม่ได้เรื่องเลยจริง ๆ มิน่าถึงได้แต่กินขี้อยู่วันยังค่ำ”
เขมิกาโมโหจนแทบกระอักเลือดออกมา แทบอยากจะปีนออกไปกดหัวนังสารเลวนั่นลงไปในน้ำให้หนัก ๆ ในตอนที่เธอกำลังจะมีการเคลื่อนไหวนั่นเอง ก็มีพยาบาลสองคนเดินเข้ามาทางนี้ เธอแกล้งทำเป็นบ้าและเอามือวักน้ำ: “อิ ๆ สนุกจัง”
พยาบาลสองคนนั้นเอาเธอขึ้นมาจากน้ำ
“เฮ้อ ผู้หญิงคนนี้น่าสงสารจริง ๆ เป็นคุณนายตระกูลผู้ดีแท้ ๆ กลับกลายมาเป็นบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้”
“หึ จะไปโทษใครได้ ผู้หญิงคนนี้ทำตัวเองแท้ ๆ พวกตระกูลผู้ดีจะรับผู้หญิงที่มีพฤติกรรมกำเริบเสิบสาน ไร้ยางอายอย่างผู้หญิงคนนี้ได้ยังไงกัน?”
มีนาโมโหกัดฟันกรอด แต่ก็ทำได้เพียงแสร้งทำเป็นบ้าและปล่อยให้พวกเขาหามตามอำเภอใจ
ในเวลานี้ยิหวาได้เดินเข้ามาแต่ไกล ในขณะที่เธอได้เห็นเขมิกาที่มีสภาพทุลักทุเลนั่นเอง ก็ได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่านังโง่คนนี้จะทำพลาด จากนั้นเธอก็ได้พูดกับพยาบาลทั้งสองคนอย่างหวังดี: “พวกเธอไปยุ่งอย่างอื่นเถอะ เดี๋ยวฉันจะดูแลผู้หญิงบ้าคนนี้เอง”
จากนั้นพยาบาลก็ได้จากไป ทั้งสองคนพลางกระซิบกันเบา ๆ
“หล่อนถูกเอาไปขังไว้ที่โซนกักกันโรคเอดส์แล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงกลับมาเร็วขนาดนี้ล่ะ?”
“ได้ยินว่าที่ด่านกักกันตรวจไม่พบเชื้อเอชไอวีในตัวเธอ นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลยังมีหลักฐานว่าเธอยังเป็นหญิงพรหมจรรย์อยู่อีกด้วย”
“อะไรนะ? งั้นผู้หญิงที่มีอะไรกับผู้ชายมากหน้าหลายตาที่อยู่ในคลิปคนนั้นเป็นใคร?”
“ใครจะไปรู้ล่ะ ได้ยินว่าคลิปวิดีโอนั่นได้ถูกลบไปแล้ว แถมยังมือคนออกมาแก้ข่าว บอกว่าผู้หญิงที่อยู่ในคลิปเป็นแค่คนที่หน้าตาเหมือนเธอมากแค่นั้น แต่ไม่ใช่ยิหวา”
“หึ ๆ ๆ มีพ่อที่มีอำนาจมีอิทธิพลมันก็ดีแบบนี้สินะ สามารถเปลี่ยนดำเป็นขาวได้”
“ยังไงซะต่อไปนี้พวกเราต้องอยู่ห่าง ๆ หล่อนไว้ ไม่แน่หล่อนอาจจะติดโรคเอดส์จริง ๆ ก็ได้”
ยิหวาหยิบผ้าพันแผลออกมาจากกระเป๋าเพื่อพันแผลให้เขมิกา แต่กลับถูกเธอผลักออกทันที เธอยิ้มอย่างแข็งกระด้าง: “เอ่อ……มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไรหรอก อีกเดี๋ยวพอกลับไปถึงห้องคนไข้ฉันค่อยทำเองก็ได้”
หึ! นี่หล่อนรังเกียจเธองั้นเหรอ? แววความโหดเหี้ยมแวบขึ้นมาในดวงตาของยิหวา เธอกล่าวอย่างเรียบ ๆ : “แล้วแต่”
“อ้อใช่ ในเข็มฉีดยานั่นใส่อะไรไว้กันแน่?”
“เธอฉีดโดนมันยัง?”
“ปฏิกิริยาตอบสนองของนังสารเลวนั่นเร็วเกินไป มันพลิกมือแล้วเอาเข็มฉีดยาแทงใส่ฉัน แม้แต่ชุดกระโปรงมันฉันก็ยังไม่ได้แตะเลยด้วยซ้ำ”
ความดูถูกเหยียดหยามปรากฏขึ้นมาในแววตาของยิหวา คนโง่ก็เป็นคนโง่อยู่วันยังค่ำ เธอก้มลงเก็บเอาเข็มฉีดยาขึ้นมา แล้วใช้ผ้าก๊อซห่อเอาไว้อย่างระมัดระวัง: “ไม่มีอะไร ก็แค่ตัวยาบางอย่างที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เดิมทีฉันต้องการทำให้มันขายหน้าต่อหน้าผู้คน”
“มิน่าฉันถึงรู้สึกคันไปทั้งตัว อีกเดี๋ยวเธออย่าลืมเอายาแกแพ้ให้ฉันล่ะ”
ยิหวาพาเขมิกาไปส่งที่ห้องคนไข้วีไอพี ในวินาทีที่ปิดประตูนั่นเอง ที่มุมปากของเธอก็ได้ปรากฏรอยยิ้มที่แปลกประหลาดออกมา แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ยังไงผู้หญิงโง่คนนี้ก็รู้ความลับของเธอมากเกินไป ให้หล่อนตายไปแบบไม่รู้ตัวแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน พอถึงตอนนั้นก็ไม่มีใครสาวความมาถึงตัวเธอได้
จากนั้นเธอก็ได้เดินไปในที่ที่ไม่มีคน แล้วเอาเข็มฉีดยาที่เปื้อนเลือดนั่นใส่ไว้ในถุงซิป จากนั้นก็ฟังลงไปในดิน
ทิวาได้นอนหลับไปแล้ว มีนาเองก็ไม่อยากจะปลุกเธอ ก็เลยเอาตุ๊กตา ขนมและเสื้อผ้าที่ซื้อมาให้เธอวางไว้ในห้องผู้ป่วย จากนั้นก็จากไปอย่างเงียบ ๆ
เมื่อเธอเดินมาถึงลานจอดรถและกำลังจะขับรถออกไปนั่นเอง จู่ ๆ เงาร่างที่คุ้นเคยก็ได้ขวางทางของเธอเอาไว้ เป็นการันต์นั่นเอง ไม่เจอกันมาหลายวัน เขายังคงสง่างามและหล่อเหลาเหมือนเดิม แต่บนใบหน้าที่หล่อเหลานั้นกลับมีความเหี่ยวเฉาปะปนอยู่: “มีนา ผมอยากจะคุยกับคุณหน่อย”
มีนาขมวดคิ้วเล็กน้อย: “ที่ควรพูดฉันก็ได้พูดกับคุณชัดเจนแล้ว ระหว่างพวกเรายังมีอะไรต้องพูดอีก”
เธอสตาร์ทรถอีกครั้งเตรียมที่จะเลี้ยวไปทางอื่น แต่เขาก็ยังคงขวางเอเอาไว้อย่างดื้อรั้น เธอไม่มีทางเลือก จึงได้แต่เปิดประตูรถ
เขาขึ้นไม่นั่งบนที่นั่งข้างคนขับและกุมมือของเธอเอาไว้ทันที : “มีนา คุณไปจากไอ้ณภัทรในตอนนี้ก็ยังทัน”
มีนาสะบัดมือเขาออกไป: “คุณการันต์ ตอนนี้คุณควรที่จะเป็นห่วงภรรยาของคุณ ไม่ใช่ฉัน”
นัยน์ตาของบเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด: “ไอ้ณภัทรไม่เหมาะสมกับคุณเลยสักนิด คนอย่างเขาเดินอยู่บนคมมีดตลอดทั้งวัน ไม่ระวังเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้คุณพลอยซวยไปด้วย ยิ่งไปกว่านั้นที่มันแต่งงานกับคุณในตอนนั้นก็เพราะมันอิจฉา……”
“พอได้แล้ว! นั่นมันเป็นสิ่งที่ฉันเลือกเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลยสักนิด! ตอนนั้นตระกูลอัครโภคินให้คุณเปลี่ยนไปแต่งกับเขมิกา คุณเองก็ไม่ได้ขัดขืนไม่ใช่เหรอ?”
การันต์หลับตาลงด้วยความเจ็บปวด พอเสียเธอไป เขาถึงพบว่าตัวเองได้สูญเสียโลกทั้งใบไปแล้ว
ตื้ด ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของมีนาดังขึ้น เป็นข้อความข่าว และข้อความในข่าวนั่นทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า: นายพลณภัทรแห่งประเทศซีดานมีความสัมพันธ์กับไบร์ทผู้นำองค์กรซาสนานาชาติ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นผู้น้ำขององค์กรซาสตัวจริงที่อยู่เบื้องหลัง
มีนาทิ้งโทรศัพท์ลงและคว้าหมับเข้าที่คอเสื้อของการันต์ และมองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ: “บอกฉันมา นี่มันเรื่องอะไรกันแน่!”