ชั่วพริบตาหน่วยสอดแนมจากยอดหน้าผาก็ได้ส่งข่าวคราวมา มีผู้ลี้ภัยจำนวนหนึ่งกำลังจากไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ณภัทรเลิกคิ้วยิ้มเยาะ: “ผู้ลี้ภัยเหรอ? แผนหลบหนีของไบร์ทนี่ไม่ได้เรื่องจริง ๆ”
ผู้ช่วยธนา: “พวกเราล้อมมันมานานขนาดนี้ ดูเหมือนว่าครั้งนี้มันจะทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ”
“ครั้งนี้ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องจับตัวมันให้ได้ ไม่งั้นหมากกระดานนี้ของท่านประธานาธิบดีคงต้องเสียเปล่า!”
ณภัทรนำผู้ช่วยธนาและพวกอีกหลายคนขับรถวิบากไปทางยอดหน้าผาเพื่อไล่ล่าตามจับไบร์ททันที ตอนนี้เขาได้แบกข้อหาขายชาติสมรู้ร่วมคิดกับศัตรูอยู่ มีเพียงจับตัวไบร์ทให้ได้ ถึงจะสามารถเปิดโปงคนที่อยู่เบื้องหลังออกมา และลบล้างข้อหาให้กับตัวเองได้
วายุและคิงถูกทิ้งให้อยู่เฝ้าฐานทัพ เสียงปืนดัง ‘ปัง’ ลอยออกมาจากจอมอนิเตอร์ ทั้งสองคนหันไปดูหน้าจอ เห็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งล้มอยู่ในกองเลือด
คิงกัดแอปเปิลไปพลางทำท่ากำหมัด: “ทำได้สวย! ให้พวกขยะองค์กรซาสนั่นได้รู้ซะบ้างว่าพวกเราหน่วยอินทรีย์อยู่ยงคงกระพัน ต่อให้พวกมันให้ผู้หญิงเปลือยกายเดินเข้ามาเป็นกลุ่ม ฉันก็จะไม่แลตามองเลยด้วยซ้ำ!”
วายุเพียงรู้สึกว่าผู้หญิงที่นอนอยู่บนพื้นคนนั้นหน้าตาคุ้น ๆ เขาหยิบเมาส์ขึ้นมาและค่อย ๆ ขยายภาพขึ้น สีหน้าของเขาพลันซีดเซียวลงทันที: “คิง ทำไมฉันรู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าเหมือนพี่สะใภ้จังวะ?”
คิงเคี้ยวแอปเปิลคำใหญ่ จากนั้นก็ตบฉาดเข้าที่หน้าของวายุ: “นายตาบอดหรือไงวะ นั่นมันพี่สะใภ้ชัด ๆ! เดี๋ยวนะ……พี่! สะ! ใภ้!”
กึก! แอปเปิลในมือของเขาหล่นลงไปบนพื้น ทั้งสองคนสบตากันด้วยความหวาดกลัว จากนั้นก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
วายุหยิบกุญแจรถออกมาและเสียบอยู่หลายครั้งถึงเสียบเข้าไปได้: “พี่สะใภ้ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ”
คิงมองไปข้างหน้าด้วยสายตาเหม่อลอย: “วายุ นายว่าพี่สะใภ้โดนยิงไปหนึ่งนัดจะรอดเหรอวะ?”
วายุถีบคิงลงไปด้วยความโมโห: “นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังจะมาซ้ำเติมอีก!”
คิงล้มลุกคลุกคลานไปขึ้นรถอีกคัน และตามออกไป ต่อให้เขาโง่ขนาดไหน แต่ในตอนนี้เขาก็เข้าใจดี พี่สะใภ้คือลมหายใจของลูกพี่ ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นในฐานทัพของพวกเขา ลูกพี่จะต้องบ้าแน่ ๆ ทันทีที่ลูกพี่เสียสติไปนั่นเท่ากับเป็นหายนะที่ทำลายล้างโลก ใครก็อย่าคิดว่าจะมีชีวิตรอดไปได้
ในเวลานี้ มือสไนคนนั้นได้โดดลงมาจากต้นไม้อย่างคล่องแคล่ว และเดินตามกลิ่นเลือดเข้าไปใกล้ ๆ ‘ศพ’ อย่างช้า ๆ เขาแหวกพุ่มไม้ออก แต่กลับพบเพียงกองเศษผ้า ข้างบนยังมีรอยเลือดอยู่เป็นจุด ๆ แย่แล้ว คนคนนั้นหนีไปแล้วงั้นเหรอ?
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเย็นวาบขึ้นมาที่ท้ายทอย เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังลอยมา: “วางปืนลง! แล้วยกมือขึ้น!”
เขาทำตามอย่างว่าง่าย แต่ทว่าเขาก็รู้สึกเจ็บที่ท้ายทอยและสลบไป
ในตอนที่มีนาอยู่ที่ค่ายในประเทศเดมอนกับณภัทร เคยเห็นมือสไนซุ่มยิงฆ่าคนมาก่อน และรู้ว่าภารกิจจะนับว่าสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อมั่นใจแล้วว่าเป้าหมายได้ตายแล้วจริง ๆ จึงได้ถอดเสื้อผ้าออกและหลบอยู่ในพุ่มไม้
เธอถอดเสื้อผ้าของมือสไนคนนั้นออกและสวมใส่ จากนั้นก็ลากเขาเข้าไปไว้ในพุ่มไม้ แล้วหยิบปืนของเขาขึ้นมาและเดินต่อไปด้านหน้า เธอจะต้องซ่อนตัวเอาไว้
ณ เวลานี้ วายุและคิงได้รีบไปในที่เกิดเหตุอย่างร้อนรน บริเวณโดยรอบมีต้นไม้ใหญ่ ๆ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น บนหัวมีเหล่านกที่แตกตื่นบินว่อน เสียงลมหวือหวาผัดผ่านไป กิ่งไม่สั่นไหวไปมา แสงที่สาดส่องลงมาเคลื่อนไหวไปตามสายลม เหมือนกับหัวใจที่กระสับกระส่ายของพวกเขาในตอนนี้
คิงเอามือวางไว้ที่ปากและเป่าส่งสัญญาณที่คุ้นเคย แต่กลับไม่มีมือสไนตอบรับเขา เขาอดไม่ได้ที่จะก่นด่าขึ้นมา: “แม่งเอ๊ย! ไอ้เชี่ยนั่นคงไม่ได้หนีไปแล้วหรอกนะ?”
วายุได้กลิ่นคาวเลือดลอยอยู่ในอากาศ สีหน้าซีดเซียว: “พี่สะใภ้……น่าจะอยู่ใกล้ ๆ นี้แหละ”
ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงแกร็ก ๆ ดังลอยออกมาจากพุ่มไม้ ทั้งสองคนรีบวิ่งเข้าไปทันที แต่สิ่งที่พบกลับเป็นมือสไนที่สามกางเกงในเพียงตัวเดียวคนนั้น
จู่ ๆ วายุก็หัวเราะขึ้นมา เขาแทบจะร้องไห้ด้วยความดีใจ คิงมีสีหน้างงงัน: “วายุ นายปัญญาอ่อนไปแล้วหรือไง?”
“นี่ต้องเป็นฝีมือของพี่สะใภ้แน่!”
เขาเป็นคนที่เคยถูกมีนาถอดกางเกงมาแล้วสองครั้งเชียวนะ ประสบการณ์แบบนี้เขามีอยู่แล้ว!
คิงเองก็ดีใจจนกำหมัดชกต้นไม้อยู่ไม่หยุด: “ตกใจแทบตายแหนะ พี่สะใภ้นี่จริง ๆ เลย!”
ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังดีใจอยู่นั่นเอง ก็ได้ยินเสียง ‘ปัง’ ดังขึ้นหลายครั้ง ฝุ่นควันลอยขึ้นมาในที่ที่ห่างออกไป จากนั้นเสียงคำรามของเครื่องยนต์รถก็ได้ดังขึ้น
วายุตบเข้าไปที่ต้นขาของตัวเอง: “แย่แล้ว! พี่สะใภ้ระเบิดรถของพวกเราคันหนึ่ง และขับรถอีกคันไปแล้ว!”
คิงยิ้มย่างโง่ ๆ : “จริง ๆ เลย เดี๋ยวนะ……แล้วพวกเราจะกลับยังไง?”
วายุมองเขาอย่างหน้าดำหน้าแดง: “คิง ตอนนั้นนายถูกพี่เลือกมาได้ยังไงวะ?”
คิงมีท่าทางภาคภูมิใจ: “ฉันใช้หมัดล้มชายร่างบึกบึนไปสิบคน เข้าตาลูกพี่ทันที”
“นายมันก็ทำเป็นแค่แกว่างหมัดน่ะแหละ ยังยืนบื้ออยู่ทำไม รีบตามไปเร็ว!”
เขาไม่ได้เป็นห่วงว่าพี่สะใภ้จะได้รับความไม่เป็นธรรมอะไร แต่เขากังวลว่าพี่สะใภ้จะพลิกค่ายทหารของพวกเขา! เพราะคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็ไม่คุ้นหน้าทั้งนั้น คนที่คุ้นเคยล้วนออกไปปฏิบัติภารกิจกับลูกพี่หมดแล้ว
วายุและคิงรีบวิ่งกลับไปอย่างไม่คิดชีวิต พอกลับมาถึงค่ายก็เห็นเพียงฝุ่นควันฟุ้งกระจายเต็มไปหมด เขาจับทหารคนหนึ่งเอาไว้แล้วเอ่ยถาม: “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“อ๋อ เมื่อกี้มีสายลับหญิงคนหนึ่งแอบเข้ามาและเผาห้องครัวของพวกเราครับ”
“แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ?”
“ถูกร้อยตรีมานพเอาตัวไปยิงประหารที่ช่องลมแล้วครับ”
“เชี่ย! พวกไม่มีสมอง! ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนั้นพวกแกอย่าหวังว่าจะอยู่ดีเลย!”
เขาและคิงขับรถตามไปอย่างรวดเร็วราว ทิ้งเหล่าทหารที่มีสีหน้างงงันเอาไว้
วายุเพิ่มความเร็วรถจนถึงขีดสุด หมุนพวงมาลัยอย่างกระวนกระวายใจ: “พี่สะใภ้ พี่สะใภ้ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ”
“วายุ ฉันคิดว่า……”
“นายหุบปากซะ!”
……
ณ ช่องลมร้อยตรีมานพผลักมีนาเดินไปข้างหน้า เธอกล่าวอย่างเย็นชา: “ฉันเคยบอกแล้ว ถ้านายฆ่าฉัน นายจะต้องเสียใจแน่”
“เหอะ! เธอตื่นสักทีเถอะ บนโลกใบนี้ผู้หญิงที่อยากเป็นคุณนายท่านนายพลของพวกเรามีอยู่มากมายก่ายกอง แต่น่าเสียดายที่ท่านนายผมของพวกเราสนใจแค่คนเดียวเท่านั้น”
มุมปากของมีนากระตุกเล็กน้อย: “ถ้าฉันบอกว่าฉันคือผู้หญิงคนนั้นนายจะเชื่อไหม?”
เขาเบ้ปาก และทำตามองบนเป็นเชิงบอกว่าเธอฝันไปเถอะ
มีนาจนปัญญา บนตัวของเธอไม่มีหลักฐานที่สามารถยืนยันตัวตนได้อยู่เลย หรือว่าเธอจะต้องตายอยู่ที่นี่จริง ๆ งั้นเหรอ?
ร้อยตรีมานพหยุดฝีเท้าลง: “เธอดูสถานที่แห่งนี้สิเป็นยังไงบ้าง ฮวงจุ้ยไม่เลว ไม่แน่ว่าชาติหน้าเธออาจจะเกิดมาในท้องที่ดีก็ได้”
มีนามองไปที่ริมทะเลสาบ ในใจได้ปรากฏแผนการขึ้นมา ปากก็เอ่ย: “ต่างก็บอกว่าผู้หญิงทำมาจากน้ำ งั้นหลังจากที่ฉันตายไปก็ขอจมลงไปในทะเลสาบแล้วกัน”
ความสงบของเธอทำให้ร้อยตรีมานพรู้สึกชื่นชม: “เธอเป็นผู้หญิงที่พิเศษจริง ๆ”
มีนายืนอยู่ริมทะเลสาบ ร้อยตรีมานพยกปืนชี้มาที่เธอ
ปัง! ในตอนที่ลูกกระสุนถูกยิงออกไปนั่นเอง เธอก็ได้โค้งตัวตกลงไปในทะเลสาบ
ร้อยตรีมานพวิ่งเข้าไป แต่กลับเห็นเพียงระลอกคลื่น เขายกปืนขึ้นและยิงลงไปบริเวณนั้นหลายนัด เลือดได้ปรากฏขึ้นมาบนผิวน้ำเป็นชั้น ๆ