ตอนที่มีนากำลังจะหายใจไม่ออกนั้น ทันใดนั้นเองคนนั้นก็หันกลับมา แล้วจูบลงบนริมฝีปากของเธอ ส่งออกซิเจนในปากไปให้เธอ เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาของณภัทรปรากฏความชั่วร้ายออกมา
เธอเอาเข่าจู่โจมเข้าไปตรงหว่างขาทั้งสองข้างของเขาอย่างโมโห เพียงแต่เขาหลบได้อย่างว่องไว แล้วจับเท้าของเธอเอาไว้มาล้อมรอบเอวของตัวเอง : “แม่สาวน้อย นี่คือวิธีการตอบแทนของคุณอย่างนั้นหรือ?”
“ณภัทร คุณอยากจะให้ฉันตายใช่ไหม?”
“ใช่……..” มุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ถูคลอเคลียร่างของเธออย่างมุ่งร้าย แล้วอีกสามคำที่เหลือก็พูดออกมาโดยอ่านจากรูปปาก
มีนาหน้าแดง : “ณภัทร คุณอย่ามาก่อกวนสิ”
เขาจูบลงบนจมูกเธอเบาๆ : “โอเค ครั้งนี้ปล่อยคุณไปชั่วคราวก่อน”
เขาเหมือนกับปลาที่ลอยอยู่ในทะเล ร่างกายที่แข็งแรงของเขากำลังว่ายอยู่ในสระน้ำสาดกระเซ็น
เธอถือแก้วไวน์อยู่ในมือ แล้วชื่นชมวิวทิวทัศน์ตรงหน้าอย่างเงียบๆ แสงไฟนีออนหลากสีกระทบผิวน้ำราวกับเชื่อมเข้าด้วยกันกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงของดวงดาว คนทั้งคนเหมือนกับเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกจินตนาการแห่งมายากลอย่างไรอย่างนั้น งดงามเสียจนไม่สามารถใช้คำพูดบรรยายออกมาได้
เวลานี้ณภัทรค่อยๆ เข้ามาเสียดสีอย่างไม่รู้ตัว แล้วแย่งไวน์ในมือของเธอไปดื่มรวดเดียวหมด เธอถลึงตาขึ้น : “นั่นมันของฉันนะ”
“ได้ ผมคืนให้คุณนะ”
แขนของเขาสะบัดไป แล้วริมฝีปากบางเซ็กซี่ที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์ก็ประทับลงไป เขาเอาไวน์ในปากส่งเข้าไปในปากของเธอ ไวน์รสชาติดี ผสมกับกลิ่นยาสูบ ผสมผสานกับกลิ่นหอมจากปากของเธอ รวมเข้าด้วยกันกลายเป็นรสชาติที่ทำให้คนรู้สึกหลงใหลได้อย่างยากที่จะอธิบาย
ค่ำคืนที่งดงามเป็นแสงระยิบระยับขึ้นๆ ลงๆ ในดวงตาของเธอ น้ำกระทบกับร่างของทั้งสองคน เธอรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นเรือลำเล็กลำหนึ่งที่ลอยอยู่ในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ตามจังหวะแห่งความงดงามทั้งสี่ฤดูของเขา ฤดูใบไม้ผลิที่เยือกเย็น ฤดูร้อนที่แผดเผา ฤดูใบไม้ร่วงที่ทอดยาวติดต่อกัน ฤดูหนาวที่เนิ่นนาน……
สุดท้ายแล้วมีนาเหนื่อยเสียจนไร้เรี่ยวแรง ณภัทรอุ้มเธอเดินออกมาจากสระว่ายน้ำ หลังจากที่กลับมายังห้องวีไอพีแล้ว ณภัทรก็วางเธอลงในอ่างอาบน้ำหยกขาวขอบทองที่แสนจะหรูหรา เพื่อชำระล้างร่างกายของเธอ : “ต่อไปทุกวันที่พวกเราอยู่ด้วยกันจะต้องอาบน้ำด้วยกันนะครับ”
เธอกรอกตามองเขา : “ท่านนายพลณภัทร ขอร้องล่ะปล่อยฉันไปเถอะ”
เขาที่เป็นพวกมีแผนการที่แยบยลนั้นเธอจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน เขาก็คือหมาป่า กินเนื้อหมดไปแล้วก็ยังจะเคี้ยวกระดูกกลืนเข้าไปอีกด้วย
เช้าวันรุ่งขึ้น มีนาถูกเสียงนาฬิกาปลุกขึ้นมาอย่างงัวเงีย พอเธอลืมตาขึ้นมามอง ณภัทรก็เอาโทรศัพท์มือถือมาวางไว้ข้างๆ หูเธอ : “แม่สาวน้อย ควรจะตื่นได้แล้ว อย่าทำให้การฝึกอบรมวันนี้ต้องเสียเวลาสิ”
ตอนนี้เธอเพียงแค่อยากนอนเพียงเท่านั้น ตื่นขึ้นมาก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที : “ณภัทร นี่สรุปแล้วคุณเห็นฉันเป็นคนหรือเปล่า? ตอนกลางวันก็ฝึก ตอนกลางคืนก็ถูกฝึก คุณอยากจะให้ฉันเหนื่อยตายใช่ไหม”
เขากอดอกพลางหัวเราะ : “สองสามวันก่อนใครเป็นคนบอกว่าอยากจะย้ายไปเป็นหมอทหาร ถ้าหากสมรรถภาพร่างกายไม่แข็งแรงก็ไม่ได้นะครับ นอกจาก……จะได้รับการเอาตัวเข้าแลกเป็นทางลัด”
เขาพุ่งเข้าไป ยิ้มพลางกดร่างของเธอให้อยู่ใต้ร่างของเขา เธอกำหมัดแล้วทุบตีไปที่หน้าอกของเขา : “เอาตัวเข้าแลกบ้านคุณน่ะสิ ไปเลย!”
เขาเจตนาที่จะใช้หนวดที่ขึ้นเป็นตอตรงคางของตัวเองทิ่มไปยังใบหน้ารูปไข่ที่อ่อนนุ่มของเธอ : “ถ้าไม่ตื่น ก็อยู่บนเตียงกับผมนี่แหล่ะ เลือกเอาอย่างนึง”
“ตื่น ตื่น ตื่น……”
ถ้าหากเธอยังไม่ตื่นอีกล่ะก็ คาดว่าจะต้องถูกเขาทรมานตายก่อน สำหรับกำลังในการสู้รบของเขา เธอเองก็รู้อยู่แก่ใจ
เธอล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้ว ตอนที่เดินออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นเขากำลังหั่นสเต๊กเป็นชิ้นเล็กๆ เข้าพอดี เป็นการเคลื่อนไหวที่ชำนาญและทั้งสง่างาม เหมือนกับราชาผู้สูงส่ง
“ยืนงงอะไรอยู่ล่ะครับ มาทานสิ”
เขาเอาสเต๊กที่หั่นเสร็จแล้วเลื่อนมาตรงหน้าเธอ : “ทานเสร็จแล้วก็กลับฐาน รายการฝึกฝนของวันนี้คือการยิงปืน”
ดวงตาทั้งสองข้างของมีนาเป็นประกาย : “คุณสอนฉันหรือคะ?”
เธอได้ยินมาว่าณภัทรเป็นนักแม่นปืนในค่ายทหาร ตำนานที่สร้างขึ้นมาในตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถทำลายได้ ถ้าหากเรียนยิงปืนกับเขา จะต้องได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นสองเท่าอย่างแน่นอน เพราะถึงอย่างไรตอนนี้ยังเหลือระยะเวลาอีกเพียงหนึ่งเดือนที่จะถึงเวลาทดสอบหมอทหาร เธอจำเป็นที่จะต้องได้รับการพัฒนาให้ได้ในเวลาสั้นๆ นี้
“ภรรยาของตัวเองแน่นอนว่าก็จะต้องสอนเองกับมือสิครับ”
มีนารีบทานอาหารเช้าให้เสร็จ แล้วเก็บของทั้งหมดอย่างรวดเร็วเพื่อรีบไปขึ้นเครื่อง เธอแทบจะรอไม่ไหวกับการอยากจะรับรู้ถึงความรู้สึกอันชื่นมื่นกับการยิงปืนแล้ว
ไวศิษฎ์มองส่งณภัทรขึ้นเครื่องไปด้วยใบหน้าที่ดูทำใจไม่ได้ ดวงตาลูกท้อคู่นั้นดูเหมือนจะมีน้ำตา ท่าทางน่ารักนั่น เห็นแล้วมีนาก็รู้สึกขนลุกขึ้นมา
ณภัทรสตาร์ทเครื่องบิน แล้วบินพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้า มีนาหันกลับมามองยังเห็นไวศิษฎ์ยืนอยู่ตรงที่เดิม โบกมือให้ไม่หยุด
“นี่ ได้ยินว่าพวกคุณสองคนนอนด้วยกันบ่อยๆ ?”
“อืม”
มีนาขมวดคิ้ว ไม่คิดว่าเขาจะกล้ายอมรับออกมาอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้ แล้วเอ่ยขึ้นมาด้วยความโมโหทันที : “บางทีคุณไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นเค้าจะไม่คิดแบบนั้นนะ ต่อไปอยู่ให้ห่างจากเขาหน่อย”
ณภัทรเข้าใจความหมายของเธอทันที เขาหัวเราะขึ้นมา : “ถึงแม้ว่าเขาจะดูเหมือนเป็นฝ่ายรับ แต่เขาก็เป็นผู้ชายที่จริงจัง ในใจของเขามีผู้หญิงอยู่คนนึงแล้ว”
มีนารู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาในทันที ดูแล้วเธอคงจะคิดมากไปแล้วจริงๆ แต่เธอก็รู้สึกสงสัยอยู่บ้าง ว่าผู้หญิงที่สามารถทำให้คนหลงตัวเองลุ่มหลงได้นั้นจะเป็นอย่างไร?
“เขาตกหลุมรักภรรยาลูกพี่พวกอันธพาลคนหนึ่ง เพียงแต่น่าเสียดายที่มีกฎเกณฑ์ว่าถึงแม้ว่าคนๆ นั้นจะตายไปแล้ว เธอเองก็จะเป็นได้เพียงแค่ผู้หญิงของเขาเท่านั้น ไม่สามารถไปหาความสุขอื่นได้”
คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนที่ลุ่มหลงจนน่าสงสารคนนึงแบบนี้
หลังจากที่เครื่องบินลงจอดแล้ว มีนาก็เปลี่ยนชุดทหารอย่างคล่องแคล่ว แล้วเตรียมตัวตามทุกคนไปยังสนามยิงปืน
แต่ณภัทรกลับดึงเธอออกมา เธอพยายามจะสะบัดมือเขาออก : “คุณทำอะไรน่ะ คนมองอยู่เยอะแยะ”
เขาจับมือเธอเอาไว้แน่น : “อาณาเขตของผม ผมรับผิดชอบเอง วันนี้ผมจะดูแลคุณเป็นพิเศษ”
เขาดึงเธอมายังเขตพื้นที่ป่าทึบไม่มีคน เดิมทีเธอคิดว่า เขาจะทำเซอร์ไพรส์เธอ ที่นี่จะมีพื้นที่ยิงปืนส่วนตัวเตรียมเอาไว้ให้เธอ แต่หลังจากที่มาถึงแล้วเธอก็รู้สึกผิดหวังมาก ที่นี่นอกจากต้นไม้เขียวชอุ่ม เสียงฝูงนกร้อง และสัตว์ตัวเล็กๆ ที่ตื่นตกใจแล้วนั้น ก็ไม่มีอะไรอีกเลย แม้กระทั่งเป้ายิงปืนก็ไม่มีเลยเสียด้วยซ้ำ
“ณภัทร คุณแน่ใจนะว่าจะดูแลฉันให้ดี ไม่ใช่ว่าจะล้อฉันเล่นใช่ไหม?”
“ต้นไม้พวกนี้เป็นเป้าที่ดีที่สุดแล้ว ทางด้านล่างนี้ยังมีเป้าที่เคลื่อนไหวพวกนี้อีก สำหรับคุณแล้วนี่เป็นสนามยิงปืนที่ดีที่สุดในการฝึกพัฒนาเทคนิคการยิงปืนได้”
เขาใส่กระสุนปืนอย่างคล่องแคล่ว แล้วเล็งไปยังก้นของกระต่ายป่า ปัง! กระต่ายป่าเป้าหมายตรงหน้าล้มลงที่พื้น แล้วเขาก็เป่าปากกระบอกปืนอย่างหล่อเหลา : “ไปครับ เก็บเหยื่อมา วันนี้แสดงฝีมือออกมาได้ดี ตอนกลางวันผมจะย่างเนื้อกระต่ายให้คุณ”
มีนาเดินไปกำลังจะเก็บกระต่ายป่าขึ้นมา กลับตกตะลึงกับสภาพตรงหน้า อะไรคือเซียน? สามารถยิงได้ด้วยความแม่นยำอีกทั้งยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวอีกด้วย ณภัทรเป็นตัวอย่างที่ดีมากอย่างเห็นได้ชัด เห็นกระต่ายป่าที่นอนอยู่ไกลออกไปเพียงสามก้าว และอีกห้าก้าวนั้นก็มีนกเขาอีกหนึ่งตัว
เธอหิ้วสัตว์ตัวเล็กๆ นั้นวิ่งมาตรงหน้าเขาด้วยความตื่นเต้น : “ณภัทร ฉันอยากเรียนอันนี้”
ดวงตาของเธอนั้นปรากฏแสงของความนับถือขึ้นมา ราวกับร่างของเขาชุบไปด้วยแสงสีทอง เขายิ้มพลางชี้มาที่ปากของตัวเอง : “จูบผมก่อนสิ ถือซะว่าเป็นค่าสอนของผม”
เธอขยิบตาให้เขาอย่างเจ้าเล่ห์ : “รอให้ฉันเป็นก่อน คุณอยากจะจูบยังไงก็จูบได้เลย”
“เหอๆ แม่สาวน้อย นี่คุณกำลังต่อรองราคากับผมอยู่อย่างนั้นหรือ?”
แล้วเขาก็จับใบหน้าเล็กๆ ของเธอเอาไว้แล้วก้มลงจูบในทันที