ตุบ! ณภัทรยกกำปั้นขึ้นแล้วต่อยไปยังการันต์อย่างแรงจนเขาล้มลงไปที่พื้น เขาเหยียดเท้าที่ใส่รองเท้าบูททหารเอาไว้แล้วกดลงตรงหน้าอกของเขา ยกมุมปากขึ้นพลางพูดเยาะเย้ย : “แย่ง? ชีวิตของเธอเป็นของฉัน ตายไปแล้วก็เป็นวิญญาณของฉัน แกเอาความมั่นใจมาจากไหน?”
การันต์พ่นเลือดที่อยู่ในปากออกมา มุมปากปรากฏรอยยิ้มแห่งความเย้ยหยัน : “ใช่หรือ? แต่ตอนที่เธอเสียใจคนแรกที่นึกถึงก่อนก็คือฉันไง แล้วก็ยังมีครั้งที่แล้วฉันพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อส่งเธอกลับประเทศเอเดนไปด้วย ทำไม? เธอไม่ได้บอกแกอย่างนั้นหรือ?”
ตุบ! ตุบ! ตุบ! ณภัทรเหมือนกับเป็นคนบ้าอย่างไรอย่างนั้น เหวี่ยงหมัดใส่เขาไม่หยุด เห็นแล้วดูเหมือนกำลังจะเอาให้ตาย มีนากอดเขาเอาไว้แน่นจากทางด้านหลัง : “ณภัทร ขอร้องล่ะ อย่าต่อยเลย”
“หึ? คุณขอร้องผมเพื่อมัน? ถ้าอย่างนั้นผมก็จะยิ่งต่อยมันให้ตาย!”
เห็นการันต์นอนเหมือนกำลังจะตายอยู่ที่พื้น มีนาจึงหยิบเอาสิ้นรักของตัวเองที่พกติดตัวไว้ออกมา จ่อตรงเอวของณภัทร : “ถือว่าฉันขอคุณนะ”
ทันใดนั้นเองเขารู้สึกว่าสิ่งที่จ่ออยู่ด้านหลังเขานั้นไม่ใช่ปืน แต่เป็นมีดคมที่สามารถแทงหัวใจของเขาให้ทะลุได้ ใบมีดอันเยือกเย็น ทำให้หัวใจของเขาเยือกเย็นด้วยเช่นกัน
เขาค่อยๆ ปล่อยมือ ดวงตาแดงก่ำจ้องมองไปยังการันต์พลางตวาดขึ้น : “ไสหัวไป!”
การันต์นอนอยู่บนพื้นโคลน แล้วหัวเราะออกมาอย่างสูญเสียการควบคุม ราวกับว่าเวลานี้เขาหวังว่าความเจ็บปวดนี้ พายุฝนที่เยือกเย็นแบบนี้สามารถรุนแรงมากขึ้นได้อีก เนื่องจากว่าในทุกๆ วันที่เขาเสียมีนาไป เขารู้สึกเสียใจและโทษตัวเอง แต่วันนี้กลับทำได้เพียงมองเธอถูกผู้ชายอีกคนหนึ่งพาเธอไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้เท่านั้น
เขาเสียใจ เขาเกลียด!
ทั้งสองคนนั่งอยู่บนรถ ใครก็ไม่ได้เอ่ยพูดออกมาทั้งสิ้น ณภัทรจ้องมองถนนที่พร่ามัวตรงหน้า รถขับอยู่บนถนนอย่างรวดเร็ว จนน้ำสาดกระเซ็น
“ณภัทร ขอโทษ…..”
เขาเอาผ้าขนหนูสะอาดส่งให้เธออย่างเย็นชา : “ตอนนั้นที่ผมให้ปืนคุณไว้ไม่ใช่ว่าให้คุณเอามันมาเล็งจ่อมาที่ผมนะ”
เธอใช้ผ้าขนหนูเช็ดหยดน้ำบนร่างของตัวเอง ก้มหน้าลงไม่พูดไม่จา
เขาหันมามองเธอ แล้วจอดรถ : “รอผมก่อน”
เขาจอดรถ แล้ววิ่งไปท่ามกลางสายฝน กลับมาอีกครั้งในมือมีถุงอยู่หนึ่งใบ ภายในถุงนั้นมีแก้วอยู่สองใบ บนถุงนั้นที่ยังมีหยดน้ำติดอยู่นั้นเย็น ส่วนเครื่องดื่มนั้นร้อน จับอยู่นั้นราวกับว่ารับรู้ได้ถึงความเย็นและความร้อนที่แตกต่างกัน
“กาแฟเอามาให้มืออุ่น ส่วนนมก็เอามาให้อุ่นกระเพาะ”
เขารู้ว่ากระเพาะของเธอนั้นไม่ดี นี่เป็นโรคประจำอาชีพของหมอ เขามักจะคิดได้อย่างรอบคอบแบบนี้เสมอ แต่ความอบอุ่นนี้ ความดีเช่นนี้ กลับทำให้เธอยิ่งเจ็บปวด เธอจับแก้วในมือแน่น หันออกไปมองวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่าง ฝนยังคงตกลงมา ทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนพร่ามัวไปหมด
“ณภัทร เราหย่ากันเถอะค่ะ”
เอี๊ยด รถหยุดอย่างกะทันหัน เครื่องดื่มในมือของเธอนั้นหลุดลอยไป ของเหลวร้อนๆ สาดลงบนขาทั้งสองข้างของเธอ แต่เวลานี้เธอกลับไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดนี้เลยแม้แต่นิดเดียว
เป็นเวลานาน ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรออกมา ได้ยินเพียงเสียงของฝนที่ตกกระหน่ำลงบนรถเพียงเท่านั้น
“มีนา วันนี้ไม่ใช่วันโกหกนะ”
“ฉันจริงจังค่ะ”
ปึง! หมัดของเขาทุบลงบนกระจกรถจนแตก แล้วเอ่ยพูดพลางกัดฟัน : “คุณ……พูดอีกครั้งสิ!”
หัวใจของเธอนั้นเหมือนกับถูกมัดเอาไว้แน่น แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่น การแก้แค้นให้กับคนที่ฆ่ามารดาของเธอ เธอไม่ทำไม่ได้ และอีกฝ่ายนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นประธานาธิบดีของประเทศซีดานที่ควบคุมชีวิตคนเป็นหมื่นเป็นพันคน ถึงแม้ว่าเธอจะเชื่อในความสามารถของณภัทร ว่าเขาจะสามารถแก้แค้นแทนตัวเองได้ หรือแม้กระทั่งพาเธอเอากองกำลังทหารไปยึดครองทำเนียบประธานาธิบดีได้อีกด้วย
แต่ เธอรักณภัทร รักมาก ดังนั้นไม่อยากจะให้เขาต้องมาทำลายตัวเองเพื่อความแค้นของเธอ กลายเป็นศัตรูของคนทั้งประเทศ วิธีเดียวก็คือก่อนการแก้แค้นทำความสัมพันธ์ให้ชัดเจนก่อน ความเป็นความตายของเธอก็ให้เป็นไปตามโชคชะตาก็แล้วกัน
“ณภัทร พวกเรา…..”
เขาดูลนลานอยู่บ้างแล้ว รีบเอ่ยขัดเธอขึ้นมา : “คุณกำลังโทษที่ผมตวาดคุณเมื่อกี้ใช่ไหม? ต่อไปผมจะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง จะพูดกับคุณดีๆ แล้วก็ยังมีการันต์นั่นอีก ผมวู่วามต่อยเขาไป ถ้าหาก……ถ้าหากคุณรู้สึกขายหน้า ผมสามารถ…..สามารถไปขอโทษเขาก็ได้นะ”
ไม่คิดว่าเขาจะยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเธอแบบนี้ แม้กระทั่งยอมละทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อที่จะประนีประนอม เขาที่เป็นแบบนี้ยิ่งทำให้เธอยากที่จะตัดใจ ทำให้หัวใจรู้สึกเจ็บปวดเหมือนโดนมีดกรีด
“ณภัทร ขอโทษ…..”
เขาจับข้อมือเธอ ดวงตาแดงก่ำนั้นจ้องมองเธอ : “ทำไม? เพราะการันต์อย่างนั้นหรือ?”
เธอหลับตาลงด้วยหัวใจที่แตกสลาย : “แล้วแต่คุณจะคิด”
“หึ แบบนี้ก็ถือว่าคุณยอมรับสินะ?”
เธอไม่อยากอธิบาย เพียงแค่อยากจะทำให้หลุดพ้นเท่านั้น
“หึ หลังจากที่หย่ากับผมคุณก็อยากจะกลับไปคืนดีกับเขาใช่ไหม?”
“ถ้าหากฉันบอกว่าใช่ คุณจะปล่อยฉันไปไหม?”
“ฝันไปเถอะ!”
เขายกหมัดขึ้นแล้วทุบลงไปบนหน้าต่างข้างๆ เธอ กำปั้นของเขานั้นมีเลือดออก เธอน้ำตาไหลออกมาอย่างเจ็บปวด : “ณภัทร คุณเลือดออกแล้ว”
เขายิ้มพลางเปิดตรงหน้าอกของตัวเองออกมา : “ตรงนี้ต่างหากที่เลือดออก เจ็บชะมัดเลยแม่ง!”
“ณภัทร…….”
เธอฉีกกระโปรงเพื่อจะมาพันแผลให้เขา แต่กลับถูกเขาสะบัดออกอย่างแรง ยกมือขึ้นมาดึงเข็มขัดนิรภัยจนขาดแล้วมัดเธอเอาไว้กับที่นั่ง : “คุณอยากจะไปจากผมอย่างนั้นหรือ? ฝันไปเถอะ!”
เขาสตาร์ทรถ แล้วเหยียบความเร็วที่สูงที่สุด แทบจะพุ่งชนไปบนถนนอย่างบ้าคลั่ง มีนาหันไปมองเขา รู้สึกเจ็บปวดเสียจนแทบขาดใจ แต่กลับทำได้เพียงแค่ต้องฝังเอาไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ ความรักมีไว้เพื่อเขา ไม่ใช่มีไว้ทำลายเขา
ถึงคฤหาสน์แล้ว เขาก็จับเธอแบกพาดบ่าเอาไว้ แล้วก้าวเดินฝ่าฝนเข้าไปในคฤหาสน์
กอหญ้ากับใบบัวเห็นสถานการณ์ที่ดูผิดปกติแล้ว ก็รีบวิ่งไปเปิดประตูให้เขา : “ท่านนายพลคะ คุณผู้หญิงเป็นอะไรไปคะ? ต้องเชิญหมอไหมคะ?”
“ไสหัวไปซะ! ไม่ได้รับคำสั่งจากฉัน ใครก็ห้ามขึ้นมารบกวนทั้งนั้น!”
ทั้งสองคนมองหน้ากัน มองตามณภัทรที่กำลังโมโหไป
“ตอนเช้าทั้งสองคนก็ยังดีๆ กันอยู่เลยไม่ใช่หรือ?”
“ดูท่าท่านนายพลแล้ว คุณผู้หญิงจะต้องซวยแน่ๆ เลย พวกเราจะ……”
“อยากหาเรื่องตายรึไง? คำสั่งของท่านนายพลเป็นเรื่องล้อเล่นหรือ?”
“แต่พวกเราจะมองดูคุณผู้หญิง……”
“สามีภรรยาทะเลาะกันแบบนี้แหล่ะ รอให้ผ่านคืนนี้ไปก่อนแล้วค่อยโทรหาผู้ช่วยธนา”
ภายในห้องนอน ณภัทรเหมือนกับคนบ้าที่ฉีกเสื้อผ้าของมีนาขาดออกจนหมด ไม่มีการปลอบโยนใดๆ ไม่มีการจูบใดๆ แต่เป็นการเข้าไปในร่างกายของเธอเลยอย่างหยาบคายไร้เหตุผล……
ความเจ็บปวดของการฉีกขาดนี้ส่งออกมา เธอหายใจหอบ ตอนแรกเริ่มเธอยังคงรั้นไม่ยอมพูด แต่พอต่อมาก็ทนต่อไปไม่ไหว จึงอดที่จะร้องไห้และอ้อนวอนขอร้องออกมาไม่ได้ : “ณภัทร…..ขอร้องคุณล่ะ……ปล่อยฉัน…….”
ได้ยินเสียงร้องไห้ที่หัวใจแหลกสลายของเธอแล้ว เขาจึงหยุดลง แล้วเอ่ยพูดออกมาทีละคำ : “เก็บเอาคำพูดของคุณกลับไปซะ!”
เธอหลับตาลง น้ำตาไหลพราก : “ณภัทร ปล่อยฉันไปเถอะ นั่นก็นับว่าจะเป็นการปล่อยตัวคุณเองด้วย”
“หึ! พูดแบบนี้คุณคิดที่จะกลับไปหาการันต์จริงๆ ใช่ไหม?”
ความเงียบของเธอเป็นเหมือนกับมีดที่แทงทะลุไปในหัวใจของเขา เลือดไหลออกมาทีละหยดๆ
เขาบีบคางเธอ : “ผมถามคุณหน่อย สรุปแล้วคุณเคยรักผมบ้างไหม?”