จอมพลที่รัก – บทที่ 81 ผมยอมถอดเครื่องแบบทหารลงได้

จอมพลที่รัก

ณภัทรจ้องตาของเธอนิ่ง ในตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยสีแดง มีความรู้สึกที่สลับซับซ้อนผสมปนเปกันอยู่ มีทั้งความสับสน โกรธเคือง รวมไปถึงความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว เขารักผู้หญิงคนนี้อย่างสุดหัวใจ จึงย่อมคาดหวังว่าเธอเองก็รักเขามากเช่นกัน ขอเพียงแค่เธอเอ่ยคำว่ารักออกมา เขาถึงขั้นยอมปล่อยวางอดีตลงได้ ถึงขั้นยอมรับผิดในพฤติกรรมรุนแรงของตนเอง

นิ้วมือของมีนากำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น ความเย็นชาของเธอเป็นเหมือนกับเข็มอาบยาพิษที่ค่อย ๆ ทิ่มแทงลงไปในใจของเขา การเคลื่อนไหวร่างกายท่อนล่างของเขาดุดันยิ่งขึ้น นี่เหมือนเป็นการแข่งขันเพื่อเอาชนะ เธอไม่คิดที่จะขอร้องอ้อนวอนอีก ทำเพียงแค่กัดริมฝีปากเอาไว้แน่น แต่ยิ่งเธอทำเช่นนี้ เขาก็ยิ่งใช้ความรุนแรงมากขึ้น

การต่อสู้ครั้งนี้ยืดเยื้อไปจนกระทั่งถึงเวลาเที่ยงคืน ทั้งสองต่างรู้สึกเหนื่อยจนหมดแรง ร่างกายท่อนบนของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ และค่อย ๆ หยดลงบนร่างกายของเธอที่ละเม็ด ๆ จนแผดเผากล้ามเนื้อและผิวหนังของเธอ ตอนนี้น้ำเสียงของเขาทั้งแหบพร่าและดุดัน : “พูดว่าคุณรักผม !”

เมื่อเห็นท่าทีเช่นนี้ของเขา เธอก็รู้สึกราวกับถูกมีดกรีดลงบนหัวใจ แต่เธอไม่สามารถทำลายเขาเพราะความแค้นส่วนตัวได้ เธอข่มความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ แล้วขยับริมฝีปากที่แห้งผากของเธอ น้ำเสียงแหบพร่าค่อย ๆ เค้นออกมาจากลำคอของเธอ : “พวกเรา……หย่ากันเถอะ”

เขากำหมัดแน่นแล้วชกลงบนเตียง หลังจากเกิดเสียงดังสนั่น เตียงก็ทรุดตัวลง เขาค่อย ๆ เค้นคำพูดออกมาทีละคำ ๆ : “คุณ……ลองพูดอีกครั้งซิ !”

เธอทนมองเขาต่อไปไม่ไหว จึงปิดตาลง : “ณภัทร คุณปล่อยฉันไปเถอะ”

เขาลุกขึ้นทันที จากนั้นจึงหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาพันรอบเอวแล้วเดินจากไป พร้อมกับปิดประตูอย่างแรง มีนานอนหดตัวอยู่บนเตียง หัวใจของเธอเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ ถึงขั้นรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่หายใจ : “ณภัทร ขอโทษนะคะ……”

เธอร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เธอรู้สึกจนใจ และรู้สึกเจ็บปวดใจขนาดนี้ เธอรักณภัทรสุดหัวใจอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นจึงไม่ต้องการให้เขาพลอยได้รับความเดือดร้อนใด ๆ แม้แต่น้อย เขาเป็นนายพลที่เก่งกาจที่สุดของประเทศซีดาน ซึ่งมีอนาคตอีกไกล ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามีในตอนนี้ ล้วนต้องแรงมาด้วยหยาดเหงื่อ แรงกายและชีวิต แล้วเธอจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของเขาเพียงเพราะเรื่องความแค้นส่วนตัวของตนเองได้อย่างไร ถึงแม้เธอจะเชื่อเหลือเกินว่า ขอเพียงแค่ตนเองเล่าเรื่องทั้งหมดออกมา ณภัทรก็พร้อมที่จะแก้แค้นร่วมกับเธอโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดทั้งสิ้น ต่อให้ต้องแลกด้วยทุกสิ่ง แต่ความทุ่มเทเช่นนี้มันมากเกินไป เธอไม่อาจทำร้ายผู้ชายที่เธอรักอย่างสุดหัวใจด้วยมือของเธอเองได้

เธอไม่สามารถข่มตาหลับได้อีก จึงค่อย ๆ ประคองร่างกายที่บอบช้ำให้ลุกนั่งขึ้น แล้วมองออกไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืนนอกหน้าต่าง สายลมพัดแรง และมีฝนเทกระหน่ำลงมา คริสทัลบนผ้าม่านกระแทกเข่ากับหน้าต่างอย่างรุนแรง

ภายในห้องหนังสือ ในที่เขี่ยบุหรี่และบนพื้นห้องเต็มไปด้วยก้นบุหรี่กองโต กลิ่นของควันบุหรี่ลอยตลบอบอวลอยู่ภายในห้อง เขานั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ราวกับรูปปั้น ถึงขนาดมีก้นบุหรี่หล่นลงมาเผาไหม้บนนิ้วมือของเขา เขากลับไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อย เขาคิดไม่ตกเลยจริง ๆ ว่า เพราะเหตุใดมีนาถึงต้องการจะหย่ากับเขา ถึงแม้การแต่งงานในครั้งนี้ เขาจะเป็นคนรวบรัดให้เกิดขึ้น แต่ถ้าหากทุกสิ่งที่เธอทำไปก็เพื่อการันต์จริง ก็คงไม่รอจนกระทั่งตอนนี้ถึงเอ่ยปากเรื่องหย่า เขาสัมผัสได้ว่ามีนามีความรู้สึกให้กับเขา มิเช่นนั้นคงไม่ฝ่าฟันอันตรายนับครั้งไม่ถ้วนมาอยู่เคียงข้างเขา เพื่อรับรู้ว่าเขาปลอดภัย

เวลารุ่งสาง เขาเหยียบก้นบุหรี่ด้วยรองเท้าอย่างแรง จากนั้นจึงลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนทันที เมื่อเห็นรอยฟกช้ำบนผิวขาวนวลเนียนของเธอ แววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด จึงนั่งลงแล้วค่อย ๆ ลูบเส้นผมของเธอเบา ๆ : “ผมโทรศัพท์ไปหาหมอทหารเรียบร้อยแล้ว อีกเดี๋ยวเธอจะช่วยตรวจร่างกายให้กับคุณ”

เขาคิดว่าเธอนั้นไม่สบาย จึงคิดที่จะทอดทิ้งเขา มีนารู้สึกอยากจะร้องไห้ : ณภัทร ฉันไม่ได้ป่วย”

“อย่าดื้อสิ เดี๋ยวหมอจะช่วยตรวจร่างกายของคุณให้ละเอียด”

เขาดึงมือของเธอขึ้นมาจูบเบา ๆ : “ผมเคยบอกแล้วว่า หากคุณอยู่ คุณก็คือผู้หญิงของผม หากคุณตาย คุณก็คือผีของผม ไม่ว่าจะยังไง ผมไม่มีวันปล่อยคุณไปเด็ดขาด”

มีนาอยากจะร้องไห้ออกมา แต่เธอทำได้เพียงต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้เท่านั้น และดึงมือของตนเองกลับมาในทันที : “ฉันไม่ได้ป่วย ฉันเพียงแค่……คิดถึงชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ”

เขาจ้องมองเธอด้วยดวงตาแดงก่ำ หน้าอกของเขาขยับขึ้นลงราวกับกำลังข่มอารมณ์โกรธภายในใจ เขาพยายามผ่อนลมหายใจให้ช้าลง เพื่อทำให้น้ำเสียงของตนเองเป็นปกติที่สุด : “คุณอยากจะใช้ชีวิตแบบไหน ผมจะอยู่เคียงข้างคุณเอง”

“ได้ ! ฉันไม่ชอบชีวิตที่ถูกผู้คนจับตามองอยู่ตลอดเวลา ฉันไม่อยากกลายเป็นหัวข้อข่าวซุบซิบนินทาหลังมื้ออาหารของคนอื่น ฉันไม่อยากเป็นกังวลเรื่องของคุณอยู่ตลอดเวลา ทำได้ไหม ?”

“ได้ ถ้าคุณไม่ต้องการชีวิตแบบนี้ ผมจะยอมถอดเครื่องแบบทหารชุดนี้ลง ! ขอแค่คุณสบายใจ”

ตอนนี้มีนารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เครื่องแบบทหารชุดนี้มีความหมายอย่างไรต่อเขา ? ใช้หยาดเหงื่อแรงกายต่อสู้มาเป็นเวลากว่าสิบปี เกียรติยศในวันนี้ คือความใฝ่ฝันของเขา แต่วันนี้เขากลับเอ่ยคำพูดประโยคนี้ออกมา ตอนนี้เธอรู้สึกตื้นตันใจอย่างถึงที่สุด ความซาบซึ้งใจท่วมท้นออกมา เมื่อครู่เธอแสร้งทำทีไร้เหตุผล ก็เพื่อให้เขารู้สึกเสียใจและยอมถอยหนี กลับคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเอ่ยคำมั่นสัญญาเช่นนี้ออกมา

เธอขยับปากคิดจะพูดบางอย่างออกมา แต่ในที่สุดก็ไม่พูด

เขาสวมกอดเธอเอาไว้ : “มีนา ผมรักคุณ”

ไม่ช้าหมอทหารหญิงก็มาถึง และเตรียมการตรวจร่างกายให้กับมีนา : “คุณผู้หญิงมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงดี มีเพียงระบบย่อยอาหารที่มีปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น ค่อย ๆ รักษาอาการก็จะดีขึ้นเองค่ะ”

มีประกายหม่นหมองปรากฏขึ้นในดวงตาของณภัทร เขานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดขึ้นว่า : “ได้ ผมรู้แล้ว”

“ณภัทร ฉันเคยบอกคุณแล้วว่าฉันไม่ได้ป่วย”

“อย่างนั้นก็ดี งามแต่งงานของเราจะจัดขึ้นตามกำหนดเดิม ส่วนเรื่องการตรวจสุขภาพภาคสนาม หากพลาดครั้งนี้ ก็ให้รอครั้งต่อไป ไม่ต้องรีบร้อน “

“ณภัทร ! คุณหูหนวกหรือยังไง หรือคุณไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันบอกคุณไปเมื่อคืน……”

เขากัดฟันแล้วพูดว่า : “หุบปาก ! ผมบอกแล้วว่า งานแต่งจะจัดขึ้นตามกำหนดเดิม !”

ในตอนนี้เอง เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น เป็นสายจากไวศิษฎ์โทรเข้ามา : “ลูกพี่ครับ หาคนคนนั้นเจอแล้ว เพียงแต่เธอไม่เชื่อใจพวกเรา จึงหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าลึก สถานที่แห่งนั้นคนข้างคดเคี้ยว พวกเราคงไม่สามารถใช้ไฟในการกดดันให้เธอแสดงตัวออกมาได้”

“ได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

เขาลุกขึ้นแล้วเดินออกไปด้านนอก ขณะที่เดินไปถึงประตู เขาก็หันหลังกลับมา แล้วกำชับกอหญ้าว่า : “สองสามวันนี้คุณผู้หญิงไม่สบาย ห้ามไปทำงานและห้ามรับแขกเด็ดขาด !”

กอหญ้ารู้ได้ในทันทีว่า ที่นายพลกล่าวกับเธอเช่นนี้ หมายความว่าให้เธอเฝ้าคุณผู้หญิงเอาไว้ให้ดี ๆ มิเช่นนั้นจะเอาเรื่องเธอ

กอหญ้าและใบบัวคอยเดินตามมีนาแทบจะทุกฝีก้าว เธอพูดออกมาอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า : “ฉันเหนื่อยแล้ว พวกเธอเลิกตามฉันได้แล้ว”

ตอนนี้ในห้องนอนเปลี่ยนเตียงหลังใหม่เรียบร้อยแล้ว เธอนอนอยู่บนเตียงสักพัก จากนั้นจึงเดินไปยังโต๊ะเครื่องแป้ง และหยิบปืนขึ้นมา ถ้าหากเธอต้องการที่จะไปจริง ๆ ใครจะขวางเธอได้ ?

ช่วงกลางดึก เธอปีนลงจากท่อระบายน้ำบนกำแพงอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงกระโดดข้ามกำแพงออกมา จากนั้นจึงเรียกรถแท็กซี่ไปยังทำเนียบประธานาธิบดี

รถเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางสายฝน แสงนีออนกระทบลงบนใบหน้าของเธอจนเกิดเป็นประกายแวววาว เธอลูบปืนที่อยู่ในกระเป๋า ฆ่าคนต้องชดใช้ เลือดต้องล้างด้วยเลือด ! ต่อให้เขาเป็นประธานาธิบดี เขาก็ต้องชดใช้หนี้เลือดครั้งนี้ !

จอมพลที่รัก

จอมพลที่รัก

Status: Ongoing
ครั้งแรกที่เจอเธอ เธอไล่เขาไป เจอกันครั้งที่สอง เธอถือมีดผ่าตัดจ่อที่คอของเขา……แต่ไม่รู้ทำไม เขาถึงรักเธอได้ถึงขนาดนี้ แม้จะโดนหลอกยังไงก็ตาม เขาก็จะเอาเธอมาเป็นภรรยา

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท