จอมพลที่รัก – บทที่ 88 คุณเลวฉันชั่วถึงจะเหมาะสมกัน

จอมพลที่รัก

ดรณ์รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ไม่มีใครเคยแสดงท่าทีหยิ่งยโสกับเขาเช่นนี้มาก่อน เขาจะตะคอกออกมาเสียงดัง : “สามหาว ! นี่คุณกล้าพูดกับผู้บังคับบัญชาของคุณอย่างนี้หรือ ?”

ณภัทรทำเพียงแค่แสยะยิ้ม แล้วหันไปจ้องมองเขาด้วยแววตาดุดัน : “ผม ณภัทร ไม่ได้เพิ่งเข้ามาอยู่ตรงนี้แค่วันสองวัน ผมไม่สนว่าคุณเป็นใคร ? ขอเพียงแค่เธอไม่ชอบ ผมเองก็ไม่ต้อนรับคุณเช่นกัน !”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ จู่ ๆ ดรณ์ก็รู้สึกว่าทหารที่บ้าดีเดือดอย่างเขาก็มีความน่ารักอยู่ไม่น้อย จากนั้นจึงยิ้มพลางพูดว่า : “ไม่แปลกใจเลยที่มีนาชอบเธอ”

“ท่านประธานาธิบดี พวกเรามาคุยธุระกันดีกว่าครับ รอให้ท่านมีสิทธิ์วิจารณ์เธอเสียก่อน แล้วเราค่อยมาพูดเรื่องพวกนี้กัน”

“ได้ ถ้าอย่างนั้นกลับมาคุยธุระกันต่อ การเลือกตั้งประธานาธิบดีจะจัดขึ้นในหนึ่งเดือนหลังจากนี้ เธอดูแลรักษาอาการบาดเจ็บให้ดี และเตรียมตัวเอาไว้ให้ดี”

“วางใจเถอะครับ ผมจะไม่ทำให้ท่านประธานาธิบดีต้องผิดหวังอย่างแน่นอน”

ส่วนไกรเลิศ ก็ปล่อยให้เขาได้ใจไปสักสองสามวัน ยิ่งปีกขึ้นไปสูง ตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บหนัก ถึงเวลานั้น ทั้งความแค้นเก่าใหม่คงได้ร่วมสะสางในคราวเดียว ไม่มีทางปล่อยให้เขามีโอกาสได้ลืมตาอ้าปากอีกครั้งอย่างแน่นอน !

ตอนนี้ไกรเลิศรู้สึกมีความสุขและรู้สึกรุ่งโรจน์เป็นอย่างมาก ทุกวันเขาจะสวมชุดสูทรองเท้าหนัง ไปกล่าวสุนทรพจน์ตามที่ต่าง ๆ เพื่อกล่าวนโยบายที่เอื้อประโยชน์แก่ประชาชนของตนเอง ใช้คุณธรรมจอมปลอมเพื่อหลอกล่อให้ประชาชนตาดำ ๆ ไว้วางใจ

ปรางทอง ในฐานะที่จะขึ้นเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งในอนาคต ก็ย่อมที่จะแต่งตัวอย่างสวยงามในทุกวัน เพื่อติดตามเขาไปทุก ๆ ที่ด้วยท่าทีที่แสดงออกถึงความอ่อนโยนและมีเมตตา เพียงแต่สองสามวันมานี้สีหน้าของเธอไม่ค่อยสู้ดีนัก ถึงขนาดใจลอยอยู่หลายครั้ง ทำให้ไกรเลิศรู้สึกขายหน้าเป็นอย่างมาก

เมื่อกลับถึงบ้าน เขาก็ถอดเนกไทออกจากคอเสื้อ แล้วทุบลงไปบนหน้าของเธออย่างแรง : “วันนี้เธอจงใจที่จะทำให้ฉันขายหน้าใช่ไหม !”

ปรางมองลูบใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ แล้วพูดโวยวาย : “คุณทำอะไรของคุณ ฉันเพิ่งจะฉีดโบทอกซ์มานะ”

“นังโง่ พรุ่งนี้คุณไม่ต้องตามผมไปแล้วนะ !”

เมื่อปรางทองได้ยินก็รู้สึกตกใจทันที หากไม่ให้เธอคอยติดตาม หรือจะให้เลขาสาวทรงเสน่ห์คนนั้นเป็นคนคอยติดตามกัน ? เช่นนั้นตำแหน่งสตรีหมายเลขหนึ่งของเธอก็คงไม่มั่นคงอีกต่อไป เธอจึงรีบเดินเข้าไปถูขมับให้เขาทันที พร้อมพูดจาออดอ้อนว่า : “เป็นเพราะฉันกังวลเรื่องเขมิกาของเราไม่ใช่หรือคะ ? นานขนาดนี้แล้ว เพิ่งจะส่งข้อความมาให้ฉันเพียงสองสามประโยค บอกว่าไปพักร้อนกับเพื่อน ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง”

“เหอะ ! เป็นแบบนี้ก็ดี ขอแค่เธอไม่ออกมาก่อเรื่องวุ่นวายให้กับฉัน ฉันก็รู้สึกขอบคุณสวรรค์มากแล้ว”

ไกรเลิศเปิดโทรทัศน์ ซึ่งกำลังถ่ายทอดการกล่าวสุนทรพจน์ของเขาด้วยท่าทางภูมิฐานที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจขึ้นมาทันที

ปรางทองทิ้งความคิดเรื่องเขมิกาเอาไว้ข้างหลังชั่วคราว จากนั้นจึงรีบกล่าวเยินยอ : “ที่รักคะ คุณดูหล่อเหลาจริง ๆ”

ใบหน้าของไกรเลิศเปล่งประกายราวกับดวงอาทิตย์ที่กำลังส่องสว่าง เขารู้สึกภาคภูมิใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ปรางทองหัวเราะคิกคัก แล้วเขยิบริมฝีปากแดงระเรื่อของเธอเข้ามาใกล้ จากนั้นจึงจับมือของเขาวางลงบนชายกระโปรงของเธอ แล้วทำท่าทีเย้ายวน

เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า : “ผมเหนื่อยแล้ว ขอตัวไปพักผ่อนข้างบนก่อน”

ปรางทองมองตามหลังเขาขึ้นไปด้านบน และรู้สึกตะขิดตะขวงใจเล็กน้อย คงเป็นเพราะเหนื่อยกับแม่เลขาสาวคนนั้นมาแล้วสิท่า ! แต่ตอนนี้ความปรารถนาของเธอพลุ่งพล่านขึ้นมาแล้ว และสูบฉีดไปทั่วร่างกายของเธอ ทำให้เธอรู้สึกทุกข์ทรมานอย่างมาก จึงได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วแอบกดส่งข้อความ : สุดที่รักของฉัน เจอกันที่เดิมนะ

ภายในคฤหาสน์หลังหนึ่ง ฉากรักอันเร่าร้อนระหว่างชายหญิงคู่หนึ่งกำลังบรรเลงขึ้น ผู้หญิงคนในสวมใส่ชุดชั้นในแบบบิกินี่ และเคลื่อนไหวร่างกายด้วยท่าทีเย้ายวน ส่วนผู้ชายอีกสี่ห้าคนที่ยืนล้มรอบอยู่นั้น ต่างก็มีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ พวกเขาช่วยกันปรนนิบัติผู้หญิงคนนี้จนมีความสุข มีเสียงดังครวญครางออกมาจากภายในห้อง

“โอ๊ย เยี่ยมมาก เยี่ยมมาก เร็วหน่อย เร็วหน่อย !”

“คนที่อยู่ข้างบนก็ไม่ต้องหยุดนะ โอ๊ย……”

“เรียกฉันว่าสตรีหมายเลขหนึ่ง เร็วเข้า !”

“สตรีหมายเลขหนึ่ง ดูเหมือนท่านประธานาธิบดีไกรเลิศคงจะทำให้คุณพอใจไม่ได้สินะ ?”

“หึ ! ไอแก่นั่นไม่เคยทำสำเร็จเลยสักครั้ง นิ้วมือยังจะใหญ่กว่าไอ้จ้อนของเขาเสียอีก ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะเขาพอจะมีเงินถุงเงินถังอยู่บ้าง ฉันคงไม่มีวันชายตาไปมองเขาเด็ดขาด”

ภายในคฤหาสน์ที่อยู่ตรงข้ามกัน วายุกำลังกดเมาส์อย่างรวดเร็ว แล้วพูดด้วยความคับข้องใจ : “ผู้ช่วยธนา ช่วยบอกลูกพี่หน่อยได้ไหมว่า ต่อไปอย่าไปผมทำเรื่องที่น่าสะอิดสะเอียนเช่นนี้”

ผู้ช่วยธนาหัวเราะแล้วพูดว่า : “ลูกพี่กำลังดูแลนาย ให้นายได้เรียนรู้ทักษะบางอย่างโดยไม่ต้องเสียเงิน ต่อไปนายจะได้หาภรรยาได้ง่าย ๆ”

“แหวะ ! เนื้อเหี่ยวย่นนั่น ผมเห็นแล้วแทบอยากจะอาเจียนอาหารที่กินไปเมื่อสองสามวันก่อนออกมาเสียด้วยซ้ำ”

ผู้ช่วยธนาพูดอย่างเย็นชา : “เธอเป็นถึงสตรีหมายเลขหนึ่งเชียวนะ”

……

หนึ่งเดือนให้หลัง มีพาดหัวข่าวใหญ่สองข่าวแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวง เรื่องแรกก็คือ โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีกำลังจะมาถึงและกำลังจะได้ผลสรุป ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือ พบศพไร้หัวของผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมาเกยตื้นอยู่ที่ริมฝั่ง บรรดาผู้ชายให้ความสนใจกับเรื่องการเมือง ส่วนบรรดาผู้หญิงกลับพูดคุยกันเรื่องคดีนี้

หลังจากมื้ออาหาร พยาบาลหลายคนกำลังนั่งพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้

“เฮ้อ ช่างน่าสงสารจริง ๆ ถึงโยนลงไปในทะเลจนมีสภาพขึ้นอืดเช่นนั้น มิหนำซ้ำยังถูกคนตัดหัวอีก”

“ได้ยินมาว่าศพนั่นถูกแช่อยู่ในน้ำจนเน่าเปื่อยหมดแล้ว ต่อให้เป็นแพทย์ชันสูตรที่เก่งกาจแค่ไหน ก็ยากที่จะระบุตัวตนของเธอออกมาได้”

“แต่ที่น่าแปลกยิ่งกว่าก็คือ ไม่มีรายงานการแจ้งความเรื่องคนหายในสถานีตำรวจ อีกทั้งเวลาก็ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ก็ยังไม่มีใครมาแสดงตัวอ้างสิทธิ์ ดูเหมือนว่าเธอคงจะต้องกลายเป็นผีไร้ญาติเสียแล้ว”

“ดูเหมือนจะเป็นการฆ่าด้วยเรื่องชู้สาว ได้ยินมาว่าบนตัวของเธอพบของบางอย่างของผู้ชายด้วย”

มีนาเดินผ่านมาพอดี จึงได้ยินสิ่งที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน เธอเข้าใจได้ในทันที ตอนนั้นเธอเห็นเขมิกาจมลงไปในแม่น้ำด้วยตาของเธอเอง แต่เรื่องกลับกลายเป็นเช่นนี้ คงเป็นเพราะณภัทรช่วยจัดการให้เธออย่างแน่นอน

ตอนนี้ร่างกายของณภัทรฟื้นฟูจนเกือบเป็นปกติแล้ว ขณะที่เขากำลังยืนชื่นชมทัศนียภาพด้านนอกอยู่ที่ริมหน้าต่างนั้น ก็มีร่างกายที่อ่อนนุ่มและหอมละมุนเขยิบเข้ามาใกล้เขา : “ณภัทร ขอบคุณนะคะ”

เขารู้ดีว่าเธอหมายถึงเรื่องอะไร จึงหันหลังกลับไป แล้วกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน : “ปีศาจน้อย ต่อไปเรื่องฆ่าคนปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกผู้ชาย รู้ไหม ?”

“ค่ะ คุณรู้สึกว่าฉันโหดร้ายเกินไปไหม ?”

“ผมจะรู้สึกแบบนั้นได้อย่างไร ? คดีที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนก็ยากที่จะพลิกฟื้นได้แล้ว ฆ่าคนก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิตเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ! อีกอย่าง ต่อให้คุณจะเปลี่ยนเป็นนังมารร้าย ผมก็ไม่มีวันรังเกียจคุณ เพราะผมนั้นเลวทราม ส่วนคุณเองก็ชั่วร้าย เช่นนี้ไม่เท่ากับว่าพวกเราเป็นคู่ที่เหมาะสมกันหรอกหรือ ?”

เธอเขย่งเท้าแล้วจุมพิตลงบนริมฝีปากของเขา : “ดี คุณเลวฉันชั่ว เช่นนี้พวกเราก็ถือเป็นคู่ที่เหมาะสมกัน จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนคนอื่นอีก”

เขาจับหน้าของเธอเอาไว้ จากนั้นจึงก้มลงจูบด้วยรอยยิ้ม เขาสูดกลิ่นหอมของเธออย่างตะกละตะกลาม ลมเย็นพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างแล้วสัมผัสเข้ากับร่างกายของทั้งคู่ แสงอาทิตย์ทำให้เงาของทั้งคู่ทอดยาวไปไกล ทั้งคู่กอดกันแน่ และเวลาก็ค่อย ๆ ผ่านไปอย่างสงบ

เสียงแอ๊ดดังขึ้น วายุผลักประตูเข้ามา : “ลูกพี่ ของที่ต้องการผมเอามาส่งแล้วครับ……”

เมื่อเขาเห็นทั้งสองคนกำลังยืนกอดกันกลม เขาก็อดไม่ได้ที่จะตบปากตัวเอง

ถึงแม้ใบหน้าของณภัทรจะเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ทว่าเขากลับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา : “วายุ ดูเหมือนนายจะไม่ได้ขับเครื่องบินนานแล้วใช่ไหม หือ ?”

“ไปเถอะ ไปฝึกฝนให้มากหน่อย อย่างไรเสียในบรรดาพี่น้องทั้งหมด ทักษะของนายถือว่าอ่อนกว่าใคร ๆ อ้อ จริงสิ ให้คิงไปกับนายด้วย เพราะเครื่อง AT-49 ดูเหมือนนายจะยังไม่ค่อยคุ้นชินนัก”

วายุแทบจะร้องไห้ออกมา AT-49 เป็นเครื่องสำหรับบินเดี่ยวที่กองทัพเพิ่งพัฒนาออกมาใหม่ หากคิงนั่งด้านบน เช่นนั้นเขาคงทำได้เพียงถูกแขวนอยู่บนเครื่องบิน ทำไมคนที่โชคร้ายต้องเป็นเขาอยู่ร่ำไป ?

เขาพูดอย่างอ่อนแรง : “ลูกพี่ ให้ผมกลับไปเปลี่ยนกางเกงในตัวใหม่ก่อนได้ไหมครับ ?”

ช่างบังเอิญจริง ๆ วันนี้เขายังคงสวมใส่กางเกงในลายการ์ตูนที่ดูคุ้นตาตัวนั้นเช่นเคย คงต้องถูกบรรดาพี่น้องกลั่นแกล้งอีกแน่ ๆ

“อย่าพูดไร้สาระน่า ออกไปเดี๋ยวนี้ !”

จอมพลที่รัก

จอมพลที่รัก

Status: Ongoing
ครั้งแรกที่เจอเธอ เธอไล่เขาไป เจอกันครั้งที่สอง เธอถือมีดผ่าตัดจ่อที่คอของเขา……แต่ไม่รู้ทำไม เขาถึงรักเธอได้ถึงขนาดนี้ แม้จะโดนหลอกยังไงก็ตาม เขาก็จะเอาเธอมาเป็นภรรยา

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท